ไปเที่ยวเกาหลีทั้งทีจะพลาดไปช้อปที่ ดิวตี้ฟรีเกาหลี ได้ไงเนอะ ที่เกาหลีมีดิวตี้ฟรีหลายห้างมาก ๆ แถมราคาถูกกว่าในชอปเยอะเลยด้วย ที่สำคัญของเยอะมาก ๆ ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ นาฬิกา เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง ขนม ของเล่น ฯลฯ มีครบทุกแบรนด์ทุกลิขสิทธิ์เลย วันนี้เลยรวบรวม ดิวตี้ฟรีเกาหลี มาให้หลาย ๆ ห้างเลย เอาใจนักช้อปกันหน่อย
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเราต้องไปหลายห้าง ช้อปที่สนามบินทีเดียวไม่ได้เหรอ คำตอบก็คือ ดิวตี้ฟรีที่เกาหลีราคาค่อนข้างถูกเวลาเลือกซื้อของอาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง การออกมาช้อปที่ดิวตี้ฟรีข้างนอกจึงสะดวกสบายกว่า แถมแต่ละห้างมีของไม่เหมือนกัน บางแบรนด์ก็อยู่อีกห้างหนึ่ง หรืออีกห้างหนึ่งก็มีโปรโมชั่นดีกว่าอะไรทำนองนี้ละ
มาดูกันว่า ดิวตี้ฟรีเกาหลี ของถูกและดีมีที่ไหนบ้าง
1. Lotte Duty Free (Main Store)

Lotte Duty Free สาขาหลักที่ Myeongdong คนเยอะตลอดเวลาเหมือนแจกฟรี แน่นอนว่าที่นี่ก็มีสินค้าปลอดภาษีมากมายให้เลือก แบรนด์ดังจากเมืองนอก แบรนด์เกาหลีเองก็มีครบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Chanel, Bottega Veneta, Gentle Monster หรือจะแบรนด์เกาหลีอย่าง Sulwhasso, 3CE, Etude House, innisfree ที่สำคัญที่นี้เขามี Line Friends Store ด้วยนะ ของเหมือนในชอปเขาทุกอย่างเลยแต่ที่นี้ราคาถูกกว่ามาก แถมที่นี้ก็มีโปรลดจุก ๆ บ่อยด้วย อย่างช่วงนี้ก็มีโปรลด 60% สำหรับเครื่องสำอาง หรือลด 80% สำหรับเครื่องประดับและนาฬิกาแบรนด์หรูล่ะ
เวลาเปิด-ปิด : 9.00 – 21.30 น.
การเดินทาง : รถไฟฟ้าสายสีเขียวลงสถานี Eujilro -1- ga ทางออกที่ 7 ขึ้นไป 2 ชั้นบนสุดของห้าง Lotte
2. Lotte Duty Free LOTTE World Tower Mall

ดิวตี้ฟรีเกาหลี ที่นี้ถือเป็นสถานที่ศูนย์กลางของเกาหลีเลยก็ว่าได้ นอกจากเราจะได้ซื้อสินค้าปลอดภาษีแล้วที่นี้ยังมีกิจกรรมให้ทำเพียบ เพราะว่า LOTTE World Tower มีทั้งหมด 123 ชั้นไปเลยจ้า โดยเขาจะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือ LOTTE WORLD TOWER ชั้น 117-123 เป็นหอสังเกตการณ์ที่สูงที่สุดติด 1 ใน 3 ของโลก ชั้น 16-101 โรงแรม SIGNIEL SEOUL ชั้น B1-12 เป็นลานอเนกประสงค์ ไว้จัดพวกอีเวนท์ งานแจกลายเซ็นศิลปินไรงี้ ส่วนอีกโซนก็คือ LOTTE WORLD MALL เป็นห้างสรรพสินค้าทั้งหมด เป็นโซนแยกเป็นโซนขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โซนร้านอาหาร โรงหนัง พิพิธภัฑ์สัตว์น้ำ และสินค้าดิวตี้ฟรีอยู่ชั้น 8-9 เป็นดิวตี้ฟรีที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีและใหญ่ติด 1 ใน 3 ของโลกเลย
เวลาเปิด-ปิด : 9.00 – 21.30 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 สถานี Jamsil Station ทางออก 1 หรือ 2 หรือ รถไฟใต้ดินสาย 8 สถานี Jamsil Station ทางออก 10 หรือ 11
3. Lotte Duty Free COEX Store

Lotte Duty Free สาขาที่ Coex Mall ที่นี่ไม่ค่อยต่างจาก Lotte Duty Free สาขาอื่นเท่าไหร่ แต่จะมีแบรนด์เฉพาะอย่าง The North Face หรือว่าโสมเกาหลีที่ได้การรับรองจากรัฐบาลก็มีจำหน่ายที่นี่เหมือนกัน แต่ไฮไลท์อยู่ที่สถานที่เที่ยวหลังช้อปเสร็จ ใครเป็นติ่ง SM Town ห้ามพลาด ต้องมาที่ SM TOWN (SUM) @COEX Artium ต่อเลยจ้า เดินมาได้ไม่ไกล ข้างในก็มีคาเฟ่ ร้านอาหาร รวมของที่ระลึกสำหรับแฟนคลับค่าย SM ทั้งหลาย TVXQ, Super Junior, SHINEE, EXO, SNSD,Red Velvet, aespa ฯลฯ ใครมาเที่ยวเกาหลีเพื่อมาติ่งก็แวะช้อปดิวตี้ฟรีกลับด้วยนะ มันคุ้มมม
เวลาเปิด-ปิด : อังคาร-เสาร์ 09.30 – 17.30 น.
การเดินทาง : ลงสถานี Samseong (ซัมซอง) รถไฟใต้ดินสาย 2 ทางออกที่ 5
4. Lotte Duty Free Busan Store

ที่สาขาปูซานตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลยในส่วนของ Duty Free จะอยู่ที่ชั้น 7-8 มีแบรนด์หรูให้เลือกช้อปเพียบ เช่น HERMES, CARTIER, GUCCI และ BURBERRY นอกจากนี้ยังมีโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร หลังจากช้อปเสร็จก็อย่าลืมแวะเที่ยวชายหาดชายทะเลที่ปูซานหน่อยนะ เพราะปูซานเป็นเมืองติดทะเล แหล่งทะเที่ยวติดทะเลเพียบ เช่น หาดแฮอึนแด, ตลาดปลาจากัลชี, Samnak Ecological Park
เวลาเปิด-ปิด : อังคาร-เสาร์ 09.30 – 17.30 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย1,2 ลงสถานี Seom yeon ใช้ทางออก 3
5. Lotte Duty Free Jeju Store

ไปปูซานแล้วมาเกาะเซจูกันบ้างงง เกาะเซจูจะอยู่ทางใต้ของเกาหลี อากาศดีมากไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป ชิว ๆ ประมาณ 15 องศา เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเลือกมากันมากที่สุด และแน่นอนนักท่องเที่ยวอย่างเรา แม้ลงใต้มาก็ช้อปดิวตี้ฟรีเกาหลีได้เหมือนกัน Lotte Duty Free Jeju Stor จะอยู่ที่ชั้น 1-4 มีแบรนด์ดังอย่าง C.DIOR, BVLGARI และ TIFFANY เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในเซจูเลย ที่เซจูมีที่เที่ยวฮิตให้แวะไปเยอะ เช่น ยอดเขาซองซาน อิลชูลบง ที่นี่จะสวยที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะเป็นช่วงที่ดอกคาโนลาบานสะพรั่งทั่วยอดเขา วิวสวยแบบสุดยอดไปเลยล่ะ
เวลาเปิด-ปิด : จันทร์-ศุกร์ 09.30 – 17.30 น.
การเดินทาง : จากสนามบินสามารถนั่งรถบัสเบอร์ 500 ลงสถานี Grace Hotel
6. Shinsegae Duty Free

กลับมาโซลกันบ้าง Shinsegae Duty Free คือห้างเก่าที่ปรับปรุงใหม่ อยู่ห้างจาก Lotte Duty Free (Main Store) แค่ 500 เมตรเอง ใครไปสาขาหลักแล้วได้ของไม่ครบมาแวะที่ Shinsegae ต่อได้เลย ที่นี่จะโดดเด่ดเรื่องเครื่องสำอางนะ เป็นเครื่องสำอางค์แบบ Duty Free ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีเลยแหละ มีทั้งหมด 15 ชั้น แต่โซน Duty Free จะอยู่ที่เฉพาะชั้น 8-12 เท่านั้นจ้า นอกจากนี้ยังเป็นที่จัดงานแสดงศิลปะด้วย และยังเป็นจุดถ่ายทำซีรีย์หลายเรื่องเช่น The legend of Blue Sea และ Goblin ด้วยนะ
เวลาเปิด-ปิด : 10.30 – 20.30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี Centum city
7. Doota Duty Free

ห้างที่เคยมีจุงกิเป็นพรีเซ็นเตอร์ทั้งห้างเลย แบบทั้งห้างจริง ๆ มาทั้งชั้น จัดเป็นโซนเลย จุดเด่นของที่นี้คือเครื่องสำอางเช่นกัน แถมในบางฤดูกาลที่นี่ราคาถูกที่สุดในบรรดาห้าง Duty Free เลยนะ แถมเหล่านักช้อปยังรีวิวไว้ว่าที่ห้างที่ของเยอะที่สุดด้วย แบบว่าตามหาตัวไหนก็มีครบ แถมคนไม่เยอะ เดินสะดวกไม่วุ่นวายเหมือน Duty Free ที่อื่นที่คนมักจะต่อแถวยาวเหยียดรอซื้อของกัน แถมเรายังสามารถนำใบเสร็จไปแลกรับ gift voucher หรือของแถมเพิ่มได้ด้วยนะ
เวลาเปิด-ปิด : 10.30 – 20.30 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 5 สถานี Gwanghwamun ทางออก 6 หรือรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2,1 สถานี Cityhall ทางออก 3
8. Dongwha Duty Free

ดิวตี้ฟรีเกาหลี ที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังกว่า 250 รายการ เช่น Chanel, Gucci, Louis Vuitton, Hermes และสินค้าแบรนด์เกาหลีชื่อดังอย่าง MCM ด้วย มีสินค้าทุกประเภทให้เลือกซื้อเลยไม่ว่าจะเป็น น้ำหอม กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องสำอาง สินค้าแฟชั่นต่าง ๆ และมีเอกลักษณ์อีกอย่างก็คือเขามีผลิตภัณฑ์งานพื้นบ้านทั้งแบรนด์เกาหลีและจากทั่วโลกจำหน่ายด้วยล่ะ แถมที่นี้ยังใกล้กับ จตุรัสควางฮวามุน ที่เที่ยวชื่อดังของเกาหลีและเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีย์เกาหลีหลายเรื่องเลย ใครมาเที่ยวเกาหลีก็แวะมาช้อปของพื้นบ้านเกาหลีในราคาประหยัดที่นี่ได้นะ
เวลาเปิด-ปิด : 09.30-18.30 น.
การเดินทาง : เบอร์ 46 ลงสถานี Jaewon, รถบัสสีน้ำเงิน เบอร์ 502, 100, 92, 500 ลงสถานี Jaewon, รถบัสสีแดง ลงที่สถานี Halla
9. The Shilla Duty Free

ศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นแบบดิวตี้ฟรี ใครชอบสินค้าที่ออกตามเทศกาลแฟชั่นวีคต่าง ๆ ต้องมาที่ The Shilla Duty Free เลย มีสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำราคาถูกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Prada, Chanel, Gucci ฯลฯ นอกจากช้อปปิ้งสินค้าดิวตี้ฟรีแล้วยังมีโซน Rooftop ที่ชั้นสองให้นั่งจิบกาแฟพอหายเหนื่อยด้วย เหมือนเป็นคาเฟ่เล็ก ๆ มีกาแฟ มีขนม ให้เลือกชิม ถ่ายรูปก็สวยด้วยนะ แถมที่จอดรถฟรีและมีส่วนลดค่าแท็กซี่ให้ลูกค้าทุกคนที่เช้ามาซื้อสินค้าดิวตี้ฟรีเลยล่ะ คุ้มมาก
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 18.30 น.
การเดินทาง :
ซื้อของดิวตี้ฟรีเกาหลีด้วย YouTrip ถูกกว่า

อย่างที่รู้กันว่าสินค้าดิวตี้ฟรีคือสินค้าปลอดภาษี ราคาถูก และสินค้าคุณภาพดีเยี่ยม แต่เพื่อให้การช้อปปิ้งดิวตี้ฟรีเกาหลีได้ราคาที่ถูกลงไปอีก อย่าลืมใช้บัตร YouTrip ในการซื้อของ ได้เรทที่ถูกกว่า เช่น ต้องการซื้อ TAG HEUER CARRERA(FOR MEN) WAR201E.BA0723 ราคา 2,700 USD หากกลับมาซื้อที่ไทยต้องจ่ายในราคา 107,500 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 93,846 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนมาจ่ายด้วยบัตร YouTrip จะได้ในราคาเพียง 92,934 บาท ประหยัดไปถึง 14,566 บาท เลยทีเดียว ส่วนต่างที่ไปสมทบเป็นค่าช้อปปิ้งอย่างอื่นได้อีกเยอะเลยนะ
จะเห็นได้ว่าที่เกาหลีมีห้างดิวตี้ฟรีเยอะมาก ๆ เลย แต่ละห้างก็มีจุดเด่นต่างกันออกไปหรือตั้งอยู่ใกล้กับจุดท่องเที่ยวสำคัญเพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวอยากมาซื้อของ ดิวตี้ฟรีเกาหลี มากขึ้น เล็งของชิ้นไหนไว้อย่าลืมเปรียบเทียบราคาหลาย ๆ ห้างไว้ก่อนนะ จะได้ในราคาที่ดีที่สุด และอย่าลืมพกบัตร YouTrip ไปเที่ยวเกาหลีด้วย ช้อปดิวตี้ฟรีได้อย่างสบายใจเพราะไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% แถมได้เรทที่ถูกกว่าปกติด้วยนะ พกไว้ทั้งอุ่นใจ ทั้งคุ้ม สมัครเลย ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
