อยากสัมผัสใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติก “คาวากุจิโกะ” ประเทศญี่ปุ่น จัดเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งควรค่ากับการไปเยือนด้วยตนเองสักครั้ง ยิ่งไปกับคนรักบอกเลยว่าดุจภาพในความฝันแน่นอน จึงขออัปเดต 14 ที่เที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี คาวากุจิโกะ มีที่ไหนบ้าง ลิสต์ไว้ได้เลย!

รู้จักคาวากุจิโกะกันสักนิด !

เมืองคาวากุจิโกะ ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดยามานาชิ ภูมิภาคชูบุ, โทไก ในส่วนกลางประเทศห่างจากกรุงโตเกียวไม่มากนัก ภาพจำของเมืองนี้ต้องยกให้กับทะเลสาบคาวากุจิโกะ บรรยากาศของใบไม้เปลี่ยนสีช่วงฤดูใบไม้ร่วงและบรรยากาศความขาวโพลนช่วงฤดูหนาว ไปจนถึงเมืองที่สามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้แบบเต็มตา เป็นการเที่ยวชมธรรมชาติที่น่าประทับใจมาก ซึ่งการเดินทางแนะนำให้ลงท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ จะมีรถบัสวิ่งตรงมาถึงเมืองใช้เวลาประมาณ 3 ชม. เศษ


ใบไม้เปลี่ยนสี คาวากุจิโกะ เดือนไหน?

ต้องบอกก่อนว่าเสน่ห์ใบไม้เปลี่ยนสีของเมืองแห่งนี้จะให้ความโรแมนติก แทบทุกบริเวณปกคลุมด้วยโทนสีแดง ส้ม ทอง เหมาะกับการท่องเที่ยวพร้อมคู่รัก หรือใครชอบความธรรมชาติไม่ผิดหวังแน่ ซึ่ง พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ของคาวากุจิโกะจะอยู่ระหว่างเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน ลองวางแพลนกันได้เลย


การเดินทางจากโตเกียวไปคาวากุจิโกะมีวิธีเดินทางดังนี้

1. รถไฟ Fuji Excursion สะดวกและรวดเร็ว รถไฟวิ่งตรงจากโตเกียวสถานี Shinjuku ไปถึงสถานี Kawaguchiko ได้เลย ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 55 นาที ราคาไปกลับ 8,260 JPY หรือใช้ Tokyo Wild Pass ได้ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม (15,000 JPY)
2. รถไฟ JR นั่งจากสถานี Shinjuku ไปลงที่ สถานี JR Otsuki (2,360 JPY) จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Fujikyu เพื่อไปลงที่สถานี Kawaguchiko (1,170 JPY) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
3. รถบัส เป็นวิธีไปคาวากุจิโกะจากโตเกียวที่สะดวกและง่ายที่สุด รถบัสวิ่งตรงจากสถานีรถบัสด่วนพิเศษชินจูกุ (Shinjuku Expressway Bus Terminal) ถึงหน้าสถานีรถไฟ Kawaguchiko เลย เที่ยวรถเยอะ ไม่ต้องกังวลเรื่องเปลี่ยนสายรถไฟ มี wifi บนรถให้ใช้ด้วย แนะนำสำหรับคนที่ไม่ได้เดินทางช่วงเทศกาลและช่วงเวลาเร่งด่วน ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร ราคา 2,200 JPY / เที่ยว
4. ขับรถไปเอง สามารถใช้บริการเช่ารถจากโตเกียว เหมาะกับคนที่มาเป็นกลุ่มหลายคน เช่ารถขับเองจะถูกกว่าโดยสารสาธารณะ เช่ารถมีหลายราคาเริ่มที่ประมาณ 15,000 JPY / วัน ราคาขึ้นอยู่กับประเภทรถ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรด้วย
   
   

การใช้จ่ายในญี่ปุ่น

การใช้จ่ายที่ญี่ปุ่นตอนนี้คือง่ายและสะดวกมากเว่อร์ ตั้งแต่มี YouTrip จะทำให้คุณใช้จ่ายสะดวกสบายและประหยัดมากกว่าบัตรเครดิตและบัตรเดบิตเยอะเลย ใครจะไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องมีไว้ ใครอยากรู้ว่าประหยัดขึ้นเท่าไหร่เราเปรียบเทียบให้ดูชัด ๆ เลย

ที่สำคัญแลกเงิน JPY ผ่าน YouTrip ไว้คือแจ่มที่สุด ได้เรทดีมาก ยกตัวอย่างให้ดู ทริปนี้ตั้งงบเที่ยวไว้ที่ 120,000 JPY ไปร้านแลกเงินจะเป็นเงินทั้งหมด 32,520 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 33,350 บาท แต่ถ้าจ่ายด้วย YouTrip จะเหลือเพียง 32,418 บาท ประหยัดได้ถึง 932 บาท กันเลย คุ้มมากเพราะYouTrip ให้เรทดีที่สุด แถมไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่ายด้วย


แนะนำจุดชม ใบไม้เปลี่ยนสี คาวากุจิโกะ โรแมนติกเกินต้าน

1. อุโมงค์ใบเมเปิ้ล (Maple Corridor (Momiji Kairo) )

เริ่มต้นจุดชมวิว ใบไม้เปลี่ยนสี คาวากุจิโกะ กันด้วยชื่อที่แปลเป็นไทยว่า “อุโมงค์ทางเดินสายเมเปิ้ล” ตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของทะเลสาบคาวากุจิโกะเลียบไปกับแม่น้ำสายเก่า พอถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงสีสันของบริเวณนี้จึงถูกปกคลุมไปด้วยโทนส้ม แดง เหลือง ทุกอย่างดูโรแมนติกแบบเกินต้านผสานความเก่าแก่ของสถานที่โดยรอบ ดีต่อใจมาก

ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing Bus “Red-Line” รถวิ่งรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะลงป้าย Itchiku Kubota Art Museum เดินต่ออีกนิด
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/rhtuMxQVuk5x95VB8

2. ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi)

อยากชม ใบไม้เปลี่ยนสี ฟูจิ ที่มีฟูจิซังเป็นฉากหลังต้องแวะมาเยือนยังทะเลสาบแห่งนี้เลย จะมีจุดสำหรับชมวิวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีทางตอนเหนือของตัวทะเลสาบ สาดความงดงามของใบเมเปิ้ลแบบไม่เป็นสองรองใคร หรืออยากทำกิจกรรมเพิ่มเติม เช่น ขี่จักรยานชมวิว หามุมถ่ายภาพสวย ๆ แต่งชุดกิโมโน หรือแค่สูดอากาศบริสุทธิ์ก็ได้ผ่อนคลายกันไม่มีเบื่อ

ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing Bus “Red-Line” รถวิ่งรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะลงป้าย Itchiku Kubota Art Museum เดินต่ออีกนิด
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/HRdSxxs1rBkRiCoX7

3. สวนโออิชิ (Oishi Park)

ยังคงฟินกับการชม ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่มีวิวเป็นภูเขาไฟฟูจิ บนเส้นทางเดินสั้น ๆ ประมาณ 350 เมตร เหล่าต้นไม้ใบหญ้าจะเปลี่ยนเป็นสีโทนส้ม แดง เหลือง ให้ได้ชิลกับบรรยากาศอันแสนเรียบง่าย อากาศเย็นสบาย หามุมถ่ายรูปสวย ๆ ของสีสันต้นไม้ตัดกับฉากหลังภูเขาไฟฟูจิสีโทนน้ำเงิน-ขาวได้แบบลงตัวมาก สายคอนเทนต์ต้องรักแน่นอน

ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing Bus “Red-Line” รถวิ่งรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะลงป้ายหมายเลข 20 Kawaguchiko Natural Living Center จะใกล้ที่สุด
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/yLcUgqM5UvXtBqhP7

4. เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda (Arakura Sengen Shrine) )

ต่อกันด้วยเจดีย์สีแดง 5 ชั้นซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งที่ควรแวะมาเที่ยวในย่านคาวากุจิโกะ ตั้งอยู่ในศาลเจ้าอาราคุระเซนเกน (Arakura Sengen Shrine) โดยต้องเดินขึ้นไปด้านบน 398 ขั้น เพื่อชมวิวมุมสูงของเมือง Fujiyoshida ระหว่างทางจะได้ชมกับใบไม้เปลี่ยนสีสวย ๆ รวมถึงถ้าวันที่ท้องฟ้าเปิดยังได้เห็นภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มตา สูดอากาศกันให้เต็มปอด

ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย Mount Fuji World Heirtage Loop bus ลงป้าย Nyoraiji-iriguchi เดินต่ออีก 800 เมตร
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/nUJfw9GRrRY7djJW7

5. กระเช้าลอยฟ้าภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji Panoramic Ropeway)

ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ สำหรับคนที่อยากชมความสวยงามของวิวใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มตา ตัวกระเช้าถูกทำเพื่อขึ้นไปยังภูเขาเท็นโจ เมื่อถึงแล้วจะพบกับจุดชมวิวพาโนราม่า 360 องศา จากความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,075 เมตร โดยรอบมีการใช้ตัวการ์ตูนพื้นบ้านญี่ปุ่น “Kachi Kachi Yama” ตกแต่ง น่ารักและสวยอย่าบอกใคร

ค่าเข้าชม : ค่าขึ้นกระเช้าไป-กลับ 950 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing Bus “Red-Line” รถวิ่งรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะลงป้ายหมายเลข 9 Sightseeing Boat/Ropeway Ent.
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/QZebWNpJgcg5c2LY7

6. พิพิธภัณฑ์คาวากุจิโกะมิวสิคฟอเรสต์ (Kawaguchiko Music Forest Museum)

ไปชม ใบไม้เปลี่ยนสี คาวากุจิโกะ พร้อมกับสัมผัสกับเครื่องดนตรีโบราณภายใต้บรรยากาศหมู่บ้านสไตล์ยุโรป บรรยากาศโดยรอบอารมณ์เดินชิลเพลิน ๆ กับอาคารทรงคลาสสิกสไตล์ยุโรป สามารถหามุมสวย ๆ ถ่ายรูป หรือจะเช่าชุดก็ดีงามมาก ด้านในมีเครื่องดนตรีราคาแพงตั้งแสดงให้ได้ชมความคลาสสิกกันแบบจัดเต็ม แถมโดยรอบยังมีวิวใบไม้เปลี่ยนสีสุดตระการตาอีกด้วย

ค่าเข้าชม : เริ่มต้น 1,500 JPY (กลุ่ม 10 คนขึ้นไป) ราคาปกติ 1,800 JPY และ Special Ticket 2,000 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing Bus “Red-Line” รถวิ่งรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะลงป้ายหมายเลข 15 Kawaguchiko Music Forest Museum
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/dWyHYwGaahcvhwTRA

7. สวนนางาซากิ (Nagasaki Park)

ชม ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น แนะนำให้แวะมายังสวนเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของทะเลสาบคาวากุจิโกะ บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่านมากนัก ช่วงฤดูใบไม้ร่วงบริเวณโดยรอบจะคุมโทนด้วยสีแดง เหลือง ส้ม พร้อมจุดถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิแบบเต็ม ๆ ยิ่งเดินไปตรงริมน้ำในวันฟ้าเปิดรับรองเห็นน้องฟูจิซังแบบเต็มชัด 2 ตา ชนิดเหมือนใกล้แค่เอื้อมเลย

ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing Bus “Red-Line” รถวิ่งรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะลงป้าย Shimadzu Yashiki-mae
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/9Zr6ALZjGmj6GEEs7

8. ทะเลสาบไซโกะ (Lake Saiko)

อีกจุดที่ควรค่ากับการแวะมาชมใบไม้เปลี่ยนสี แม้มีขนาดเล็กกว่าทะเลสาบคาวากุจิโกะ แต่โดดเด่นกับการถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาและป่าไม้ มีความเป็นธรรมชาติสูง นอกจากชมวิวสวย ๆ ของใบไม้ที่กำลังร่วงหล่นแล้วยังสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นการพายเรือ ตกปลา ตั้งแคมป์ เดินป่า ชมพิพิธภัณฑ์ หรือกิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ รวมถึงเดินชมถ้ำด้วย

ค่าเข้าชม : 290 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสจาก Kawakuchiko Station ลงป้าย Komagata เดินต่อ 5 นาที
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/9Zr6ALZjGmj6GEEs7

9. พิพิธภัณฑ์ศิลปะคูโบตะอิตจิคุ (Kubota Itchiku Art Museum)

ตะลุยที่เที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี คาวากุจิโกะ กันต่อกับพื้นที่แสดงงานศิลปะของศิลปินญี่ปุ่นนามว่า Kubota Itchiku ผู้พลิกฟื้นศิลปะการย้อมสีผ้าไหมสึจิกาฮานะสำหรับทำชุดกิโมโนให้กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง ภายในมีการจัดแสดงชุดกิโมโนด้วยลวดลายสร้างสรรค์ รูปภาพสไตล์ธรรมชาติ และอีกมากมาย โดยรอบยังงดงามด้วยวิวใบไม้เปลี่ยนสีอีกต่างหาก

ค่าเข้าชม : 1,300 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:30 – 17:30 น. (ปิดวันพุธ)
การเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Line ลงป้าย Itchiku Bijutsukan
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/6czy1JYZbnzGe2dD8

10. หมู่บ้านน้ำใส (Oshino Hakkai)

มาชมความสวยงามจุดชม ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ซึ่งยังอยู่ใกล้กับคาวากุจิโกะ จุดเด่นคือการมีบ่อน้ำใส 8 บ่อ ซึ่งทุกบ่อเชื่อว่าเป็นน้ำที่มีความบริสุทธิ์จากภูเขาไฟฟูจิซึ่งเกิดจากการละลายของหิมะ มองเห็นตัวปลาชัดเจน รวมถึงยังแวะทานของอร่อย ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ช้อปปิ้ง ไปจนถึงชมวัฒนธรรม และห้ามพลาดกับวิวใบไม้เปลี่ยนสีสวย ๆ ในหมู่บ้านนี้ด้วย

ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัส Fujikyuko Line สาย 1 สีเขียว จากสถานี Fujisan Station ลงป้าย Oshino Iriguchi
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/6czy1JYZbnzGe2dD8

11. ชินโด พาส (Shindo Pass)

ตะลุยชมความสวยงามสันเขาสูงระหว่างภูเขาคัตโตะกับภูเขาคุโรตาเกะ จึงพร้อมมอบทัศนียภาพอันน่าประทับใจของวิวภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวากุจิโกะแบบเต็มตา มีจุดชมวิวหลัก 2 แห่ง ห่างกันแค่ไม่เกิน 1 นาที สายปีนเขาเดินป่าต้องชอบ โดยรอบยังโอบล้อมด้วยต้นไม้โทนสีทอง เหลือง ส้ม แดง เป็นภาพที่หาได้ยากและควรค่ากับการมาด้วยตนเองอย่างมาก

ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสรับส่ง FUJIYAMA Twin Terrace เท่านั้น
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/1s8sv9BsPEDvnMSS6

12. ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanaka (Yamanakako) )

ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น เมืองไหนดี คาวากุจิโกะ คือคำตอบ และอย่าพลาดกับการมาเยือนทะเลสาบขนาดใหญ่สุดจากทั้ง 5 แห่งของภูเขาไฟฟูจิ ยิ่งมาช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะได้ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมฉากหลังภูเขาไฟฟูจิอันแสนงดงามเกินบรรยาย เป็นวิวพาโนรามาชนิดที่ไม่เหมือนใครแน่นอน สามารถทำกิจกรรมทั้งล่องเรือ ตกปลา เล่นสกี วินด์เซิร์ฟ หรือจะนอนพักโรงแรม กางเต็นท์สักคืนก็ดีงามมาก

ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko-Gotemba-Mishima Line ลงที่ Lake Yamanakako ได้เลย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/kUv6sv2Kk69355C56

13. ทะเลสาบโชจิโกะ (Lake Shoji (Shojiko))

ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบโมโตซูโกะ (Lake Motosuko) กับทะเลสาบไซโกะ (Lake Saiko) มีขนาดเล็กที่สุดจาก 5 แห่งรอบภูเขาไฟฟูจิ ด้วยทัศนียภาพของป่าไม้อันแสนร่มรื่นคุณสามารถชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีจากที่นี่พร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิแบบเต็ม ๆ รวมถึงยังมีกิจกรรมทั้งการตกปลา พายเรือน เดินป่า เล่นสกี และอื่น ๆ ให้ทำเยอะมากทีเดียว

ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสสายสีน้ำเงิน Omni Bus ลงที่ Lake Shoji ได้เลย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/F9c3Jg1tZohDx1mg7

14. ทะเลสาบโมโตซูโกะ (Lake Motosu (Motosuko))

ปิดท้ายที่เที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี คาวากุจิโกะ กับทะเลสาบฝั่งทิศตะวันตกของภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งใครได้เห็นวิวจากจุดนี้จะเป็นภาพเดียวกับที่ถูกพิมพ์ลงบนธนบัตร 1,000 JPY และ 5,000 JPY บรรยากาศยังคงความร่มรื่น ชมใบไม้โทนสีเหลือง ส้ม แดง พร้อมทำกิจกรรมสนุก ๆ อย่างเดินป่า ปิกนิก ตกปลา ตั้งแคมป์ พายเรือ เล่นสกี และอื่น ๆ ได้แบบไม่มีเบื่อ

ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย Fujikyu Yamanashi Bus ลงที่ Motosuko Lake ได้เลย

YouTrip Perks เที่ยวญี่ปุ่นประหยัดมากขึ้น

แนะนำฟีเจอร์ YouTrip Perks จาก YouTrip ที่ทำให้ทริปญี่ปุ่นคุ้มมากขึ้นไปอีก แค่จองที่พักผ่าน Agoda หรือ ซื้อตั๋วเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ก็ได้เงินคืนเพิ่มไปอีก! นอกจากนี้ยังมีร้านอื่น ๆ เข้าร่วมรายการอีกเพียบได้ช้อปแน่นอนไม่ต้องห่วง

ทั้งหมดนี้คือ 15 ที่เที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี คาวากุจิโกะ ที่นำมาฝากกันสำหรับสายโรแมนติกไม่ควรพลาดเด็ดขาด และอย่าลืมก่อนการเดินทางต้องสมัครบัตร YouTrip เพื่อการใช้จ่ายในต่างประเทศสุดคุ้มค่า ไม่เสียค่าธรรมเนียม 2.5% การันตี “เรทดี ทุกที่ทั่วโลก” สมัครไว้รอก่อนเดินทางได้เลย รับรองคุ้มติดใจ