เมืองผู้ดีประเทศอังกฤษน่าจะเป็นจุดหมายหลักของหลายคนที่อยากไปเที่ยวฝั่งยุโรปเนอะ เป็นประเทศที่มีเกาะเล็ก ๆ อยู่ใกล้กว่าร้อยเกาะแถมพื้นที่ทางบกบางส่วนยังติดกับสกอตแลนด์และเวลส์ทำให้เที่ยวต่อได้ไม่ยากด้วย มีสถานที่เที่ยวชื่อดังของโลกอยู่เพียบ เป็นแหล่งกำเนิดศิลปะและวัฒนธรรมหลาย ๆ อย่าง เกริ่นมาขนาดนี้ใครเริ่มสนใจแล้วตามาเลย เดี๋ยวจะพาไปเช็คอิน เที่ยวอังกฤษ ว่ามีที่ไหนน่าเที่ยวน่าไปบ้าง
เที่ยวอังกฤษ เดือนไหนดี ?
บอกก่อนว่าอังกฤษเป็นประเทศที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยและออกไปทางหนาว ๆ เย็น ๆ เกือบทั้งปี ภูมิประเทศมีลักษณะเป็นเกาะจึงทำให้มีอากาศชื้นและมีเปอร์เซ็นต์จะเจอฝนได้ตลอดปี ส่วนฤดูกาลจะมี 4 ฤดู ดังนี้
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อุณหภูมิ 15-20 องศา กำลังเย็นสบาย ชิว ๆ ช่วงนี้มีดอกไม้บานเยอะเหมาะกับคนชอบดูดอกไม้และชอบเดินเล่น เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างเหมาะกับการพักผ่อนและไม่ต้องแบกเครื่องกันหนาวมาเยอะ
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิ 15-32 องศา เป็นช่วงเวลาที่คนอังกฤษจะชอบออกมาใช้ชีวิตข้างนอกสุด ฤดูนี้แดดดี สดใส และมีชีวิตชีวา อากาศร้อนเหมือนกันแต่ไม่แสบผิวเท่าบ้านเราแน่นอน
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อุณหภูมิ 8-14 องศา อากาศจะเริ่มเย็นลงแล้ว ใครไปช่วงนี้ต้องเตรียมเสื้อผ้าหนาขึ้นมาอีกนิดหนึ่งนะ ฤดูนี้ใบไม้จะเปลี่ยนสีทำให้อังกฤษมีบรรยากาศแบบอบอุ่น โทนส้ม โทนน้ำตาล
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิ 0-4 องศา หรือหากวันไหนหิมะตกอุณหภูมิจะลงไปอีก แนะนำเตรียมเครื่องหนาวมาให้พร้อม หน้าหนาวที่อังกฤษถือว่าเป็นไฮไลต์เลยก็ว่าเพราะช่วงเทศกาลทั้งคริสต์มาสและปีใหม่ บ้านเมืองเต็มไปด้วยสีสันของไฟประดับและงานเทศกาล
ระบบการเดินทางในอังกฤษ
อังกฤษเองก็มีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบายและทันสมัยแถมการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินของอังกฤษยังติด 1 ใน 3 ของ ระบบขนส่งสาธารณะที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วยนะ เที่ยวอังกฤษด้วยตัวเองไม่ยากแน่นอน เดี๋ยวรวบรวมให้ว่าการเดินทางทั้งในเมืองและออกนอกเมืองมีวิธีไหนบ้าง
รถไฟใต้ดิน (Tube/Underground) เร็วและได้รับความนิยมมากสุดสำหรับชาวลอนดอน มีเส้นทางเดินรถ 11 สาย รวมกว่า 270 สถานี ให้บริการทุก 2-3 นาที (มีบางสายให้บริการ 24 ชั่วโมง) ที่สำหรับใช้บัตร YouTrip แตะจ่ายได้ด้วยนะ สะดวกมาก
รถไฟ DLR เน้นการไปชานเมืองกับสนามบิน มีทั้งหมด 7 สาย 45 สถานี
รถบัสหรือรถประจำทาง เน้นบริการในเมืองนั้น ๆ บางสายมีตลอดทั้งวันทั้งคืน จุดเด่นคือส่วนมากจะมี 2 ชั้น (ในบางสายคนใช้น้อยจะมีชั้นเดียว)
รถราง (Tram) เน้นเดินทางในเมือง สะดวก ประหยัดและเร็ว มักจะมีจุดจอดที่เชื่อมโยงกับสถานที่สำคัญทั้งเมืองเลย รถรางมีให้บริการเฉพาะเมืองดังนี้ Blackpool, Edinburgh, London, Manchester, Nottingham, Sheffield, Newcastle-Sunderland และ Birmingham–Wolverhampton
รถไฟ (British Rail/Train) เหมาะกับการเดินทางข้ามเมือง แต่ต้องวางแผนล่วงหน้าและศึกษาข้อมูลการเดินทางให้แม่นยำ และต้องเตรียมใจกับสถานการณ์เฉพาะหน้าเช่น รถไฟมาช้าเนื่องจากสภาพอากาศ ทำให้ถึงที่หมายช้ากว่ากำหนด เป็นต้น
รถโค้ช เหมาะกับการเดินทางข้ามเมืองสำหรับสายประหยัดเพราะราคาเริ่มที่ 1 GBP เท่านั้น ใช้เวลานานแต่ถ้าใครชอบนั่งรถเปื่อย ๆ พร้อมชมวิวระหว่างทางก็โอเคเลย
แท็กซี่ ราคาสูงแต่ง่ายและสบาย บวกกับลักษณะของรถแท็กซี่ที่สวยและคลาสสิคที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากใช้บริการด้วยแหละ ค่าโดยสารตามมิเตอร์ เรียกว่าจุดบริการ ออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันก็ได้
เรือเฟอรี่ / เรือข้ามฝาก ไม่ค่อยเป็นที่นิยมของชาวฮ่องกงแล้วเนื่องจากมีการโดยสารรูปแบบอื่นที่รวดเร็วกว่า ปัจจุบันนี้เป็นเรือเพื่อการท่องเที่ยวแทน
แท็กซี่ ราคาสูงแต่ง่ายและสบาย บวกกับลักษณะของรถแท็กซี่ที่สวยและคลาสสิคที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากใช้บริการด้วยแหละ ค่าโดยสารตามมิเตอร์ เรียกว่าจุดบริการ ออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันก็ได้
รีวิว เที่ยวอังกฤษ ยอดฮิต ครบทุกสไตล์
1. ซุ้มหินเดอร์เดิลดอร์ ( Durdle Door ) – Jurassic Coast South West

ขาดไม่ได้เลย ที่เที่ยวฮ่องกง ที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาเยือนกับจุดชมวิว The Peak หรือ Victoria Peak ที่อยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดของเกาะฮ่องกง สูง 525 เมตรจากระดับน้ำทะเล หากใครอยากเห็นภาพรวมทั้งหมดของฮ่องกงต้องมาดูที่นี่แหละ มีกิจกรรมฮิตที่พลาดไม่ได้เลยคือการนั่งรถราง Tram ซึ่งรางที่รถรางวิ่งเป็นหนึ่งในรางที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอายุกว่า 120 ปี วิวด้านบนนอกจากจะเห็นวิวเมืองแล้วยังมองเห็นอ่าววิคตอเรียและสันเขาที่อยู่ไกลออกไปอีกด้วยนะ แนะนำให้มาตั้งแต่พระอาทิตย์ใกล้ตกดินเป็นต้นไปจะได้สัมผัสความว้าวของวิวฮ่องกงเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : จากลอนดอนนั่งรถไฟ South Western Railway ไปลงที่สถานี Wool จากนั้นต่อรถบัส X54 Jurassic Coaster ไปอีกประมาณ 20 นาที ลงป้าย Durdle Door Park แล้วเดินต่อ 8 นาที จะเจอทางเข้า
2. ช่องเขาเชดดาร์และถ้ำ ( Cheddar Gorge & Caves ) – Cheddar

ตามมา เที่ยวอังกฤษ กันต่อ ใครสายลุย ๆ เดินป่าสำรวจธรรมชาติ พาไปดูช่องเขาที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร มีหน้าผาสูงอลังการกว่า 450 ฟุต เป็นพื้นที่การเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้เพราะนอกจากมีความสวยงามตามธรรมชาติแล้วยังเต็มไปด้วยทางบรรพบุรุษยุคก่อนประวัติศาสตร์อีกด้วยนะ และยังมีถ้ำหินงอกหินย้อย ซึ่งถ้ำนี้มีชื่อเสียงมากในด้านความสำคัญทางประวัติศาสตร์และธรณีวิทยา และยังเป็นที่ตั้งของ Cheddar Man โครงกระดูกที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดของสหราชอาณาจักรด้วย
ค่าเข้าชม : มีส่วนที่เข้าฟรีบริเวณรอบ ๆ ช่องเขา และกิจกรรมในถ้ำเริ่มที่ 15 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:30 – 17:30 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟ Railway จาก London Paddington Railway Station ไปลงที่สถานี Bath Spa จากนั้นเปลี่ยนไปนั่ง รถบัสสาย 174 Wells ไปลงป้าย Chamberlain Street จากนั้นเปลี่ยนสายรถขึ้นสาย 126 จาก Axbridge ไปลงที่ Tweentown เดินต่ออีก 1 ไมล์
3. หน้าผาเจ็ดสาวน้อย ( Seven Sisters ) – Seaford

ที่เที่ยวอังกฤษแห่งนี้อยู่ในเมืองเล็ก ๆ ติดทะเล อย่าง Seaford ซึ่งมีภูเขา 7 ลูกเรียงต่อกันชื่อว่า Seven Sisters แต่จุดเด่นเลยคือการที่ภูเขานี้มีหน้าผาสีขาวตัดลงมาบนหาดหินเป็นแนวยาวต่อกับน้ำทะเล บอกเลยว่าวันไหนฟ้าเปิด มันแจ่มใสมาก ๆ กิจกรรมที่นี่ส่วนมากก็หนีไม่พ้นการเดินเล่นชมธรรมชาติ ขึ้นจุดชมวิวและปิกนิก เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาพักผ่อน ถ่ายรูปสวย ๆ ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากลอนดอนไปเช้าเย็นกลับได้เลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Brighton ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถบัสสาย 12A ลงป้าย Seven Sisters Country Park จากป้ายต้องเดินเท้าต่อเท่านั้นจนถึงหน้าผา ใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง
4. หินเรียงแถว The Needles – Isle of Wight ในอ่าว Alum

ไปดูสิ่งมหัศจรรย์ทางใต้ของอังกฤษกันบ้าง The Needles เป็นชื่อของหินเรียงแถวอยู่ทางตะวันตกในอ่าว Alum มีความว่าเข็มนั่นเอง หินพวกนี้เป็นหินชอล์กสีขาวสูงประมาณ 30 เมตร อายุหลายร้อยปี อย่าเพิ่งงงไปว่าให้เดินทางตั้งไกลเพื่อมาดูหินในน้ำนี่เหรอ บอกก่อนว่าความพิเศษของนางอีกการที่หินทั้ง 3 ก้อนนี่นะ เรียงกันเป็นเส้นตรงออกไปนอกทะเล ตรงเป๊ะราวกับว่ามีใครจับวางไว้นั่นเอง ซึ่งปกติหินที่เกิดขึ้นแบบนี้มักจะกระจายกันไปไม่ได้เป็นระเบียบแบบ The Needles ล่ะ และหินสามก้อนนี้ก็อยู่ในบันทึกภาพของนักเดินเรือเมื่อปี 1759 อีกด้วยนะ กิจกรรมฮิตเลยคือนั่งกระเช้าห้อยขาชมวิวอ่าว Alum
ค่าเข้าชม : รอบ ๆ เข้าได้ฟรี นั่งกระเช้าคนละ 7 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:00–16:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟจาก Waterloo Station ไปลงที่สถานี Brockenhurst จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟปลายทาง Lymington Pier ชานชาลา 4 ต่อเรือแฟรี่ไปลง Yarmouth จากนั้นต่อรถบัสสาย 7 ไปลงป้าย The Needles ได้เลย
5. อุทยานแห่งชาติ Lake District ( Lake District National Park ) – Ambleside

อุทยานที่ฮิตมากในอังกฤษ ที่นี่นอกจากคนอังกฤษเองนิยมมาพักผ่อนแล้วยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักเที่ยวทั่วโลกด้วย อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทะเลสาบ ป่าไม้ และภูเขา แถมในปี 2017 ยังได้เป็นหนึ่งใน UNESCO World Heritage Site ด้วยนะ ที่นี่พื้นที่กว้างมากกว่า ๆ 2,000 ตารางกิโลเมตร ด้วยความที่กว้างขนาดนี้เลยมีจุดเที่ยวหลายจุดมาก ๆ อย่าง Bowness-on-Windermere ล่องเรือชมทะเลสาบ / น้ำตก Aira Force Waterfall / Derwent Water วิวสวยริมทะเลสาบ เป็นต้น ปล.แนะนำให้เช่ารถดีกว่าเพราะแต่ละสถานที่อยู่ห่างกันพอสมควรเลยหรือใครอยากเช่าบริเวณ Windermere จะสะดวกสุดมีรถไฟ รถบัส แท็กซี่
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี Edinburgh Waverley ไปลงที่สถานี Oxenholme ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นสถานีเชื่อมต่อไปยัง Windermere ได้เลย ประมาณ 20 นาที
6. เนินเขาสูงกลาสตันเบอรี่ ทอร์ ( Glastonbury Tor ) – Somerset

เป็นเนินเขาสูงที่มีหอคอยตั้งอยู่บนยอดเชื่อว่าเป็นทางเข้าสู่เมืองนางฟ้าแหละ ถ้าย้อนไปสมัยช่วงยุคกลางจะมีโบสถ์ชื่อ เซนต์ แพทริค ด้วยนะ แต่ช่วงทศวรรษ 1100 เกิดแผ่นดินไหวโบสถ์เลยถูกทำลายไป ก็เลยมีการสร้างโบสถ์ขึ้นมาใหม่ชื่อว่า เซนต์ มิเชลล์ ซึ่งก็คือหอคอยที่ตั้งอยู่ในบนเนินเขา Tor จนถึงทุกวันนี้ ลักษณะจะคล้ายกับป้อมปราการตรงกลางมีช่องประตูให้แสงส่องผ่านได้ คอหอยนี้ก็มีตำนานมากมาย อย่างเช่นเกี่ยวกับคิงอาเธอร์ด้วย หรือคลาสสิคสุดก็คือเป็นประตูสู่ดินแดนนางฟ้า ดินแดนสวรรค์ต่าง ๆ เป็นจุด เที่ยวอังกฤษ อีกหนึ่งที่ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Castle Cary จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสสาย 667 ลงป้าย Crispin Hall แล้วต่อรถบัสสาย 376 Mendip Explorer ไปลงที่ป้าย Superstore เดินต่ออีก 28 นาท
7. กำแพงฮาดริอานุส ( Hadrian’ s Wall ) – Brampton

หรือบางคนก็จะออกเสียงว่ากำแพงเฮเดรียนนะ เป็นกำแพงหินโบราณและบางส่วนเป็นกำแพงหญ้า คือเห็นรูปแล้วก็นึกถึงพวกหนังพีเรียดโรมันอะไรแบบนั้นเลย และใช่จ้ากำแพงนี้ถูกสร้างขึ้นโดยจักรวรรดิโรมันซึ่งเขาสร้างขวางไว้ตลอดแนวตอนเหนือของเกาะอังกฤษใต้ (ยาวกว่ากำแพงเมืองจีนอ่ะคิดดู) แนวพรมแดนอังกฤษและสกอตแลนด์เลย เป็นการสร้างเพื่อเป็นแนวป้องกันการรุกรานของอาณานิคมบริเตนของโรมันนั่นเอง เก่าแก่ขนาดนี้แน่นอนว่าได้เป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้วละ ใครวางแผน เที่ยวอังกฤษ ปีนี้อย่าลืมแวะมาดูสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์แบบนี้กันนะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 16:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานี Victoria Station ไปลงที่สถานี Euston จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Avanti West Coast ลงที่ Carlisle ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นเปลี่ยนสายรถไฟไปขึ้นสาย northern ลงที่ Haltwhistle แล้วต่อรถบัสสาย 681 ไปลงป้าย Roman Fort car park แล้วเดินต่อ 2 นาที จะเจอทางเข้า
8. อ่าวโบทานี ( Botany Bay ) – Broadstairs

อีกหนึ่งการ เที่ยวอังกฤษ กับที่เที่ยวธรรมชาติ ๆ แนะนำที่อ่าวโบทานี อยู่ในเมืองบรอดสแตร์ซึ่งในเมืองนี้จะมีทั้งหมด 7 อ่าว และอ่าวโบทานีเป็นอ่าวที่อยู่ทางเหนือสุดของอ่าวทั้งหมดในเมืองนี้เลย ที่อ่าวโบทานีจะมีหน้าผาหินชอล์กใหญ่และสูงมากตั้งอยู่ริมอ่าวติดหาดทราย เป็นที่เที่ยวอังกฤษยอดฮิตที่คนนิยมมาถ่ายรูปเลยแหละ ส่วนใครชอบกิจกรรมทางน้ำทั้งหลายที่นี่ก็เล่นได้นะ ทั้งกระดานโต้คลื่น พายเรือคายัค ว่ายน้ำ ปลอดภัยมีไลฟ์การ์ดคอยประจำการอยู่ด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย southeastern ไปลงที่ Margate จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสสาย 8A มุ่งหน้า Northdown Park ลงที่ป้าย Yardhurst Gardens จากนั้นเดินต่อ 6 นาที
9. น้ำตก High Force Waterfall Middleton-in-Teesdale – Durham

เป็นหนึ่งในน้ำตกที่ควรไปอีกหนึ่งที่ในอังกฤษ หินที่น้ำตกไหลผ่านลงมาอายุกว่า 300 ล้านปีเลยนะ คือเก่าแก่มาก ๆ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นนะ ก่อนนะถึงจุดน้ำตกตรงนี้ก็คือต้องเดินป่ามาเรื่อย ๆ จะได้ยินเสียงน้ำตกดังตลอดทางเลย บรรยากาศแตกต่างกันไปแต่ละฤดูนะ อย่างช่วงใบไม้ผลิก็จะเขียว ๆ สดชื่น ๆ ถ้าใครมาช่วงใบไม้ร่วงป่าก็ออกสีน้ำตาลส้ม ได้ความรู้สึกอบอุ่น ๆ ไปอีกแบบ
ค่าเข้าชม : คนละ 2.50 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 9:00 – 16:00 น.
วิธีเดินทาง : จากลอนดอนนั่งรถบัส megabus M22N ปลายทาง Newcastle upon Tyne ไปลงที่ Darlington ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถบัส X75 MAX ไปลงที่ Galgate – Commercial Hotel เปลี่ยนรถบัสอีกครั้งจาก Galgate – Stand B ขึ้นสาย 95 ลงไปที่ Horsemarket แล้วเดินต่ออีก 20 นาที
10. แหลมแฟลมโบโร เฮด ( Flamborough Head ) – Yorkshire

เป็นแหลมที่ยาวประมาณ 13 กิโลเมตรมีหน้าผาหินชอล์กสีขาวที่ทับถมกันมาเรื่อย ๆ กว่า 70 ล้านปีก่อนเรียงยาวเป็นแถบ ไฮไลต์อยู่ที่ประภาคาร 2 ที่ เก่าแก่พอกันทั้งคู่ หลังหนึ่งสร้างตั้งแต่ปี 1669 ส่วนอีกหลังสร้างในปี 1806 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติของอังกฤษด้วย ทุกวันนี้เป็นสถานที่พักผ่อนและสถานที่ท่องเที่ยว บนหน้าผาจะมีหญ้าขึ้นอยู่ตลอดทำให้ชาวอังกฤษนิยมมาพักผ่อนหรือพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นนั่นเอง อ้อ แล้วถ้าเกิดวันใครโชคดีก็มีโอกาสเจอน้องแมวน้ำด้วยนะ และมีร้านอาหาร กาแฟ ไอศครีมให้บริการด้วย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 5.20 GBP / เด็ก 4.20 GBP
เวลาเปิด-ปิด : บริเวณหน้าผาเปิดตลอด ส่วนประภาคารจะเปิด 12:00-16:00 น.
วิธีเดินทาง : แนะนำเช่ารถขับจะสะดวกที่สุด จากลอนดอนในเวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง
11. หมู่บ้านบอสคาสเซิล ( Boscastle ) – Cornwall

ไป เที่ยวอังกฤษ กันต่อเลย ที่ต่อมาคือหมู่บ้านคาสเซิลเป็นหมู่บ้านบนชายฝั่งทางตอนเหนือของอังกฤษ ความพิเศษคือหมู่บ้านนี้น่ะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสุด ๆ มีท่าเรือที่สร้างต้องแต่ยุคกลางด้วยนะ สมัยก่อนใช้การค้าหินชนวนนั่นเอง ส่วนหมู่บ้านนี้บ้านเรือนเขาก็สร้างแบบอังกฤษยุคก่อนและยังคงอนุรักษ์ไว้ ร้านค้าต่าง ๆ เองก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน เห็นแล้วนึกถึงหนังอังกฤษยุคเก่า ๆ เลยนะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟจากลอนดอนไปลงที่ Exeter St Davids จากนั้นเปลี่ยนสายรถไฟไปขึ้นรถไฟที่ปลายทางไป Okehampton แล้วต่อรถบัสสาย 6 ไปลงที่ The Strand นั่งรถบัสสาย 95 ไปลงที่ Car Park แล้วเดินต่อ 6 นาที
12. สวนพฤกษศาสตร์ลอนดอน ( Royal Botanic Gardens ) – London

หนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก บางทีเขาก็เรียกกันสั้น ๆ ว่า Kew Garden นะ เที่ยวอังกฤษ ห้ามพลาดอยู่ในลอนดอนนี่เอง สวนแห่งนี้ยังได้ขึ้นเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2003 อีกด้วยนะ ในนี้จะรวบรวมพรรณไม้จากทั่วโลกกว่า 7 ล้านชนิดเรียกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์พืชที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีห้องทดลอง และภาพวาดพืชพันธุ์ต่าง ๆ กว่า 175,000 รูป และแน่นอนว่ามีที่นี่ก็ได้เห็นการจัดสวนสไตล์อังกฤษแน่นอนรวมถึงประติมากรรมต่าง ๆ ที่สวยงามน่าตะลึงด้วย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 19 GBP / เด็ก 5.50 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 19:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Richmond จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
13. หอนาฬิกาบิ๊กเบน ( Big Ben ) – London

ไม่พูดถึงได้ไงเนอะมาอังกฤษทั้งที่ร้อยทั้งร้อยต้องมาถ่ายรูปกับหอนาฬิกา Big Ben สักหน่อย หอนาฬิกานี้สร้างมากกว่า 150 ปีแล้วนะ จุดเด่นคือบอกเวลาได้ 4 ทิศทางและเป็นนาฬิกาบอกเวลาที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย ด้วยความหอนาฬิกาขนาดใหญ่มากเราก็สามารถถ่ายรูปได้จากหลายทิศทาง แต่ถ้าใครอยากได้มุมสวย ๆ ก็ต้องบริเวณพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ หรือถ้าจุดยอดฮิตที่ตรงสะพานเวสต์มินสเตอร์นั่นเอง เป็นที่เที่ยวอังกฤษที่เป็นแลนด์มาร์คของประเทศเลยล่ะ ห้ามพลาด
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Westminster ได้เลย
14. หอคอยแห่งกรุงลอนดอน ( Tower of London ) – London

เที่ยวอังกฤษ ใจกลางลอนดอนติดริมแม่น้ำเทมส์ หอคอยนี้สร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1066 ซึ่งถูกดัดแปลงมาจากป้อมปราการอีกหนึ่งสร้างจากหินทั้งหมด หอคอยนี้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์หลาย ๆ อย่าง ทั้งที่พักของพระราชวงศ์ ที่คุมขังนักโทษ และสถานที่ประหารนักโทษชั้นสูงสุด ด้วยเหตุนี้เขาก็เลยล่ำลือกันว่าที่นี่เฮี้ยนด้วยแหละ และที่สำคัญยังเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาของมีค่าของราชวงศ์เอาไว้ด้วยนะ ทั้งมงกุฎเพชร ชุดอัศวินสมัยโบราณ ฯลฯ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 21.50 / เด็ก 9.70 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 น. – 16:30 น. (ปิดวันจันทร์)
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงที่สถานี Tower Hill
15. เสาหินสโตนเฮนจ์ ( Stonehenge ) – Salisbury Plain

กลุ่มหินลึกลับขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรและทำขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์อะไร หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เก่าแก่กว่า 2,000 ปีก่อนก่อนคริสต์ศักราช มีแท่งหินขนาดใหญ่มหึมาถึง 112 ก้อนตั้งเรียงกันอยู่เป็นรูปทรงครึ่งวงกลมซ้อมกันถึงสามวง ในลักษณะที่ต่างกัน ทั้งวางนอน วางพาดกัน และวางตั้งขึ้น และไม่เพียงเป็นก้อนหินธรรมดาเท่านั้นแต่ยังผ่านการขัดตกแต่ง ทั้งความเหลี่ยม ความมัน มีสลักและเดือยทำให้หินพาดกันอย่างพอดีเป๊ะ เอาเป็นว่าใครไปอังกฤษแนะนำให้ไปเห็นสักครั้งในชีวิตอ่ะบอก
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 24 GBP / เด็ก 14.40 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 09:30 – 19:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่เมือง Salisbury จากนั้นต่อรถบัสไปลงที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จะอยู่ห่างจาก Stonehenge ไปประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถขึ้นรถรับส่งได้ที่นั่นเลย
16. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติ ( Natural History Museum ) – London

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเอาหลักฐานและชิ้นส่วนสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลกมารวมไว้ ตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ ยุคดึกดำบรรพ์โน่นเลย แล้วอาคารเขาทำสวยมากนี่นึกว่าพระราชวังอ่ะ ข้างในก็คือตกแต่งสวยงามไฮโซไม่แพ้ข้างนอก เขาแบ่งเป็นโซนมีทั้งหมด 4 โซน คือ Red Zone แสดงเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์ การกำเนิดโลก การเกิดภูเขาไฟ แผ่นดินไหว Green Zone จัดแสดงซากกระดูกสัตว์หลายชนิดทั้ง สัตว์ปีก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และแมลง Orange Zone จะเป็นรูปปั้นของ Charles Darwin บุคคลสำคัญทางวิทยาศาสตร์ของประเทศอังกฤษและโซนสุดท้ายคือโซนไดโนเสาร์มีกระดูกไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่าง ๆ อลังการมากเว่อร์
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00–17:50 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี South Kensington ได้เลย
17. โรงอาบน้ำโรมัน และบ้านสมัยจอร์เจี้ยน ( The Roman Baths and Georgian City of Bath ) – London

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเห็นแน่นอนเป็นที่เที่ยวอังกฤษที่พลาดไม่ได้อีกหนึ่งที่ นั่นก็คือโรงอาบน้ำโรมันในเมืองบาธเป็นเมืองมรดกโลกเมืองเล็ก ๆ ทางใต้ของลอนดอน สร้างมา 2,000 กว่าปีแล้วนะ ที่ว่าเป็นโรงอาบน้ำเนี้ยคือตรงนี้เป็นจุดที่มีน้ำแร่ร้อนธรรมชาติเขาเลยสร้างเป็นโรงอาบน้ำขึ้นมาให้สำหรับขุนนางยศใหญ่นั่นเอง ว่ากันว่านี่เป็นสปาแห่งแรกโลกด้วยล่ะ ปัจจุบันนี้ก็ยังเปิดให้เข้าชม มีน้ำแร่อยู่จริง ๆ ด้วยนะ แล้วก็มีพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ ส่วนรอบ ๆ ก็จะเป็นอาคารบ้านเรือนลักษณะแบบจอร์เจี้ยน สวยงามสะดุดตาแบบยุคก่อนสุด ๆ สามารถเดินเล่นและปั่นจักรยานชมวิวได้ด้วยนะ ใครจะมา เที่ยวอังกฤษ ปีนี้ อย่าลืมแวะมาดูสปาที่แรกของโลกกันล่ะ
ค่าเข้าชม : คนละ 15 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 18:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟจาก London Paddington Railway Station ไปลงสถานี Bath Spa ได้เลย จากนั้นเดินต่อประมาณ 7 นาที จะเจอทางเข้า
18. ปราสาทวอร์วิก ( Warwick Castle ) – Warwick

สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ปราสาทวอร์วิกเป็นปราสาทในยุคกลางที่ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามมาก ๆ ที่นี่ยังมีตำนานและเรื่องเล่าต่าง ๆ มากมายด้วย สร้างตั้งปีค.ศ. 914 โดยนักรบไวกิ้งจากเดนมาร์ก ต่อมาได้มีการพัฒนาปราสาทให้ใช้เป็นที่อยู่ขุนนาง และปรับเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์สถานที่ท่องเที่ยวจนถึงปัจจุบันนี้ สามารถเข้าชมด้านในปราสาทได้ด้วย แต่จะโซนจะมีค่าเข้าต่างกันออกไป อย่างชั้นใต้ดินที่เป็น The Gaol มีความสยองรออยู่ มีการจัดแสดงโชว์เเบบอินเตอร์เเอคทีฟของแม่มดท้องถิ่นอย่างมอลล์ บล็อกซ์แฮม เเละภูตผีในปราสาทนั่นเอง
ค่าเข้าชม : เริ่มที่ 26 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 16:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินจาก Oxford Circus ไปลงที่สถานี Marylebone แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ Chiltern Railways ไปลงที่สถานี Warwick
19. วิหารเมืองยอร์ค ( York Minster and Historic Yorkshire ) – Yorkshire

วิหารที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษและมีโบสถ์แบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษเหนือด้วยจ้า บอกก่อนว่าเมืองยอร์คเป็นเมืองแห่งยุคกลางมาเดินเมืองนี้จะได้ฟิลแบบอังกฤษยุคกลางสุด ๆ วิหารนี่ก็อลังมากเขาสร้างทางเดินแบบ Decorated Gothic มีหอประชุมสงฆ์ พื้นที่ร้องเพลง บทสวดและทางด้านหลังเป็นแบบกอธิคแบบกอธิคสูง ทางเดินตรงกลางยังมีหน้าต่างใหญ่ชื่อ “Great East Window” เป็นหน้าต่างกระจกสีที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยนะ อลังการมากแบบอยากไปให้เห็นด้วยตาตัวเอง
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 20 GBP / เด็ก 6 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 09:30 – 16:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี King’s Cross St. Pancras จากนั้นต่อรถไฟ LNER ไปลงที่สถานี York เดินต่ออีก 15 นาที
20. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อังกฤษ ( British Museum ) – London

พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมสิ่งของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ทั่วโลกมาไว้ที่นี่ตั้งแต่สมัยยุคเปอร์เซีย อัสสีเรียน อียิปต์ กรีก โรมัน มาจนกระทั่งฝั่งเอเชียกันเลย ที่นี่จะแบ่งออกเป็นโซนมีหลายโซนมาก เช่น โซนอียิปต์ จะมีโลงศพคลีโอพัตรา มัมมีอียิปต์ทั้งคนและสัตว์ วัตถุโบราณของอัสซีเรียน อย่างเช่นรูปปั้นนูนต่ำ รูปสลักสิงโต โซนกรีก ก็จะมี วิหารพาร์เธนอน, รูปปั้นเทพีอะโฟรไดท์ รูปปั้นม้าจากเมาโซแลม หมวก โล่ แจกันแบบกรีก โซนเอเชีย มีพระพุทธรูปโบราณจากจีน ญี่ปุ่น กัมพูชา อินเดีย นอกจากนี้ยังมีโซนอื่น ๆ อีกเพียบเลย มีทั่วโลกอ่ะครบมาก แต่ไฮไลต์เลยอยู่ที่ แผ่นหิน Rosetta Stone ที่เป็นต้นแบบของศิลาจารึกภาษาอียิปต์ ที่ได้รับการถอดความเป็นภาษากรีก แล้วกลายมาเป็นเรื่องราวให้เราได้เรียนรู้กันในปัจจุบันนี้นั่นเอง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 น. – 17:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าลงได้ทั้งหมด 4 สถานี คือ Goodge Street, Tottenham Court Road, Rusell Square และ Holborn
21. สวนสัตว์เชสเตอร์ ( Chester Zoo ) – Chester

Photo by : IG@yahoosg
ติด 1 ใน 10 สวนสัตว์ที่ดีที่สุดในโลกเลยนะกับที่สวนสัตว์เชสเตอร์เนี้ย ไหน ๆ ก็มาถึงอังกฤษแล้วแวะไปสักหน่อยเถอะ พื้นที่ใหญ่มากพร้อมกับบรรดาสัตว์ทั้งหลายกว่า 500 สายพันธุ์ ช้าง แรดดำ เสือโคร่ง ชีต้าร์ จากัวร์ มังกรโคโมโด เพนกวิน แพนด้าแดง จิงโจ้แดง ฯลฯ แล้วน้องสัตว์ทั้งหลายคืออุดมสมบูรณ์แบบว่าได้รับการดูแลมาอย่างดีมากเว่อร์ แล้วก็เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทางสวนสัตว์เขาก็ได้ต้อนรับลูก ๆ ของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์มากมายเลยนะไม่ว่าจะเป็น จิงโจ้ต้นไม้ ลิงชิมแปนซีตะวันตก สมเสร็จพันธุ์มาลายัน แรดนอเดียว ฟอซซา เสือโคร่งสุมาตรา กิ้งก่าพาร์สัน เรียกได้ว่าเขาไม่ได้เป็นแค่สวนสัตว์แต่ยังพยายามอนุรักษ์สัตว์ป่าและทำให้สภาพแวดล้อมของสัตว์สมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 32.50 GBP / เด็ก 25 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 17:30 น.
วิธีเดินทาง : จากลอนดอนนั่งรถไฟสาย Avanti West Coast ไปลงที่ Crewe ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นไปต่อรถไฟ Wales ไปลงที่ Chester จากนั้นต่อรถบัส X1 ไปลงที่ Zoo Main Entrance ได้เลย
22. อาคารรัฐสภาแห่งอังกฤษ ( Houses of Parliament ) – London

แต่ก่อนที่นี่เคยเป็นพระราชวัง Westminster มาก่อน คือบอกเลยว่าเป็นรัฐสภาที่สวยและอลังการมาก ๆ สวยแบบตะลึงสมที่เคยเป็นวังเก่ามาเลยจริง ๆ แล้วสวยมากขึ้นไปอีกเพราะมีแม่น้ำเทมส์และหอนาฬิกาบิ๊กเบนอยู่ล้อมรอบ ใครไปดูบิ๊กเบนเสร็จแล้วก็ต่อด้วยอาคารรัฐสภาได้เลยนะ ใกล้กันมาก ปัจจุบันนี้ภายในอาคารเปิดให้ท่องเที่ยวต่างชาติเข้าชมแล้ว (แต่ก่อนให้แต่คนอังกฤษเข้าเท่านั้น) ซึ่งข้างในก็มีห้องสำคัญต่าง ๆ อย่าง ห้องประชุมที่เคยเป็นห้องของเชื้อพระวงศ์มาก่อน ห้องโถง Westminster Hall ที่มีอายุยาวนานมากกว่า 1,000 ปี เป็นต้น
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 25.5 GBP / เด็ก 21 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 08:45 น. – 16:45 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน underground tube มาลงที่สถานี Westminster
23. มหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด ( Oxford University ) – Oxford

มหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างตั้งค.ศ. 1096 รวม ๆ ก็สร้างมากกว่าพันปีแล้วล่ะ แน่นอนว่าที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการศึกษามากอย่างที่เรารู้กัน ใคร ๆ ก็อยากมีโอกาสมาเรียนที่นี่ นอกจากขึ้นชื่อเรื่องการศึกษาแล้วสถาปัตยกรรมของมหาวิทยาลัยก็สวยงามมาก เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ดังหลายเรื่องอย่าง แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ภาค 1 และ ภาค 4 และห้องโถงของที่นี่ก็เป็นแรงบันดาลใจนำไปสร้างเป็นฉากห้องโถงฮอกวอตส์ด้วยล่ะ เชื่อว่าแฟนแฮร์รี่ไม่พลาดแน่นอนกับการมาเดินเล่นที่มหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถบัส Oxford Tube จาก Green Line Coach Station (Stop 10) ไปได้เลย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ลงที่ป้าย Queens Lane (Stop J1) แล้วเดินต่อ 4 นาทีจะถึงมหาวิทยาลัย
24. มหาวิหารแคนเทอร์เบอรี ( Canterbury Cathedral ) – Canterbury

โบสถ์ประจำตำแหน่งของประมุขสูงสุดของนิกายแองกลิคันทั้งหมดและได้รับการเลือกให้เป็นมรดกโลกด้วย การมาเยือนมหาวิหารแคนเทอร์เบอรีก็ไม่พ้นการดื่มด่ำกับองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมที่ผ่านมาหลายทศวรรษด้วยนั่นเอง และวิหารแคนเทอร์เบอรียังเป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายมาตั้งแต่ในอดีต เช่น เป็นสถานที่ที่ สังฆราช Thomas Becket ถูกฆาตกรรมในปี ค.ศ. 1170 ข้างในวิหารยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายเช่น ห้องเก็บสุสานของบาทหลวงเฮนรี Chichele หรือ เจ้าชายดำแห่งไตรลักษณ์
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 15.50 GBP / เด็กเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 16:00 น.
วิธีเดินทาง : จากสถานี King’s Cross ให้นั่งรถบัสสาย 214 ไปลงที่ Chenies Place จากนั้นต่อรถไฟสาย southeastern ไปลงที่ Canterbury West แล้วเดินต่อ 11 นาที
25. พิพิธภัณฑ์หลวงกรีนิช ( Royal Museums Greenwich ) – London

ที่นี่เป็นที่ตั้งของหลายพิพิธภัณฑ์มาก ๆ ทั้ง Cutty Sark เรือที่มีชื่อเสียงมากที่สุดลำดับหนึ่งของโลก เรือลำนี้สร้างขึ้นเพื่อขนชากลับจากจีน มีการแสดงถึงความเป็นมาของเรือ มีร้านน้ำชาให้จิบชายาวบ่ายด้วย,หอดูดาวกรีนิช เป็นต้นกำเนิดของดาราศาสตร์อังกฤษเลยก็ว่าได้ สร้างขึ้นตั้งแต่ ศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าชาลส์ที่ 2 ใช้ทำแผนที่ดวงดาวเพื่อเดินเรือในสมัยก่อนและแม่นยำสุด ๆ เลยด้วย , พิพิธภัณฑ์การเดินเรือแห่งชาติ แสดงถึงการเดินเรือในสมัยก่อนของอังกฤษ โลกใต้ทะเลและกองทัพ , หอศิลป์ Queen’s House สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ของราชวงศ์เก่าแก่กว่า 400 ปี ทั้งนี้อยู่ในบริเวณเดียวกันสามารถเดินดูต่อ ๆ กันได้เลย
ค่าเข้าชม : แต่ละโซนค่าเข้าต่างกันเริ่มที่ ผู้ใหญ่ 18 GBP / เด็ก 9 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:00-17:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินจาก London Bridge ไปลงที่ Greenwich แล้วเดินต่อ 10 นาที
26. พิพิธภัณฑ์สงคราม ( Churchill War Rooms ) – London

ที่เที่ยวอังกฤษที่ต่อมาเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสงครามโลกบอกเลยนะว่าคนที่ชอบประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดเลยเด็ดขาด แถมสถานที่นี้เคยใช้เป็นที่บัญชาการรบของประเทศอังกฤษจริง ๆ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยล่ะ ก็เลยจะมีของใช้ที่ใช้จริง ๆ จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์นี้มากมายเลยล่ะ และความตื่นเต้นอีกอย่างคือเขาทำทางเดินที่เชื่อมต่อแต่ละห้องให้เป็นทางแคบ ๆ ขนาดพอดีตัวคนทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในกองบัญชาการจริง ๆ เลย ในนี้จะมีการจัดแสดงหุ่นจำลองกำลังทำกิจกรรมต่าง ๆ ขณะที่เกิดสงคราม,ห้องนอนของ วินสตัน เชอร์ชิล มีทั้งโต๊ะทำงาน เตียง แฟนที่โลก ที่ถูกใช้งานมาแล้วจริง ๆ , ชุดทหาร และอุปกรณ์เครื่องใช้ในสงคราม
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 19 GBP / เด็ก 9.50 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 9:30 – 18:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่ Westminster ได้เลย
27. โครงการอีเดน โปรเจก ( The Eden Project ) – Cornwall

ในนี้จะมีโดมหลาย ๆ โดมซึ่งเป็นที่เก็บรักษาพันธุ์พืชต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งในแต่ละโดมนั้นเขาจะจำลองสภาพอากาศและพื้นดินให้เหมาะกับพืชชนิดนั้น ๆ ด้วย ทำให้พืชทั้งหลายสายพันธุ์สามารถเจริญเติบโตได้ ที่สำคัญการเดิมพืชพรรณที่นี่เขายังออกแบบและจัดสภาพแวดล้อมให้เหมือนกับภูมิประเทศนั้น ๆ ด้วยนะ อย่างเช่นระบบนิเวศเขตร้อนชื้น ก็จะมีน้ำตก มีแมลงบางชนิด ต้นไม้ดอกไม้ในเขตพื้นที่นั่นอะไรแบบนี้ น่าสนใจมากเลยแหละ ซึ่งเขาก็มีครบทุกภูมิประเทศเลยนะอย่าง เมดิเตอร์เรเนียนหรือระบบนิเวศเขตอบอุ่นด้วย นอกจากโดมแล้วก็ยังมีทุ่งดอกไม้สวย ๆ หลายสีสันอีกด้วยนะ เป็นที่เที่ยวอังกฤษที่น่าสนใจมากเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 33 GBP / เด็ก 11 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 9:30 – 18:00 น.
วิธีเดินทาง : จากลอนดอนนั่งรถไฟ GWR ไปลงที่ Lostwithiel ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง จากนั้นไปต่อรถบัสที่ The Royal Talbot สาย 28 ลงที่ป้าย Bodelva Top Turn แล้วเดินต่อ 33 นาที
28. หมู่บ้านชนบทคอทส์โวลส์ ( Cotswolds ) – Cotswolds

เที่ยวอังกฤษ กันต่อ พาไปดูเมืองที่เขาบอกว่ามีหมู่บ้านที่น่ารักที่สุดในอังกฤษ ซึ่งมีหลายหมู่บ้านเหมือนกันนะ แต่ละหมู่บ้านจะสไตล์คล้ายกันคือเป็นบ้านสไตล์อิงลิช คอทเทจ เหมือนได้เข้าไปอยู่ในโลกของนิทานสมัยเด็กเลยล่ะ หมู่บ้านที่น่าสนใจก็จะมี Castle Combe หมู่บ้านเก่าแก่ริมน้ำสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 สวยและบรรยากาศดีที่สุดในอังกฤษ เงียบสงบมากๆ อีกหมู่บ้านที่ครึกครื้นขึ้นมาหน่อยคือ Burford มีร้านอาหาร คาเฟ่เยอะ หมู่บ้านนี้เขาจะตั้งไล่เรียงติดต่อกันบนเนินเขา มองออกไปด้านหน้าก็จะเห็นทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าสวยงามมาก
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Cheltenham Spa จากนั้นต่อรถบัสสาย D สีเหลืองไปลงที่ Clarence Parade arrival เปลี่ยนสายไปนั่งรถบัส C68 ลงที่ไป Reservoir Hill Top แล้วเดินต่ออีก 18 นาที
29. หมู่บ้านเลค็อค ( Lacock ) – Lacock

ไปเที่ยวดูเมืองเก่าแสนสวยกันบ้าง แน่นอนว่านอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าแล้วยังเป็นหนึ่งโลเคชั่นถ่ายทำแฮร์รี่พอตเตอร์อีกหนึ่งที่ มาถึงนี่เห็นได้เลยว่าบ้านเขาจะสร้างจากหินและอิฐทั้งหมดเลยและจะปลูกดอกกุหลาบให้เลื้อยคลุมหน้าบ้านเลย น่ารักมาก ๆ หมู่บ้านนี้มีชื่อเสียงขึ้นมาจากแฮร์รี่พอตเตอร์นี่แหละ ใช้หมู่บ้านนี้ถ่ายทำหลายฉากเลย มีโบสถ์เก่าโบราณด้วยนะ ปัจจุบันยังใช้ประกอบพิธีทางศาสนาอยู่เข้าไปชมได้ถ้าไม่มีการประกอบพิธี
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟปลายทาง Bristol Temple Meads ไปลงที่สถานี Chippenham จากนั้นไปขึ้นรถบัสสาย X34 ที่ Waitrose ลงป้าย The George
30. ย่านโรงละครเวสต์เอนด์ ( West End Theatre ) – London

West End เป็นย่านโรงละครชื่อดังของลอนดอนเลยทีเดียว คือเต็มไปด้วยความครึกครื้น รื่นเริง จอยสุด ๆ หรือใครอยากไปดูละครเวที ละครเพลงก็ต้องมาย่านนี้แหละ มีโชว์ต่าง ๆ ให้เลือกเพียบ อย่างละครเพลงที่มีชื่อเสียงที่สุดของที่นี่มีหลายเรื่องมาก เช่น Les Miserables, Charlie and the chocolate factory, Lion King, Phantom of the opera เป็นต้น หรือใครอินมากเขามีทัวร์ดูฉากหลังของละครเวทีด้วย ได้เข้าหลังเวทีดูวิธีเตรียมตัวของนักแสดงด้วย เรื่องได้ว่าเป็นที่เที่ยวอังกฤษที่ชวนให้ไปเปิดหูเปิดตาเหมือนกันนะเนี้ย
ค่าเข้าชม : ค่าชมละครราคาแตกต่างกันไปส่วนมากเริ่มที่ 12.50 GBP
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงที่สถานี Leicester Square ได้เลย
31. หอศิลป์แห่งชาติ ( National Gallery of London ) – London

แนะนำที่เที่ยวอังกฤษสำหรับคนรักงานศิลปะกันบ้าง บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวในแพลน เที่ยวอังกฤษ ที่ควรแวะมา ในหอศิลป์นี้ภาพงานศิลปะมากมายกว่า 2,300 ภาพ แต่ละภาพมีสตอรี่ทั้งนั้น และยังมีภาพศิลปินระดับโลกอย่างดาวินชีและปิกัสโซ่ด้วยนะ มีภาพที่เป็นไฮไลต์แบบว่าไปแล้วต้องไปดูให้ได้ด้วย เช่น The Arnolfini Portrai โดย Jan Van Eyck ภาพสีน้ำมันที่มีอายุเกือบ 600 ปี,The Madonna of the Pinks โดย Raphael ภาพสีน้ำมันสุดโด่งดังอายุกว่า 500 ปีมาแล้ว และ The Virgin of the Rocks โดย Leonardo Da Vinci รูปที่ใช้เวลาวาดกว่า 10 ปีของดาวินชี่ เรียกว่าไม่ควรพลาดจริง ๆ มีรูปที่เป็นตำนานอยู่ที่นี่เพียบ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 น. – 18:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Charing Cross ได้เลย
32. พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศลอนดอน ( The Royal Air Force Museum London ) – London

อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสงครามของอังกฤษ เป็นที่เที่ยวอังกฤษ ที่เหมาะกับคนชอบเครื่องบินโดยเฉพาะเครื่องรบกับสงคราม ที่นี่เขาจะรวมเครื่องบินที่เคยเข้าร่วมประจำการในสงครามโลกทั้ง 2 ครั้งไว้ ที่นี่เปิดมา 45 ปีแล้วนะ เปิดตอนแรกมีเครื่องบินรวมมาได้แค่ 36 ลำเท่านั้น ปัจจุบันนี้หาเก็บสะสมเรื่อย ๆ จนมีกว่า 100 ลำแล้วล่ะ ข้างในจะแบ่งออก 5 โซน คือ อาคารประวัติศาสตร์การบิน,อาคารเครื่องบินทิ้งระเบิด อาคารจัดแสดงในส่วนของเหตุการณ์สำคัญ,อาคารจัดแสดงเกี่ยวกับ The Battle of Britain และอาคารโรงงานผลิตเครื่องบินของ Grahame-White หรือใครโชคดี บางวันเขาจะมีโชว์นำเครื่องบินรบที่เคยใช้มาบินโชว์ให้ดูด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 น. – 17:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Colindale ได้เลย
33. พระราชวังแฮมป์ตันคอร์ต ( Hampton Court Palace ) – London

พระราชวังหลวงที่เปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนอังกฤษเข้าไปชมด้านในได้ ก็เลยเป็นอีกหนึ่งที่ที่นักท่องเที่ยวมักจะนิยมไปกัน พระราชวังนี้สร้างตั้งแต่ปี 1514 เพื่อมอบให้กับพระคาร์ดินัลทอมัส โวลซีย์ ซึ่งเป็นข้าราชการคนโปรดของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ต่อมาได้มายึดแย่งและขยายวังมาจนถึงปัจจุบัน ข้างในมีสถาปัตยกรรมสวยงาม 2 ยุค สวยแปลกตาหาดูยาก,มีลานสเกตน้ำแข็งที่ล้อมไปด้วยฉากหลังของวัง แต่ก็เปิดให้เล่นเฉพาะช่วงหน้าหนาวนะประมาณเดือนพฤศจิกายน – มกราคม , Ghost tours แน่นอนว่าสร้างมานานขนาดนี้เรื่องผี ๆ ย่อมมี เขามีทัวร์บรรยากาศตอนกลางคืนรอบ ๆ วัง พร้อมฟังเรื่องเล่าหลอนในวังไปพร้อมกันด้วย แปลกดี และสุดท้ายมีหอศิลป์ เก็บภาพวาดสำคัญของอิตาลีด้วย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 15.9 GBP / เด็ก 8 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 16:30 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Hampton Court จากนั้นเดินต่อไปอีกเล็กน้อยจะถึงพระราชวัง
34. มหาวิหารเซนท์พอล ( St Paul’s Cathedral ) – London

วิหารเก่าแก่ของอังกฤษมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากโบสถ์ Liverpool Cathedral เลยนะ สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 604 วิหารนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้นักบุญเปาโล ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของอังกฤษ ด้านหน้าโบสถ์มองมาเราจะเห็นเป็นโดมใหญ่ ซึ่งตรงโดมเนี้ยมีบันไดมากถึง 259 ขั้น สามารถขึ้นไประเบียงและจุดชมวิวได้ เห็นวิวทั่วเมืองเลยล่ะ ด้านในคือสวยมาก สไตล์อังกฤษสุดๆ อลังการตาแตกแนะนำให้มาเลยจริง ๆ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 18 GBP / เด็ก 8 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 น. – 16:30 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงได้ 3 สถานี คือ Mansion House, Blackfriars หรือสถานี St. Paul
35. ปราสาทวินเซอร์ ( Windsor Castle ) – Berkshire

คุ้นหูคุ้นตากันแน่นอนเพราะที่นี่เป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่าง ๆ อยู่ตลอด ล่าสุดก็คือเป็นที่ฝังพระบรมศพของควีนเอลิซาเบธที่ 2 นอกจากความสวยงาม เก่าแก่กว่าพันปี และใหญ่โตแล้วความพิเศษของที่นี่ก็คือเป็นพระราชวังที่ยังมีการใช้งานอยู่จริงจนถึงปัจจุบัน เป็นสถานที่ประทับของกษัตริย์และราชินีของอังกฤษมาหลายศตวรรษ การสร้างก็อลังการมากเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โรมาเนสก์ยุคกลาง มีแนวกำแพงหิน ป้อมปราการขนาดยักษ์และสวนอันร่มรื่น ด้านในมีทั้งพิพิธภัณฑ์ คาเฟ่ และแกลเลอรีศิลปะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 21.20 GBP / เด็ก 12.30 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 9:30 – 17:15 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้า National Rail ต้นทางที่สถานี London Waterloo ซึ่งจะลงที่สถานี Windsor & Eton Riverside หรือสามารถมาจากสถานีต้นทาง Paddington ก็จะลงที่สถานี Windsor Castle Station
36. พิพิธภัณฑ์แม่น้ำพิตต์ ( Pitt Rivers Museum ) – Oxford

หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมือง Oxford เห็นว่าปีหนึ่งมีผู้ชมเข้าร่วมกว่าห้าแสนคนเลยทีเดียว ที่นี่ส่วนมากจะรวบรวมของสะสมจากนักมานุษยวิทยาและนักโบราณคดีจากทั่วโลก มีของสะสมจัดแสดงอยู่กว่าห้าแสนชิ้น ซึ่งได้รับบริจาคมาจากนักบวช นักศึกษา และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนั่นเอง ชิ้นงานที่โดดเด่นที่สุดคือ เสาไม้แกะสลักสูงกว่า 11 เมตรจากหมู่บ้านของชนเผ่า Haida ในประเทศ Canada อายุกว่าร้อยปีทำโดยมนุษย์ทั้งหมด นอกจากนี้ก็จะมีเรือตกปลาของชนเผ่าต่าง ๆ วิวัฒนาการของกุญแจ เป็นต้น
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าแต่จะขอรับบริจาคเป็นค่าบำรุงรักษาพิพิธภัณฑ์ 5 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 16:00 น.
วิธีเดินทาง : จากลอนดอนนั่งรถบัส Oxford Tube ลงที่ Queens Lane (Stop J1) เดินเข้าสู่ถนน Catte St ประมาณ 10 นาที อยู่ใกล้กับ oxford university
37. โรงละครแห่งชาติลอนดอน ( National Theatre of London ) – London

โรงละครที่ติดอันดับหนึ่งในสามของอังกฤษ มองมาอาจจะงง ๆ ว่านี่ตึกอะไรเพราะมันเรียบเหลือเกิน ที่นี่เขาจะใช้ สถาปัตยกรรมแบบกร้าวเถื่อน เน้นโชว์ความหยาบกร้านของโครงสร้างและพื้นผิวอาคารเน้นการใช้คอนกรีตเปลือยไร้การตกแต่งนั่นเอง ที่นี่คือโรงละครแห่งชาติลอนดอนนั่นแหละ ปีหนึ่งจะมีโชว์ถึง 25 โชว์ต่อปี ใครชอบละครเวทีต้องมาเลยอ่ะ ด้านในมีโรงละคร 3 โรง จุคนได้ 400 – 1,000 คน นอกจากนี้ยังมีจัดเวิร์คช้อปเกี่ยวกับงานศิลปะ ห้องสัมมนา ส่วนดาดฟ้ายังเป็นจุดชมวิวอีกด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09:30 – 23:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Waterloo และ Southwark ก็ได้ จากนั้นให้เดินข้ามสะพาน Hungerford เพื่อมายังโรงละครแห่งชาติได้เลย
38. ประติมากรรมนางฟ้าทิศเหนือ ( Angel of the North ) – Gateshead

เป็นประติมากรรมที่ออกแบบโดย แอนโทนี Gormley สร้างเสร็จปี 1998 การออกแบบใช้พื้นฐานมาจากร่างกายของเขาเองด้วยนะ เป็นรูปหุ่นคนมีปีกแทนถึงนางฟ้าและเทวดา เขาตั้งใจทำขึ้นเพื่อสื่อว่าจะเป็นเครื่องหมายของผู้พิทักษ์ในเมืองนี้ ซึ่งขนาดก็ใหญ่มากจริง ๆ ทำจากเหล็กผุกร่อน สูง 66 ฟุต และปีกกว้าง 54 เมตร คือใหญ่กว่าเครื่องบินอีกอะ ประติมากรรมนี้ได้รับความสนใจอยู่ต่อเนื่อง เพราะนอกจากมาชมความสูงใหญ่ของงานประติมากรรมแล้วรอบ ๆ ยังเป็นพื้นที่โล่งสามารถเดินเล่นต่อได้อีก
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : จากสถานี King’s Cross St. Pancras ให้นั่งรถไฟ LNER ไปลงที่ Newcastle แล้วไปต่อรถบัส 21 Angel ลงที่ป้าย Durham Road-Deneford เดินต่ออีก 7 นาที
39. ท่าเรือไบร์ทตัน ( Brighton Palace Pier ) – Brighton

เป็นท่าเรือใหญ่ริมชายฝั่งทะเล โดยท่าเรือจะยื่นออกไปในทะเลเลยเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญที่หนึ่งในเมืองไบร์ทตันเลยแหละ อย่างแรกเลยคือจะได้สัมผัสความเก่าแก่ของท่าเรืออยู่มีอายุอยู่มายาวนาน ผ่านสงครามโลกมาแล้วสองครั้งเลยนะ ที่สำคัญเขาทำบรรยากาศดีมาก มีเครื่องเล่นริมทะเลบนท่าเรือเลย มีชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน ร้านอาหาร ร้านขายของ เป็นที่เที่ยวอังกฤษอีกที่ที่มีสีสันน่าสนุกเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : รอบท่าเรือเข้าชมได้ฟรี หากต้องการเล่นเครื่องบัตรไม่จำกัดจำนวนครั้งราคา 13 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 16:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลง Brighton จากนั้นต่อรถบัสสาย 77 ไปลงที่ Palace Pier ได้เลย
40. บ้านเกิดของเชคสเปียร์ ( Shakespeare’ s Birthplace ) – Stratford-upon-Avon

ไปดูที่เที่ยวอังกฤษ นอกลอนดอนกันบ้าง พาไปเที่ยวบ้านเกิดของเชคสเปียร์นักเขียนบทละครและกวีชื่อดังของโลกเจ้าของผลงานชื่อดัง Romeo & Juilet เขาเกิดและเติบโตที่เมือง Stratford Upon Avon จากนั้นเขาก็ไปประสบความสำเร็จจากการเป็นนักแสดงในกรุงลอนดอนนั่นเอง ซึ่งไฮไลต์ก็อยู่ที่บ้านพักหลังที่เขาเกิดนี่แหละ กลายเป็นจุดท่องเที่ยวตอนนี้ เป็นบ้านกึ่งปูนกึ่งไม้ ออกแบบในสไตล์ทิวดอร์ มี 2 ชั้น ด้านในมีห้องทำงาน ห้องนอน ห้องครัว ฯลฯ ด้านในก็จัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้เหมือนเดิมทุกอย่าง ใครอยากตามรอยเชคสเปียร์มาได้เลย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 20 GBP / เด็ก 10 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 17:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Avanti West Coast ลงที่ Coventry [COV] จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ West Midlands Trains ลงที่ Leamington Spa จากนั้นเปลี่ยนรถไฟอีกครั้งขึ้น Chiltern Railways ไปลงที่ Stratford-upon-Avon
41. ตึกแบล็กพลู ( Blackpool Tower ) – Irish

เมืองติดชายทะเลแห่งนี้เป็นฉายาว่า Vegas of England บอกก่อนว่าเมืองนี้ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนยุคไปยุค 90 นะ มีความแบบตู้เกมหยอดเหรียญตู้บิงโกอะไรแบบนี้ แต่ที่เป็นไฮไลต์เลยคือตึกแบล็กพลู มี Blackpool Tower Eye อยู่ชั้นบนสุด เป็นโซนกระจกใสแจ๋วท้าทายความหวาดเสียว กระจกใสตั้งแต่เพดานถึงพื้นเลย สามารถมองวิวได้แบบเต็มตาพร้อมขาสั่นไปในเวลาเดียวกัน ใครอยากวัดใจชมวิวทะเลบนกระจกใสแบบนี้มาเลย นอกจากนี้ข้างในก็มีกิจกรรมเยอะทั้งบริการ Aternoon Tea,THE BLACKPOOL TOWER CIRCUS โชว์ต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นเมืองพักผ่อนอีกหนึ่งเมืองเลย
ค่าเข้าชม : แล้วแต่โซนเริ่มที่ 9 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 16:30 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟ Avanti West Coast ไปลง Preston เปลี่ยนรถไฟสาย northern ไปลงสถานี Blackpool North
42. พิพิธภัณฑ์แมนเชสเตอร์ ( Manchester Museum ) – Manchester

พิพิธภัณฑ์ที่อยู่ใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์ ที่นี่เป็นเเหล่งรวบรวมเเละจัดเเสดงวัตถุโบราณจำนวนมากมายซึ่งแต่ก่อนที่นี่น่ะเป็นแค่เพียงที่เก็บสะสมของเก่าส่วนตัวของเศรษฐีคนหนึ่งช่วงศตวรรษที่ 19 ก่อนที่เขาจะบริจาคของทั้งหมดให้เข้ามาอยู่ในความดูเเลของสมาคมประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งแมนเชสเตอร์จนมาเป็นพิพิธภัณฑ์นั่นเอง ที่นี่มีทั้งฟอสซิลโบราณที่ขุดเจอร์ในเมืองนี้ วัตถุโบราณของอียิปต์ มัมมี่ และอื่น ๆ อีกมากมายที่มาจากทั่วโลกเลยล่ะ มาเที่ยวอังกฤษ อย่าลืมแวะมานะ เข้าฟรีด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 17.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Avanti West Coast ไปลงที่สถานี Manchester Piccadilly ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วเดินต่อประมาณ 20 นาทีจะเจอพิพิธภัณฑ์
43. สตูดิโอถ่ายทำแฮร์รี่พอตเตอร์ ( Harry Potter Warner Bros Studio Tour ) – London

มาอังกฤษนะบอกเลยหนีไม่พ้นแฮร์รี่พอตเตอร์หรอก หนังเวทมนตร์ชื่อดังระดับโลกที่ไม่ว่าผ่านไปเท่าไหร่ก็ยังครองใจแฟน ๆ ได้อยู่เสมอ ใครเป็นชาวพอตเตอร์เฮดมา เที่ยวอังกฤษ ครั้งนี้ สานฝันโลกเวทมนตร์กันหน่อยดีกว่า ที่นี่จะเป็นสถานที่ถ่ายทำบางส่วนของหนังตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคสุดท้ายเลย รวมสตูหลาย ๆ ฉากไว้ในที่เดียวกัน ทั้งพร็อพถ่ายสุดคุ้นตา เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ ที่เห็นจนจำได้เลยก็จะมี ฉากห้องนอนใต้บันไดของแฮร์รี่,ห้องโถงใหญ่ฮอกวอตส์,ห้องนั่งเล่นรวมกริฟฟินดอร์,Platform 9¾ และอีกมากมาย
ค่าเข้าชม : คนละ 51.50 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 09:30 – 16:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Watford Junction จากนั้นต่อรถบัสสาย 20 ไปลงที่ป้าย Ashfields แล้วเดินต่อประมาณ 7 นาที
44. อัสตัน ทาวเวอร์ รีสอร์ท ( Alton Towers Resort ) – Staffordshire

สวนสนุกเก่าแก่ของอังกฤษเปิดมาตั้งแต่ปี 1860 แต่ตอนนั้นเน้นจัดแสดงดอกไม้และสวนมากกว่า เปิดสวนสนุกจริงจังแบบมีเครื่องเล่นก็อีก 1980 นี่แหละ เกือบสี่สิบแล้วนะ ที่จริงสวนสนุกที่นี่ใหญ่ติดอันดับต้น ๆ ของอังกฤษเลยแต่อาจจะไม่ดังเท่าที่อื่นเพราะเขาไม่ได้มีตัวการ์ตูนดังนั่นเอง ที่นี่จะแบ่งเป็น 2 สวน คือ Alton Towers Theme Park กว้างมากมีเครื่องเบสิคทั่วไปอย่างรถไฟเหาะ ไวกิ๊ง ตะลุยอวกาศ ฯลฯ กับอีกโซนคือ Waterpark เป็นสวนน้ำในร่ม แต่ก็มีโซนกลางแจ้งอยู่นิดหน่อยด้วย ใครหาที่เที่ยวอังกฤษอยู่ลองมาสัมผัสบรรยากาศสวนสนุกเก่าแก่ของอังกฤษได้
ค่าเข้าชม : ตั๋วแบบ 1 วัน ผู้ใหญ่ 36 GBP / เด็กต่ำกว่า 3 ปี เข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 17:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Uttoxeter เป็นสถานีที่ใกล้สวนสนุกมากที่สุด จากนั้นสามารถต่อแท็กซี่มาได้อีกประมาณ 20 นาที
45. สวนประติมากรรมยอร์คเชียร์ ( Yorkshire Sculpture Park ) – Yorkshire

เป็นที่โล่งกว้างแบบเปิดที่จะมีงานประติมากรรมแสดงไว้จุดต่าง ๆ จะมีทั้งงานที่จัดแสดงประจำและแบบหมุนเวียนซึ่งส่วนมากจะเป็นศิลปะแบบสมัยใหม่และร่วมสมัย โซนในร่มก็มีนะ จะเป็นงานแสดงของชิ้นเล็ก ๆ ในตู้โชว์ ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ช่วงนี้ก็จะมีงานศิลปะที่น่าสนใจอย่าง Damien Hirst,Andi Walker: Stitched Stories,ภาพวาด Simon Palmer: Observation of Landscape และ Leonardo Drew เป็นต้น เป็นที่เที่ยวอังกฤษของคนชอบงานอาร์ตอีกหนึ่งที่
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 17:00 น.
วิธีเดินทาง : จากสถานีรถไฟ King’s Cross St. Pancras ให้นั่งรถไฟ LNER ไปลงที่ Wakefield Westgate แล้วต่อรถบัส 231 ไปลง Black Bull Stocksmoor Road จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อไป Yorkshire Sculpture Park อีก 40 นาที
46. สนามฟุตบอลและพิพิธภัณฑ์ของทีมฟุตบอลลิเวอร์พูล ( Liverpool Football Club Museum and Stadium ) – Liverpool

มาอังกฤษขาดไม่ได้อีกอย่างก็เรื่องฟุตบอลเนอะ คราวนี้เอาใจแฟนหงส์ มาเที่ยวอังกฤษห้ามพลาดไปทัวร์สนามฟุตบอลและพิพิธภัณฑ์ของทีมฟุตบอลลิเวอร์พูลเด็ดขาดเราต้องไปถึงถิ่น! แน่นอนว่าที่นี่ก็จะมีสนามฟุตบอลแอนฟิลด์ใช้มาตั้งแต่ปี 1884 ซึ่งก็มีนักบอลในตำนานชื่อดังแวะเวียนมาใช้สนามนี้เหมือนกัน ส่วนพิพิธภัณฑ์จะอยู่ใต้อัฒจันทร์ Spion Kop ข้างในก็จะมีจัดแสดงชุดฟุตบอลตั้งแต่ยุคแรก ๆ ถ้วยรางวัลต่าง ๆ ใครเป็นแฟนลิเวอร์พูลก็ถือว่าเป็นที่เที่ยวอังกฤษที่ต้องมาให้ได้เลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 125 GBP / เด็ก 60 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 17:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Avanti West Coast ไปลงที่ Liverpool Lime Street จากนั้นต่อรถบัสสาย 17 ลงที่ป้าย Liverpool FC ได้เลย
47. โรงกลั่นเหล้าบอมเบย์แซฟไฟร์ ( The Bombay Sapphire Distillery ) – Hampshire

ที่เที่ยวอังกฤษที่ต่อมาไปดูโรงกลั่นเหล้ายี่ห้อดังอย่าง Bombay Sapphire เป็นเหล้าจินที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1986 ปัจจุบันนี้เขามีทัวร์โรงกลั่นเหล้าพร้อมไกด์อธิบายเกี่ยวกับความเป็นมาให้ฟังด้วย เข้ามาก็จะเห็นโรงเรือนกระจกก็เลยซึ่งในโรงเรือนจะมีไม้หายาก 10 ชนิดที่เป็นส่วนผสมในเหล้าของเขานั่นเอง แล้วก็มีโซนจัดแสดงการกลั่นได้เห็นเครื่องมืออุปกรณ์มากมายกว่าจะออกมาเป็นเหล้าอย่างดีให้เราได้แต่ละขวด นอกจากนี้ยังมีจุดขายของที่ระลึกทั้งเหล้า พวกกุญแจ อุปกรณ์บาร์ต่าง ๆ
ค่าเข้าชม : คนละ 17.50 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 18:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่ Woking จากนั้นเปลี่ยนสายรถไฟไปนั่ง South Western Railway ลงที่ Basingstoke แล้วต่อรถบัสสาย 76 ไปลงที่ป้าย Laverstoke Mill เดินต่อ 2 นาที
48. สะพานหอคอยแห่งลอนดอน ( Tower Bridge ) – London

สัญลักษณ์ของกรุงลอนดอนที่ไม่ว่าใครก็ต้องแวะมาถ่ายรูปเช็คอิน เป็นสะพานยกและสะพานแขวนอยู่รวมกันและมี 2 หอคอยอยู่ตรงกลาง สะพานนี้ใช้ข้ามแม่น้ำเทมส์ใช้เวลาสร้างนานกว่า 8 ปี เปิดใช้ครั้งแรกที่ 1894 หอคอยเป็นงานสถาปัตยกรรมแบบกอธิคคือมีความเป็นอังกฤษแบบสุด ๆ สวยงามมาก นอกจากนี้ก็เป็นจุดชมวิวแม่น้ำเทมส์และเป็นจุดที่มองเห็นนาฬิกาบิ๊กเบนได้ชัดเจนอีกด้วย เป็นที่เที่ยวอังกฤษแลนด์มาร์คตลอดกาลของลอนดอนเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ด้านนอกไม่มีค่าเข้า ด้านในหอคอย ผู้ใหญ่ 6 GBP / เด็ก 4.25 GBP
เวลาเปิด-ปิด : ด้านนอกเปิดตลอดเวลา ด้านใน 10.00 – 17.30 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Tower Hill จากนั้นเดินต่ออีกนิดก็จะเจอกับสะพานทาวเวอร์บริดจ์
49. ชิงช้าสวรรค์ใหญ่และสูงที่สุดในยุโรป ( London Eye ) – London

ที่เที่ยวลอนดอนอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของลอนดอนเป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในยุโรปแถมยังเคยสูงที่สุดในโลกมาก่อนด้วยนะ สูง 443 ฟุต ติดริมแม่น้ำเทมส์ เปิดตั้งแต่ปี 2000 วิวข้างบนเราได้เห็นลอนดอนมุมกว้างเห็นสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั้ง Big Ben, The Tower Bridge, St. Paul’ s Cathedral, The River Thames ฯลฯ กระเช้าสามารถจุคนได้ 25 คน ใช้เวลาหมุน 30 นาทีต่อรอบ เป็นที่เที่ยวอังกฤษที่ต้องเก็บให้ครบ
ค่าเข้าชม : คนละ 30.50 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 11:00 น. – 18:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน Underground Tube ลงสถานี Westminster หรือสถานี Embankment
50. พิพิธภัณฑ์การบินและอวกาศ ( Aerospace Bristol ) – Bristol

ปิดท้ายที่เที่ยวอังกฤษกันที่ พิพิธภัณฑ์การบินและอวกาศ Aerospace Bristol ที่นี่จะรวบรวมความสำเร็จเกี่ยวกับด้านการบินและเทคโนโลยีอวกาศ มีเครื่องบิน Concorde Alpha Foxtrot ซึ่งเป็นเครื่องบินไอพ่นความเร็วเหนือเสียงลำสุดท้ายให้เราได้ขึ้นไปเหยียบจริง ๆ ด้วยนะ นอกจากนี้ยังมี เฮลิคอปเตอร์ มิสไซล์ ดาวเทียม เครื่องยนต์ต่าง ๆ ไฮไลต์ที่น่าตื่นเต้นคือเราจะมีโอกาสได้ขึ้นเครื่องบินที่เร็วที่สุดในโลก ได้เข้าห้องนักบิน ฯลฯ นอกจากนี้จะมีงานศิลปะที่เกี่ยวกับอวกาศหมุนเวียนเรื่อย ๆ อีกด้วย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 19.50 GBP / เด็ก 12 GBP
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 16:30 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลง Bristol Parkway แล้วต่อรถ m4 metrobus ไปลงที่ Titan Road จากนั้นเดินต่ออีก 1 ไมล์
เที่ยวอังกฤษด้วย YouTrip ประหยัดกว่า

ไปเที่ยวอังกฤษด้วย YouTrip ถูกกว่าสุด ๆ สมมุติตั้งงบเที่ยวอังกฤษ 1,400 GBP ไปที่ร้านแลกเงิน เป็นเงินทั้งสิ้น 60,000 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะเป็นเงิน 61,806 บาท แต่ถ้าจ่ายด้วย YouTrip จะเหลือ 59,900 บาท ประหยัดได้ถึง 1,906 บาท เลยแหน่ะ เพราะ YouTrip ให้เรทที่ดีและไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่าย เริ่ดมาก

เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย
สุดยอดไปเลยกับ 50 ที่เที่ยวปัง ๆ ในอังกฤษ มีครบตั้งแต่ที่เที่ยวธรรมชาติ มรดกโลก ที่เที่ยวแลนด์มาร์ค พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ เรียกได้ว่าอังกฤษเป็นประเทศที่คุ้มค่าแก่การไปเที่ยวจริง ๆ มีโอกาสไปสักครั้งอย่าลืมเก็บที่เที่ยวฮิต ๆ ให้หมดนะ แต่ให้ดีต้องหยิบ YouTrip ไปด้วย เพราะ YouTrip ใช้จ่าย เรทดี ทุกที่ทั่วโลก สมัครไว้เลยทริปนี้ประหยัดมากขึ้นแน่นอน
