หากพูดถึงการเที่ยวโตเกียว แหล่งช้อปปิ้งที่คงจะนึกถึงเป็นที่แรกๆ คือ ฮาราจูกุ แล้วทำไมถึงต้องไป เที่ยวฮาราจูกุ ล่ะ? ตอบได้เลยว่า ที่นี่เป็นจุดศูนย์กลางของวัยรุ่น ที่โดดเด่นทางด้านแฟชั่นคอสเพลย์ โกธิค หรือโลลิต้า จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่โด่งดังไปทั่วโลก สำหรับใครที่กำลังวางแผนเที่ยวฮาราจูกุ YouTrip เราจัดข้อมูลมาให้แน่นๆ เลย
มารู้จักฮาราจูกุกันเถอะ

จริงๆ แล้ว ฮาราจูกุ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งแต่สมัยยุคเอโดะ จนกระทั่ง ปี ค.ศ. 1906 ได้ขยายเส้นทางรถไฟสาย Yamanote Line ตัดผ่านบริเวณนี้ ทำให้พื้นที่แถวนี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีผู้คนสัญจรไปมาอย่างคึกคัก ร้านค้าแบรนด์ดังๆ เริ่มทยอยเปิดขายสินค้าบนถนน Takeshita มากมาย และด้วยการแต่งตัวของวัยรุ่น ที่เป็นเอกลักษณ์ในย่านนี้ ทำให้เกิดแฟชั่นที่เรียกว่า Japan Pop Culture จนทำให้ถนนสายนี้มีชื่อเสียงในระดับโลก ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1970 เป็นต้นมา

สำหรับย่านฮาราจูกุในปัจจุบัน ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมตลอดกาล ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่เต็ม 2 ข้างทางไม่ว่าจะเป็น ร้านเสื้อผ้า ร้านกิ๊ฟช็อป หรือร้านขนมน่ารักๆ เยอะมากจนเลือกร้านกันไม่ถูกเลยทีเดียว วันนี้ YouTrip จะขออาสาพาเที่ยวฮาราจูกุแบบคาวาอี้ จุดไหน ร้านไหน น่าแวะ ไปดูกันเลย
เปิดลายแทงร้านน่าแวะ

ถึงเวลาตะลุย เที่ยวฮาราจูกุ กันแล้ว เราใช้ GetSneak เพื่อเป็นตัวช่วยในการวางแผนเที่ยว ทำให้เราสามารถเที่ยวกันได้ง่ายขึ้น มาเริ่มต้นการเดินทางจากสถานีรถไฟฮาราจูกุ Yamanote Line ออกประตู Takeshita Street Exit. จากนั้นให้เดินไปทางซ้ายของสถานีรถไฟ จะเจอซุ้มประตูทางเข้าของถนน Takeshita Street หรือที่เรียกว่าฮาราจูกุนั่นเอง เมื่อมาถึงแล้วอย่าเสียเวลา มาตามรอยร้านน่าแวะ ตามหมายเลขกันได้เลย
A. Purikura Land Noa

เที่ยวฮาราจูกุทั้งที ต้องแวะร้าน Purikura Land Noa เป็นร้านแรก ที่นี่คือแหล่งรวมตู้ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์ Purikura ที่เยอะที่สุดในฮาราจูกุ เป็นกิจกรรมที่หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นชอบมากๆ เลือกตู้คอนเซ็ปต์ดีไซน์ที่ชอบ จะแนวสวยฟรุ้งฟริ้งตาโต หรือจะฮาตลกก็มี แถมตกแต่งรูปออกมาได้ตามใจชอบอีกด้วย บอกเลยว่าถ้ามาฮาราจูกุ ต้องแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันสักหน่อย
เวลาเปิด – ปิด : 09:00 – 23:00 น.
ราคา : 400 เยน
B. Totti Candy Factory

เที่ยวฮาราจูกุ กันต่อกับร้าน Totti Candy Factory สำหรับใครที่ไม่อยากตกเทรนด์ให้มาร้านนี้เลย เพราะคนแถวนี้เดินถือสายไหม กันเต็มถนนไปหมด ที่จริงร้านนี้เป็นร้านขายลูกอมหลากหลายรสชาติ แต่ที่เป็นตัวเอกจริงๆ ก็คือ สายไหมปุยนุ่มอันใหญ่ สีสันสดใสหวานๆ ละลายในปาก กินก็อร่อย ถ่ายรูปก็กิ๊บเก๋ดี รับรองว่าเอารูปลงโซเชียล ได้ไลก์เพียบแน่ๆ
เวลาเปิดปิด: วันธรรมดา 10.30 – 20.00 น.
ราคา : 450 – 900 เยน (แล้วแต่ขนาด)
C. Marion Crepes

ร้านเครปก็มีเยอะแยะมากมายเลือกกันไม่ถูก ทำไมถึงต้องแวะร้าน Marion Crepes เพราะร้านนี้เป็นร้านเครป ที่เปิดขึ้นมาเป็นร้านแรกในฮาราจูกุ ตั้งแต่เป็นร้านรถเข็นเล็กๆ ในปี ค.ศ. 1976 จนตอนนี้มีมากกว่า 50 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น ร้านค้าที่เปิดมา ยาวนานขนาดนี้ ถ้าไม่อร่อยจริงคงอยู่ไม่ได้แน่ๆ มีเครปให้เลือก 2 ชนิด เครปร้อน หรือ เครปเย็น สามารถเลือกอร่อยกับท็อปปิ้งตามใจชอบ ถ้าไปจังหวะดีมีเมนูพิเศษ เป็นผลไม้ตามฤดูกาลให้ได้กินอีกด้วยนะ
เวลาเปิด – ปิด : 10:30 – 20:00 น.
ราคา : 200 – 520 เยน
D. Moshi Moshi Kimono Salon

ใครที่อยากสัมผัสความฮาราจูกุอย่างแท้จริง ต้องมาแต่งตัวถ่ายรูปบนชั้น 2 ของ Moshi Moshi Box เป็นสตูดิโอถ่ายภาพ พร้อมบริการเช่าชุดกิโมโน ที่จัดเต็มทั้งหน้าผม ดูแล้วน่ารัก ออกแนวป็อปๆ ทันสมัยไม่เหมือนใคร ใช้เวลาแต่งตัวถ่ายรูปทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับใครที่มีเวลาน้อย สามารถพูดคุยต่อรองกับทางสตูดิโอได้ นอกจากถ่ายรูปเช่าถ่ายในสตูดิโอแล้ว ยังสามารถเช่าชุดพร้อมช่างภาพ ไปถ่ายบริเวณย่านฮาราจูกุได้อีกด้วยนะ YouTrip ขอแนะนำว่าให้จองคิวผ่านเว็บไซต์กันก่อน จะได้ไม่เสียเที่ยว
เวลาเปิด – ปิด : 10:00น.-18:00น.
ค่าบริการ : 10,000 เยน ( ไม่รวมภาษี )
E. Kawaii Monster Cafe

ปิดท้ายเที่ยวฮาราจูกุ กับคาเฟ่น่ารักๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนักร้องชื่อดัง Kyary Pamyu Pamyu ด้วยการตกแต่งแบบหลุดโลกเหนือจินตนาการคาวาอี้สไตล์ ถึง 5 ธีม ไม่ว่าจะเป็นโซนเค้กม้าหมุน Sweets Go Round นั่งสวยๆในโซนเห็ดพิษ MUSHROOM DISCO ก็เก๋ดี ชิลๆ บรรยากาศสีนีออนกับเหล่าสัตว์ต่างๆ ใน MILK STAND ปาร์ตี้ใต้ท้องแมงกระพรุน Bar Experimen หรือจะจิบชาในบรรยากาศหวานๆ ในห้อง Mel-Tea ROOM ก็โดนใจมากๆ นอกจากมีหลายโซนให้ได้ถ่ายรูปเพลินเพลินแล้ว ยังมีโชว์สนุกๆ และอาหารดีไซน์เก๋ๆ น่ารักแถมราคาไม่แพง เปิดบริการแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา โดยในแต่ละเวลาจะมีคอนเซ็ปต์ที่ต่างกัน มื้อกลางวันการแสดงการแต่งตัวจะดูน่ารัก มื้อเย็นจะดูดาร์กๆหน่อย เพื่อให้เหมาะกับเวลากลางคืน เป็นคาเฟ่ที่แปลกตา ใครมาเที่ยวโตเกียวแล้ว อยากจะแนะนำให้มาจริงๆ
เวลาเปิด – ปิด :มื้อกลางวัน 11:30 – 16:30 น.
มื้อเย็น 18:00 – 22:30 น.
ค่าเข้า : 500 เยน
เที่ยวฮาราจูกุ กันเต็มอิ่มแล้ว หวังว่าจะถูกใจกันไม่น้อยเลย ยิ่งถ้าได้ลองไปสัมผัสจริงๆ จะต้องหลงมนต์เสน่ห์ของ Japan Pop Culture แน่ๆ สำหรับใครกำลังมีแพลนเที่ยวโตเกียว และกำลังมองหาที่แลกเงินเยน เรทดีถูกสุดๆ ล่ะก็ ให้ YouTrip ดูแลจัดการเรื่องเรทเงินได้เลย
