โตเกียวเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ศูนย์กลางความเจริญแบบครบครันทั้งการเดินทาง นวัตกรรม สินค้า อาหาร รวมไปถึงวัฒนธรรมที่เด่นชัดอีกด้วย เรียกได้ว่าใครมาญี่ปุ่นก็ต้องไม่พลาดมาเที่ยวโตเกียวสักรอบ เดี๋ยววันนี้จะพาไปดู ที่เที่ยวฟรีโตเกียว เที่ยวแบบสบายกระเป๋าอย่างน้อยก็ไม่เสียตังค์ค่าเข้าล่ะนะ
เที่ยวโตเกียวช่วงไหนดี ?
ฤดูหนาว ( ช่วงหิมะ ) : ธันวาคม – กุมภาพันธ์
บรรยากาศแบบเฉลิมฉลองเพราะอยู่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ อากาศหนาวประมาณ 4-11 องศา ของลดราคาเยอะใครสายช้อปมาช่วงนี้ก็คุ้มเหมือนกัน บางปีหากโชคดีอาจจะเจอหิมะตกกลางโตเกียวด้วยนะ หรือใครอยากเล่นสกีออกจากโตเกียวไปนิดหน่อยก็มีลานสกีหิมะให้เล่นแล้วล่ะ
ฤดูใบไม้ผลิ (ซากุระ) : ปลายมีนาคม – ต้นเมษายน
ฤดูยอดฮิตของญี่ปุ่น บรรยากาศสวยงาม โรแมนติก อากาศหนาวเย็นประมาณ 5-14 องศา จัดเต็มชุดกันหนาวมาได้เลย มีซากุระและชมดอกไม้ตามเทศกาลต่าง ๆ เป็นไฮไลต์ของฤดูนี้
ฤดูร้อน : มิถุนายน – สิงหาคม
ช่วงเวลาแห่งเทศกาลดอกไม้ไฟเรียกว่าเทศกาลฮานาบิ เป็นเทศกาลที่ได้รับการยกย่องว่าสวยมากแห่งหนึ่งของโลก แต่อากาศค่อนข้างจะร้อนมาก อยู่ที่ 28 – 35 องศา แดดแรงอาจจะต้องเตรียมอุปกรณ์กันร้อนเยอะหน่อย แต่ข้อดีคือตั๋วเครื่องบินและโรงแรมราคาถูกกว่าช่วง High Season มาก ๆ
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี : ตุลาคม – พฤศจิกายน
อีกหนึ่งช่วงเวลาน่าเที่ยวเหมาะกับออกไปเดินเล่น ทำกิจกรรมกลางแจ้งและชมใบไม้เปลี่ยนสี บรรยากาศออกโทนอบอุ่นไปด้วยใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นส้ม แดง เหลือง อากาศกลับมาหนาวอีกครั้งอยู่ที่ 9-20 องศา อาจเจอฝนตกบางวัน
สำหรับคนเมืองร้อนบ้านเราก็หนาวจนฟินเลยล่ะ
การเดินทางในโตเกียว
การเดินทางในโตเกียวไม่ยากอย่างที่คิดสามารถเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเองได้อย่างแน่นอน
รถไฟ : เป็นขนส่งหลักที่ทั้งนักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นเองใช้เป็นประจำ เดินทางได้รอบโตเกียว มี 2 บริษัทคือ JR เป็นรถไฟสายหลักที่เชื่อมต่อโตเกียวและจังหวัดอื่น ๆ รวมถึงรถไฟใต้ในใจกลางโตเกียว / Tokyo Metro เป็นรถไฟใต้ดินวิ่งหลายสายในใจกลางเมืองโตเกียว
รถบัส : ช้ากว่ารถไฟ อาจเจอรถติด สำหรับนักท่องเที่ยวต้องมีความชำนาญทางระดับหนึ่งก่อนแต่ราคาถูกแล้วก็สามารถเดินทางไปรอบ ๆ โตเกียวได้เช่นกัน
แท็กซี่ : ราคาสูงกว่าทั้งรถไฟและรถบัส แต่การบริการดีเลิศเหมือนเป็นเจ้าหญิง เหมาะกับคนมีธุระเร่งด่วนหรือต้องขนสัมภาระที่หนักและเยอะ
การใช้จ่ายในญี่ปุ่น

เที่ยวได้ประหยัดขึ้นอีกแค่ใช้จ่ายผ่าน YouTrip เช่น ตั้งงบเที่ยวญี่ปุ่นไว้ที่ 120,000 JPY ที่ร้านแลกเงินเป็นเงินทั้งหมด 32,520 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 33,350 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนมาจ่ายด้วย YouTrip จะเหลือแค่ 32,418 บาท ได้ประหยัดถึง 932 บาทเลยล่ะ เพราะ YouTrip ให้เรทที่ดีและไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่ายนั่นเอง
รวมที่เที่ยวโตเกียวเข้าฟรี!
1. จุดชมวิวอาคารศาลาว่าการกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government Office Building Observation Room)

เริ่มต้น ที่เที่ยวโตเกียว ฟรี อยากดูวิวเมืองโตเกียวมุมสูงแบบไม่เสียตังค์ต้องไปที่ชั้นชมวิวอาคารศาลาว่าการกรุงโตเกียวเลยจ้า เป็น ที่เที่ยวฟรีโตเกียว อยู่บนชั้น 45 สูงปี๊ด ด้านบนนี้เราสามารถมองเห็นวิวเมืองโตเกียวได้แบบ 360 องศาเลยกว้างแบบมุม Panorama แถมวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีเมฆยังสามารถมองเห็นได้ไกลถึงภูเขาไฟฟูจิที่อยู่ห่างออกไปอีก 100 กิโลเมตรเลยอีกต่างหาก แนะนำมาช่วงค่ำจะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินสวย ๆ ด้วยล่ะ
เวลาเปิด-ปิด : 09:30 – 23:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ไปลงที่ ลงที่สถานี Shinjuku ใช้ทางออก West Exit เดินตามป้าย Tokyo Metropolitan Gov’ t Office มีทางเลื่อนอัตโนมัติยาวไปจนเกือบถึงตัวตึก ระยะทางประมาณ 700 เมตร (มีทางเลื่อนไปอย่างเดียว ขากลับเดินกลับเอง)
2. พระราชวังอิมพีเรียล (Tokyo Imperial Palace)

สถานที่แห่งประวัติศาสตร์ของโตเกียวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและเข้าฟรีด้วยล่ะ แต่ก่อนที่นี่เคยเป็นปราสาทเอโดะซึ่งเป็นที่อยู่ของท่านโชกุนโทคุงาวะ ผู้ปกครองญี่ปุ่นในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1603 – 1867 ต่อมาได้เปลี่ยนการปกครองจึงมีการสร้างพระราชวังแห่งนี้ขึ้นแทน ปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นที่ประประทับของราชวงศ์ญี่ปุ่นอยู่ เราสามารถชมรอบ ๆ วังได้โดยต้องจองทัวร์ล่วงหน้าเท่านั้น นอกจากนี้รอบวังมีสวนขนาดใหญ่เป็นจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 18:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์และศุกร์)
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Tokyo Metro Tozai Line ลงที่สถานี Marunouchi Central Exit แล้วเดินต่อ 15 นาที
3. กาแล็กซีฮาราจูกุ (Galaxy Harajuku)

ดู Teamlab ฟรี! ใครเคยไปญี่ปุ่นแล้วหรือเป็นสายงานอาร์ตจะต้องรู้จัก Teamlab พิพิธภัณฑ์งานศิลปะแบบดิจิทัลอย่างแน่นอน ที่ฮาราจูกุเป็นโครงการที่เขาร่วมกับซัมซุงกาแล็กซีทำนิทรรศการชื่อว่า Catching and Collecting in the Sacred Forest ผ่านแนวคิด Catch, Study, Release ให้เราสำรวจ และเคลื่อนไหวสัตว์ผ่านสมาร์ตโฟนกาแล็กซีนั่นเอง ใครมีสมาร์ตโฟนกาแล็กซีสนุกขึ้นแน่นอน ส่วนใครใช้รุ่นอื่นจะเข้าไปเดินชมการศิลปะ ถ่ายรูปเล่นเฉย ๆ ก็ได้เหมือนกัน
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 19.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Yamanote Line ลงไปที่สถานี Harajuku ใช้ทางออก Takeshita Exit แล้วเดินต่อ 6 นาที
4. ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอาซากุสะ (Asakusa Culture Tourist Information Center)

บอกก่อนว่าลบภาพศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเฉย ๆ ดูน่าเบื่อออกไปได้เลย เขาทำถึงมากอย่างแรกเลยคือตึกทำสวยมาก ดูโมเดิร์นทันสมัยเหมือนโรงแรมเลยล่ะ อีกอย่างคือกิจกรรมด้านในไม่ใช่แค่ที่ไว้สอบถามข้อมูลแต่ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งโถงอเนกประสงค์และพื้นที่จัดนิทรรศการ มีบริการห้องน้ำ ที่ชาร์จแบตด้วย ชั้น 8 เป็นจุดชมวิวมีร้านอาหาร คาเฟ่ ให้บริการ หรือใครไม่อยากเสียตังค์เลยเขาก็มีจุดชมวิวที่เป็นระเบียงให้นั่งเพลิน ๆ ได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวโตเกียว ฟรี ที่ทำดีมาก ๆ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 20:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Ginza Line ไปลงที่สถานี Asakusa Sta. ใช้ทางออก 2 แล้วเดินต่อประมาณ 100 เมตร
5. อาซากุสะ โยโกโช (Asakusa Yokocho)

ศูนย์อาหารธีมถนนช้อปปิ้งและงานเทศกาลญี่ปุ่น เขาทำบรรยากาศให้เหมือนว่าได้เดินงานเทศกาลอยู่ตลอดทั้งปีแบบนั้นเลย ที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร เครื่องดื่ม ขนม ผับ บาร์ แบบครบ ๆ สถานที่ก็ทำสวยเลยล่ะสีสันจัดจ้าน สดใสแบบเบอร์ 10 มีโคมระย้าห้อยตามทางเดินให้เหมือนอยู่ในงานเทศกาล แถมทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ยังมีการแสดงเต้นรำที่เป็นเอกลักษณ์ของงานเทศกาลในญี่ปุ่น เช่น Yosakoi , Awa Odori และ Bon Odori ด้วย ที่เที่ยวฟรีโตเกียว ฟรีใจกลางอาซากุสะแบบนี้อย่าพลาดไปนะ
เวลาเปิด-ปิด : 12:00 – 23:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Ginza Line ไปลงที่สถานี Tawaramachi Station ใช้ทางออก 3 แล้วเดินต่อ 600 เมตร
6. จุดชมวิวห้างสรรพสินค้าเอกิมิเสะ (Asakusa Ekimise Rooftop: Hare Terrace)

Photo by : easyken
ที่เที่ยวญี่ปุ่นเข้าฟรีพาไปนั่งเล่นบนชั้นดาดฟ้าของห้างกัน บนนี้จะเป็นชั้นดาดฟ้าของห้าง Ekimise เขาทำพื้นที่เปิดโล่งกว้างให้คนสามารถขึ้นมานั่งเล่นหรือชมวิวพระอาทิตย์ตกดินยามเย็นได้ด้วย มีเก้า ม้านั่ง ให้นั่งเพลิน ๆ หรือบางช่วงก็จะมีจัดกิจกรรมข้างบนนี้ด้วย ด้านบนนี้สามารถมองเห็นวิวตึก Tokyo Sky Tree ได้ด้วยนะ หรือใครชอบถ่ายรูปก็มาโพสต์ท่าเก๋ ๆ บนนี้ได้
เวลาเปิด – ปิด : 10:00 – 20:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tokyo Metro Ginza Line ลงที่สถานี Asakusa Station เดินจากทางเชื่อมเข้าห้างได้เลย
7. สะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge)

สะพานสำคัญของโตเกียวที่เชื่อมต่อระหว่างเกาะโอไดบะกับกรุงโตเกียวเข้าด้วยกัน เราสามารถเดินขึ้นไปชมวิว หรือเดินเล่นตากลมชิล ๆ บนนี้ได้นะ เพราะเขามาทางเท้าทำแยกไว้ต่างหากกับทางเดินรถด้วย ที่เป็นสายรุ้งเพราะพอพระอาทิตย์ตกดินเขาจะเปิดไฟประดับเป็นสีรุ้งสว่างสดใสไปทั่วบริเวณเลย ใครอยู่โตเกียวตอนกลางเบื่อ ๆ ไม่มีที่ไปออกมาเดินที่สะพานสายรุ้งก็ได้ รับลมเพลิน ๆ ก่อนนอน เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่มักได้รับการถ่ายรูปจากช่างภาพอยู่เสมอเลย
เวลาเปิด – ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Yurikamome ไปลงที่สถานี Shibaura-futo Sta. ใช้ทางออก 1A แล้วเดินต่อ 500 เมตร
8. จุดชมวิวหอคอยแครอท (Carrot Tower Observation Deck Sky Carrot)

ที่เที่ยวฟรีโตเกียว ก็ต้องไม่พลาดจุดชมวิวอยู่แล้ว ที่นี่เป็นดาดฟ้าชมวิว Sky Carrot อยู่บนชั้น 26 ของ Carrot Tower ที่ชื่อว่าแครอทก็เพราะว่าตึกเขาเป็นสีส้มแบบสดใสเหมือนสีของแครอท อยู่ใจกลางเมืองโตเกียวเลยนะ ด้านบนนี้เราสามารถชมวิวแบบ 360 องศาของเมืองโตเกียวและยังเห็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองอย่าง Tokyo Tower, Tokyo Skytree, พระราชวังหลวงอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 22:00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Yamanote หรือ Keihin-Tohoku ไปยังสถานี Sangenjaya แล้วเดินไปที่อาคาร Carrot Tower ประมาณ 5 นาที
9. สถานีรถไฟโตเกียว (Tokyo Central Railway Station)

ที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ต่อมาคือสถานีรถไฟโตเกียวที่เราได้ผ่าน หรือต้องไปขึ้นรถไฟไปเมืองอื่น ๆ กันนี่แหละ ที่นี่เป็นมากกว่าสถานีรถไฟนะ อยู่คู่กับชาวโตเกียวมานานกว่า 120 ปีแล้ว แถมยังถูกตั้งให้สมบัติทางวัฒนธรรมอีกด้วย แน่นอนว่าสถาปัตยกรรมของเขาก็สวยงามเป็นการออกแบบสไตล์ตะวันตกคล้าย ๆ กับสถานี Amsterdam Centraal Railway Station ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์เลยล่ะ ด้านในก็หรูหราแบบยุคเก่า มาเดินดูความสวยงามหรือถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่สถานีรถไฟโตเกียวได้
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Chuo Line ไปลงที่สถานี Tokyo ได้เลย
10. ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)

ท่ามกลางความเร่งรีบในโตเกียวยังมีสถานที่เงียบสงบ เหมือนหลุดไปอีกโลกหนึ่งที่ศาลเจ้าเมจิ ล้อมรอบไปผืนป่าใจกลางเมืองแบบนี้เลย ศาลเจ้าเมจิมีอายุมากกว่า 100 ปี สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เคารพและระลึกถึงองค์จักรพรรดิในฐานะของเทพเจ้า นอกจากเรื่องมาไหว้ขอพรแล้วศาลเจ้าเมจิยังขึ้นชื่อเรื่องเครื่องราง มีเครื่องรางจำหน่ายมากมายทั้งเครื่องรางความรัก,ความโชคดี,ร่ำรวย,การงาน,สุขภาพ ฯลฯ ใครมาโตเกียวเป็นสายมูสายทำบุญแวะมาเที่ยวได้
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Chiyoda Line ลงที่สถานี Meiji-jingumae ใช้ทางออห 2 แล้วเดินต่อเล็กน้อย
11. สวนชิบะ (Shiba Park)

หนึ่งในสวนสาธารณะเก่าแก่ของญี่ปุ่น เป็นโลเคชันในการชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังของโตเกียวเลยล่ะ โดยรวมของสวนชิบะค่อนข้างใหญ่ ต้นไม้เยอะและร่มรื่นมาก ๆ มุมมหาชนที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่คือทางเดินยาวที่มีต้นกิงโกะที่สองข้างทางและมีโตเกียวทาวเวอร์เป็นฉากหลังนั่นเอง มุมนี้คนเยอะมากช่วงใบไม้ร่วงเพราะต้นกิงโกะจะเปลี่ยนสีเหลืองทองสวยประทับใจมากๆ นอกจากนี้ยังมีหุบเขาจำลองชื่อว่า โมมิจิดานิ แหล่งรวมต้นไม้เปลี่ยนสีสวยงามอยู่ตรงนั้นเลย ใครหา ที่เที่ยวฟรีโตเกียว ช่วงใบไม้ร่วงห้ามพลาดที่นี่
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Oedo Line ลงที่สถานี Daimon Sta. แล้วเดินต่อ 10 นาที
12. สวนโยโยงิ (Yoyogi Park)

สวนสาธารณะที่อยู่ติดกับศาลเจ้าเมจิ เป็นที่เที่ยวโตเกียวหนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระในช่วงใบไม้ผลิยอดฮิตอีกหนึ่งที่ในโตเกียวแถมยังอยู่ติดกับย่านฮาราจุกุอีกมาทีเดียวเที่ยว 3 ที่ไปเลย เข้าฟรีด้วยไม่ต้องเสียตังค์ ที่นี่ร่มเย็นมากนอกจากต้นไม้เยอะและใหญ่แล้วยังมีสระน้ำขนาดใหญ่ให้มองแบบสบายตาอีกด้วย ช่วงซากุระชาวญี่ปุ่นนิยมมาปูเสื่อนั่งทานอาหารใต้ต้นซากุระเรียกว่าฮานามิ หรือใครมาช่วงอื่นเขามีจักรยานให้เช่าปั่นด้วย ชมวิวเพลิน ๆ สูดอากาศดี ๆ ใจกลางโตเกียวไปเลย
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงที่สถานี Tokyo Metro Chiyoda Line จากนั้นเดินต่อ 3 นาที
13. สวนสาธารณะอูเอโนะ (Ueno Park)

เดินเล่นสวนสาธารณะกันอีกแล้ว บอกก่อนว่าสวนสาธารณะอูเอโนะใหญ่มากจริง ๆ เดินทั้งวันไม่น่าจะทั่วแน่นอน แถมยังเป็นที่ตั้งของสวนสัตว์ ศาลเจ้า วัด พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แต่วิวสวยมาก ธรรมชาติสวย สะอาด ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีกับใบไม้ผลิก็ได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่นเช่นกัน ในส่วนของศูนย์การเรียนรู้มีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติเพียงแห่งเดียวและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วยนะ อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจคือพายเรือชมวิวสระบัวที่ สระน้ำชิโนบาซุ เป็นสระธรรมน้ำชาติที่บัวออกดอกสวยงามอยู่เต็มไปหมดเลย แนะนำให้เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองได้เพราะว่าอยู่ใกล้สถานีรถไฟนิดเดียว เดินออกมาก็เจอเลย
เวลาเปิด-ปิด : Main Deck 09:00 – 23:00 น.
Top Deck 05:00 – 23:00 น.
การเดินทาง : นั่งไฟ Yamanote Line ลงที่สถานี ueno ใช้ทางออก Park เดินออกมาเจอสวนเลย
14. สวนสัตว์ธรรมชาติเอโดะกาวะ (Edogawa Natural Zoo)

Photo by : maka.3147
ที่เที่ยวญี่ปุ่นสวนสัตว์เล็ก ๆ ที่อยู่ในสวนสาธารณะ Gyosen ใครจะคิดว่าที่โตเกียวเมืองหลวงสุดวุ่นวายแบบนี้จะมีสวนสัตว์ให้เข้าแบบฟรี ๆ ด้วย ที่นี่มีน้องสัตว์น่ารักมากมายให้เราเดินเล่นและทักทายได้ทั้งเพนกวิน เต่า ลิง แมวน้ำ จิงโจ้ นกฮูก แมวน้ำ เป็นต้น แต่ไฮไลต์คือน้องแพนด้าแดงขนปุกปุยนอนอยู่ในบ้านไม้เล็ก ๆ โชว์ความน่ารักเป็นขวัญใจของทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยล่ะ
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 16:30 น. (ปิดเฉพาะวันจันทร์)
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Shinjuku Line ไปลงที่สถานี Nishi-Kasai แล้วเดินต่อ 15 นาที
15. พิพิธภัณฑ์แอนิเมชันสุกินามิ (Suginami Animation Museum)

Photo by : asuka_ishiyama
ปิดท้าย ที่เที่ยวฟรีโตเกียว เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับอนิเมะญี่ปุ่น ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันเลยล่ะ อยากที่เรารู้กันว่าญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่ออนิเมะมาก ๆ แถมที่นี่ก็เปิดให้เข้าฟรีกันไปเลย ที่นี่จะมีทั้งหมด 3 ชั้น ก่อนอื่นเลยเดินเข้ามาจะได้เห็นเสาขนาดใหญ่สีขาวที่มีลายเซ็นของและภาพวาดของนักเขียนการ์ตูนอยู่มีไทม์ไลน์ตั้งแต่แอนิเมชันยุคบุกเบิก ไล่เรียงมาจนถึงยุคปัจจุบัน รวมถึงจำลองสภาพโต๊ะทำงานของนักเขียนด้วย นอกจากนี้ก็มีห้องพากย์เสียงและกิจกรรมให้ลองวาดภาพการ์ตูนอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 18:00 น. (หยุดวันจันทร์)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Chuo Line ไปลงที่สถานี Ogikubo Station แล้วเดินต่อ 20 นาที
เที่ยวโตเกียวด้วย YouTrip คุ้มมากขึ้น

เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย
สำหรับนักท่องเที่ยวงบไม่เยอะแบบเราได้พิกัด ที่เที่ยวฟรีโตเกียว ก็ดีไม่เบาเลยนะ ได้ที่เที่ยวญี่ปุ่นสวย ๆ แถมไม่ต้องเสียงเงินค่าเข้าอีกเอาตังค์ไปลงกับของกินหรือค่าเดินทางได้เยอะเลยล่ะ ที่สำคัญจะประหยัดขึ้นไปอีกเมื่อพก YouTrip ไปด้วย เพราะ YouTrip เรทดี มั่นใจ ใช้ง่ายทั่วโลก สมัครไว้เลยได้ใช้แน่นอน









