ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน Travel Card กำลังเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวหรือนักช้อปปิ้ง ใครอยากรู้ว่า Travel Card คืออะไร ควรใช้ยังไงให้คุ้มค่ามากที่สุด บทความนี้ YouTrip มีคำแนะนำดี ๆ มาบอกต่อทุกคนกันแล้ว
Travel Card คืออะไร ?
คำถามแรกที่หลายคนยังสงสัยว่า Travel Card คืออะไร ? Travel Card คือ บัตรประเภทหนึ่งที่เหมาะสำหรับใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศ สามารถแลกเงินได้ด้วยเอง (เติมเงินสกุลใดก็ได้เข้าไปแล้วแลกเป็นสกุลเงินต่างประเทศที่จะใช้) หรือแลกตัดเรทอัตโนมัติ (เติมเงินสกุลใดก็ได้เอาไว้ในบัตรเมื่อมีการใช้จ่ายต่างสกุลเงินระบบของบัตรจะแลกให้ทันที) จุดเด่นหลักของบัตร Travel Card ผู้ใช้งานจะเรทดีกว่าบัตรเครดิต ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% จึงทำให้จ่ายถูกกว่า เทียบเท่าการแลกเงินจากร้านค้าถูก ๆ อย่าง Super Rich เลยล่ะ จึงไม่ต้องพกเงินสดเยอะ เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยวและใช้จ่ายออนไลน์ในยุคปัจจุบันอย่างมาก
Travel Card มีกี่แบบ ?
เมื่อรู้จักกันแล้วว่า Travel Card คืออะไร นอกจากนี้ Travel Card ยังแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
1. Travel Card แบบเติมเงิน
Travel Card แบบเติมเงิน คือ รูปแบบ Travel Card ที่ต้องทำการเติมเงินจากบัญชีธนาคารของผู้ใช้เข้าไปยังบัตรของตนเอง มีข้อดีในเรื่องการคุมงบค่าใช้จ่ายเองได้ แต่ละเดือนตั้งใจไว้ว่าอยากใช้เงินเท่าไร ก็เติมเงินเข้าไปไว้เท่านั้น ไม่กระเทือนกับเงินเก็บแน่นอน เที่ยว ช้อป ได้สบายใจ
2. Travel Card แบบตัดจากบัญชี
Travel Card แบบตัดจากบัญชี คือ รูปแบบ Travel Card ที่มีการผูกเอาไว้กับบัญชีเงินฝากธนาคาร (ส่วนใหญ่เป็นการผูกกับธนาคารเจ้าของบัตร) เมื่อมีการใช้เงินซื้อสินค้า / บริการ หรือกดเงินจากตู้ ATM เงินในบัญชีที่คุณผูกไว้จะถูกตัดออก (กรณีใช้ในต่างประเทศเมื่อเงินถูกตัดจากบัญชีแล้วจะถูกแปลงเป็นสกุลเงินนั้น ๆ อัตโนมัติทันที) มีข้อดีเรื่องความสะดวก ไม่ต้องวุ่นวายกับการเติมเงินเข้าบัตร
Travel Travel Card ใช้ยังไง ?
คำถามต่อมาที่หลายคนยังสงสัยนั่นคือ Travel Card ใช้ยังไง? บอกเลยว่าขั้นตอนการใช้งานไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ลองทำตามนี้เลย
1. ให้เติมเงินเข้าไปในบัตร (แบบเติมเงิน) หรือต้องมีเงินในบัญชีที่ผูกเอาไว้ (แบบตัดจากบัญชี)
2. จะแลกเงินผ่านแอปหรือไม่แลกก็ตามสะดวก (บางธนาคารแลกเป็นสกุลเงินอื่นไม่ได้แต่สามารถใช้จ่ายได้โดยจะมีการแลกเปลี่ยนอัตโนมัติ ณ วันที่มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น)
3. นำ Travel Card ใช้จ่ายตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น
การใช้จ่ายในประเทศไทย
นอกจากข้อสงสัยเรื่อง Travel Card ใช้ยังไง ก็ยังมีคำถามเพิ่มเติมอีกว่าบัตรตัวนี้สามารถใช้ในเมืองไทยได้หรือไม่? คำตอบคือ สามารถใช้ Travel Card จ่ายได้ทุกร้านค้าในไทยที่รับบัตร จึงสะดวกและตอบโจทย์สำหรับการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนอย่างมาก ทั้งการซื้อของในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ไปจนถึง 7-11 หรือแม้แต่การขึ้นรถไฟฟ้า MRT ก็ทำได้ นอกจากนี้ยังสามารถช้อปออนไลน์ทั้งเว็บของไทย เว็บนอก การสั่งอาหารเดลิเวอรีก็ได้หมด และยังรับโปรโมชันดี ๆ อีกมากมาย
การใช้จ่าย Travel Card ในต่างประเทศ
หากบอกว่านี่คือจุดเด่นสำคัญของ Travel Card คงไม่ผิดเท่าไหร่นักโดยเฉพาะสายเที่ยวที่ชอบเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ รวมถึงใครที่ต้องใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก เช่น ไปเรียนต่อ ไปทำงาน หรือไปอยู่อาศัยแต่ยังมีรายรับหลักจากบัญชีในเมืองไทย เพราะคุณสามารถพกบัตรใบนี้ใช้จ่ายได้ทุกร้านค้าที่รับบัตรตามเครือข่าย เช่น Mastercard, Visa และอื่น ๆ ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตประจำวัน ซื้อของในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงการใช้งานกับระบบขนส่งทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ (บางประเทศที่รองรับการจ่ายเงินค่าเดินทางผ่านบัตร) และยังสามารถกดเงินสดออกมาเป็นสกุลเงินประเทศนั้น ๆ ได้ทันทีที่ตู้ ATM ในต่างประเทศ
4. เงินเหลือแลกเงินกลับเป็นสกุลเงินหลักของตัวเองได้โดยใช้เรท ณ วันที่ทำการแลกคืน
5. โอนเงินกลับบัญชีธนาคาร เท่านี้ก็เรียบร้อย
Travel Card ที่ดีต้องเป็นยังไง ?

ในช่วงหลายปีมานี้เมื่อคนไทยเริ่มรู้จักกันมากขึ้นว่า Travel Card คืออะไร ทำให้ธนาคารหลายแห่งออกบัตรดังกล่าวเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับผู้สนใจใช้งาน แต่คำถามคือ Travel Card ที่ดีต้องเป็นยังไง? ลองเช็กข้อมูลตามนี้ได้เลย
1. ต้องให้เรทที่ดี เพราะบางธนาคารมักให้เรทดีแค่เฉพาะบางช่วงที่มีการดั๊มเรทเป็นโปรโมชันจูงใจ แต่เมื่อเทียบภาพรวมแล้วกลับไม่ได้คุ้มค่าหากใช้ระยะยาว
2. ต้องไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% เพราะนี่ถือเป็นจุดเด่นของ Travel Card ที่เหนือกว่าบัตรเครดิตทั่วไป
3. สามารถกดเงินสดจากตู้ ATM ต่างประเทศฟรี (ฟรีค่าธรรมเนียมของธนาคารในไทย) เพราะปกติหากเป็นบัตรเครดิตจะเก็บค่าธรรมเนียมทั้ง 2 ฝั่ง
4. ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่งปกติแล้วจะขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละธนาคาร
5. สมัครฟรี (แล้วแต่โปรโมชั่นธนาคารเช่นกัน)
6. ต้องมีระบบความปลอดภัยที่ดี เนื่องจากปัจจุบันมิจฉาชีพมักจ้องจะโจรกรรมข้อมูลจากหลายวิธี ซึ่งตัวอย่างความปลอดภัยที่ตอบโจทย์ เช่น ในแอปพลิเคชันต้องสามารถล็อคการใช้งานบัตรได้ทันที การมี 3DS (3D Secure) ระบบป้องกันเพื่อยืนยันการใช้จ่ายก่อนอนุมัติ
7. มีโปรโมชั่นพิเศษอัปเดตให้กับผู้ใช้บัตรบ่อย ๆ โดยเฉพาะแคมเปญเงินคืนจากดีลท่องเที่ยว หรือการมีส่วนลดต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ
YouTrip คือ Travel Card อันดับ 1 ที่คนไทยไว้วางใจ 2025
YouTrip คว้า 2 รางวัลใหญ่จาก BrandAge นิตยสารธุรกิจชั้นนำของประเทศ
หากคุณกำลังมองหาชอยส์ว่าควรเลือกสมัคร บัตร Travel Card ธนาคารไหนดี? YouTrip บัตร Travel Card กสิกร คือตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งตอกย้ำในฐานะของการเป็นบัตร Travel Card ชั้นนำของเมืองไทยด้วย 2 รางวัลใหญ่จาก BrandAge นิตยสารธุรกิจชื่อดังของประเทศ ได้แก่
1. 2025 Thailand’ s Most Admired Brand หมวด Travel Card
2. Innovation Brand Award
พร้อมเป็นคำตอบของความสะดวกสบายสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ การันตีเรทดี ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% มีสกุลเงินมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และยังอัดแน่นด้วยแคมเปญสุดพิเศษอีกมากมาย
YouTrip แตกกต่างจากคู่แข่งอย่างไร
เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่กำลังวางแผนมองหา Travel Card สักใบ เมื่อรู้จักแล้วว่า Travel Card คืออะไร สิ่งที่ทำให้ YouTrip แตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ เพราะคุณสามารถใช้จ่ายได้มากกว่า 150 สกุลเงิน เรทดี ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ใช้งานง่ายมาก เพราะเป็นแอปที่แยกออกมาจากธนาคาร ไม่ต้องกลัวสับสน ส่วนวิธีใช้จะเลือกเติมเงินเข้าแอปแล้วแลกเป็นสกุลเงินต่างประเทศเก็บไว้ใช้ หรือจะใช้จ่ายโดยไม่ต้องแลก (แค่เติมเงินไทยเข้าไป) ก็ได้เรทดีเหมือนกันด้วยระบบ SmartExchange™ ล่าสุดยังมี Google Pay อีกด้วย นอกจากนี้ YouTrip ยังมีโปรโมชันกด ATM ต่างประเทศฟรีมาอย่างต่อเนื่อง มี YouTrip Perk มอบดีลส่วนลดและเงินคืนพิเศษจากพาร์ทเนอร์ แถมใส่ใจด้านความปลอดภัยระดับสูง 3DS ล็อกบัตรในแอปได้ทันที สมัครฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
ใช้ YouTrip อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด
อีกคำแนะนำดี ๆ ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถตัดสินใจเปิดบัตร YouTrip ได้ง่ายขึ้นนั่นคือเทคนิคการใช้งานให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด ลองทำตามกันได้เลย
1. แลกเงินในแอปตอนเรทดีเก็บเอาไว้
2. ซื้อหรือจองกิจกรรมผ่าน YouTrip Perk มอบดีลส่วนลดและเงินคืนพิเศษจากพาร์ทเนอร์ชื่อดัง แถมยังมี Upsized พิเศษ พร้อมแคมเปญเด็ดอีกเพียบด้วยนะ ต้องเขาไปดูบ่อย ๆ
3. นำไปใช้จ่ายได้ทุกที่ทั่วโลกแทนบัตรเครดิต เรทดี ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5%
4. เมื่อเที่ยวต่างประเทศและต้องการเงินสดก็ยังสามารถกด ATM ฟรีอีกด้วย
เที่ยวต่างประเทศด้วย YouTrip ถูกกว่ายังไง
สมมุติคุณวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยงบ 120,000 JPY หากแลกเงินกับร้านจะได้ 32,520 บาท จ่ายด้วยบัตรเครดิตอยู่ที่ 33,350 บาท แต่เมื่อจ่ายด้วย YouTrip เหลือเพียง 32,418 บาท ประหยัดถึง 932 บาท เพราะใช้ YouTrip เรทดี ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5%
นี่คือคำตอบทั้งหมดสำหรับข้อสงสัยทั้งเรื่อง Travel Card คืออะไร ใช้ยังไง รวมถึงคำแนะนำต่าง ๆ เพื่อความคุ้มค่า อย่าลืม! เพื่อความคุ้มค่าก่อนเดินทางและความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันทั้งไทยและต่างประเทศต้องสมัคร YouTrip ไว้ใช้จ่ายแบบสบายใจ ไม่เสียค่าธรรมเนียม 2.5% การันตี “เรทดี มั่นใจ ใช้ง่ายทั่วโลก” สมัครเลย คุ้มสุด ๆ
