ไปเที่ยวโอซาก้ากัน! โอซาก้าถือว่าเป็นเมืองแห่งสีสันของญี่ปุ่นอีกหนึ่งเมืองเลย มีที่เที่ยวหลากหลายรอให้เราไปเปิดประสบการณ์อยู่ ใครเบื่อเที่ยวเมืองเดิม ๆ เปลี่ยนมาเที่ยวที่โอซาก้าเลยรับรองจะติดใจจนอยากไปซ้ำ วันนี้ YouTrip เลยจับเอา ที่เที่ยวโอซาก้า 2023 มาฝากชาวญี่ปุ่นเลิฟเวอร์กันจ้า พร้อมแนะนำการเดินทางสำหรับเที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเองด้วยนะ จะมีอะไรบ้างมาดูกัน
จุดเด่นของเมืองโอซาก้า

โอซาก้าเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่นและเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นด้วย ทำให้มีที่เที่ยวหลากหลาย ทั้งธรรมชาติ ทะเล วัด สวนสนุกระดับโลก แหล่งช็อปปิ้งในย่านดัง และสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย แหล่งท่องเที่ยวของโอซาก้าค่อนข้างกระจุกตัวอยู่ได้กันหลายแห่งทำให้เราสามารถท่องเที่ยวได้หลากหลายและใช้เวลาไม่นาน 1-2 วันก็เที่ยวครบแล้วล่ะ
เที่ยวโอซาก้าช่วงไหนดี
สภาพอากาศโดยทั่วไปคือเย็นสบายตลอดปียกเว้นช่วงหน้าร้อนและช่วงกลางปีจะมีฝนตกชุก ช่วงที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุดคือเดือนกันยายนเพราะเสี่ยงที่จะเจอกับพายุนั่นเอง ใครชอบเที่ยวสภาพอากาศแบบไหนก็เลือกเอาได้เลย
- ฤดูหนาว (ธันความ – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิเฉลี่ย 6 องศาช่วงกลางวันและกลางคืนประมาณ 0 องศา
- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย 10-20 องศา ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน เป็นช่วงดอกซากุระบานด้วยนะ
- ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาช่วงเดือนมิถุนายน และสูงสุด 35 องศา ในเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของโอซาก้า
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อุณหภูมิเฉลี่ย 14-25 องศา ช่วงกันยายนมักมีพายุฝนแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทาง
เมื่อรู้ข้อมูลพื้นฐานกันครบแล้วมาดู 15 ที่เที่ยวโอซาก้า เมืองแห่งสีสันพร้อมวิธีการเดินทางสำหรับเที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเองกัน ว่ามีที่ไหนที่คุณต้องไปบ้าง
ที่เที่ยวโอซาก้าเปิดใหม่
1. ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ นินเทนโด้เวิลด์ (Universal Studios Nintendo World)

เปิดที่แรกกับ ที่เที่ยวโอซาก้า พามาสวนสนุกก่อนเลย ใครเป็นแฟนมาริโอ้จะต้องชอบแน่นอนกับสวนสนุกมาริโอ้ใน Nintendo World ที่ Universal Studios Japan สำหรับโซนมาริโอ้จะมีให้ขับรถแข่งที่เหมือนเข้าไปอยู่ในเกม Mario Kart และ คาเฟ่ Mario Cafe & Store ซึ่งเราจะได้รับสายรัดข้อมือ Power Up Band ให้เราได้โต้ตอบโลกสเหมือนจริงในเกมส์มาริโอ้ เก็บไอเทมได้ รับเหรียญทองได้เหมือนในเกมส์ได้น่าสนใจมากแถมยังแข่งกับเพื่อนได้ด้วยนะ ส่วนในคาเฟ่ก็ตกแต่งเหมือนอยู่ในเกมส์เป๊ะ มีเค้กมาริโอ้ที่เป็นที่นิยมและยังมีเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ตกแต่งในธีมมาริโอ้ด้วย
ค่าเข้า : 7,800 JPY (ราคาผู้ใหญ่สำหรับ 1 วัน) / 5,400 JPY (ราคาเด็กไม่เกิน 12 ปี สำหรับ 1 วัน)
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 21.00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย JR Yamatoji Line มาที่สถานี Imamiya แล้วต่อรถไฟสาย JR Osaka Loop Line มาที่สถานี Nishikujo แล้วเปลี่ยนสายเป็น JR Yumesaki Line มาลงที่สถานี Universal City
2. ซิลวาเนียนพาร์ก (Sylvanian Park)

ที่สุดของความคิ้วท์ไปท่องโลกกระต่ายน้อยที่ Sylvanian Park กัน ที่เที่ยวโอซาก้า ที่เอาใจคนรักกระต่ายสุด ๆ Sylvanian Families เป็นของเล่นที่แสดงความรักและความอบอุ่นของครอบครัวโดยผ่านตัวละครสุดน่ารักอย่างกระต่าย กระรอก หมี ฯลฯ ซึ่ง Sylvanian Park จะมีขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ ตั้งอยู่ใน Harvest Hill จำลองบ้านหลังคาแดง บ้านต้นไม้ และเครื่องเล่นต่าง ๆ ในไซส์ขนาดใหญ่เท่าบ้านคนจริง ๆ นอกจากนี้เรายังสามาถเช่าชุดคอสตูมแปลงโฉมเป็นหนึ่งในครอบครัว Sylvanian ได้ด้วยนะ ใครวางแผนมาเที่ยวโอซาก้ากับครอบครัวแล้วมีเด็ก ๆ มาด้วยคงถูกใจไม่น้อยเลยล่ะ
ค่าเข้า : Sylvanian Park ค่าเข้า 600 JPY แต่จะต้องเสียค่าเข้าใน Harvest Hill ด้วยต่างหาก 1,000 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 16:30 น.
การเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานี Izumigaoka Station และนั่งแท็กซี่จากสถานี Izumigaoka Station ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
3. มิตซุยและลาล่าพอร์ตช้อปปิ้งพาร์ก (Mitsui Shopping Park LaLaport Kadoma)

แหล่งรวมร้านค้ากว่าร้อยร้านและดิวตี้ฟรีปลอดภาษีอีก 79 ร้านค้า คือถ้าใครอยากช้อปปิ้งหรือซื้อของฝากมาที่นี่ได้เลยซื้อครบในที่ ๆ เดียวกันไป และยังเป็นที่เที่ยวโอซาก้าเปิดใหม่เพราะเป็นสาขาที่เพิ่งเปิดไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ด้วยนะ เป็นการรวมศูนย์การค้ากับเอาท์เล็ตเข้าด้วยกันร้านค้าเยอะจุใจแน่นอน ที่สำคัญเขาให้ความสำคัญกับอาหารสมกับฉายาครัวของโอซาก้า ฉะนั้นในห้างมีอาหารท้องถิ่นโอซาก้ารสเด็ดแน่นอน ที่สำคัญนั่งรถไฟแค่ 8 นาที เที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเองได้แบบสบายมาก
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 21:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Kadomashi แล้วเดินต่ออีก 8 นาที
4. โซลานิวะออนเซ็น (Solaniwa Onsen)

ไปญี่ปุ่นมันจะพลาดแช่ออนเซ็นได้ยังไง ไปถึงถิ่นก็ต้องลองสักหน่อย ที่เที่ยวโอซาก้า ขอแนะนำออนเซ็นเปิดใหม่บนดาดฟ้าของ Osaka Bay Tower ไม่ได้มีแค่บ่อน้ำร้อนไว้ให้แช่น้ำอย่างเดียวนะแต่เขายังแบ่งโซนออกเป็นหลายอย่าง เช่น จุดถ่าย สวนสไตล์ญี่ปุ่น ร้านกินดื่ม เรียกว่ามาออนเซ็นที่นี่ก็สังสรรค์กันไปเพลิน ๆ ได้เลย ทั้งหมดถูกตกแต่งด้วยบรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณ ได้กลิ่นอายความญี่ปุ่นสุด ๆ แถมออนเซ็นของที่นี่ยังใช้บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติถึง 6 ชนิด บ่อฟองน้ำ, บ่อโซดา, บ่ออัลคาไลน์ ไปจนถึงบ่อพิเศษที่จะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน เช่น ในช่วงหน้าร้อนจะมีบ่อกลิ่นดอกทานตะวัน, บ่ออาซาอิเบอร์รี่ เป็นต้น
ค่าเข้า : เริ่มต้นที่ 1,200 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 09:00 น. (ของวันถัดไป)
การเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานี Bentencho และเดินเท้าต่ออีก 5 นาที
ที่เที่ยวโอซาก้า 2023 ยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด
5. โฮชิโนะบุรังโกะ (Hoshi no Buranko)

สะพานแขวนขนาดใหญ่ที่ความยาว 280 เมตร เป็นสะพานแขวนที่ทำจากไม้กระดานสามารถเดินข้ามผ่านได้มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ไฮไลท์คือเราจะได้เห็นวิว 360 องศาจากบนสะพาน สะพานนี้ตั้งอยู่ที่ Hoshida Park บริเวณรอบมีให้ปีนผาและยังมีจุดให้เดินป่าได้ด้วย แนะนำให้ไปช่วงฤดูหนาวปลายพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม เป็นช่วงใบไม้กำลังเปลี่ยนสี สวยงามอย่าบอกใครเลยล่ะ แต่ที่นี่เดินทางยากหน่อยสำหรับนักเที่ยวต่างชาติอย่างเราใครต้องการเที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเองอาจจะยากนิดนึงจ้า
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09:15 – 17:00 น.
การเดินทาง : ขับรถ 40 นาทีจาก Kasaichi Station สามารถใช้บริการเช่ารถได้ (สำหรับผู้มืใบขับขี่)
6. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

สัญลักษณ์ของโอซาก้าก็ต้อง Osaka Castle หรือ ปราสาทโอซาก้านั่นเอง ขึ้นที่ว่า ที่เที่ยวโอซาก้า ยอดฮิตยังไงก็ต้องแวะมาชมความสวยงามสักครั้ง ที่นี่เป็นสวนสาธารณะเชิงประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่ใจกลางโอซาก้า ด้านในมีนิทรรศการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับยุคสมัยของโตโยโทมิ ฮิเดะโยชิ ผู้ก่อสร้างปราสาท และยังซับเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาด้วย มีจุดชมวิวให้มองเมืองโอซาก้าได้จากมุมสูง มีแสดงไฟไลท์อัพหลังพระอาทิตย์ตกไปจนถึงเวลา 23.00 น. ทำให้เราสามารถเห็นตัวปราสาทที่มีประกายเป็นสีขาวได้จากระยะใกล้ สวยงามมากจริง ๆ
ค่าเข้า : 600 JPY (สำหรับเข้าพิพิธภัณฑ์)
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : จากสถานีโอซาก้าให้ลงที่สถานี Osakajokoen
7. วัดชิเทนโนจิ Shitennoji Temple

ที่เที่ยวโอซาก้า ถัดมาขอพาชมวัดญี่ปุ่นกันต่อ วัดชิเทนโนจิ เป็นวัดพุทธเก่าแก่ของเมืองโอซาก้ามีอายุกว่า 1,400 ปีแล้วล่ะ จุดเด่นอยู่ที่เจดีย์ห้าชั้นที่มีความงามแบบญี่ปุ่น แสดงให้เห็นถึงศิลปะแบบญี่ปุ่นในสมัยก่อนมาก ๆ และที่วัดนี้ยังเป็นต้นแบบของเจเดีย์แดงที่มีวิวภูเขาไฟฟูจิที่เรามักพบเจอในรูปโปรโมทต่าง ๆ ของญี่ปุ่นด้วยนะ คุ้นตามาก ใครมาเที่ยววัดญี่ปุ่นอย่าลืมทำตามธรรมเนียมของญี่ปุ่นก่อนเข้าวัดด้วยนะ ล้างมือ บ้วนปาก ให้สะอาดเป็นการล้างสิ่งไม่ดีก่อนเข้าวัดนั่นเอง
ค่าเข้า : บริเวณรอบวัดเข้าชมได้ฟรี หากต้องการเข้าชมด้านในวัดมีค่าเข้า 300 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 16:30 น.
การเดินทาง : Tennoji จากสถานีเดินประมาณ 12 นาที สายที่ผ่าน ได้แก่รถไฟ JR สาย Osaka Loop Line, Yamatoji Line
8. ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ (Sumiyoshi Taisha)

เปลี่ยนมาศาลเจ้าบ้าง ที่นี่เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ของเมืองโอซาก้า สร้างตั้งแต่ปีค.ศ 211 เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นเลยภายในเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าคามิ (Kami) คอยคุ้มครองนักเดินทางและชาวเรือ นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์อยู่ที่สะพานโค้งสีแดงชื่อว่า Sorihashi ที่สะท้อนเงากับผืนน้ำทำให้เวลาถ่ายรูปออกมาได้มุมมองที่สวยมากจนถึง 1 ใน 100 ของวิ่วที่สวยที่สุดในภูมิภาคไคซันเลยทีเดียว
ค่าเข้า : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 06:30 – 17:00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Sumiyoshi Taisha (รถไฟสาย Nankai Line) เดินประมาณ 1 นาที
9. วัดคัทซึโอจิ (Katsuoji)

วัดแห่งชัยชนะและความโชคดีของโอซาก้ามีชื่อเล่นว่า ‘วัดของดารุมะ’ ด้วย เป็นเครื่องรางนำโชคที่ที่คนมักซื้อไปขอพรและเมื่อคำอธิษฐานเป็นจริงก็จะนำตุ๊กตาดารุมะกลับมาวางไว้ที่วัดนี้ ทำให้ที่วัด Katsuoji เต็มไปด้วยตุ๊กตาดารุมะเลยล่ะ บริเวณวัดล้อมรอบด้วยธรรมชาติทำให้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีบ่อปลาคาร์ฟและสวนที่จะเปลี่ยนไปแต่ละฤดูกาลด้วย ส่วนมากผู้คนมักเดินทางมาขอโชคลาภเรื่องการเรียน การงาน การแข่งขัน ใครมาเที่ยวโอซาก้าก็แวะมาขอพรกันได้นะ
ค่าเข้า : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Senri-Chuo Station ให้ขึ้นรถบัส Hankyu Bus ใช้เวลาประมาณ 35 นาทีแล้วลงที่ป้าย Katsuoji-mae
10. โดทงโบริ (Dotonbori)

ไปช้อปปิ้งกันนน พูดถึงโอซาก้าแล้วก็ต้องเคยได้ยินย่านโดทงโบริกันบ้างแหละนะ แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของโอซาก้านั่นเองอยู่ใจกลางเมือง นักท่องเที่ยวแน่นตลอดทั้งวันมีร้านค้าและแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจเพียบและมีครบ ทั้งร้านอาหาร ร้านค้า พิพิธภัณฑ์ กินพื้นที่ความยาวตลอดฝั่งของแม่น้ำโดทงโบริเลย จุดเด่นของย่านนี้ก็คงหนีไม่พ้นพวกป้ายโฆษณาที่เอกลักษณ์ต่าง ๆ ที่แข่งกันทำป้ายยักษ์นี่ล่ะ และตอนกลางคืนจะเปิดไฟ LED เพื่อให้ถ่ายรูปได้สวยด้วยนะ เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของย่านนี้เลย เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถวางแผนเที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเองได้ไม่ยากเลย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : เวลาเปิด-ปิดไฟป้ายโฆษณา 18:00 – 24:00 น.
การเดินทาง : ลงสถานี Namba (บนรถไฟสาย Osaka Metro Midosuji Line, Sennichimae Line, Yotsubashi Line; Kintetsu Line, Nankai Line)
11. ชินไซบาชิ (Shinsaibashi)

Photo by : roam.man
แหล่งช้อปปิ้งสวรรค์ของนักช้อปมีร้านค้ามากมายตลอดระยะทาง 580 เมตร รวมร้านค้ากว่า 200 ร้านตั้งแต่ร้านขายยา ร้านเครื่องสำอาง เสื้อผ้า คาเฟ่ ร้าน 100 เยน ไปจนถึงร้านแบรนด์เนมและ Duty Free คือมีทุกอย่างทุกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคนเลย Shinsaibashi อยู่ใกล้กับ Dotonbori ด้านบนนะ ใครแวะไปเดินเล่นก็เดินต่อกันเลย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 19:00 น.
การเดินทาง : เดิน 1 นาทีจากสถานีรถไฟ Shinsaibashi Station
12. Kuromon Ichiba Market

Photo by : japanhaulofficial
มาตลาดของกินบ้างกับ ที่เที่ยวโอซาก้า ที่ได้ชื่อว่าเป็นครัวแห่งโอซาก้า จุดเด่นของที่ตลาดนี้คือมีขายทั้งของสดและอาหารพร้อมทาน ทานในร้านก็ได้หรือจะหิ้วกลับมาทานที่โรงแรมก็ได้ ร้านค้าเยอะมากกว่า 150 ร้าน แต่จะเน้นที่อาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่ เช่น กุ้งมังกร ขาปูยักษ์ ปลาไหลย่าง ทูน่า แซลมอน หอยเม่น ฯลฯ แถมช่วงใกล้ปิดตลาดก็ยังลดราคากันสุด ๆ ไปเลยจ้า ใครอยากกินซูชิราคาถูกแนะนำให้ไปช่วง 5 โมงเย็นนะ พ่อค้าจะออกมาสั่นกระดิ่งเรียกให้ซื้อเลย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 18:30 น.
การเดินทาง : จากสถานี Nippombashi ใช้ทางออกที่ 10
13. ชินเซไก (Shinsekai)

Photo by : natashaekiert
ย่านกลางคืนสุดเจ๋งอีกหนึ่งแลนดืมาร์คของโอซาก้า ที่นี่นอกจากเป็นแหล่งช้อปปิ้งแล้วยังมีหอคอยซึเทนคาคุเป็นเอกลักษณ์ของย่านนี้ตั้งอยู่ตรงกลางอีกด้วย ที่นี่จะคึกคักสุด ๆ ตอนกลางคืนร้านกินดื่มเพียบ ใครมากับแก๊งเพื่อนก็ออกมากินดื่มแบบชาวญี่ปุ่นได้เลย อาหารขึ้นชื่อของย่านนี้ที่ห้ามพลาดก็คิอ คุชิคาสึ หรือของทอดแบบเสียบไม้ มีให้เลือกเยอะมากทั้งไก่ เนื้อวัว ฟักทอง หน่อไม้ กล้วย ไอศครีมทอด ฯลฯ เรียกได้ว่าถ้าอยากสัมผัสและรู้จักชีวิตกลางคืนของคนโอซาก้าก็ต้องมาที่ย่าน Shinsekai นี่แหละ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ส่วนมากเปิด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : เดินแค่ 5 นาทีจาก Shin-Imamiya Station [JR Loop Line], Dobutsuen-mae Station [Midosuji and Tanimachi Subway Lines] และ Ebisucho Station [Tanimachi Subway Line]
14. HARUKAS 300

มาต่อกันกับ ที่เที่ยวโอซาก้า ด้วยจุดชมวิวโอซาก้าบนอาคาร ABENO HARUKAS อาคารที่สูงที่สุดในโอซาก้าตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลย HARUKAS 300 แบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่คือ ชั้น 58 SKY GARDEN 300 สามารถชมวิวโดยรอบได้แบบ 360 องศา มีที่ให้นั่งเล่นพักผ่อนและร้านอาหาร ชั้น 59 ร้านของของที่ระลึก SHOP HARUKAS 300 และชั้น 60 EDGE THE HARUKAS ชมวิวแบบสุดขอบตึก และ HARUKAS 300 Heliport Tour ชมวิวลานเฮลิคอปเตอร์ เราจะได้เห็นวิวโอซาก้าทั่วเมืองยาวไปถึงริมฝั่งทะเลเลยล่ะ
ค่าเข้า : 1,500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 22:00 น.
การเดินทาง : เดิน 2 นาทีจากสถานีรถไฟ Tennoji (JR และ Subway)
15. ภูเขาเมียวเค็น (Mount Myoken)

Photo by : mkmk.1968
จะอยู่คาบเกี่ยวระหว่างทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัด Hyogo และทางตอนเหนือของโอซาก้า ไปเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับได้เหมาะกับการพักผ่อนมาก ๆ กิจกรรมเพียบไม่ว่าจะเป็นนั่ง Cable Car ขึ้นไปบนเขาชมวิวหรือปิกนิกด้านบนก็ได้ หรือจะนั่งแช่เท้าฟิน ๆ ที่บ่อแช่เท้าเมียวเค็นโนะโมริบนซันโจท่ามกลางวิวสวย ๆ ก็ได้เหมือนกัน
ค่าเข้า : นั่ง Cable Car ไปกลับ ผู้ใหญ่ 800 JPY / เด็ก 400 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 18.00 น. (ปิดพุธ-พฤหัสบดี)
การเดินทาง : จากสถานี Kawanishi-noseguchi ของรถไฟสาย Hankyu Takarazuka Line เปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Nose Railway Line แล้วไปลงที่สถานี Myokenguchi
16. ภูเขาคงโกะ (Mount Kongo)

Photo by : greenwood_tree
เป็นเทือกเขาที่จะอยู่ระหว่างชายแดนจังหวัดโอซาก้าและนารา เหมาะกับคนอยากปีนเขาชอบทำกิจกรรมผจญภัย ช่วงหน้าหนาวสวยมาก ๆ หิมะจะปกคลุมทั่วทั้งภูเขาเลย ยังเดินขึ้นเขาได้นะแต่ต้องระวังหน่อยอาจจะลื่นหิมะเอาได้ หรือใครไม่อยากเดินก็มีกระเช้าลอยฟ้าให้นั่งชมวิวภูเขาสวย ๆ ด้วยเหมือนกันจ้า ด้านบนมีศาลเจ้าและวัดด้วยนะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัส 30 นาที จากสถานี Kawachinagano ลงที่ Kongosan Ropeway Mae
17. หุบเขามิโนะ (Minoo Park)

Photo by : julinjapan
ที่นี่เป็นเหมือนวนอุทยานแห่งชาติแหละ ธรรมชาติสวยมากเลยช่วงพีคของที่นี่คือช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนักท่องเที่ยวจะเยอะมากเป็นพิเศษเลย ที่ห้ามพลาดที่คือน้ำตกมิโนะที่สูงถึง 33 เมตร รอบ ๆ น้ำตกก็จะมีต้นเมเปิ้ลที่เปลี่ยนเป็นสีส้มแดงด้วยนะ ส่วนมุมถ่ายรูปยอดฮิตคือสะพานที่แดงข้ามแม่น้ำเล็ก ๆ ที่มีฉากหลังเป็นน้ำตกมิโนะ บรรยากาศสวย ร่มเย็นแบบนี้ใครชอบธรรมชาติฟินมากแน่ ๆ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 270 JPY / เด็ก ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Umeda นั่งรถไฟสาย Hankyu Takarazuka Line มาลงที่สถานี Ishibashi แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสาย Hankyu Minoo Line มาลงที่สถานี Minoo รวมใช้เวลาประมาณ 30 นาที
18. สวนเซ็ตสึเคียว (Settsukyo Park)

ถือเป็น ที่เที่ยวโอซาก้า สำหรับคนอยากชมใบไม้เปลี่ยนสีและซากุระอีกหนึ่งที่เลยล่ะ บรรยากาศที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบใครอยากเดินเที่ยวเล่นแบบเบา ๆ ชิล ๆ หนีความวุ่นวายที่นี่ตอบโจทย์ ทั้งสวนจะมีต้นเมเปิ้ลเยอะมาก ๆ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง ส่วนช่วงซากุระที่นี่ก็เบ่งบานสุดเพราะมีต้นซากุระหนา ๆ กว่า 200 ต้นกันเลย นอกจากนี้ภายในสวนยังมีน้ำตกและลำธารเล็ก ๆ ให้มองเพลิน ๆ อีกด้วยล่ะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 21:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงสถานี Takatsuki แล้วต่อรถบัสสาย 50 ไปลงที่ป้าย Shimonokuchi แล้วเดินต่อประมาณ 2 นาที
19. ตรอกโฮเซ็นจิ โยะโคโจ (Hozenji Yokocho)

ที่เที่ยวโอซาก้า เดินเล่นบรรยากาศแบบโอซาก้ากันที่ตรอกโฮเซ็นจิ โยะโคโจ มีร้านค้ากว่า 60 ร้านตั้งอยู่ในตรอกแห่งนี้ เป็นตรอกทางเดินหินแคบ ๆ บรรยากาศเก่า ๆ เต็มไปด้วยร้านชื่อดังของญี่ปุ่นและโอซาก้า มีบาร์ อิซากายะด้วยนะ แนะนำให้มาช่วงค่ำหน่อยจะสวยมากขึ้นเพราะร้านต่าง ๆ จะเริ่มเปิดโคมไฟโบราณกันแล้วนั้นเอง ได้บรรยากาศโอซาก้าย้อนยุคมาก ๆ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 11:00 – 22:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Osaka Metro สาย Midosuji, สาย Sennichimae, Kintetsu, Nankai ลงที่สถานี Namba แล้วเดิน 5 นาที
20. นัมบะ พาร์ค (Namba Parks)

แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ย่านนัมบะของ เที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเองง่าย ๆ เลยเพราะว่าเป็นห้างแลนด์มาร์คใหญ่ของโอซาก้าอีกหนึ่งที่ นอกจากเป็นห้างแล้วก็ยังเป็นกึ่ง ๆ สวนสาธารณะด้วยเพราะเขาจัดโซนพื้นที่สีเขียวไว้เยอะเชียวล่ะ ที่นี่จะมีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าชื่อดังกว่า 100 ร้าน โรงหนังและสถานบันเทิง ใครอยากช้อปปิ้งหรือเดินดูเสื้อผ้าของใช้ก็แวะมาได้มีครบมาก ๆ เลยล่ะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 21:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Namba Station โดยตัวห้างจะเชื่อมต่อกับประตูทางออกกลางและประตูทางออกด้านทิศใต้
21. หมู่บ้านอเมริกา อะเมะมุระ (America mura)

ที่เที่ยวโอซาก้า เป็นย่านที่วัยรุ่นครองเยอะที่สุดเลยล่ะเหมือนยกตะวันตกมาไว้ที่โอซาก้าก็ว่าได้ มีร้านแฟชั่นแบบวัยรุ่นเมกาเยอะมาก แล้ววัยรุ่นที่มาก็แต่งตัวกันเริ่ดสุดฤทธิ์เลยล่ะ นอกจากร้านค้าแล้วบรรยากาศการตกแต่งต่าง ๆ ก็ให้ความรู้สึกเป็นตะวันตกมาก ๆ กลางวันมีร้านค้า คาเฟ่ ร้านกาแฟ ส่วนกลางคืนก็มีผับบาร์และร้านอาหารสไตล์อเมริกันเปิดกันเพียบ วัยรุ่นมากับแก๊งเพื่อนคือห้ามพลาด
ค่าเข้า : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 22:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Yamatoji line ลงสถานี JR Namba เดินต่ออีกประมาณ 8 นาที
22. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)

เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ยิ่งใหญ่แล้วสวยงามมาก ๆ โดยเขาจะมีนิทรรศการหลัก ๆ อยู่ 3 อย่างคือ Aqua Gate เป็นโซนอุโมงค์ตู้ปลาขนาดใหญ่เต็มไปด้วยสัตว์น้ำหลากหลายชนิดใต้ท้องทะเล/Japan Forest จำลองป่าแบบญี่ปุ่นที่เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ใกล้แม่น้ำ/Pacific Ocean โซนที่เป็นแหล่งของฉลามวาฬ นอกจากนี้ยังมีโซนฮิตอย่าง King Penguin โชว์แพนกวินเดินแถวกันแบบน่ารักมุมิสุด ๆ เรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทำออกมาได้เหมือนไปเดินเล่นอยู่ใต้ทะเลจริง ๆ เลยล่ะ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 2,400 JPY / เด็ก 600 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 10:30 – 19:00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Umeda, Shin-Osaka, Namba ให้นั่งรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line มาลงที่สถานี Hommachi แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Chuo Line มาลงที่สถานี Osakako
23. ตึกอุเมดะ (Umeda Sky Building)

ชมวิวเมืองมุมสูงกันที่ตึกอุเมดะ เป็น ที่เที่ยวโอซาก้า สำหรับนักท่องเที่ยวสุดยอดฮิต ใครมาโอซาก้าครั้งแรกแนะนำเลยวิวดีมาก ที่นี่เป็นตึกสูง 40 ชั้น มีหอคอยชมวิวสวนลอยฟ้าชั้น 39,40และดาดฟ้า ส่วนชั้น 35 -39 มีบันไดเลื่อนยาวซีทรูให้เรามองวิวระหว่างทางได้ด้วย วิวด้านบนจะได้เห็นเมืองโอซาก้าแบบ 360 องศา ใครมาตอนกลางคืนก็ได้เห็นแสงสีของเมืองแบบเต็มตาสุด ๆ เลยด้วย
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1,500 JPY / เด็ก 700 JPY
เวลาเปิด-ปิด : จุดชมวิวเปิด 09:30 – 22:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Osaka and Umeda Station แล้วเดินต่อ 10-15 นาที
24. หอคอยซึเท็นคาคุ (Tsutenkaku Tower)

ที่เที่ยวโอซาก้าที่เคยเป็นลักษณ์ของความเจริญในโอซาก้าเมื่ออดีต ตอนนั้นเป็นตึกที่สูงที่สุดในเอเชียเลยด้วยนะตามชื่อของตึกที่แปลว่าสูงเท่าฟ้านั้นเอง ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำเพียบทั้ง Tsutenkaku TOWER SLIDER สไลเดอร์ยักษ์ยาว 60 เมตร, จุดชมวิวเมืองโอซาก้า, สัมผัสบิลลิเคนซัง หุ่นหน้ายิ้มที่เชื่อว่าเมื่อเอามือลูบที่ฝ่าเท้าจะทำให้มีความสุข, ร้านของฝากโอซาก้าและร้านซือเท็นคาคุพาร์เฟ่ต์แสนอร่อย
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 900 JPY / เด็ก 400 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 10:00-20:00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟ Midosuji Line ไปลงที่สถานี Dobutuen-mae Station แล้วเดินต่อ 10 นาที
25. สวนสนุกและศูนย์การเรียนรู้เลโก้แลนด์ (LEGOLAND Discovery Center Osaka)

ที่เที่ยวโอซาก้า สำหรับครอบครัว ยิ่งใครเป็นแฟนเลโก้ห้ามพลาดเลยล่ะ ที่นี่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นและการจัดแสดงตัวต่อเลโก้ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ให้เราได้ฝึกความคิดและฝึกทักษะสำหรับเด็ก ๆ ด้วย นอกจากเครื่องเล่นแล้วก็ยังมีฉากจำลองในการ์ตูนเลโก้/โรงหนัง 4D และ Miniland ที่จำลองเมืองโอซาก้าด้วยเลโก้กว่า 1 ชิ้นนั้นเอง
ค่าเข้า : อายุ 3 ปีขึ้นไป 2,200 JPY / เด็กต่ำกว่า 3 ปี เข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00-20:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Chuo Line ไปลงที่สถานี Osakako Sta. แล้วเดินต่อ 5 นาที
26. สวนสัตว์เทนโนจิ (Osaka Tennoji Zoo)

สวนสัตว์ในโอซาก้าที่เปิดมากว่าร้อยปีแล้ว เป็นสวนสัตว์ที่เน้นการจัดตามระบบนิเวศ จำลองทิวทัศน์การอาศัยของสัตว์ มีสัตว์กว่า 1000 ตัว รวม 180 สายพันธุ์ แน่นอนว่ามีสัตว์ยอดฮิตขวัญใจเด็ก ๆ อย่าง ลิงชิมแปนซี หมีขั้วโลก นกกีวีและลิงแมนดริล ในสวนสัตว์จะแบ่งเป็นโซนเช่น แนะนำสัตว์เลื้อยคลาน, บ้านของฮิโปโปเตมัส, โซนสะวันนาแอฟริกา มียีราฟ ม้าลาย แรด ช้าง ฯลฯ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 500 JPY / เด็ก 200 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:30 – 17:00 น.
การเดินทาง : อยู่ภายในสวนเทนโนจิฝั่งตะวันตก ลงที่สถานี Tennoji ทางออก 3 กับ 5 หรือรถไฟใต้ดินสถานี Dobutsuen-Mae Sta.
27. ห้างเทนโนจิ มิโอะ (Tennoji Mio)

ปิดท้าย ที่เที่ยวโอซาก้า กับห้างที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟ JR ฉะนั้นสามารถเที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเองได้แบบง่ายมาก ๆ มีร้านค้ากว่า 380 ร้าน รวมแบรนด์ญี่ปุ่นชื่อดังเกือบทุกแบรนด์และยังมีแบรนด์ต่างชาติ ซูเปอร์มาเก็ต ร้านขายยา เครื่องสำอาง และแน่นอนว่ามีอาหารขึ้นโอซาก้าแสนอร่อยอย่างโอโคโนมิยากิน/คุชิคัตสึ/ยากินิกุ/ซูชิและเทมปุระ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 11:00 น. – 21:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ลงสถานี Tennoji ได้เลย
เที่ยวโอซาก้าด้วย YouTrip ประหยัดกว่า

วางแผนเที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเองยังไงให้ประหยัดกว่า? ลองเที่ยวโอซาก้าด้วยถูก YouTrip จ่ายถูกกว่าเยอะ เช่น ตั้งงบเที่ยวไว้ 120,000 JPY ที่ร้านแลกเงินจะต้องจ่ายเป็นเงินไทย 32,520 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะต้องจ่ายที่ 33,350 บาท แต่ถ้าหากใช้จ่ายด้วย YouTrip จะได้จ่ายแบบประหยัดขึ้นเพียง 32,418 บาท ประหยัดเพิ่มได้อีก 932 บาทเลยละ เพราะ YouTrip ให้เรทที่ดีกว่า ถูกกว่า แถมไม่มีค่าธรรม 2.5% มากวนใจ ทำให้เราไปเที่ยวโอซาก้าได้แบบประหยัดขึ้น คุ้ม ๆ

เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีกว่าเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย
และนี่ก็คือ ที่เที่ยวโอซาก้า ทั้งเปิดใหม่และจุดยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด ใครวางแผนไปเที่ยวโอซาก้าอย่าลืมเช็คสภาพอากาศดี ๆ เด้อ เพราะแต่ละฤดูก็มีจุดให้เที่ยวแตกต่างกันไป วางแผนดีก็เที่ยวสนุกไม่เฟลนะ และอย่าลืมพก YouTrip ไปใช้จ่ายที่โอซาก้าด้วยเรทดีกว่า ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% คุ้มค่า ใช้สะดวก รับรองประหยัดขึ้นเยอะะะ
