ถ้าใครนึกถึงการไปเที่ยวต่างประเทศฉบับคนมีเวลาน้อย ๆ แล้วล่ะก็ ประเทศสิงคโปร์เป็นอะไรที่น่าสนใจแล้วก็ไม่ต้องวางแผนเยอะด้วย เดินทางสะดวก แถมที่เที่ยวก็เรียกได้ว่าครบครันไม่น้อยเลย ฉะนั้นประเทศสิงคโปร์เลยเป็นจุดหมายยอดฮิตของคนที่ไปเที่ยวต่างครั้งแรกและคนที่อยากเที่ยวต่างประเทศแต่มีเวลาไม่มาก เดี๋ยววันนี้จะพาไปอัพเดตจุดเช็คอิน ที่เที่ยวสิงคโปร์ ยอดฮิต กันว่ามีที่น่าสนใจบ้าง พร้อมบอกวิธีเดินทางง่ายสามารถเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองได้เลย
ไปเที่ยวสิงคโปร์ ช่วงไหนดี?
พูดถึงสภาพอากาศก่อนเลยอันดับแรก สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีอากาศร้อนชื้นเหมือนทางใต้ของไทยเราเลยคือจะมีฝนตกเกือบทั้งปี ฉะนั้นอุณหภูมิแต่ละเดือนจะไม่ต่างกันมากอยู่ที่ 25-31 องศา แต่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องฝนไปนะแม้ฝนจะตกบ่อยแต่ก็ตกครั้งละสั้น ๆ เท่านั้น ไม่ได้กระทบกับการเที่ยวแน่นอน ดังนั้นสิงคโปร์ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี แบ่งช่วงเวลาตามสภาพอากาศไว้ให้สั้น ๆ ตามนี้
– ช่วงที่อากาศเย็นที่สุด คือ มกราคมและธันวาคม 23-29 องศา
– ช่วงที่อากาศร้อนที่สุด คือ เมษายน 25-31 องศา เป็นร้อนแบบชื้น ๆ แอบตัวเหนียว
– ช่วงที่ฝนตกมากที่สุด คือ พฤศจิกายนและธันวาคม ฝนตกเกือบทุกวัน
– ช่วงที่ฝนตกน้อยที่สุด คือ กุมภาพันธ์ เจอฝนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เท่านั้น นาทีทองใครไม่ชอบฝนต้องไปเดือนนี้
เรียกได้ว่าไปได้ตลอดปีจริง ๆ ไม่ต้องมานั่งคำนวณว่าจะไปเที่ยวสิงคโปร์ ช่วงไหนดีให้เหนื่อยด้วย ใครที่แบบว่าไม่สามารถกำหนดเวลาเที่ยวต่างประเทศได้แบบเป๊ะ ๆ สิงคโปร์คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากเลย
1. สวนสาธารณะ Sentosa Sensoryscape
ที่เที่ยวสิงคโปร์เปิดใหม่ล่าสุด ที่น่าไปมาก ๆ กับ Sentosa Sensoryscape ไฮไลต์ใหม่ของเกาะเซนโตซา เป็นสวนสาธารณะที่มีทางเดินเชื่อมไปสู่สถานที่สำคัญต่าง ๆ ของเกาะ ตอนกลางคืนจะจัดแสดงแสงสีเสียงเหนือจินตนาการให้เรา โดยได้ดีไซน์โดมคอนกรีตเป็นตะกร้าสานขนาดยักษ์สูงกว่า 10 เมตร ภายในจะมีโชว์ Immersive Art ที่ประกอบด้วยแสงไฟ บทเพลง รวมถึงจุดแสกน AR ให้เราได้ถ่ายรูปเล่นอีกด้วย
กำหนดเปิด : เปิดแล้ววันนี้
ค่าเข้าชม : ไม่มี (ค่าเข้าเกาะเซนโตซา 6 SGD)
เวลาเปิด-ปิด : เปิด 24 ช.ม. (เวลาการแสดง 19:50 – 21:40 น.)
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟโมโนเรลบนเกาะ Sentosa ลงสถานี imbiah station จะอยู่ติด Sentosa Sensoryscape
2. ศูนย์การค้าจีเวลในสนามบินชางงี (Jewel Changi Airport)
มาดู ที่เที่ยวสิงคโปร์ ถัดมา กับ แลนด์มาร์คที่ต้องไปถ่ายรูปอัพสตอรี่ให้ได้นั่นก็คือน้ำตกกลางห้างสุดอลังการ ศูนย์การค้าจีเวลตอนเปิดตัวใหม่ ๆ เป็นที่ฮือฮามากทั้งการออกแบบที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายในผสานทั้งความทันสมัย เทคโนโลยีและธรรมชาติไว้ด้วยกัน สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งจุดฝากกระเป๋า เคาน์เตอร์เช็คอิน ห้องอาบน้ำ เลานจ์ แล้วก็เชื่อมต่อกับเทอร์มินอลอื่นทุกอาคาร มีรถรับส่งผู้โดยสารให้พร้อม สะดวกสบายมาก จุดไฮไลต์ในห้างคือน้ำตก HSBC Rain Vortex สูง 40 เมตร เป็นน้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลก มีละอองเย็น ๆ จากน้ำตกทำให้รู้สึกสดชื่น แถมตอนกลางคืนจะมีโชว์แสดงไฟสวยงามด้วย ใครอยากดูใกล้ ๆ แนะนำไปตรง CANOPY BRIDGE ทางเดินลอยฟ้าที่อยู่ใกล้น้ำตกมากและก็ได้ชมวิวมุมสูงจากตรงนี้ด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : จากสนามบินนั่งรถรับส่งภายในสนามบินได้เลย
3. สวนสาธารณะ การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the bay)
ต่อด้วย ที่เที่ยวสิงคโปร์ ธรรมชาติ ยอดฮิต ประกอบด้วย 3 โซนหลักคือ Bay South Garden, Bay East Garden, Bay Central Garde และโซนเปิดใหม่ Kingfisher Wetland เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำจืดแห่งใหม่ที่เราจะได้เห็นสัตว์หายากและความหลากหลายของพืชแถมยังมีน้ำตก ลำธารน้ำ และต้นโกงกางกว่า 200 ต้นที่ปลูกขึ้นมาให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ด้วย ส่วนมากจะเป็นนกกระเต็นที่อพยพมาที่นี่ ส่วนโซนที่คนฮิตมาถ่ายรูปกันก็คือ Water Lily Pond Viewpoint เป็นโซนสระบัวที่มีน้ำพุและเห็นฉากหลังเป็นป่า Supertree กับ Marina Bay Sands นอกจากนี้ใน Gardens by the bay ยังมีธรรมชาติสวย ๆ อีกเยอะมากอย่าง Floral Fantasy, Cloud Forest หรือสวนแนวตั้ง Supertree Grove เดินเล่นไปถ่ายรูปไปเพลินสุด
ค่าเข้าชม : แบ่งเป็นโซนเริ่มต้นที่ ผู้ใหญ่ 53 SGD / เด็ก 40 SGD
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 21.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สายสีเขียวลงที่ Expo MRT Station จากนั้นเปลี่ยนไปนั่ง MRT สายสีน้ำเงินมาลงที่สถานี Downtown MRT Station ได้เลย
4. เมอร์ไลออน พาร์ค (Merlion Park)
มาเที่ยวกันต่อกับ ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปกับน้องสิงโตกึ่งปลาที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสิงคโปร์ ทำความรู้จักกับเมอร์ไลออนกันสักนิด เริ่มจากส่วนลำตัวที่เป็นปลาสื่อความหมายถึงจุดเริ่มต้นของประเทศสิงคโปร์ในฐานะหมู่บ้านของชาวประมง ซึ่งสมัยก่อนจะเรียกว่ากัน เทมาเล็ก รากศัพท์มาจากภาษามาเลย์แปลว่าทะเลสาบ และส่วนหัวที่เป็นสิงโตสื่อความหมายว่าเป็นตัวแทนของชื่อดั้งเดิมของสิงคโปร์คือ สิงหะปุระ มีความหมายว่าเมืองสิงโตนั่นเอง ก็เลยกลายเป็นจุดเช็คอินสิงคโปร์ยอดฮิตที่ถ้ามาถึงแล้วต้องปักหมุดเช็คอินให้ได้ แถมเดินทางง่ายสามารถเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตนเองได้แบบไม่ยากเลยด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงที่สถานี Raffles Place ใช้ทางออก H และเดินต่อ 10 นาที
5. มารีน่า เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sand)
สถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์แห่งนี้เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว เอาจริงใครมีงบเยอะหน่อยแนะนำให้พักที่นี่ไปเลย ทุกอย่างมันสะดวก อยู่กลางเมืองออกไปเที่ยวตรงไหนก็ง่าย ที่เที่ยวฮิต ๆ นี่แทบไม่ต้องเดินทางเลยเพราะอยู่ในละแวกอ่าวมารีน่าทั้งหมด ไฮไลต์อยู่ที่ห้างสรรพสินค้า The Shoppes at Marina Bay Sands รวมแบรนด์ดังกว่า 300 ร้านค้า อย่าง Ralph Lauren, Chanel, Cartier, Prada, Gucci, Hermès และร้านอาหารอีกเพียบ และคาสิโนเอเทรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก Marina Bay Sands Casino มีโต๊ะเกมกว่า 600 โต๊ะ เครื่องเล่น Slot 1,500 เครื่อง แถมยังที่ที่ประดับด้วยโคมไฟระย้า Swarovski Crystal ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วย เป็นไงหรูหราอลังการไม่ไหว
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Bayfront Station ใช้ทางออก C และ D
6. อ่าวเคปเปล (Keppel Bay)
ที่เที่ยวสิงคโปร์ ย่านพักอาศัยแบบหรู ๆ เป็นที่ตั้งของ Reflections at Keppel คอนโดอาคารสูงรูปทรงผลึกกระจก 41 ชั้น ที่ตั้งสง่าเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตอีกหนึ่งที่เมื่อมาสิงคโปร์ นอกจากนี้รอบ ๆ ยังมีทางเดินริมอ่าวให้เดินเล่นริมทางเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินเลาะทะเลได้เลยแถมยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยมาก ๆ อีกที่หนึ่งในสิงคโปร์ด้วยนะ หรือใครอยากข้ามไปเกาะ Keppel ก็มีบริการเช่าเรือด้วย บนเกาะมีร้านอาหารเหมาะกับคนมองหาสถานที่ดินเนอร์สวย ๆ เหมือนกันนะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงที่สถานี HarbourFront ใช้ทางออก B
7. สวนเมาท์เฟเบอร์ พาร์ค (Mount Faber Park)
ยอดเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในสิงคโปร์ แต่ว่าขอหยุดภาพภูเขาสูงลิ่วไว้ก่อนนะเพราะน้องสูงแค่ช่วง 100 เมตรเท่านั้น กิจกรรมยอดฮิตเลยคือการนั่งกระเช้าขึ้นเขาซึ่งขึ้นได้จากห้าง Vivo City ส่วนที่น่าสนใจเมื่อขึ้นไปถึงแล้วก็คือเจ้าสวนเมาท์เฟเบอร์ พาร์ค นี่แหละ เป็น ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่มีจุดชมวิวเล็ก ๆ เห็นเมืองสิงคโปร์ได้บางส่วนร่วมถึงเกาะ Sentosa และทะเลสิงคโปร์สวย ๆ ข้างบนนี่ก็ออกแนวเป็นที่เดินเล่นเล็ก ๆ แหละ มีความร่มรื่นเดินเล่นชิล ๆ ได้ โดยบัตรโดยสารกระเช้าเขาจะมีแบบไม่จำกัดจำนวนครั้งไปกลับด้วยนะ ใครกลัวไม่คุ้มสามารถนั่งต่อข้ามไปเกาะ Sentosa ก็ได้จ้า
ค่าเข้าชม : ค่ากระเช้าคนละ 35 SGD
เวลาเปิด-ปิด : กระเช้าลอยฟ้าเปิดทำการ 08.45 น. – 22.00 น.
วิธีเดินทาง : ไปขึ้นกระเช้าที่ห้าง Vivo City ให้นั่ง MRT ไปลงที่สถานี HabourFront ออกมาจะเจอห้าง Vivo City เลย จากนั้นเดินไปทาง HabourFront Tower แล้วขึ้นลิฟต์ไปใช้ยังจุดขึ้นกระเช้าได้เลย
8. สวนสาธารณะฟอร์ทแคนนิง (Fort Canning Park)
เป็น ที่เที่ยวสิงคโปร์ อีกหนึ่งที่ที่มีจุดถ่ายรูปสุดฮิต ดังมากใน IG นั่นคืออุโมงค์ต้นไม้ในสวน Fort Canning Park นั่นเอง ที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่มีประวัติมายาวนานแล้วล่ะตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งประเทศสิงคโปร์กันเลยทีเดียว ไฮไลต์อยู่ที่อุโมงค์บันไดวนที่มีฉากหลังเป็นต้นไม้สีเขียวสดงอกงามมากจนเหมือนเป็นหลังคา คนค่อนข้างเยอะเนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแนะนำช่วงเช้า 7-8 โมง จะได้มีเวลาถ่ายรูปเยอะหน่อย หากไปสายกว่านั้นต้องรอคิวถ่ายกันยาว ๆ แถมจะถ่ายนานก็เกรงใจคนที่รออีก ฉะนั้นอยากมีเวลาถ่ายรูปเยอะ ๆ ตื่นเช้าสักหน่อยได้รูปสวยชัวร์ แถมเดินทางง่ายสามารถเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองได้เลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Dhoby Ghaut ใช้ทางออก B แล้วเดินต่อ 5 นาที
9. ตรอกฮาจิ (Haji Lane)
มาดูที่เที่ยวสายฮิป สายอาร์ต ใครชอบเดินดูงานศิลปะควรค่าแก่การมาที่นี่สุด ๆ ที่นี่คือตรอกฮาจิ ในย่านกัมปง กีลาม เต็มไปด้วยสตรีทแฟชั่นกับงานศิลปะที่ถูกเพ้นท์บนกำแพงอาคารทั้งซอยเลย แล้วเที่ยวได้หลายเวลา ถ้าชอบถ่ายรูปแนะนำมาตอนเช้าเท่านั้น ร้านค้ายังไม่เปิดถ่ายรูปได้เต็มที่ ส่วนใครอยากช็อปปิ้งเสื้อผ้าแฟชั่น ของเก่า ของสะสม ของแต่งบ้าน มาได้ตั้งแต่ช่วงบ่าย ส่วนสายดื่มมาได้หลังหกโมงเย็น บาร์ต่าง ๆ จะเริ่มเปิดกันแล้วยาวไปถึงเที่ยงคืนเลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สถานี Bugis ใช้ทางออก B แล้วเดินต่อ 5 นาที
10. สิงคโปร์ ไชน่าทาวน์ (China town)
ย่านนี้เป็นย่านที่เป็นถิ่นอาศัยของชาวจีนที่อพยพมายังสิงคโปร์อยู่ต่อกันมารุ่นสู่รุ่นยาวนาน ที่นี่ก็เลยจะมีทั้งวัดจีน ร้านขายยาจีน ยาแผนโบราณ แต่ก็มีร้านแนวสมัยใหม่อย่างบาร์ ร้านอาหาร คาเฟ่ รอบย่านนี้จะเป็นอาคารมีที่งานสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานแบบบาร็อกและวิคตอเรีย สีแบบพาสเทลสดใส ๆ และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือสตรีทฟู้ด จะอยู่ที่ถนนสมิธ ใจกลางไชน่าทาวน์เลย เป็นย่าน ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่มีอาหารจีนเพียบทั้งอาหารทะเล ฉ่าก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวผัด หอยทอดแบบจีน ข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูแดงและอาหารท้องถิ่น ใครอยากสัมผัสไชน่าทาวน์ที่สิงคโปร์ลองแวะมาได้เลยเดินทางง่าย ๆ และสามารถเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองได้นะต้องมาเลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สายสีน้ำเงินหรือสีม่วง ลงสถานี China town ใช้ทางออก A
11. ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)
ต่อกันที่ฝั่งตรงข้ามของไชน่าทาวน์เมื่อกี้จะเจอกับย่านลิตเติ้ลอินเดีย หนึ่งในย่านที่มีสีสันมากที่สุดในสิงคโปร์ แน่นอนว่ามาย่านนี้ก็จะได้เจอกับวัฒนธรรมแบบอินเดียตามชื่อนั่นแหละ อาคารบ้านเรือนสไตล์แบบโคโรเนียลทาสีแสบตาแบบเบอร์สิบ ที่นี่มีทั้งถนนคนเดิน วัดแขกของศาสนาฮินดู ศูนย์อาหารอินเดีย และห้างสุดฮิตมุสตาฟาขายของถูกและเปิด 24 ชั่วโมง ห้างยอดฮิตของคนไทย ใครหาของฝากราคาไม่แพงต้องมาห้างนี้แหละ ก็ถือว่าเป็น ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่มีสีสันและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมมากจริง ๆ ใครหาที่เที่ยวในสิงคโปร์แบบชิค ๆ ได้กลิ่นอายความเป็นอินเดียต้องมาที่ย่านลิตเติ้ลอินเดียนี่แหละ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงที่สถานี Little India ใช้ทางออก C จากนั้นเดินไปตาม ถนน Serangoon Road ได้เลย
12. ย่านคลาร์กคีย์ (Clarke Quay)
เปลี่ยนบรรยากาศมาหา ที่เที่ยวสิงคโปร์ ตอนกลางคืนกันบ้าง ย่านคลาร์กคีย์เป็นอีกหนึ่งย่านที่ได้รับความนิยมจากท่องเที่ยวเป็นอย่างดีเลยล่ะ เป็นย่านที่มีแสงสีเสียงแบบครบจบในแหล่งเดียว ทั้งร้านอาหาร ร้านนั่งชิล บาร์ แหล่งช้อปปิ้ง และศูนย์กิจกรรมต่าง ๆ เช่น ล่องเรือ กิจกรรมผาดโผนพวก Extreme Swing แถมยังเป็นสถานที่ที่สามารถเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองได้เพราะแค่ลงจากรถไฟใต้ดินก็เจอเลย แนะนำให้มาช่วงค่ำจะสวยสุดแสงสีคือจัดเต็มสุดเพราะทุกร้านจะพร้อมใจกันเปิดไฟประดับอย่างสวยงาม ใครชอบนั่งชิลตอนกลางคืนย่านคลากร์กคีย์นี่ตอบโจทย์สุด
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ส่วนมากร้านค้าจะเปิด 09.00 – 24.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT (North East Line) ลงที่สถานี Clarke Quay ได้เลย
13. ถนนออร์ชาร์ด (Orchard Road)
แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในสิงคโปร์ สองข้างทางเต็มไปด้วยห้างและถนนคนเดินขาช้อปคือกรี๊ดคอแตกเพราะมีของให้ช้อปเยอะมากกว่าร้อยร้านค้า มีทุกแนวตั้งแต่ของแต่งบ้าน ของใช้แม่และเด็ก ของเล่น แฟชั่น ร้านแบรนด์เนม ไปจนถึงร้าน Duty Free แต่ที่แนะนำเลยคือ ION Orchard ห้างเปิดใหม่ได้ไม่นาน รูปทรงแปลกตาจนได้รับรางวัลมาแล้วหลายสถาบันด้วยนะ มีสินค้าให้เลือกหลากหลายจัด ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นดีไซเนอร์แบรนด์และไฮเอนด์ นอกจากนี้ยังมีศูนย์อาหารแบบครบวงจรและจุดชมวิว 360 องศา ION Sky บนชั้น 56 ด้วยนะ สายช้อปต้องมาแล้วล่ะ
ค่าเข้าชม :ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ส่วนใหญ่ห้างเปิด 10:00-21:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Orchard ใช้ทางออก E
14. สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal studio)
สวนสนุกยอดฮิตจากค่าย Universal studio ที่เดียวในอาเซียนที่คนไทยนิยมไปมากที่สุดเพราะมันใกล้แค่นี้เองอ่ะเนาะ แบ่งเป็น 6 โซนคือ Hollywood, New York, Sci-Fi City, Ancient Egypt, The Lost World และ Far Far Away เครื่องเล่นที่ไปแล้วห้ามพลาดมีหลายอย่างมาก ๆ เลย อย่างพวกรถไฟเหาะ ก็จะเป็น Battlestar Galactica: Human & Cylon ความสูง 42 เมตร มีทั้งแบบที่นั่งปกติและห้อยขา ซึ่งความเร็วต่างกันใครชอบแบบโหด ๆ ต้องแบบห้อยขามีไต่อากาศ ตีลังกา เล่นเสร็จต้องมีสูดยาดม ส่วนเครื่องเล่นแนวผจญภัยก็จะเป็น Jurassic Park Rapids Adventure มีล่องแก่งเจอกับแก๊งไดโนเสาร์ เข้าอุโมงค์มืดคอยลุ้นว่าจะมีตัวอะไรโผล่มามั้ยเหมือนในหนังเป๊ะ ใครเป็นคอสวนสนุกและแฟนหนังค่าย Universal studio ที่นี่ก็เรียกว่าเป็น ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่ต้องเก็บเข้าลิสต์ด่วน ๆ
ค่าเข้าชม : ตั๋วแบบ 1 วัน ผู้ใหญ่ 74 SGD / เด็ก 54 SGD
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-19.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถ MRT ไปลงที่สถานี Harbour Front จากนั้นต่อรถไฟฟ้านั่งข้ามเกาะไปลงที่สถานี Waterfront
15. นิทรรศการศิลปะและวิทยาศาสตร์ Future World : Where Art Meet Science
นิทรรศการนี้จัดที่ ArtScience Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะและวิทยาศาสตร์ผสมระหว่างความสวยงามของศิลปะและความทันสมัยของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ซึ่งนิทรรศการ Future World : Where Art Meet Science เป็นไฮไลต์ของที่นี่เลยหนึ่งในผลงานของ TeamLab ทีมออกแบบชื่อดังของญี่ปุ่น เป็นการนำเสนอศิลปะผ่านเทคโนโลยีล้ำ ๆ นั่นเอง อย่างเช่น Sketch Aquarium เป็นโซนของเด็กแต่ผู้ใหญ่อย่างเราอยากเล่นมากคือเขาจะให้วาดรูประบายสีสัตว์น้ำลงในกระดาษจากนั้นเอาเครื่องสแกนภาพที่เราวาดจะกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวบนผนังท้องทะเลนั้นเอง สุดยอดมาก เป็น ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 19 SGD / เด็ก 14 SGD
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 19:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สาย Circle หรือ Downtown ก็ได้มาลงที่สถานี Bayfront แล้วใช้ทางออก D
16. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทะเลสิงคโปร์ (Singapore Oceanarium)
แต่เดิมที่นี่คือ SEA Aquarium เขาจะทำการรีแบรนด์ใหม่มีชื่อ Singapore Oceanarium กลายเป็นที่เที่ยวสิงคโปร์เปิดใหม่ ที่เขาบอกว่าจะใหญ่และอลังการขึ้นกว่าเดิมไปอีก ที่นี่มีสัตว์ทะเลกว่า 100,000 ตัว จาก 1,000 สายพันธุ์ สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาจะมีการจัดแสดง/การจำลองในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น ให้เราสัมผัสโลกใต้ทะเลแบบทันสมัยสมกับเป็นสิงคโปร์ และเพิ่มโซนอื่น ๆ อย่างเช่นโซนมหาสมุทรทะเลลึกที่ยังไม่ได้มีการสำรวจ เป็นต้น ทั้งนี้โซนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SEA อันเดิมยังไม่ได้ปิดนะใครไปช่วงนี้ยังสามารถไปเที่ยวได้อยู่ ขอย้ำว่าจะเปิดปลายปีนี้นะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 44 SGD / เด็ก 33 SGD
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 17:00 น.
วิธีเดินทาง : MRT ไปลงที่สถานี Habourfront จากนั้นต่อรถไฟข้ามไปเกาะ Sentosa ที่ห้าง VivoCity ลงรถไฟแล้วจะเจอป้าย Aquarium เลย
17. ชิงช้าสวรรค์ สิงคโปร์ ฟลายเออร์ (Singapore Flyer)
หนึ่งในชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงจากพื้นดิน 165 เมตรความสูงขนาดนี้คือสามารถเห็นวิวทั้งแบบพาโนรามา กว้าง ๆ สูง ๆ ทั้งอ่าวมารีน่าและในเมืองสิงคโปร์เลยโดยชิงช้าจะใช้เวลา 30 นาทีในการหมุน 1 รอบ ดูวิวข้างบนได้จุใจ สำหรับการมาที่นี่ไม่ใช่แค่มีนั่งชิงช้าอย่างเดียวนะในตั๋วแบบ Singapore Flight จะรวมค่าเข้าโซน Journey of Dreams ที่เป็น interactive multimedia gallery ไปด้วย นอกจากดูชิงช้าแล้วก็ยังไปเดินเล่นโซนนี้ต่อได้อีก หรือใครหาที่ดินเนอร์หรู ๆ ก็มี Singapore Flyer Sky Dining ทานอาหารอร่อย ๆ บนแคปซูลลอยฟ้าด้วยนะ เป็นสถานที่เที่ยวสำคัญและเดินทางง่ายสามารถเที่ยวสิงคโปร์ได้ด้วยตัวเอง
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 33 SGD / เด็ก 21 SGD
เวลาเปิด-ปิด : 8:30 – 22:30 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สายสีเหลืองเข้มหรือสีน้ำเงินก็ได้ลงที่สถานี Promenade Station ใช้ทางออก A แล้วเดินต่ออีก 400 เมตร
18. พิพิธภัณฑ์ไอศครีม (Museum of Ice Cream)
หรูมาหลายงานแล้วคราวนี้ไปสถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์หวาน ๆ บ้าง เหมาะกับสายคอนเทนต์สายถ่ายรูปสุดที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ไอศครีมสีชมพูหวานแหวว ไฮไลท์อยู่ที่ Sprinkle Pool หรือสระเกร็ดสีรุ้ง น้องคือเกร็ดน้ำตาลสีสวย ๆ ที่เราชอบโรยเป็นท็อปปิ้งในไอศครีมนั่นแหละ สามารถกระโจนเข้าไปในสระนี้ได้เลยเอาเหมือนเราเป็นไอศครีมที่ถูกชุบด้วยเกร็ดน้ำตาล นอกจากนี้ก็ยังมีห้องจัดแสดงไอศกรีมแท่งใหญ่ยักษ์ รถขายไอศครีม มุมถ่ายรูปเพียบ แล้วก็ยังมีคาเฟ่สีชมพูหวาน ๆ ไว้นั่งทานไอศครีมกับเครื่องดื่มได้ด้วย ใครเป็นสายถ่ายรูปนี่ห้ามพลาดนะเป็น ที่เที่ยวสิงคโปร์ ต้องมาให้ได้
ค่าเข้าชม : วันธรรมดา 36 SGD / วันหยุด 42 SGD
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 20.00 น. (ปิดวันอังคาร)
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สาย Thomson East Coast Line ลงที่สถานี Napier จากนั้นเดินต่ออีก 16 นาที
19. วัดพระเขี้ยวแก้วและพิพิธภัณฑ์ (The Buddha Tooth Relic Temple and Museum)
วัดทางพุทธที่สำคัญวัดหนึ่งของชาวสิงคโปร์ ใครผ่านไปไชน่าทาวน์แนะนำให้แวะกันสักหน่อยนอกจากสถาปัตยกรรมจะสวยงามแล้วยังเป็นที่ประดิษฐานของพระทันตธาตุ หรือ ฟัน ของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดนี้ด้วย งานออกแบบเป็นสไตล์วัดพุทธของจีนตั้งแต่ราชวงศ์ถัง มีทั้งหมด 9 ชั้นแต่ส่วนที่เปิดให้เข้าชมได้จะเป็นส่วนที่อยู่บนดิน 4 ชั้นเท่านั้น ข้างในคือตกแต่งแบบตระการตามาก ๆ ทองอร่ามสุด ปล.ห้ามใส่กางเกงขาสั้นและเสื้อกล้ามนะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 07:00-19:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สีน้ำเงินหรือสีม่วงก็ได้ลงที่สถานี Chinatown Station แล้วเดินต่อ 500 เมตร
20. เบิร์ดพาราไดซ์ (Bird Paradise)
ที่เที่ยวสิงคโปร์เปิดใหม่ของ Mandai Wildlife Reserve เป็นที่เที่ยวสิงคโปร์ ธรรมชาติที่เป็นเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าขนาดใหญ่ของสิงคโปร์ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ อ่างเก็บน้ำ เป็นแห่งอาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายพันธุ์ด้วย ปีนี้เขาจะแผนจะเปิดโซนใหม่คือ Bird Paradise ซึ่งโซนนี้ตามจริงแล้วชื่อว่า Jurong Bird Park ซึ่งจะทำการย้ายมาจากเขต Jurong มาอยู่ที่นี่แทน เป็นสวนนกที่จะเป็นย่อยออกเป็นอีก 10 โซน มีนกหลายสายพันธุ์รวมถึงนกขนาดใหญ่ด้วยรวมกว่า 400 สายพันธุ์ จะอลังการขนาดไหนต้องรอดู
ค่าเข้าชม : ยังไม่มีข้อมูล
เวลาเปิด-ปิด : 08:30–18:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 980 จาก Opp Flame Tree Park ไปลงที่ Opp Springleaf Nature Park จากนั้นเปลี่ยนรถไปขึ้นสาย 138 ลงที่ S’Pore Zoo จากนั้นเดินต่อ 200 เมตร
21. วัดศรี วิรามกาลีอัมมัน (Sri Veerama Kaliamman Temple)
ถ้ามองหาสถานที่ในสิงคโปร์ ที่เที่ยว unseen อยู่ล่ะก็ แนะนำที่นี่เลยเป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่หนึ่งของสิงคโปร์ บอกเลยว่าเป็น ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่ควรมาเพราะเต็มไปด้วยวัฒนธรรมสุด ๆ อยู่ในลิตเติลอินเดียโลเคชั่นยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวมามากกว่าวัดฮินดูอื่น ๆ ซุ้มประตูและกำแพงวัดคือเป็นไฮไลต์ด้านบนของซุ้มประตูทางเข้าจะเป็นรูปปั้นเทพเจ้าต่าง ๆ เรียงรายกันอยู่ด้านบน ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเพราะกาลีด้านในตกแต่งสวยงามสีทองและงานเพ้นท์บนเพดานที่ละเอียดมาก ๆ อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองได้ แถมยังสัมผัสวัฒนธรรมชาวอินเดียอื่น ๆ ในย่านนี้ต่อได้ด้วย
ค่าเข้าชม :ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 05.00 – 21.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สีม่วงหรือสีน้ำเงินก็ได้ลงที่สถานี Little India Station ใช้ทางออก E แล้วเดินไปทางถนน Serangoon Road เดินตามถนนไปเรื่อยๆ ประมาณ 300 เมตรจะถึงวัด
22. มัสยิดสุลต่านแห่งสิงคโปร์ (Sultan Mosque)
มัสยิดเก่าแก่ของชาวมุสลิมในสิงคโปร์และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม มีงานสถาปัตยกรรมโดดเด่นโดมสีทองขนาดใหญ่ด้านบนตัดกับสีขาวของอาคารทำให้เกิดเป็นความสวยงามที่ลงตัวมาก ๆ มัสยิดตั้งอยู่บนถนนอาหรับ เป็นย่านการค้าที่คึกคักย่านหนึ่งเลยด้วย ด้านในเป็นที่โล่งทรงสูงมีชั้นเดียวเป็นพื้นที่ไว้สำหรับชาวมุสลิมมาใช้ประกอบพิธีทางศาสนานั่นเอง
ค่าเข้าชม :ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : เปิด 2 ช่วงเวลา 09:30-12:00 น. และ 14:00-16:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สายสีน้ำเงินหรือสีเขียวก็ได้ลงที่สถานี Bugis Station ใช้ทางออก B เดินต่อไปทางโรงพยาบาล Raffles Hospital จนถึงทางแยกแล้วให้เลี้ยวขวาเดินเข้าถนน Ophir Road พอถึงแยกแรกที่ตัดกับถนน North Birdge Road ให้ข้ามถนนไปทางซ้ายจะเจอมัสยิด
23. โบสถ์ เซนต์แอนดรู (St. Andrew’ s Cathedral)
ใครหาที่เที่ยวสวย ๆ เดินทางง่าย ๆ แบบสามารถเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองได้ต้องที่นี่เลยอยู่ติดรถไฟใต้ดิน ที่นี่เป็นโบสถ์เก่าแก่ Anglican ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ รูปแบบอาคารสร้างแบบ English Gothic ช่วงค่ำ ๆ เริ่มเปิดไฟที่อาคารคือสวยสะดุดตามากเวอร์ แล้วตัวโบสถ์สีขาวตั้งอยู่ตรงกลางของสนามหญ้าสีเขียวทำให้สีเขาตัดกันถ่ายรูปออกมาสวยมาก ๆ สามารถเข้าชมข้างในโบสถ์ได้ตลอดยกเว้นช่วงที่มีงานสำคัญจะปิดไม่ให้เข้าด้านในจ้า
ค่าเข้าชม :ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สายสีเขียวหรือสีแดงก็ได้ลงที่สถานี City Hall Station ใช้ทางออก B เดินออกมาเดินโบสถ์เลย
24. ห้องสมุดสาธารณะ (library@Orchard)
นอกจากเป็นห้องสมุดแล้วก็ยังเป็น ที่เที่ยวสิงคโปร์ สุดฮิต ที่ถ่ายรูปสุดปังใจกลางสิงคโปร์ ห้องสมุดดีไซน์ทันสมัยมีทั้งหมด 2 ชั้น อยู่ในห้าง Orchard Gateway มีมุมอ่านหนังสือ มุมทำงาน แล้วก็เป็นโลเคชั่นฮิตของสายถ่ายรูปด้วย ได้อารมณ์คลีน ๆ มินิมอล โพสท์ท่าแบบแกล้ง ๆ หาหนังสือที่ชั้นหนังสือสูง ๆ มีหนังสือแน่น ๆ หรือใครจะนั่งชิลตรงเก้าอี้ริมกระจกก็ได้ ข้างล่างเป็นวิวสวนมาต้นไม้สีเขียวเยอะเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 21.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Somerset ได้เลย ห้องสมุดอยู่ชั้น 3 และ 4 ของห้าง Orchard Gateway
25. หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ (National Gallery Singapore)
หอศิลป์ที่มีการจัดแสดงศิลปะกว่า 8,000 ชิ้น แต่ละชิ้นคือเป็นผลงานระดับชาติของสิงคโปร์ทั้งนั้น เรียกได้ว่าใครชอบงานศิลปะคงจะถูกใจแน่นอน แถมยังมีงานศิลปะร่วมสมัยใหม่อีกมากและผลงานของศิลปินชาวสิงคโปร์ก็จัดแสดงที่นี่เหมือนกัน เช่น Georgette Chen, Chen Chong Swee และ Liu Kang นอกจากนี้ยังมีผลงานจากศิลปินต่างชาติอีกหลายแขนงรวมไว้อีกนะ แต่ละสัปดาห์จะมีกิจกรรมสลับเปลี่ยนกันไปอย่างการพูดคุยกับเจ้าของงานศิลป์ หรืองานเสวนาเกี่ยวกับศิลปะ และโซน Keppel Centre for Art Education ศูนย์การเรียนรู้ด้านศิลปะ เด็ก ๆ สามารถสร้างสรรค์งานศิลปะที่นี่ได้ด้วย เป็นที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่มากันได้ทั้งครอบครัวเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : คนละ 20 SGD
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-19.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี City Hall ใช้ทางออก B แล้วเดินต่อประมาณ 7 นาที
26. น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ซันเทคซิตี้ (Fountain of Wealth Suntec City)
เขาว่าที่นี่คือจุดรับพลังฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดในสิงคโปร์ เล่าที่มาก่อนว่า Suntec City เนี้ยเขาเป็นเมืองที่ออกแบบและจัดวางอาคารโดยเน้นหลักฮวงจุ้ยจีน ที่ Suntec City ก็เป็นศูนย์กลางของห้างสรรพสินค้ามากมายมาตั้งแต่ปี 1997 แล้วล่ะ โดยมีจุดเด่นคือน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง เป็นน้ำพุที่ถูกออกแบบตามแนวคิดของศาสนาฮินดูมันดาลา สื่อถึงจักรวาลและเป็นตัวแทนของความเป็นเอกภาพในจิตวิญญาณและความเท่าเทียม มีรูปทรงเป็นวงแหวนทองแดงสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง มีเส้นรอบวง 66 เมตร สูง 13 เมตร มีการบันทึก World Records ให้เป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี ค.ศ. 1998 ด้วย เป็นอีกหนึ่งใน ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่คนนิยมมากันมาก
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : รอบเปิดน้ำพุ 10:00 – 12:00 น. / 14.00 – 16.00 น. / 18.00 น. – 19.30 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Esplanade แล้วใช้ทางออก A
27. สะพานเกลียวฮีลิกซ์ (Helix Bridge)
ไปเดินชมความสวยงามของสิงคโปร์ตามค่ำคืนกัน มืดแล้วใครยังไม่อยากกลับโรงแรมออกมาเดินเล่นที่สะพานฮีลิกซ์ดีกว่า เป็นสะพานสำหรับคนเดินเท่านั้นรูปทรงคือทันสมัยล้ำเวอร์เป็นทรงเกลียวห่อล้อมทางเดินซึ่งแนวคิดมาจากรูปแบบของ DNA นั่นเองเกลียวก็จะหมุนพันกันไปเรื่อย ๆ ตามความยาวของสะพาน อยู่ที่อ่าวมารีน่าเชื่อมต่อระหว่างฝั่ง Marina Center ที่มีชิงช้าสวรรค์ Singapore Flyer กับฝั่ง Marina South ที่มีตึกเรือ Marina Bay Sands และ Garden by the Bay ผ่านจุดเที่ยวเยอะด้วยเดินข้ามไปมาได้เลยถ้าขยันเดินนะ กลางคืนที่สะพานมีเปิดไฟประดับด้วย มาเดินเล่นชมวิวแม่น้ำและแสงสีของสิงคโปรตามค่ำคืนก่อนนอนกัน
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Bayfront Station จะเจอสะพานติดกับฝั่ง The float @ Marina Bay
28. สะพานสีรุ้ง เอลกินน์ (Elgin Bridge)
จุดชมความสวยงามของสิงคโปร์ยามค่ำคืนอีกหนึ่งจุด ที่เรียกว่าสะพานสีรุ้งเพราะตอนกลางคืนเขามีเปิดไฟประดับที่สะพานไล่เฉดสีเป็นสีรุ้งนั่นเอง สว่างแบบเจิดจ้ามาสีสันกระแทกตาสุด สะพานเป็นทรงแบบโบราณมีความคลาสสิคหน่อย ๆ ตรงนี้ช่วงเทศกาลปีใหม่คนก็มาเคาท์ดาวน์เยอะเหมือนกันเพราะสามารถมองเห็นพลุจากมุมไกลได้ กลายเป็นจุดถ่ายภาพสวย ๆ อีกหนึ่งที่ ข้าง ๆ สะพานมีสวนเล็ก ๆ นั่งพักผ่อนและออกกำลังกายได้
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไฟเริ่มเปิดประมาณ 18.00 – 22.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 961M ไปลงที่ Opp The Treasury จากนั้นเดินต่อประมาณ 200 เมตร
29. สะพานคาเวนาห์ และ สะพานแอนเดอร์สัน (Cavenagh Bridge&Anderson Bridge)
เป็นสะพานที่ถูกสร้างจากประเทศสกอตแลนด์และขนชิ้นส่วนมาประกอบที่สิงคโปร์ สะพาน Anderson Bridge ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์หลักเลยคือนำมาใช้ทดแทนสะพาน Cavenagh Bridge ซึ่งเดิมที่ไม่สามารถรองรับรถยนต์ที่ต้องการสัญจรไปมาในละแวกนี้ได้ ปัจจุบันก็ใช้สะพาน Anderson Bridge เป็นเส้นหลักในการสัญจรข้ามแม่ไปมาแต่ว่าสะพาน Cavenagh Bridge เดิมนั้นไม่ได้ถูกทำลายทิ้งนะ ยังอยู่ดีเพียงแต่ไม่เปิดให้รถขึ้นใช้แล้วกลายเป็นสะพานคนเดินแทนนั่นเอง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สายสีเขียว ลงที่สถานี Raffles Places ใช้ทางออก G เดินต่อมาทางโรงแรม Fullerton ก็จะมองเห็นสะพานได้ทันที
30. สะพานรางรถไฟเก่า Bukit Timah Truss Bridge
อีกหนึ่ง ที่เที่ยวสิงคโปร์ สำหรับสายถ่ายรูป หลังจากที่รัฐบาลสิงคโปร์มีโครงการปรับปรุงทาสีสะพานรางรถไฟเก่าแห่งนี้ก็กลับมาฮิตในหมู่ช่างภาพสุด ๆ ใน IG คือเช็คอินกันรัว ๆ ด้วยโครงสร้างที่เป็นสะพานเก่าสร้างตั้งแต่ปี 1932 ปัจจุบันนนี้มีคนยกให้ที่นี่เป็นโลเคชั่นในสิงคโปร์ ที่เที่ยว unseen ด้วยนะทำให้เป็นที่สนใจในหมู่คนชอบถ่ายแนววินเทจ พีคไทม์ของที่นี่คือช่วงแดดออกระหว่างวัน จะเห็นเงาของโครงสร้างสะพานกระทบลงมาที่พื้น ทำได้ภาพที่แสงและมุมสวยแบบพอดีสุด ๆ นอกจากนี้ยังนิยมเป็นสถานที่ออกกำลังกายด้วย เพราะถ้าเดินผ่านสะพานไปจะเป็นสวนสาธารณะนั่นเองล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สายสีน้ำเงิน ไปลงที่สถานี King Albert Park แล้วเดินต่อ 500 เมตร
31. อาคารกองบัญชาการตำรวจเก่า (Old Hill Street Police Station)
หรืออีกชื่อหนึ่งคือ MICA Building อาคาร 6 ชั้นสีสันสะดุดตาสุด ๆ แต่เดิมที่นี่เคยเป็นสถานที่คุ้มขังนักโทษและที่ตั้งของกองบัญชาการตำรวจเก่าแก่ของสิงคโปร์ ปัจจุบันนี้กลายเป็นอาคารหลักของกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศ นอกจากสีสันแล้วจุดเด่นยังอยู่ที่ยังอยู่ที่การออกแบบสถาปัตยกรรมด้วย มุมฮิตคือต้องข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งจะได้มุมที่เห็นหน้าต่างสีสันแบบชัดเจน เป็น ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่ใคร ๆ ก็นิยมมาเช็คอินกันสุด ๆ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : นอกอาคารเปิดตลอดเวลา
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงที่สถานี Clark Quay Station ออกทางออกที่เป็นห้าง Central Clark Quay แล้วเดินข้ามแม่น้ำจะเห็นอาคารอยู่ฝั่งตรงข้าม
32. พิพิธภัณฑ์เรด ดอท ดีไซน์ (Red Dot Design Museum)
พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานออกแบบไว้อย่างมากมายกว่า 200 ชิ้น ซึ่งผลงานที่นำมาแสดงทั้งหมดนี้ผ่านการรับรองจาก Red dot มาแล้วอย่างถี่ถ้วน ไม่ใช่ว่าใครจะทำผลงานอะไรก็ได้มาโชว์ที่นี่น้า เขาคัดแต่งานคุณภาพดีเท่านั้นจ้า ส่วนมากก็จะเป็นเทคโนโลยีล้ำ ๆ ทั้งหลายนั่นแหละ อย่างเช่น หุ่นยนต์สุนัข AIBO ที่ตอนเปิดตัวใหม่ ๆ 20 ปีก่อนเป็นที่ฮือฮามาก เป็นหุ่นยนต์ใช้เพื่อความบันเทิงในบ้านแทนคนที่อยากเลี้ยงน้องหมาแต่อาจจะแพ้ขนสัตว์อะไรแบบนี้นะ นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับรางวัลจาก Red dot อีกด้วย
ค่าเข้าชม : คนละ 10 SGD
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 19.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สายสีเขียวลงที่สถานี Tanjong Pagar ได้เลย
33. ย่านเตียง บาห์รู (Tiong Bahru)
ชุมชนเก่าแก่ ย่านฮิป ๆ ในสิงคโปร์ เป็นที่เที่ยวสิงคโปร์ที่เหมาะกับสายกาแฟสายคาเฟ่มากเพราะมีร้านน่านั่งอยู่เพียบ ใครชอบบรรยากาศแบบชิล ๆ สงบ ๆ หน่อยเหมาะมาก ทุกร้านคือจะมีคอนเซปต์น่ารัก ๆ เป็นของตัวเองทั้งหมดเลยอย่างร้าน Tiong Bahru Club ก็ดังเหมือนกันมีความแขก ๆ ผสมฝรั่งตอนกลางคืนเปิดเป็นบาร์ด้วย หรือใครชอบเค้กจิบชาต้องที่ Plain Vanilla ขนมอบใหม่ทุกวันร้านเลยมีแต่กลิ่นขนมหอม ๆ อยู่ตลอดเลย โดยรวมคือเป็นย่านรวมคาเฟ่คลีน ๆ ในสิงคโปร์นี้แหละ แม้จะอยู่นอกเมืองสักหน่อยแต่ก็เดินทางไม่อยาก เป็นย่านที่สามารถเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองได้อีกด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ไปลงที่ สถานี EW 17 Tiong Bahru
34. ร้านเบอร์เกอร์ Potato Head Folk
มาดู ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่เป็นทั้งร้านอาหาร บาร์ และจุดถ่ายรูปในที่เดียวดัน ร้านเบอร์เกอร์เก๋ ๆ ที่แค่เห็นหน้าร้านก็อยากเข้าแล้วอ่ะ ทุกอย่างมู้ดดีแม้กระทั่งถาดใส่อาหาร ฮ่า ๆ ร้านมีสองชั้น ด้านบนสุดเป็นบาร์ ร้านเขาเป็นตึกอยู่กลาง 3 แยกเลยฉะนั้นเด่นสะดุดตาสุด ๆ ข้างในตกแต่งแบบวินเทจ เก่า ๆ นิดหน่อยเหมาะกับกล้องฟิล์มสุดใจ ส่วนอาหารนั้นแน่นอนอันดับหนึ่งคือเบอร์เกอร์ฉ่ำ ๆ ที่เขาว่ารสชาติดีมากสมราคา ขนมหวานมีทั้งไอศครีม และขนมอบ เครื่องดื่มชากาแฟก็มีครบ มุมถ่ายรูปฮิตคือมุมหน้าร้านนั่นแหละแต่ระวังรถด้วยนะ
ค่าเข้าชม : ราคาอาหารเริ่มที่ 20 SGD
เวลาเปิด-ปิด : 12.00 – 00.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Chinatown ใช้ทางออก A
35. สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ (Singapore Botanic Gardens)
สวนสาธารณะเก่าแก่อายุกว่า 150 ปี ได้รางวัลมากมายอย่าง Best Garden in Asia จากเว็บ TripAdvisor และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วเรียบร้อยด้วย ปัจจุบันนี้มีที่พักผ่อนของชาวสิงคโปร์ที่มีคนมาใช้บริการมากที่สุด ไฮไลต์ของที่นี่คือสวนกล้วยไม้ ดอกไม้ประจำชาติของสิงคโปร์ มีกล้วยไม้กว่า 10,000 สายพันธุ์รวมอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีโซนอื่น ๆ อีกอย่างเช่น ทะเลสาบหงส์ สวนป่าดึกดำบรรพ์ สวนสมุนไพร สนามเด็กเล่น ฯลฯ ใครที่กังวลเรื่องการเดินทางบอกเลยที่นี่สามารถเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองได้แน่นอน ออกจาก MRT ก็เจอเลย สถานที่ใหญ่หาง่ายมาก
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 05.00 – 00.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สายสีเหลือง ลงที่สถานี Botanic Garden Station
36. อุทยานธรรมชาติบูกิต บาตก (Bukit Batok Nature Park)
หากมองหา ที่เที่ยวสิงคโปร์ แนวธรรมชาติ อยากไปเดินเล่นแบบชมนกชมไม้เงียบสงบ ร่มรื่น เย็น ๆ แนะนำที่อุทยานธรรมชาติบูกิต บาตกกิจกรรมเพียบจะไปเดินเล่น จ๊อกกิ้ง ออกกำลังกายก็ได้หมด ที่นิยมเลยคือการเดินป่า เรียกเหงื่อสักหน่อยโดยการเดินขึ้นเขา 163 เมตร เส้นทางมีความคดเคี้ยวและต้องลัดเลาะผ่านป่าทึบ แต่ไม่ต้องกลัวไปทางอุทยานเขาทำเชือกนำทางไว้ให้เรียบร้อยไม่มีหลง ระหว่างทางก็จะเจอพืชพันธุ์ธรรมชาติตลอดทั้งทางเลย ร่มรื่นแล้วก็แล้วก็ธรรมชาติสุด ๆ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 985, 61, 178, 852, 970, 3N, 66, 157 หรือ 174 ลงที่ถนน Opp Autobacs แล้วเดินต่อ 4 นาที
37. ประภาคารรัฟเฟิลส์มาริน่า (Raffles Marina Lighthouse)
จุดถ่ายรูปฮิป ๆ เป็นโลเคชั่นอีกทีหนึ่งที่คนนิยมไปถ่ายรูปมากที่สุด แน่นอนเลยว่าสิ่งที่สะดุดตาก็คือประภาคารที่อยู่ติดกับทะเล มองเห็นวิวทะเลสวย ๆ ยิ่งใครมาตอนใกล้ ๆ พระอาทิตย์ตกดินนะตรงนี้คือสวยมากขึ้น 100% แสงธรรมชาติสวยสุดรับลมทะเลฟิน ๆ ได้รูปกลับไปโพสท์เพียบ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 22.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Tuas Link
38. ชายหาดซิโลโซ (Siloso Beach)
จะซัมเมอร์แล้วต้องไปทะเลสักหน่อย ใครหา ที่เที่ยวสิงคโปร์ ริมทะเลต้องข้ามมาที่เกาะเซนโตซ่าที่แหละ ซึ่งชายหาดซิโลโซเป็นหาดชื่อดังของสิงคโปร์ หาดทรายเนียนละเอียดสีขาวเดินนุ่มเท้า น้ำไม่ได้ใสมากอารมณ์ทะเลพัทยาแต่กิจกรรมเยอะดี ใครชอบกิจกรรมตามชายหาดน่าจะถูกใจเลยล่ะมีทั้ง ว่ายน้ำทะเล โรยตัว พายเรือคายัค วอลเลย์บอล ช่วงวันหยุดจะคนเยอะหน่อยใครอยากมาแบบคนน้อย ๆ ให้มาวันธรรมดานะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00 น.
วิธีเดินทาง : ขึ้นรถไฟ Sentosa Express มาลงที่สถานี Beach Station จากนั้นต่อรถ Beach tram ที่มุ่งหน้าไปยัง Siloso ให้ลงที่ป้าย Siloso Point Stop
39. หาดตันจง (Tanjong Beach)
ข้ามไปเกาะในเซนโตซ่าทั้งที่ก็ต้องไปหลายหาดหน่อยเนอะ เดี๋ยวไม่คุ้ม ถ้าพูดถึงหาดในเกาะเซนโตซ่าที่นี่ดูจะคึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สุดแล้ว กิจกรรมยอดฮิตที่นี่เลยคือ Tanjong Beach Club ร้านอาหารและบาร์แห่งเดียวของหาดนี้ สไตล์การตกแต่งเหมือนบ้านพักตากอากาศริมทะเล ก็คือชิลมาก มีสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าร้านคนแน่นตลอด ๆ โดยรวมที่นี่แนะนำสำหรับสายดื่มสายปาร์ตี้มากกว่า เพราะว่าถ้าไม่มาสังสรรค์แล้วหาดนี้ไม่มีกิจกรรมอย่างอื่นให้ทำเลยนั้นเองจ้า เรียกได้ว่าใครหา ที่เที่ยวสิงคโปร์ ริมทะเลพร้อมปาร์ตี้กับแก๊งเพื่อนหาดนี้คือเลิศ!
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,100 SGD / เด็ก 600 SGD
เวลาเปิด-ปิด : ส่วนใหญ่ห้างเปิด 10:00-21:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงที่สถานี Harbourfront และต่อรถรางไฟฟ้าไปในเกาะเซนโตซ่า จากนั้นต่อรถบัสในเกาะมาลงที่หาด Tanjong Beach ได้เลย
40. หาดปาลาวัน (Palawan Beach)
ที่เที่ยวสิงคโปร ที่สุดท้ายปิดจบด้วยหาดปาลาวัน อีกหนึ่งหาดในเกาะเซนโตซ่ามีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ที่จริงหาดนี้อยู่ไม่ไกลกับสวนสนุก Universal Studio ด้วยนะ ใครขยันเดินหน่อยคือเดินต่อมาได้เลย ไม่ไกลมาก หาดทรายขาวสะอาด ต้นมะพร้าวเยอะทำให้ถ่ายรูปสวนแม่น้ำทะเลจะไม่ใสแต่ก็ถือว่าเป็นที่พักผ่อนได้ดี จุดเด่นคือสะพานแขวนสีขาวเป็นจุดที่คนชอบไปถ่ายรูปกัน ปรับแสงนิดหน่อยนะได้รูปสวย ๆ เลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : ลงที่สถานี Harbourfront และต่อรถรางไฟฟ้าไปในเกาะเซนโตซ่า จากนั้นต่อรถบัสในเกาะมาลงที่หาด Palawan Beach ได้เลย
เที่ยวสิงคโปร์ด้วย YouTrip ประหยัดกว่า
บอกต่อความประหยัดเพียงแค่ใช้ YouTrip อย่างเช่น สิงคโปร์ทริปนี้ตั้งงบไว้ที่ 1,191 SGD ที่ร้านแลกเงินจะเป็นเงินทั้งหมด 31,442 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 31,001 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนมาจ่ายด้วย YouTrip จะได้จ่ายเพียง 30,000 บาท ประหยัดเพิ่มได้ถึง 1,442 บาท กันเลย เพราะ YouTrip ให้เรทดีและไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่ายนั่นเอง เลิศมาก
เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย
และนี่ก็คือ 40 ที่เที่ยวสิงคโปร์ ยอดฮิตจุดที่เป็นแลนด์มาร์คที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ไม่งั้นเหมือนไปไม่ถึงสิงคโปร์อ่ะเนอะ แถมการเดินทางสิงคโปร์ก็คือง่ายและสะดวกมากระบบ MRT คล้ายบ้านเราเลยนักท่องเที่ยวอย่างเราสามารถเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองได้แบบชิล ๆ และถ้าจะให้ชิลกว่าเดิมต้องมี YouTrip ไปด้วย สบายแน่นอนเพราะ ใช้จ่าย เรทดี ทุกที่ทั่วโลก คุ้มไม่ไหวไปสมัครไว้เถอะ ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี!