อันยองจ้า ทักทายกันด้วยภาษาเกาหลีขนาดนี้ต้องไปเกาหลีแล้วไหม ถ้าหากพูดถึงประเทศเกาหลีแล้วล่ะก็ เรียกได้ว่ามักจะติดอันดับประเทศที่น่าท่องเที่ยวและคนที่นิยมเดินทางมาเที่ยวกันมากที่สุดแห่งหนึ่งในแถบเอเชียอยู่เสมอ ๆ ยิ่งกับคนไทยเราก็คือเหมือนบ้านหลังที่ 2 ฮ่า ๆ โดยเฉพาะกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้เป็นจุดแลนด์มาร์คในการมาเยือนเกาหลี คาเฟ่ดี อากาศดี อาหารอร่อย แฟชั่นเริ่ด ที่เที่ยวเพียบ เดินทางไม่ยาก เรียกได้ว่าประเทศเกาหลีเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมมากมายทั้งอาหาร แฟชั่น ศิลปิน อุตสาหกรรมซีรีส์แผ่กระจายไปทั่วโลกได้เลย โดยเฉพาะที่เที่ยวมากมายทั่วโซลเป็นหนึ่งในอิทธิพลที่ทำให้คนแห่มาเที่ยวเกาหลีนั่นเอง วันนี้ YouTrip เลยจะขอเป็นไกด์พาดู 50 ที่เที่ยวเกาหลี ในโซล และบริเวณใกล้ ๆ เมือง เดี๋ยวมาเที่ยวไปพร้อมกันเลยนะ
เที่ยวเกาหลีช่วงไหนดี ?
พูดตามตรงคือแล้วแต่คนจะชอบเลยจริง ๆ บางคนอยากเจอหิมะก็เลือกหน้าหนาว บางคนชอบเที่ยวแบบคนไม่เยอะก็เลือกหน้าร้อน เดี๋ยวอธิบายให้ฟังว่าแต่ละฤดูกาลในเกาหลีเป็นยังไงบ้าง
ฤดูใบไม้ผลิ ต้นเดือนมีนาคม – พฤษภาคม : เหมาะกับคนอยากดูดอกไม้ อากาศดีเย็นสบาย ไม่หนาวเกินประมาณ 6-16 องศา มีดอกซากุระเกาหลีหรือพ็อดกดบานสุด ๆ ช่วงเมษายนเกาหลีนี่แทบจะกลายเป็นสีชมพูของดอกไม้เลยล่ะ
ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน – ต้นเดือนกันยายน : ร้อนเหมือนอยู่ไทยประมาณ 22 – 38 องศา มีฝนเล็กน้อย โดยเฉพาะสิงหาคมเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของปี แต่ข้อดีคือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะถูกลง เช่น ห้องพัก ตั๋วเดินทาง ราคาทัวร์อะไรพวกนี้ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนงบน้อย อีกอย่างแม้จะร้อนแต่แดดแรง ๆ แบบนี้ถ่ายรูปสวยมากนะ
ฤดูใบไม้ร่วง ปลายเดือนกันยายน – พฤศจิกายน : ฤดูกาลสุดฮิตของนักท่องเที่ยว คนจะเริ่มมาเกาหลีเยอะตั้งแต่ช่วงนี้แหละ สดชื่น เย็นสบายประมาณ 10 – 20 องศา ได้ดูไม้เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ส้ม แดง กลายเป็นเกาหลีที่อบอุ่นไปเลย
ฤดูหนาว เดือนธันวาคม – กลางเดือนมีนาคม : อยากได้ฟีลซีรีส์เกาหลีต้องมาหน้าหนาวจัดไปที่ -5 ถึง 20 องศา ได้แต่งตัวหน้าหนาวแบบสมใจแน่นอน เสื้อโค้ท ฮีทเทคต่าง ๆ อย่าได้ขาดจ๊ะ มีหิมะ เป็นช่วงเวลาที่ลานสกีจะเปิดให้บริการด้วยนะใครอยากเล่นสกีมาหน้าหนาวเลย
การเดินทางในโซล
กรุงโซลเป็นเมืองที่มีระบบคมนาคมดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การเดินทางหลักเป็นจะเป็นรถไฟ มาดูกันว่านอกจากรถไฟแล้วมีขนส่งแบบไหนบ้าง
รถไฟและรถไฟใต้ดิน (Subway) : เป็นการเดินทางหลักของคนเมืองกรุงโซล ครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งโซลและใช้ง่าย ไว สะดวกกับนักท่องเที่ยวด้วย สามารถซื้อบัตร T-Money เพื่อใช้จ่ายค่าโดยสารได้ ราคาค่าโดยสารเริ่มที่ 1,250 KWR
รถบัส : รถบัสเองก็เป็นที่นิยมเหมือนกันรองลงมาจากรถไฟ เหมาะสำหรับเดินทางใกล้ ๆ ราคาถูกกว่ารถไฟด้วย ระบบรถบัสเกาหลีจะแบ่งตามตัวเลขและสี เดินรถคนละเส้นทางและค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน การจ่ายค่าโดยสารก็ใช้บัตร T-Money เหมือนเดิมได้เลย และสามารถโหลดแอพพลิเคชั่น Seoul Bus เพื่อดูข้อมูลรถบัสได้
แท็กซี่ : แท็กซี่เกาหลีมี 3 ประเภทคือ
- แบบธรรมดาคันสีส้มหรือเงิน เป็นแท็กซี่ทั่วไปนั่งได้ 4 คน ราคาถูกสุดเริ่มที่ 3,000 KRW
- แบบหรูคันสีดำคาดแทบสีทอง เป็นรถเก๋งคันใหญ่ นั่งได้ 8 คน ราคาเริ่มที่ 5,000 KRW
- แท็กซี่สีดำติดป้าย International คนขับจะพูดภาษาอังกฤษได้ รถเก๋งคันใหญ่สีดำคาดแทบสีทองติดป้าย International ราคาเริ่มที่ 3,600 KRW
รถไฟความเร็วสูง KTX : เชื่อมต่อไปยังเมืองอื่นทางตอนใต้ของเกาหลี ง่ายและเร็ว อย่างเช่นเดินทางไปปูซานใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง 20 นาที เท่านั้น วิ่งด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับ KTX มีเส้นทางดังนี้ ปูซาน,กวังจู,ม๊กโพ,มาซาน และ Yeosu Expo
รู้ข้อมูลคร่าว ๆ กันไปแล้วคราวนี้ถึงเวลา YouTrip พาไปดู ที่เที่ยวเกาหลี ยอดฮิตในโซลกันแล้ว
1. ตึกล็อตเต้เวิลด์ (Lotte World Tower)
สถานที่เที่ยวเกาหลี โซลที่แรกเปิดด้วยตึกสูงที่สุดในเกาหลีความสูง 555 เมตรมีทั้งหมด 123 ชั้น แล้วก็สูงเป็นอันดับ 5 ของโลกด้วยนะ มีจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์อยู่ชั้น 117-123 ชื่อว่าโซลสกาย ขึ้นไปจะมองเห็นวิวทั่วโซลจากที่สูงพื้นจะเป็นกระจกใสมองลงมาข้างล่างดูน่าหวาดเสียวดีเหมือนกัน จริง ๆ แล้วในนี้ก็เป็นศูนย์รวมหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกันนะทั้งแกลเลอรี่ คาเฟ่ ร้านอาหาร โรงแรมหรู หอชมวิว Skywalk ช้อปปิ้งมอล์ ศูนย์อาหารขนาดใหญ่ พิพิธภัณฑ์
ค่าเข้าชม : Seoul Sky คนละ 27,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 8 ลงสถานี Jamsil Station จากนั้นใช้ทางออก 10 หรือ 11
2. หอคอยเอ็นโซล (N Seoul Tower)
หรืออีกชื่อหนึ่งคือนัมซาน ทาวเวอร์ เมื่อกี้พาไปดูตึกที่สูงที่สุดไปแล้ว คราวนี้พามาดูหอคอยที่สูงที่สุดในโซลบ้าง หอคอยนี้สูงถึง 480 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ไฮไลท์ของที่นี่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเห็นและนั้นก็คือการคล้องกุญแจคู่รัก เห็นตามซีรีส์บ่อยมากต้องมาลองสักครั้งแล้วละ โดยเขาจะนิยมเขียนตัวย่อของชื่อหรือคำอธิฐานไว้ที่แม่กุญแจทั้งสองอันแล้วก็คล้องเข้าด้วยที่รั้ว ส่วนลูกกุญแจจะโยนทิ้งไปเหมือนกับว่าจะไม่สามารถพรากจากกันไปได้อะไรแบบนี้ นอกจากนี้แล้วก็มียังโซนอื่น ๆ น่าสนใจอย่างหอดูดาวดิจิทัลและร้านอาหาร N Grill หมุดได้ 360 องศา
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 10,000 KRW / เด็ก 8,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 23.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3,4 มาลงที่สถานี Chungmuro Station จากนั้นใช้ทางออก 2 เพื่อมาขึ้นรถบัส Namsan Circular Shuttle Bus สาย 02 ส่งถึงหน้าหอคอยเลย
3. สวนสาธารณะนัมซาน (Namsan Mountain Park)
ที่เที่ยวเกาหลี ที่ต่อมาอยู่ไม่ไกลจากข้อที่แล้วหอคอยเอ็นโซลเลยนะ ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโซล ครอบคลุมพื้นที่ทั้งภูเขานัมซานเลยมีดอกซากุระเกาหลีหรือที่คนเกาหลีเรียกว่าดอกพ็อดกดอยู่ตลอดทาง เห็นว่าเป็นทางเดินที่มีซากุระยาวที่สุดในโซลเลยด้วย ฉะนั้นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่นี่ก็ฮอตมาเหมือนกัน แล้วก็สามารถนั่งเคเบิ้ลคาร์จากบนยอดภูเขานัมซานไปยังหอคอยโซลทาวเวอร์ได้ด้วยนะ ได้ชมวิวดี ๆ ไปอีกแบบ
ค่าเข้าชม : บริเวณสวนเข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4 ลงที่สถานี Chungmuro Station ใช้ทางออกที่ 4 จากนั้นขึ้นรถโดยสารประจำทาง สายสีเหลือง หมายเลข 02 ไปลงที่ป้าย Namsan Library
4. พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)
เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของโซลเลยก็ว่าได้ที่นี่เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่สุดในโซลสร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1394 ตั้งแต่สมัยที่เกาหลียังมีราชวงศ์อยู่เนอะ แต่ก่อนข้างในนี้มีอาคารและตำหนักอยู่กว่า 200 อาคาร แต่หลังจากที่โดนทำลายลงโดยการรุกรานของญี่ปุ่นทำให้เหลืออยู่เพียง 10 อาคารเท่านั้น ที่นี่มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจคือพระที่นั่งคึนจองวองและศาลาเคียงฮวยรูอยู่บริเวณสระนำ้ วันไหนท้องฟ้าโปร่ง ๆ ตรงนี้อีกหนึ่งจุดที่สวยมากเลยทีเดียว นอกจากนี้ภายในยังมีพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ สวนโบราณและโชว์พิธีเปลี่ยนเวรทหารยามแล้วก็มีชุดฮันบกให้เช่าเดินใส่เที่ยวด้วยล่ะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 3,000 KRW / เด็ก 1,500 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 18.00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Gyeongbokgung Palace Station ทางออก 5 จากนั้นเดินตรงไปอีก 100 เมตรก็จะถึงประตูทางเข้าพระราชวัง
5. พระราชวังชังด็อกกุง (Changdeokgung Palace)
ที่เที่ยวเกาหลี ยังคงพาเที่ยวพระราชวังกันต่อ อีกที่หนึ่งที่น่าสนใจคือพระราชวังชังด็อกกุงที่นี่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีเพราะว่าเคยมีกษัตริย์หลายพระองค์ประทับอยู่เป็นเวลานาน ภายในมีสวนลับ ๆ ที่ต้องมีไกด์เท่านั้นถึงจะเข้าชมได้ด้วยนะชื่อว่าสวนฮูวอน เป็นสวนหย่อมอยู่ด้านหลังของวังเต็มไปด้วยต้นไม้ยักษ์ที่มีอายุกว่า 300 ปี มีบ่อน้ำ ศาลาพักผ่อน มีความเป็นธรรมชาติแบบ 100% ใจกลางโซลเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : คนละ 3,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 18.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1,3,5 ลงสถานี Jongno ใช้ทางออก 7 จากนั้นเดินไปทางถนน Donhwamun-ro ต่อประมาณ 500 เมตร
6. พระราชวังท็อกซู (Deoksugung Palace)
ที่นี่เป็นที่เที่ยวโซลในหมวดพระราชวังที่เล็กที่สุดในโซลเลยละ พระราชวังท็อกซูจะมีสถาปัตยกรรมในช่วงยุคปลายโชซอน ตัวอาคารในวังนี้นอกจากจะมีอาคารแบบเกาหลีทรงท็อกซูกุงแล้วก็ยังมีอาคารทรงยุโรปด้วยเป็นการผสมผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมตะวันตกเขามาด้วยนั่นเอง ส่วนกิจกรรมที่นี่ก็คล้าย ๆ กับพระราชวังที่อื่นคือมีการเปลี่ยนเวรเฝ้าประตู มีขบวนโชว์การเดินทัพเหมือนในสมัยก่อนอะไรแบบนี้ จุดเด่นอีกอย่างที่เห็นแล้วสะดุดตาเลยก็คือกำแพงหินประตูทางเข้าคือมันดูเป็นความแตกต่างที่ลงตัวดีเหมือนกัน สถานที่โบราณใจกลางเมืองท่ามกลางตึกสูงใหญ่ ทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีพร้อมเดินเที่ยวไปพร้อมกันได้เลย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 KRW / เด็ก 500 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 21.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี City Hall ทางออก 2
7. พระราชวังชังกย็อง (Changgyeonggung Palace)
หนึ่งในพระราชวังที่สำคัญที่สุดของเกาหลีเพราะว่าเป็นที่ประทับในช่วงปลายรัชสมัยของกษัตริย์เกาหลีถึง 10 รัชกาลกันเลยทีเดียว การตกแต่งหรืออาคารตำหนักต่าง ๆ ก็เป็นแบบเกาหลีแท้ ๆ อยู่ใจกลางโซลเหมือนกัน บริเวณกว้างขวางมากเต็มไปด้วยสวนขนาดใหญ่เป็นหลักเลยนะ แล้วก็ยังมีสะพานหินโค้งอกช็องกโย เป็นจุดถ่ายภาพยอดฮิตเลยก็ว่าได้ สะพานนี้ก็เก่าแก่มากเหมือนกันสร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1483 ซึ่งเป็นสะพานหินที่เชื่อมทุกห้องโถงหลักของพระราชวัง โดยทางตรงกลางสะพานจะถูกยกขึ้นสำหรับการเดินของกษัตริย์นั่นเอง
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 KRW / เด็ก 500 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 18.30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Anguk Station แล้วใช้ทางออกที่ 2
8. พระราชวังคยองฮึยกุง (Gyeonghuigung Palace)
บ้านพักของกษัตริย์แทโจ อีซองกเย ผู้ก่อตั้งราชวงศ์โชซอน แต่ก่อนที่นี่มีอาคารกว่า 100 หลังเลยนะ ตั้งเรียงรายตามเนินเขาแต่ก็ถูกทำลายไปตามกาลเวลา ปัจจุบันนี้ก็เหลืออาคารหลักและอาคารเล็ก ๆ อยู่ไม่มาก พระราชวังนี้สร้างโดยมีภูเขาล้อมรอบเราเลยจะเห็นตัวพระราชวังที่มีภูเขาเป็นพื้นหลัง สวยงามและร่มรื่นมาก ๆ แล้วก็เป็นโลเคชั่นถ่ายทำหนังหลายเรื่องด้วยอย่าง Koong, Hwang Jiny เป็นต้น ถือว่าเป็นสถานที่เที่ยวเกาหลี ในโหมดพระราชวังที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งเลย
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 18.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานี Seodaemun Station จากนั้นทางออก 4 แล้วเดินต่อประมาณ 400 เมตรก็จะถึงทางเข้าพระราชวัง
9. จัตุรัสกวางฮวามุน (Gwanghwamun Square)
ที่เที่ยวโซลที่รับความนิยมมากในช่วงหลังมานี้เพราะเป็นทั้งที่ถ่ายซีรีส์ชื่อดัง ชื่อเพลง ถูกใช้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมการแสดงหลายอย่างเลยด้วย ทำให้จัตุรัสกวางฮวามุนเป็นที่นิยมขึ้นมาก ที่นี่อยู่ใจกลางเขตจงโรเห็นว่าเป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ 600 ปีกรุงโซลด้วยนะ แถมพื้นที่คือใหญ่มากกกกเกือบ 20,000 ตารางเมตรก็เลยเชื่อมต่อกับหลาย ๆ ส่วนไปในตัวอย่างประตูกวางฮวามุนและจัตุรัสชองกเย ซึ่งก็เชื่อมไปยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น Korea Main Plaza ที่ตั้งของรูปปั้นกษัตริย์เซจงมหาราช ผู้ประดิษฐ์อักษรเกาหลีและน้ำพุหรือถนนสายหลักเมืองฮันยางที่เป็นกรุงโซลเก่าอย่าง Reenacting Yukjo Street Plaza ด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใตดินสาย 5 ลงที่สถานี Gwanghwamun แล้วใช้ทางออกที่ 1,2,8
10. หมู่บ้านโบราณอึนพยอง ฮันอก (Eunpyeong Hanok Village)
หมู่บ้านสไตล์ฮันอก สถานที่เที่ยวเกาหลีแบบดั้งเดิม หมู่บ้านนี้ยังมีคนอาศัยอยู่จริง ๆ เป็นบ้านเรือนของคนจริง ๆ ที่มีเจ้าของเลย ที่นี่ยังอยู่ใกล้กับภูเขาพูคันด้วยทำให้มีวิวธรรมชาติ บรรยากาศโล่ง ๆ สบายหูสบายตา แล้วก็มีร้านอาหารมีคาเฟ่อยู่ด้วยมีร้านดังอย่าง 1 อิน 1 จัน ในหมู่บ้านนี้ด้วยนะ ร้านตกแต่งสไตล์เกาหลี ๆ อยู่บนตึกที่สูงที่สุดของหมู่บ้านเลยก็เป็นอีกหนึ่งร้านในหมู่บ้านที่คนนิยมมาถ่ายรูปวิวสวย ๆ กันจ้า
ค่าเข้าชม : รอบหมู่บ้านเข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ส่วนใหญ่ร้านค้าเปิด 10.00 – 21.00 น. แต่รอบหมู่บ้านเดินชมได้ตลอดเวลา
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงที่สถานี Euljiro 1 (il) ga ใช้ทางออก 4 แล้วเดินต่อ 5 นาที
11. หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village)
ท่ามกลางตึกสูงใหญ่ทันสมัยในโซลยังมีหมู่บ้านที่รักษาอาคารบ้านเรือนแบบเกาหลีโบราณไว้อีกที่หนึ่งนั่นก็คือหมู่บ้านบุกชอนฮันอก ใครชอบที่เที่ยวโซลแนวประวัติศาสตร์ เชิงวัฒนธรรมนี่ห้ามพลาดเลย แถมเรายังจะเห็นบ้านของขุนนางชั้นสูงของเกาหลีในยุคก่อนด้วย ภายในหมู่บ้านมีบ้านเรือนสไตล์เก่าแก่แบบฮันอกกว่า 100 หลัง มีทั้งศูนย์วัฒนธรรม เกสต์เฮ้าส์ ร้านอาหาร โรงน้ำชา
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ส่วนใหญ่ร้านค้าเปิด 10.00 – 21.00 น. แต่รอบหมู่บ้านเดินชมได้ตลอดเวลา
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 ไปลงที่สถานี Anguk Station ใช้ทางออก 2 แล้วเดินต่อไปอีก 300 เมตร
12. สวนสาธารณะยออีโดฮันกัง (Yeouido Hangang Park)
สวนสาธารณะริมแม่น้ำฮันกังเป็นที่เดินเล่น พักผ่อนชิว ๆ ริมแม่น้ำ แต่ละปีจะมีการจัดงานกิจกรรมอยู่เรื่อย ๆ ตามฤดูกาลเลยนะ อย่างเทศกาลซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลดอกไม้ไฟระดับโลกช่วงใบไม้ร่วง หรือจะพวกงานคอนเสิร์ตหรือจัดงานวิ่งมาราธอน อีกอย่างที่นี่เป็นพื้นที่ทางธรรมชาติที่เปิดให้เข้ามาเรียนรู้ระบบนิเวศได้ด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานี Yeouinaru Station ใช้ทางออก 2 หรือ 3
13. สวนสาธารณะฮานึล (Haneul Park)
ที่เที่ยวเกาหลี ที่จะแนะนำต่อไปนี้เหมาะกับสายบ้ากล้องมาก โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ฮอตสุด ๆ เพราะว่าเป็นช่วงเวลาที่หญ้ายูลาเลียจะเบ่งบานงอกงามแบบสุดเรียกว่าทุ่งยูลาเลียได้เลยนะ หนา ๆ ปุย ๆ แล้วก็มีหญ้ามูลี่สีชมพูด้วย เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันสุด ๆ ไปเลย ที่จริงสวนสาธารณะฮานึลสร้างขึ้นบนพื้นที่ฝังกลบขยะมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 98 เมตร ทำให้เหมือนเราได้อยู่บนที่สูงเลยได้เห็นวิวภูเขาบุกฮันซาน ภูเขานัมซานและแม่น้ำฮัน แถมยังมีผีเสื้อกว่า 30,000 ตัวคอยบินสร้างสีสันให้ที่นี่ได้เป็นอย่างดี
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินลงสถานี World Cup Stadium จากนั้นเดินต่อ 15 นาที
14. สวนสาธารณะโอลิมปิก (Olympic Park)
แนะนำเลยว่าถ้าหากมาที่นี่ควรศึกษาเส้นทางให้ดีเพราะถ้าจะเดินให้ทั่วจริง ๆ ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่จัดกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 1988 ซึ่งเกาหลีได้เป็นเจ้าภาพนั่นเอง ปัจจุบันเปิดให้เป็นสวนสาธารณะให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเดินเล่น พักผ่อนได้ พื้นที่ข้างในแบ่งออกเป็นหลายโซน เช่น สวนกีฬา สวนศิลปะวัฒนธรรม สวนธรรมชาติและอุทยานประวัติศาสตร์ ที่สวนสาธารณะโอลิมปิกช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยไม่แพ้ที่อื่นเลยนะ เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปมากเหมือนกัน มีจักรยานให้เช่าปั่นด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 05.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานี Olympic Park Station และใช้ทางออก 3
15. สวนป่ากรุงโซล (Seoul Forest)
ที่เที่ยวสุดฮิตประจำปีจนต้องจับมาเป็นหนึ่งลิสต์ ที่เที่ยวเกาหลี กันสักหน่อย สวนป่ากรุงโซลมีพื้นที่ใหญ่มากจนเรียกได้ว่าเป็นป่ากลางเมืองเลยก็ว่าได้ ใหญ่พอ ๆ กับ Olympic Park ด้านบนเลย แต่เดิมแล้วที่นี่เป็นป่าจริง ๆ นั้นแหละ แต่เป็นป่าหลวงที่ให้ราชวงศ์ไว้ใช้ล่าสัตว์ เวลาผ่านไปก็กลายเป็นพื้นที่สาธารณะจนถึงทุกวันนี้ ด้วยความที่พื้นที่ใหญ่มากภายในเลยประกอบไปด้วยสวนย่อย ๆ ถึง 5 สวน ได้แก่ สวนศิลปะวัฒนธรรม มีเวทีกลางแจ้ง ลานสเก็ต ร้านอาหารริมน้ำ / สวนนิเวศวิทยา ป่านิเวศน์ล้อมด้วยแม่น้ำฮันกัง มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ / สวนศึกษาธรรมชาติ เป็นบ้านสวนพฤกษศาสตร์ สวนแมลง สวนดอกไม้ป่า และแนวป่าไม้ป้องกันโดยรอบ / พื้นที่นิเวศวิทยาชุ่มน้ำ เป็นที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำตามธรรมชาติท้องถิ่น / สวนริมแม่น้ำฮันกัง พื้นที่พักผ่อนติดริมแม่น้ำฮันกัง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 20.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Bundang Line ลงสถานี Seoul Forest Station ใช้ทางออก 3 แล้วต่อเดินไปประมาณ 5 นาที
16. สะพานน้ำพุสายรุ้งบันโพ (Banpo Bridge Fountain)
ที่เที่ยวโซลที่ได้รับบันทึกลงกินเนสส์บุ๊ค! ที่นี่คือสะพานน้ำพุสายรุ้งที่ยาวที่สุดในโลก มีการตั้งค่าระดับการแสดงกว่า 100 รูปแบบ โชว์ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ไฮไลท์อยู่ช่วงกลางคืนเพราะพอพระอาทิตย์ตกลับฟ้าไปแล้วเขาจะเปิดไฟสว่างกว่า 200 ดวง ให้สว่างคู่กับน้ำพุที่กำลังโชว์ลีลาไปตามจังหวะไฟและดนตรีสุดไพเราะนั่นเอง ใครอยากมาดูโชว์น้ำพุเขาจะจัดช่วงเดือนเมษายน – ตุลาคม ของทุกปีนะ วันหนึ่งจะโชว์ 4-6 ครั้ง รอบละ 20 นาทีเลย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,100 KRW / เด็ก 600 KRW
เวลาเปิด-ปิด : โชว์รอบละ 20 นาที รอบการแสดง 12:00, 19:30, 20:00, 20:30, 21:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4 ลงสถานี Dongjak Station ใช้ทางออก 1 หรือ 2
17. สวนพฤกศาสตร์แห่งกรุงโซล (Seoul Botanic Park)
เดินเที่ยวเหนื่อย ๆ ไปให้ธรรมชาติช่วยบำบัดกันดีกว่า ที่นี่รวมพันธุ์ไม้จาก 12 เมืองทั่วโลกกันเลยทีเดียวนะ โดยความต้องการในการสร้างสวนแห่งนี้ก็คือต้องการสร้างป่าไม้ในเมืองให้คนในละแวกนี้ได้สัมผัสธรรมชาติ จนที่นี่กลายเป็นแหล่งศึกษาพันธุ์พืช ศูนย์วิจัยและห้องสมุด เอกลักษณ์ของที่นี่คืออาคารเรือนกระจกรวมพันธุ์ไม้เขตร้อนไว้มากมายแล้วก็ยังมีพืชแปลก ๆ ด้วย แล้วก็ยังมีทะเลสาบพร้อมทางเดินรอบ ๆ ไว้ให้เดินเล่นอีก ใครมาแล้วอากาศไม่ร้อนมากแนะนำให้มาเดินเล่นนะ วิวดีเหมือนกัน
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 10,000 KRW / เด็ก 6,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 18.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 9 ลงสถานี Magongnaru จากนั้นใช้ทางออก 3
18. คลองชองกเยชอน (Cheonggyecheon)
ที่เที่ยวโซลสุดฮิตสุดคุ้นตาใครไปเที่ยวเกาหลีก็ต้องแวะ ใช่แล้วจ้าที่นี่คือคลองชองกเยชอนที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณนู๊นอายุกว่า 600 ปี ยาวกว่า 11 กิโลเมตร แต่ก่อนน้ำในคลองเป็นน้ำที่เน่าเสียมีการทิ้งขยะลงในคลองนี้ แต่ก็ได้มีโครงการบูรณะคลองนี้ใหม่เมื่อปี 2003 มีการปรับรุงมากมายจนได้คลองชองกเยชอนที่มีภูมิทัศน์สวย ๆ น้ำใส และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจนถึงทุกวันนี้ เหนือคลองจะมีสะพานกว่า 20 สะพานซึ่งมีคอนเซ็บที่ต่างกันออกไปด้วยนะ เช่น สะพานนาแร เป็นตัวแทนของผีเสื้อที่โบยบิน เป็นต้น แถมสองข้างริมคลองก็ร้านกาแฟบรรยากาศดี ๆ ไว้นั่งผักผ่อนอีกด้วย ส่วนกลางคืนก็จะเปิดไฟตามริมทางเดินสวยงาม เดินเล่นก็เพลิน ถ่ายรูปก็เริ่ดเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ลงได้หลายสถานีดังนี้ City Hall, Jonggak, Jongno 3-ga, Jongno 5-ga, Dongdaemun, Sinseol-dong
19. ทงแดมุนดีไซน์พลาซ่า (Dongdaemun Design Plaza)
ถ้ามาเดิน ๆ แถวทงแดมุนแล้วเห็นตึกรูปร่างประหลาด ๆ ดูล้ำ ดูโลกอนาคตรู้ไว้เลยว่านี้คือทงแดมุนดีไซน์พลาซ่า ที่นี่เป็นพื้นที่จัดนิทรรศการระดับโลกมากมายเลยล่ะ มีทั้งห้องประชุม ห้องแสดงสินค้า ที่สำคัญเป็นโลเคชั่นถ่ายซีรีส์และเอ็มวีเกาหลีเยอะเลยอย่างเพลง Come Back Home ของ 2NE1 ก็มาถ่ายที่นี่ด้วย ที่นี่จะแบ่งเป็น 5 โซน คือ Oulimsqare เปิด 24 ชั่วโมง ชมสถาปัตยกรรมได้ตลอดเวลา มานั่งชิลก็ได้ / Art Hall สถานที่จัดงาน หอประชุม สตูดิโอ work shop ต่าง ๆ / Museum พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลี / Design lap โซนจัดแสดงผลงานด้านการออกแบบ / บริเวณรอบนอก Dongdaemun History & Culture Park เป็นสวนสาธารณะที่รวมประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของทงแดมุน
ค่าเข้าชม : บริเวณรอบ ๆ เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ภายในอาคารเปิด 10.00 – 19.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย 2 สีเขียว ลงที่สถานี Dondaemun history & Culture Park และใช้ทางออกที่ 1
20. มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha Womans University)
หลายคนอาจจะงงว่าเราจะมาเที่ยวในมหาวิทยาลัยเหรอ? คำตอบคือ ใช่จ้า ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก มีอาคารเรียนสวยงาม รวมถึงบริเวณรอบมหาวิทยาลัยด้วยเช่นกัน อาคารเรียนที่นี่จะมีความกึ่ง ๆ ตะวันตกอยู่บ้างเพราะว่าถูกก่อตั้งโดยกลุ่มมิชชันนารีชาวอเมริกันนั่นเอง ที่เด่น ๆ เลยคืออาคารหุบเขาสีเขียวหลังคาธรรมชาติคล้ายหุบเขาที่ถูกกดลงพื้นดินมีพื้นที่ลานกว้างเชื่อมต่อกันและมีต้นไม้เยอะมาก ทำให้นิยมมาถ่ายรูปจุดนี้ด้วย ส่วนหน้ามหาวิทยาลัยจะเรียกย่านอีแด เป็นย่านช้อปปิ้งยอดฮิตของวัยรุ่นเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงที่สถานี Ewha Womans University Station ใช้ทางออกที่ 2,3 แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
21. ตลาดกวางจัง (Gwangjang Market)
ที่เที่ยวเกาหลี สำหรับสายกินสายดื่มมาแล้วจ้า ที่ตลาดกวางจังเป็นตลาดเก่าแก่กว่าร้อยปีแล้วล่ะ ที่จริงตลาดนี้เป็นตลาดขายผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโซลแต่นอกเหนือจากนั้นแล้วก็มีของสดและร้านอาหารมากมายไม่แพ้กัน ทั้งผักผลไม้สด กิมจิ ปลาสด ขนมขบเคี้ยว ของฝาก แต่ที่เด่นมากคือ Street Food เกาหลี ราคาไม่แพงและมีให้เลือกเยอะมากทั้งไส้กรอกเลือดหมู คิมบับ หัวหมูนึ่ง ต๊อกโบกิ ออมุก และอาหารพื้นเมืองกินง่าย ๆ อีกเยอะเลย ร้านดังที่ไม่ควรพลาดคือ Gohyang Kalguksu หรือแผงขายบะหมี่ทำมือของ คุณป้าโจยุนซูน สุดโด่งดังใน Netflix นั่นเอง มากินได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น แต่ตอนเย็นจะคึกคักหน่อยเพราะคนวัยทำงานเลิกงานแล้วก็จะนั่งซดโซจูกันที่ตลาดนี้แหละ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ร้านอาหารเปิดตั้งแต่ 08.30 – 23.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ลงที่สถานี jongno 5 –ga station ใช้ทางออกที่ 8 แล้วเดินตรงไปอีกเล็กน้อยจะเจอทางเข้าตลาดอยู่ซ้ายมือ
22. หมู่บ้านเกาหลีโบราณอิกซอนดง (Ikseon-Dong Hanok Alley)
เขาบอกว่าเป็นที่เดทสุดฮิตของหนุ่มสาวเกาหลีเลย ที่นี่เป็นย่านหมู่บ้านเกาหลีโบราณอยู่ในตรอกเล็ก ๆ ที่เขาดัดแปลงให้เป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายของ จนที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขวัญใจนักท่องเที่ยวไปเลย มุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะเพราะแต่ละร้านก็ตกแต่งร้านกันอย่างสวยงามน่าเข้าทุกร้าน แต่ที่ดังสุดคือคาเฟ่ลานดอกไม้ เพราะเคยเป็นสถานที่ถ่ายซีรีส์ Guardian : The Lonely and Great God ของพี่กงยูนั่นเอง ดูไปแล้วก็มีความวินเทจเบา ๆ เหมือนกัน ร้านส่วนใหญ่ตกแต่งด้วยไม้และอิฐอะไรแบบนี้ดูอบอุ่นดี เห็นแล้วก็เหมาะกับเป็นที่เดทจริง ๆ แหละ พากันเดินจับมือดูร้านอาหารถ่ายรูปอะไรแบบนี้อ่ะเนอะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 21.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสายดินสาย 1 มาลงที่สถานี Jongno 3-ga ใช้ทางออกที่ 4 แล้วเดินต่อประมาณ 500 เมตร
23. ย่านช้อปปิ้งกาโรซู-กิล (Garosu-gil)
ใครอยากช้อปปิ้งเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลีต้องแวะมาที่ย่านกาโรซู-กิลเป็นหนึ่งในย่านแฟชั่นที่ฮิตอีกที่นึงในโซล นอกจากแฟชั่นแล้วก็ยังเป็นย่านที่แบบว่าฮิป ๆ ด้วยนะเพราะตึกหรือร้านส่วนใหญ่จะดีไซน์เก๋ ๆ ดูทันสมัยแล้วก็มีต้นไม้เรียงเป็นแถวตลอดสองข้างทางเลย ถ่ายรูปออกเหมือนนิวยอร์กอยู่เบา ๆ พูดถึงเรื่องแฟชั่นถนนสายนี้มีครบทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ มีทั้งแบรนด์เนม แบรนด์ทั่วไป รวมไปถึงสินค้าจากนักออกแบบอิสระด้วย ใครเป็นสายแฟชั่นแวะมาซื้อติดไม้ติดมือกลับไปได้เลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 23.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 สถานี Sinsa 337 ใช้ทางออก 8 จากนั้นเดินตรงมาประมาณ 15 นาทีจะสังเกตเห็นตึก J-Tower ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนก่อนถึงตึก
24. ถนนช้อปปิ้งอัพกูจอง โรดิโอ (Apgujeong Rodeo Street)
แหล่งช้อปปิ้งของแบรนด์เนม ของหรูต้องที่อัพกูจอง ห้างที่ดังที่สุดในย่านนี้คือ alleria Department Store อารมณ์พารากอนบ้านเราอะไรแบบนี้ ก็คือมีร้านหรู แบรนด์เนมดัง ๆ อยู่เพียบ นอกจากนี้ย่านอัพกูจองก็ยังเป็นแหล่งรวมร้านเสริมความงามและคลินิกศัลยกรรมชื่อดังหลายร้านเลยด้วย ใครผ่านมาแถวอัพกูจองก่อนกลับไทยก็แวะมาฉีดมาเติมก่อนได้นะ ราคาถูกกว่าที่ไทยพอตัวอยู่ ใครสายแบรนด์เนม หรือเสริมสวยเก็บเข้าลิสต์เป็นที่เที่ยวเกาหลีของตัวเองเลยนะ มาเที่ยวพร้อมสวยกลับไปทีเดียวเลยปัง ๆ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฟ้าสาย 3 ลงที่สถานีApgujeong Station ใช้ทางออก 2 จากนั้นกลับหลังหันแล้วเลี้ยวขวาที่มุมถนน เดินตรงต่อไปอีก 900 เมตรและเลี้ยวขวาเข้าถนน Apgujeong 50-gil เดินต่ออีกเล็กน้อยจะถึงย่านช้อปปิ้ง
25. ย่านฮงแด (Hongdae)
เป็นย่านช้อปปิ้งหน้ามหาวิทยาลัยฮงอิก ศูนย์รวมวัยรุ่นหนุ่มสาวสุดคึกคัก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเกาหลีที่ราคาสินค้าแต่ละร้านไม่แพงเลยเพราะเน้นขายให้วัยรุ่นหรือนักศึกษา ร้านกาแฟและคาเฟ่เยอะมาก นอกจากนี้ยังมีร้านเสื้อผ้าแฟชั่น คลับ ตลาดศิลปะ เครื่องเขียน ร้านอาหาร สตรีทฟู้ด แต่ใครอยากได้ฟีลคึกคักหน่อยให้มาช่วงบ่ายเป็นต้นไปร้านค้าจะเริ่มเปิดเยอะแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีโรงละครสำหรับแสดงบีบอย ส่วนวันเสาร์จะมีตลาดของแฮนด์เมด วันอาทิตย์จะมีกิจกรรมกลางแจ้งอย่างเต้น K-pop ดนตรีสด ฯลฯ เป็นที่เที่ยวโซลของชาววัยรุ่นเกาหลีและนักท่องเที่ยวที่นิยมมากันมาก ๆ เลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ร้านส่วนใหญ่ 11.00 น. โมงเป็นต้นไป
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 หรือ Airport Railroad ก็ได้ลงที่สถานี Hongik University Station
26. ถนนช้อปปิ้งชินซาดง (Sinsa-dong)
มีชื่อเล่นอีกชื่อว่า artists’ street แหล่งรวมร้านเสื้อแฟชั่นจากดีไซน์เนอร์ชื่อดังของเกาหลีมากมาย และร้านกาแฟสวย ๆ ตกแต่งแบบชิค ๆ ใครที่มาเกาหลีแล้วอยากหาที่เที่ยวถ่ายรูปสวย ๆ เก๋ ๆ มาย่านชินซาดงรับรองได้รูปกลับไปอัพเพียบ ถนนนี้ยาวประมาณ 700 เมตร ช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะฮอตมากหน่อยเพราะสองข้างมีต้นแปะก๊วยอยู่ทั้งทาง และช่วงฤดูใบไม้ร่วงเราก็จะได้เห็นเจ้าต้นใบแป๊ะก๊วยเปลี่ยนสีเหลืองทองคนเลยนิยมออกมาเดินเล่นกันช่วงนั้นเป็นพิเศษ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Sinsa Station ใช้ทางออกที่ 8 จากนั้นเดินต่อไปอีก 250 เมตร
27. ย่านอินซาดง (Insadong)
ย่านฮิตใจกลางโซลแล้วก็เป็นย่านเก่าแก่ที่สำคัญที่หนึ่งด้วย ที่นี่จะมีถนนหลักคืออินซาดงแล้วก็มีตรอกซอยแยกออกไป ตามตรอกส่วนมากจะเป็นร้านอาหารเกาหลีดั้งเดิม โรงน้ำชา ร้านกาแฟและแกลเลอรี่ ซึ่งมีแกลเลอรี่เยอะมากกว่า 100 แห่งเลย มีงานศิลปะเกาหลีทั้งภาพวาดและประติมากรรม ที่ดังที่สุดคือ Hakgojae Gallery ซึ่งเป็นศูนย์กลางศิลปะพื้นบ้าน, Gana Art Gallery หอส่งเสริมศิลปิน และ Gana Art Center แนะนำให้มาวันเสาร์อาทิตย์จะคึกคักมากเป็นพิเศษ มีการปิดถนนและจัดงานแฟร์อยู่บ่อย ๆ มีโชว์และการแสดงต่าง ๆ ด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ปิดถนนทุกวันเสาร์เวลา 14:00 – 22:00 น. และวันอาทิตย์ 10:00 – 22:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงสถานี Anguk Station ใช้ทางออก 6 แล้วเดินตรงไป 100 เมตรจากนั้นเลี้ยวซ้าย
28. ย่านอิแทวอน (Itaewon-dong)
ที่เที่ยวในโซลสุดคุ้นหูคุ้นตากันอย่างดีสำหรับย่านอิแทวอนโดยเฉพาะแฟนซีรีส์ Itaewon Class จะต้องไม่พลาดมาแน่นอนจะได้ตามรอยซีรีส์ไปในตัวด้วย ย่านนี้มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากทำให้ร้านอาหารในนี้มีตัวเลือกเยอะ ใช้คำว่านานาชาติเลยก็ว่าได้ ส่วนของช้อปปิ้งก็มีให้เลือกจับจ่ายไม่ขาดมือทุกแนวตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า ของที่ระลึก เครื่องสำอาง ของฝาก หรือจะผับบาร์ยามค่ำคืนก็มี ส่วนใครอยากตามรอยซีรีส์ก็มีร้านดังอย่าง ออนด๊อกจิบ ร้านอาหารเกาหลีในซีรีส์ Itaewon Class หรือสะพานลอยนกซาพยองและร้าน The finest Rooftop Bar
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ร้านอาหารส่วนมากเปิด 09.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำตาล ไปลงที่สถานี Itaewon ได้เลย
29. ย่านช้อปปิ้งเมียงดง (Myeongdong)
จะหลุดเช็คลิสต์ ที่เที่ยวเกาหลี ไปได้ไง ไม่ไปเมียงดงเหมือนมาไม่ถึงเกาหลีนะว่าไหม ฮ่า ๆ ย่านช้อปปิ้งในกลางโซลที่เป็นศูนย์ของเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ในช่วงสถานการณ์ปกติสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้กว่า 1 ล้านคนต่อวันเลยนะ เนืองแน่นเวอร์วังมาก เป็นที่รู้กันว่าถ้าอยากช้อปปิ้งของถูก ๆ คุณภาพดีของกินอร่อยต้องมาเมียงดง โดยเฉพาะเครื่องสำอางมีทุกแบรนด์แถมบางร้านมีพนักงานคนไทยหรือพนักงานเกาหลีที่พูดไทยได้ด้วยนะ ส่วนใครเป็นแฟนสตรีทฟู้ดแนะนำให้มาช่วงเย็น ร้านแผงลอยจะเริ่มตั้งกันแล้วมีให้กินตลอดทางทั้ง ต๊อกโบกิ โอเด้ง ขนมปังไข่ ผลไม้ หรือของทอดต่าง ๆ เพียบ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 10.00 – 22.00 น. / สตรีทฟู้ดเริ่มช่วงเย็นเป็นต้นไป
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี Euljiro 1-ga Station ใช้ทางออก 6 จากนั้นเดินไป อีก 230 เมตร
30. คริสตจักรเมียงดง (Myeong-dong Cathedral)
แต่ก่อนที่มีชื่อดั้งเดิมคือมหาวิหารชงฮยอนซองดังเป็นตึกที่สร้างแบบก่ออิฐโบกปูนสไตล์ตะวันที่แรกเลย สร้างแบบเรอเนอซองส์อิฐเผาสีแดงและสีเทา อาคารสูงถึง 23 เมตร เป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์ในประเทศเกาหลีเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่สำคัญของชุมชนไปแล้ว เป็นสถานที่สวดมนต์และสิ่งอำนวยความสะดวกทางศาสนา แล้วก็ยังมีพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างร้านกาแฟ โซนนิทรรศการอะไรแบบนี้ด้วย แล้วละแวกโบสถ์ก็มีที่เที่ยวให้เดินเล่นต่อได้อย่างย่านช้อปปิ้งเมียงดงหรือตลาดนัมแดมุนก็อยู่ไม่ไกลเลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00-20:30 น. (ปิดวันจันทร์)
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี Euljiro 1(il)-ga Station ใช้ทางออก 5 จากนั้นเดินเลี้ยวขวาไปตามถนน Myeongdong 3(sam)-gil St. ประมาณ 250 เมตร เลี้ยวซ้ายอีกครั้งไปตามถนน Myeongdong-gil St. ไปประมาณ 100 เมตร จะเจอโบสถ์อยู่ทางขวามือ
31. ห้างสรรพสินค้าโคแอ็คซ์ (COEX Mall)
เป็นห้างในเครือฮุนไดห้างหรูย่านกังนัม นอกจากเป็นห้างสรรพสินค้าแล้วก็ยังเรียกว่าเป็นแหล่งอเนกประสงค์ของคนกรุงโซลก็ว่าได้นะ คือมันมีทั้งร้านช็อปปิ้ง ร้านอาหารหลายเชื้อชาติจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ตะวันตก เวทีคอนเสิร์ต ร้านอุปกรณ์กีฬา โรงหนัง ตู้เกมส์ พิพิธภัณฑ์ และไฮไลท์ที่ดึงดูดคนมาได้เยอะคือห้องสมุดสุดชิค Starfield Library ตกแต่งแบบสบายตามาก ๆ เหมาะกับการหนังสือสุดเดช เอกลักษณ์ที่พอเห็นแล้วร้องว้าวคือชั้นหนังสือสูง 13 เมตร สูงตั้งพื้นขึ้นไปถึงเพดานเลยเป็นแหล่งเช็คอินสุดฮิตอีกที่ของวัยรุ่นเหมือนกัน
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10.30 – 22.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว ลงสถานี Samseong Station ใช้ทางออก 6
32. ห้างสรรพสินค้า The Hyundai Seoul
ถือว่าเป็นห้างใหม่อยู่นะ อาจจะไม่ได้ใหม่แกะกล่องเพราะว่าสร้างเสร็จช่วงปี 2021 นี่ล่ะ แต่ก็ถือว่าเป็นแหล่งช้อปใหม่ในย่าน Yeouido ส่วนตัวแอบคิดว่าเหมือนเอ็มควอเทียร์ผสมหอศิลป์บ้านเราอะไรแบบนั้น คือมีร้านแบรนด์เนม ร้านอาหาร ร้านกาแฟดัง ๆ มาเปิดเพียบ แถมการตกแต่งของเขาก็น่าสนใจเพราะเขายกสวนเข้ามาไว้ในห้างเลยจริง ๆ เป็นต้นไม้จริงปลูกกับดินทำให้บรรยายกาศในห้างมันคลีน ๆ มีสีเขียวดูสบายตาไม่ค่อยวุ่นวายดีเหมือนกัน โซนน่าสนใจจะมีเป็นชั้น 5 Sound Forest ตรงกลางเขาทำเป็นสวนสาธารณะเลย เดินเล่นดูต้นไม้ได้ แล้วก็ผลัดเปลี่ยนอีเวนท์ไปตามแต่ละเดือนด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10:30 – 20:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าลงสถานี Yeouinaru ใช้ทางออก 1 แล้วเดินย้อนขึ้นมาประมาณ 4 นาทีจะถึงหน้าห้างเลย
33. ย่านช้อปปิ้งสุดชิค Common Ground
ย่านช้อปปิ้งที่เราหยิบยกมาเป็น ที่เที่ยวเกาหลี ที่น่าสนใจ ที่นี่อยู่แถวมหาวิทยาลัยคอนกุกสถานที่ช้อปปิ้งแบบชิค ๆ แล้วก็เป็นจุดถ่ายรูปที่คนมาเยอะมากที่สุดอีกหนึ่งที่ ด้วยความที่ร้านค้าทำมาจากตู้คอนเทนเนอร์สีฟ้ามันเลยให้อารมณ์วัยรุ่นชิค ๆ มาเดินเล่นกินกาแฟเท่ ๆ อะไรแบบนี้อ่ะ ออกแนวเป็นเหมือนคอมมูนิตี้มอล์มีร้านเสื้อผ้า คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขนม โดยเฉพาะพวกแฟชั่นแนวสตรีทนี่มีเยอะกว่าอย่างอื่นเลยล่ะ ตอนกลางคืนก็มาได้ร้านอาหารเปิดถึงตี 2 เลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าทั่วเปิด 11.00 – 22.00 น. ร้านอาหารเปิดถึงตี 2
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Konkuk University ใช้ทางออก 6 แล้วเดินต่อไปอีก 200 เมตร
34. ตลาดนัดของมือสอง (Dongmyo Flea Market)
ช้อปปิ้งของมือสองราคาเบา ๆ เริ่มที่ 1,000 KRW หรือประมาณ 26 บาทเท่านั้น แล้วมีของทุกอย่างเลยตั้งแต่เสื้ออาจุมม่ายันแบรนด์เนม ของโบราณเก่า ๆ แผ่นเสียงหายาก กล้องถ่ายรูปก็มี การขายก็ตามสไตล์ตลาดมีสองเนอะ เขาจะกองเสื้อผ้าไว้เราก็ไปเลือก ๆ เอา ใครรื้อเก่งก็ได้ของสวยราคาดีต่อใจกลับไปแน่นอน พวกเสื้อโค้ตเสื้อกันหนาวก็มีเยอะ ใครที่ไปเที่ยวหน้าหนาวแล้วไม่อยากเปลืองงบซื้อมือหนึ่งราคาสูงลองไปเลือกดูที่นี่ก็ได้นะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ลงที่สถานี Dongmyo Station ใช้ทางออกที่ 3 แล้วเดินต่อ 150 เมตร
35. สวนลอยฟ้าโซลโล 7017 (Seoullo 7017)
สวนลอยฟ้าที่นี่เกิดจากการนำทางยกระดับที่เริ่มทรุดโทรมแล้วมาปรับปรุงให้กลายเป็นสวนลอยฟ้า ชอบไอเดียเขามากเลยนะนำของเก่ามารียูสให้มีมูลค่าอีกครั้งจนตอนนี้ก็กลายเป็นที่เดินเล่น นั่งเล่น พบปะของคนเมืองไปแล้วเรียบร้อย แล้วต้นไม้ก็เยอะด้วยเหมือนเป็นที่พักผ่อนกลางเมืองจริง ๆ ส่วนเลข 7017 ก็มีที่มานะ 70 คือปีที่เริ่มสร้างทางยกระดับนี้ ค.ศ. 1970 ส่วน 17 คือปีที่สร้างเสร็จ (สวนลอยฟ้า) ค.ศ. 2017 นั่นเอง สะพานนี้มีความยาว 1.7 กิโลเมตร สามารถเดินผ่านย่านสำคัญได้เยอะเลยเช่น ตลาดนัมแดมุน กำแพงเมืองโซล ตลาดเมียงดง ภูเขานัมซาน เดินเล่นรอบเมืองได้ชิล ๆ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Seoul Station ใช้ทางออกที่ 2 จากนั้นเดินเลี้ยวขวาไป 130 เมตรจะเจอทางขึ้นสวนลอยฟ้า
36. สวนสนุกและช้อปปิ้งมอล์ล็อตเต้เวิลด์ (Lotte World)
ถ้าจะบอกว่าล็อตเต้เวิลด์เป็นอาณาจักรก็คงไม่ผิดนะ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นสวนสนุกอย่างเดียวแต่จริง ๆ แล้วล็อตเต้เวิลด์ยังมีห้างสรรพสินค้า Lotte World Mall,พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ,อาคาร Lotte World Tower เที่ยววันเดียวไม่น่าครบคงต้องมาหลายวันหน่อย ฮ่า ๆ แต่ที่คนนิยมมาเที่ยวก็จะเป็นสวนสนุก Lotte World Adventure นี่ล่ะ ซึ่งก็มีสวนสนุกย่อยออกมาอีกนะคือ Magic Island ในสวนสนุกแบ่งเป็นโซนตามแต่ละประเทศ ช่วงกลางวันมีขบวนพาเหรดตัวการ์ตูนดัง ส่วนกลางคืนก็มีขบวนพาเหรดแสงสีสุดจัดเต็ม ส่วน Magic Island เป็นสวนสนุกกลางแจ้งซึ่งโอบล้อมด้วยทะเลสาบซอกชน เครื่องเล่นก็จะเป็นแนวผจญภัยโลกใต้น้ำอะไรแบบนี้
ค่าเข้าชม : สำหรับสวนสนุกบัตร 1 วัน ผู้ใหญ่ 62,000 KRW / เด็ก 47,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 หรือ 8 ลงสถานี Jamsil Station แล้วใช้ทางออก 4
37. สวนสนุกโซลแลนด์ (Seoul Land)
สวนสนุกแห่งแรกของเกาหลี สวนสนุกที่นี่เขาออกแบบมาสไตล์ World Square คือสามารถเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกไปได้พร้อมกับชมความสวยงามของงานสถาปัตยกรรมเกาหลีดั้งเดิมได้เลย มีเครื่องเล่นหลายโซนให้เลือกเหมาะกับทุกวัยนะ ตั้งแต่ม้าหมุนยันรถไฟเหาะ มี Jurassic Land ให้เราท่องโลกยุคไดโนเสาร์ได้ด้วย ไดโนเสาร์ตัวใหญ่มากกก นอกจากนี้ในส่วนฝั่งเอ็นเตอร์เมนท์เขาก็มีโชว์เปลี่ยนไปตามฤดูกาลอย่างตอนนี้ก็มี WINTER FESTIVAL ‘LUNA HAPPY HOLIDAYS’ อยู่นะเปิดยาว ๆ ถึงมีนาคมนี้เลย
ค่าเข้าชม : บัตรตอนกลางวัน ผู้ใหญ่ 49,000 KRW / เด็ก 43,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 22.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงที่สถานี Seoul Grand Park ใช้ทางออกที่ 2
38. หอศิลป์ เธียเตอร์ เด ลูมิแยร์ (Theatre Des Lumieres)
เกาหลีเขาก็ขึ้นชื่อเรื่องงานศิลปะเหมือนกันนะ หอศิลป์ในโซลก็มีเยอะพอให้เดินชมงานอาร์ตได้อยู่อย่างที่เธียเตอร์ เด ลูมิแยร์ เป็นที่เที่ยวโซลที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานนี้เอง จัดการแสดงงานศิลปะแนวมีเดียอาร์ตอย่างตอนนี้ก็มีงานศิลปะที่น่าสนใจอย่าง Gustav Klimt, Gold in Motion งานศิลปะสีทองผ่านการฉายด้วย HD Projectors ฉายบนผนังในห้องโถงใหญ่ มีเสียงประกอบและ 3D Sound เหมือนได้หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลย โดยงานศิลปะก็จะมีช่วงเวลาในการแสดงอย่างงานนี้ก็จะโชว์ถึงเดือนมีนาคม 2566 นี้เท่านั้น ใครอยากดูต้องรีบแล้ว
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 29,000 KRW / เด็ก 15,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 21:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินโซลสาย 4 ลงที่สถานี Dongdaemun History & Culture Park Station จากนั้นเปลี่ยนสายรถไฟใต้ดินมาเป็นสาย 5 ไปลงที่สถานีควังนารู จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตรก็จะถึงโรงแรมวอล์คเกอร์ฮิล โฮเทล นิทรรศการจัดขึ้นที่ชั้น B1
39. อุทยานแห่งชาติบุคฮันซาน (Bukhansan National Park Seoul)
มีใครอยากเดินป่าบ้างไหมมม อยู่โซลก็เดินป่าได้นะที่อุทยานแห่งชาติบุคฮันซาน สำหรับเส้นทางเดินป่าจะมีหลายระดับตั้งแต่ 1.9 กิโลเมตรไปจนถึง 5.8 กิโลเมตรเลย ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (สำหรับคนสุขภาพดีทั่วไปนะ) โดยส่วนที่สูงที่สุดคือยอดเขาแบกุนแดสูง 836.5 เมตร หรือใครไม่อยากเดินป่าก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างป้อมปราการพุกฮันซานซองเป็นป้อมปราการกำแพงหิน เพื่อทำหน้าที่เป็นพระราชวัง สำหรับการพำนักของกษัตริย์ในยามฉุกเฉินในสมัยก่อนนั่นเอง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 15:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟนั่งสถานี Gyeongbokgung Station ใช้ทางออกที่ 3 แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถบัส No. 1012 ไปลงที่ป้ายจอดรถสุดท้าย จากนั้นข้ามถนนเดินต่อเล็กน้อยจะเจอทางเข้าของอุทยาน
ที่เที่ยวเกาหลีใกล้โซลที่ห้ามพลาด
40. สวนศิลปะ Anyang Art Park
เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองนอกโซลได้ไม่ยาก เดินทางแค่ 40 นาทีเท่านั้นเอง ที่นี่อยู่จังหวัดคยองกี เป็นสวนศิลปะขนาดใหญ่ที่จัดแสดงงานสถาปัตยกรรมและประติมากรรมกว่า 50 ชิ้น ซึ่งเป็นผลงานของนักออกแบบจากทั่วโลกเลยด้วย น่ามาเดินดูงานมาก ๆ เพราะแต่ละจุดคือมีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกันเลยสักจุด ตอบโจทย์คนชอบงานศิลป์และสายถ่ายรูปสุด จุดฮิตก็จะมี Dimensional Mirror Labyrinth งาน Installation เก๋ ๆ เขาวงกตทรงกลม 3 ชั้นทำจากสแตนเลสถึง 115 ชิ้น และ Linear Building Up in the Trees ไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ อุโมงค์สีฟ้าสร้างขึ้นจากโครงเหล็กและพื้นไม้ ถ่ายรูปตรงไหนก็สวยเพราะเป็นทางคดเคี้ยวที่มีมิติรับแสงจากด้านนอกและเงาของต้นไม้เต็ม ๆ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 22:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายสีเขียวมาลงที่สถานี Sindorim จากนั้นเปลี่ยนไปต่อรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงินมาลงสถานี Gwanak ใช้ทางออกที่ 2 จากนั้นต่อแท็กซี่ไปลงที่ Anyang Art Park ได้เลย
41. เวนิสแห่งเกาหลี (Laveniche March Avenue)
สถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีที่เป็นแลนด์มาร์คใหม่เปิดได้ปีกว่า ๆ เท่านั้นเอง อยู่เกาหลีแต่ฟีลเวนิสต้องมาที่ Laveniche March Avenue ยิ่งโดยเฉพาะตอนกลางคืนมีการประดับไฟทั่วบริเวณและเรือปั่น Moon Boat เรือรูปทรงพระจันทร์เสี้ยวแต่งด้วยไฟสี ๆ LED เห็นแล้วอยากนั่งมากทั่งเก๋ทั้งน่ารัก หรือใครมาเป็นกลุ่มเขาก็มีเรือแบบครอบครัวนั่งได้ 4 คนด้วยนะช่วย ๆ กันถืบ ส่วนบริเวณรอบ ๆ ก็เต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารเพียบเลย เป็น ที่เที่ยวเกาหลี ที่อยากแนะนำให้ลองไปมาก
ค่าเข้าชม : เดินชมบริเวณรอบ ๆ ฟรี แต่ค่าเรือ Moon Boat เริ่มที่ 15,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : เรือให้บริการตั้งแต่ 10.00 – 23.00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Gimpo Gold Line ไปลงที่สถานี Janggi Station แล้วใช้ทางออก 5
42. อินชอน ไชน่าทาวน์ (Incheon Chinatown)
ที่เกาหลีก็มีไชน่าทาวน์เหมือนกัน อยู่ที่เมืองอินชอนแถมเป็นไชน่าทาวน์ที่เดียวในเกาหลีเลยด้วย ศูนย์รวมทุกอย่างที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนโดยเฉพาะอาหาร หลายคนน่าจะเคยได้ยินเมนูที่ชื่อว่าจาจังเมี่ยนหรือบะหมี่ดำเกาหลี แท้จริงแล้วต้นแบบมาจากอาหารจีนนะแต่รสชาติถูกใจคนเกาหลีเลยกลายเป็นอาหารยอดฮิตจนถึงทุกวันนี้และที่นี่ก็เป็นศูนย์รวมร้านจาจังเมี่ยนด้วยนะ มีร้านดังอย่าง Mandabok สุดยอดจาจังเมี่ยนในตำนานคนต่อคิวยาวทั้งวันใครอยากมาลองต้องทำใจรอนิดนึง ร้านใหญ่มีถึง 2 ชั้น ข้างในตกแต่งสไตล์จีนแบบสุด เมนูที่คนสั่งเยอะรองจากจาจังเมี่ยนก็คือเกี๊ยวซ่าทอดร้อน ๆ และข้าวผัดไข่ที่จะมีซอสสีดำจาจังให้ราดบนข้าวอีกที เห็นแล้วก็คือหิววว ใครหาที่เที่ยวต่างจังหวัด ใกล้โซล เดินทางไม่ยากลองมากินของอร่อย ๆ ที่นี่ได้
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ร้านอาหารส่วนใหญ่เปิด 10.00 – 20.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน สาย Seoul Subway 1 ลงที่สถานี Incheon Station แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
43. สวนอินชอนแกรนด์ปาร์ค (Incheon Grand Park)
ยังอยู่กันที่อินชอน ไหน ๆ มาแล้วก็หาที่เที่ยวอีกสักที่ กินจาจังเมี่ยนแล้วก็ไปนั่งเล่นที่สวนอินชอนแกรนด์ปาร์คดีกว่า เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในอินชอน ล้อมรอบด้วยภูเขาและกว้างกว่า 1,800 ไร่ มีหลายโซนเลยนะทั้งสระน้ำขนาดใหญ่ สวนดอกไม้ สวนสัตว์ ที่ออกกำลังกาย ทางจักรยาน โซนปิคนิก นั่งเล่นพักเหนื่อยก็ได้เพลิน ๆ หรือถ้าใครมาช่วงใบไม้ผลิที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระของอินชอนด้วยนะ มีต้นซากุระอยู่ตลอดแนวถนนเลยมาถ่ายรูปเช็คอินน่ารัก ๆ ได้
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 05.00 – 23.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน สาย Seoul Subway 1 ลงสถานี Songnae Station ใช้ทางออกที่ 1 แล้วต่อรถบัสสาย 103, 16-1 หรือ 909 แล้วลงที่ป้าย Inchen Grand Park ได้เลย
44. สวนซองโด (Songdo Central Park)
สวนสาธารณะติดทะเลสาบที่อินชอน เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งสวนนี้ก็อยู่ในโครงการของ Songdo international city อีกทีหนึ่งนะ รอบ ๆ มีศูนย์การค้า โรงแรมหรู โรงพยาบาล ศูนย์ราชการ ออฟฟิศ พิพิธภัณฑ์อะไรแบบนี้ แล้วก็มีโซนสำหรับนักท่องเที่ยวให้ทำกิจกรรมเยอะอยู่อย่าง พายเรือแคนู พายเรือคายัค เช่าเรือล่องแม่น้ำ หรือจะเดินเล่นในสวนก็ได้มีโซนร้านอาหาร คาเฟ่ โซนสัตว์ก็มีเลี้ยงกระต่ายกับกวางด้วยและโซนหมู่บ้านเกาหลีโบราณ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : บริการต่าง ๆ จะเปิด 10.00-19.00 น. และหยุดทุกวันจันทร์
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Central Park ใช้ทางออก 4
45. หมู่บ้านเทพนิยายดงฮวา (Donghwa Maeul)
ที่เที่ยวเกาหลี แสนน่ารักที่เมืองอินชอนคนดีคนเดิม เป็นถนนเส้นเล็ก ๆ มีบ้านที่มีการเพนท์กำแพงหลากสีสันแบบคัลเลอร์ฟลูสุด ๆ เหมือนเดินอยู่ในโลกดิสนีย์อะไรอย่างนั้น รวมถึงมีการตกแต่งบ้านและเพนท์ตัวการ์ตูนดังหลายเรื่องอย่าง ปีเตอร์แพน อลาดิน หนูน้อยหมวกแดง ด้วยนะ แต่ก่อนที่นี่ค่อนข้างเงียบเหงาแต่พอมีการปรับปรุงให้เป็นหมู่บ้านเทพนิยายก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเลยล่ะ มีร้านกาแฟเล็กน้อยพอให้นั่งเล่นชิล ๆ ได้อยู่ 2-3 ร้าน ปล. ตรงนี้อยู่ไม่ไกลจากไชน่าทาวน์เลยนะ สามารถเดินต่อมาจากไชน่าทาวน์ได้เลย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,100 KRW / เด็ก 600 KRW
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 09:00-19:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน สาย Seoul Subway 1 ลงที่สถานี Incheon Station ใช้ทางออก 2,3 เดินเลยไชน่าทาวน์ไปจะเจอหมู่บ้านเลย
46. ป้อมปราการฮวาซอง (Hwaseong Fortress)
เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ตั้งแต่ยุคโจซอนช่วงคศ. 1794 นู่นเลย เป็นที่เที่ยวสำคัญของเมืองซูวอน กำแพงของป้อมปราการมีความยาวถึง 5.5 กิโลเมตร และมีประตู 4 ประตูในแต่ละทิศ เป็นงานสถาปัตยกรรมที่ใหญ่และสวยงามจนได้ขึ้นเป็นมรดกโลกในปี 1997 เป็นที่เรียบร้อย จุดเด่นของที่นี่คือ Changnyongmun Gate ประตูเมืองทางทิศตะวันออก จุดนี้จะเป็นศูนย์รวมของกิจกรรมต่าง ๆ ทั้ง จุดขึ้นรถชมเมือง, Velo Taxi แท๊กซี่จักรยานไฟฟ้าชมเมือง, Flying Suwon ขึ้นบอลลูนชมเมือง, ร้านคาเฟ่ และห้องน้ำ แล้วก็มีสนามฝึกยิงธนูด้วยนะ ใครอยากลองยิงธนูมาให้เจ้าหน้าที่สอนได้เลย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 KRW / เด็ก 500 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน สาย Seoul Subway 1 ลงที่สถานี Suwon Station จากนั้นต่อรถบัสสาย 2, 7, 7-2, 8, หรือ 13 แล้วลงที่ป้าย Jongno 4-geori (intersection)
47. สวนพฤกษศาสตร์ Garden of Morning Calm
สวนนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากฉายาของประเทศเกาหลีนั่นก็คือ ‘ดินแดนแห่งความสงบยามเช้า’ สวนนี้จะเน้นไปที่ความสวยงามของพรรณไม้และโชว์จัดสวนดอกไม้ แล้วก็เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เกาหลีดัง ๆ หลายเรื่องเช่น Moonlight Drawn by Clouds ที่แสดงโดยปาร์คโบกอมด้วยนะ ที่นี่มีหลายโซนให้เลือกเดินทั้งสวนธรรมชาติร่มรื่น โซนศาลาข้างสระบัวที่มีความเกาหลี๊เกาหลี แถมเขาจะจัดสวนดอกไม้เปลี่ยนไปตามฤดูกาลด้วย แล้วก็มีเทศกาลโคมไฟ Lighting Festival at The Garden of Morning Calm ประดับไฟกว่าสามพันดวงช่วงเดือนธันวาคมด้วยนะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 7,000 KRW / เด็ก 6,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 20:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Gyeongchun หรือ รถไฟด่วน ITX ลงสถานี Chengpyeong ทางออก 2 ต่อด้วยรถบัสหมายเลข 31-7 หรือ 31-1
48. เกาะนามิ (Nami Island)
ที่เที่ยวเกาหลียอดฮิตตลอดกาลอยู่ไม่ไกลจากโซลและเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ดังตลอดกาลอย่าง Winter Sonata บรรยากาศโรแมนติกมาก ๆ แต่ละฤดูมีความสวยงามไม่เหมือนกันเลยนะ ใครเคยมาแล้วลองมาครั้งถัดไปในฤดูที่ต่างกันดู ความพิเศษของเกาะนามิคือมีลักษณ์เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว มีต้นไม้ใหญ่ที่เป็นจุดแลนด์มาร์คการถ่ายรูปนั่นคือต้นสนเรียงแนวยาวและต้นแป๊ะก๊วย ไฮไลท์ที่ไม่พูดไม่ได้นั่นก็คือรูปปั้นเบ ยองจุน และชเว จีอู พระนางจากเรื่อง Winter Sonata นั่นเอง เอาไว้ถ่ายรูปเช็คอินว่าฉันมาถึงแล้วจ้า! ฤดูฮิตก็เป็นใบไม้เปลี่ยนสีจะได้เห็นอุโมงค์ต้นแป๊ะก๊วยสีเหลืองทองและต้นเมเปิ้ลสีแดงนั่นเอง
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 8,000 KRW / เด็ก 4,000 KRW (ราคารวมตั๋วเรือแบบไปกลับ)
เวลาเปิด-ปิด : เรือเฟอรี่ข้ามเกาะวิ่งเวลา 07:30-21:40 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Gyeongchun มาลงที่สถานี Gapyeong จากนั้นก็ต่อรถบัสที่หน้าสถานีหรือนั่งรถแท็กซี่ไปลงที่ ท่าเรือเกาะนามิ เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่
49. หมู่บ้านพื้นเมืองเกาหลียงอิน (Korean Folk Village – Yongin)
หมู่บ้านโบราณแบบดั้งเดิม ดั้งเดิมเหมือนที่เราเห็นในหนังย้อนยุคของเกาหลีเลยจริง ๆ แบบแดจังกึมอะไรแบบนี้เลยนะ เป็นบ้านโบราณตั้งแต่สมัยยุคโจซอนมีมากกว่า 260 หลัง แต่เป็นแบบจำลองนะไม่ใช่หมูบ้านจริง ๆ บรรยากาศเงียบสงบเดินชมธรรมชาติได้ไม่วุ่นวายจากนักท่องเที่ยวมากด้วย ภายในหมู่บ้านยังมีพิพิธภัณฑ์ มีสวนสนุกขนาดเล็ก มีบ้านผีสิงด้วย (เป็นผีเกาหลีในบ้านโบราณด้วยนะ) ส่วนใครอยากถ่ายรูปสวย ๆ เขามีชุดฮันบกให้เช่าใส่เที่ยวด้วยจ้า ใครหา ที่เที่ยวเกาหลี ที่ไม่วุ่นวายแนะนำที่นี่นะ เพราะว่าพื้นที่กว้างมากนักท่องเที่ยวเลยไม่มากระจุกกันที่เดียวจนแน่นนั่นเอง
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 15,000 KRW / เด็ก 10,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09:30 – 18:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน สาย Seoul Subway 2 ลงสถานี Gangnam Station ใช้ทางออกที่ 10 จากนั้นต่อรถบัสสาย 5001-1 หรือ 1560 ไปลงที่หมู่บ้านได้เลย
50. สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (Everland)
ปิดจบ สถานที่เที่ยวเกาหลี กับที่เที่ยวนอกโซลแนวสวนสนุกยอดฮิตตลอดกาล ยังอยู่ที่เมืองยงอินเหมือนเดิม เป็นส่วนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี ความเอเวอร์แลนด์เขาก็จะเน้นธีมเทพนิยายเนอะ มีหลายโซนเลยด้วยอย่าง Magic Land,European Adventure,สวนสัตว์ Zootopia,Lost Valley,Plantopia และงานเทศกาลต่าง ๆ เช่น Tulip Festival, Rose Festival, Summer Splash, Halloween Festival แถมล่าสุดยังมี EVER x SMTOWN SEASON.1 ด้วยนะจ้าา โดยเขาจะมีการจัดเครื่องเล่นเป็นธีมศิลปินในค่าย SM ต่อไปเป็นคิวของวง NCT127 และ aespa นั่นเอง แฟน ๆ ตามไปได้เลยน่าสนุกนะ
ค่าเข้าชม : บัตรสำหรับ 1 วัน ผู้ใหญ่ 37,000 KRW / เด็ก 26,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Yongin EverLine ไปลงที่สถานีช Jeondae-Everland station ใช้ทางออกที่ 3 จากนั้นขึ้นรถชัทเทิลบัสฟรีไปลงยัง Everland ได้เลย
เที่ยวเกาหลีด้วย YouTrip ถูกกว่า ประหยัดกว่า
แนะนำวิธีเที่ยวเกาหลีให้ประหยัดงบได้เยอะกว่าเดิมด้วย YouTrip สมมุติทริปนี้ตั้งงบไว้ที่ 1,154,000 KRW ที่ร้านแลกเงินจะเป็นเงินทั้งสิ้น 30,004 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะต้องจ่ายที่ 30,311 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนมาจ่ายด้วย YouTrip จะลดเหลือ 29,698 บาท ประหยัดถึง 613 บาทเลยล่ะ เพราะ YouTrip ให้เรทที่ถูกกว่า ดีกว่า แถมทุกการใช้จ่ายไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ด้วย
เห็นที่เที่ยวเกาหลีแล้วก็อย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีกว่าเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย
จุใจกันไหมกับ ที่เที่ยวเกาหลี ที่ YouTrip พาไปเที่ยวกัน มีหลายที่น่าไปมาก ๆ รวมถึงที่เที่ยวฮิต ๆ ในตำนานไม่ควรพลาดก็จัดมาให้ครบไม่เหลืออออ ปีนี้ใครแพลนเที่ยวโซลหรือที่เที่ยวใกล้โซลเข้ามาส่องเก็บข้อมูลไว้ก่อนได้เล้ยยยย และอย่าลืมไปเกาหลีครั้งนี้ให้ YouTrip ไปด้วยน้า พกไว้ใช้จ่ายระหว่างเที่ยวได้เรทที่ดีกว่า ถูกกว่า ที่สำคัญไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% เหมือนบัตรเครดิตทั่วไปนะ เที่ยวเกาหลีแบบคุ้มๆ สมัครเลย ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี