นาโกย่าเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างโตเกียวและโอซาก้าประเทศญี่ปุ่น ที่อย่างที่เรารู้กันว่านาโกย่าเป็นเมืองแห่งอุสาหกรรมฉะนั้นที่นี่จะมีโรงงานชื่อดังมากมายตั้งอยู่ แต่ในมุมของการท่องเที่ยวแล้วที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งวัฒนธรรม อาหารท้องถิ่นและธรรมชาติ มีให้เที่ยวครบไม่น่าเบื่อแน่นอน วันนี้ YouTrip จะมาแนะนำที่เที่ยวนาโกย่าที่ห้ามพลาด มาดูกันเลยว่าจะมี ที่เที่ยวนาโกย่า ที่ไหนน่าสนใจบ้าง
เที่ยวนาโกย่าเดือนไหนดี?
ฤดูกาลที่เหมาะกับการเที่ยวนาโกย่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่อากาศกำลังพอดี หรือฤดูหนาวก็ฮิตเช่นกันแต่อาจจะเจอกับหิมะเยอะสักหน่อย
ดูหนาว ธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ย 1-12 องศา หิมะตกมาก การท่องเที่ยวอาจจะยากลำบากสักหน่อยเนื่องจากเราจะเจอหิมะแทบทุกวันเลย
ฤดูใบไม้ผลิ มีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 4-24 องศา ฤดูฮิต อากาศกำลังดี ใครชอบหนาว ๆ ก็มาได้แบบไม่ทรมานเกินไป หรือชอบเดินเล่ยสบาย ๆ ก็ชิวมาก มีซากุระบานช่วงปลายมีนาคมด้วย
ฤดูร้อน มิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 19-33 องศา อากาศร้อนสลับฝนตก แต่จะมีฝนตกมากในช่วงกันยายน
ฤดูใบไม้ร่วง กันยายน – พฤศจิกายน อุณหภูมิเฉลี่ย 8-29 องศา เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ใครสายรูปต้องไม่พลาด ทั้งเมืองจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล สีส้ม สีเหลืองตามต้นไม้ เพื่มเสน่ห์ให้นาโกย่ามาก ๆ เลยล่ะ
รวม 15 ที่เที่ยวนาโกย่า ที่ห้ามพลาดไปเช็คอิน
1. Korankei
เริ่มต้น ที่เที่ยวนาโกย่า ที่แรก มาเพลิดเพลินกับฤดูใบไม้ร่วงที่โครังเคกันเถอะ ที่นี่คือหุบเขาโครังเกขึ้นชื่อเรื่องใบไม้หลากสี แถมยังมีต้นเมเปิ้ลอยู่กว่า 4,000 ต้น! และปริมาณมากขนาดนี้เขาก็เลยมีเทศกาลเมเปิ้ลด้วยจะจัดช่วงพฤศจิกายนของทุกปี มีประดับไฟตอนกลางคืนด้วย เอกลักษณ์ของที่นี่คือสะพานไทเกะซึเคียว สะพานแดงที่จุดแลนด์มาร์คของการถ่ายภาพ และยังมีโขดหินริมแม่น้ำพื้นหลังเป็นต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีสวยงามมากเลยละ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา ช่วงงานประดับไฟเปิดไฟตั้งแต่พระอาทิตย์ตกถึง 21.00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Meitetsu Nagoya station มาเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Chiryu Station ลงรถไฟที่ สถานี Meitetsu Toyotashi Station แล้วนั่งรถบัส Meitetsu Yamami line มาลงที่ Korankei Bus Stop
2. Nagoya Castle
ขอแนะนำที่เที่ยวนาโกย่ากันต่อกับปราสาทนาโกย่าที่คุณห้ามพลาด ก็เพราะว่าที่นี่ถือเป็นเอกลักษณ์ของนาโกย่า รวมถึงรูปสลักปลาหัวเสือทองคำที่ถือเป็นเครื่องรางป้องกันภัยอันตรายอีกด้วย ตัวปราสาทมีทั้งหมด 7 ชั้น ภายในประกอบด้วยนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และการจัดแสดงอุปกรณ์ต่างๆ บริเวณรอบๆ ปราสาทมีคูเมืองและสวนซึ่งเป็นจุดยอดนิยมในการมาชมซากุระบาน ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายนด้วย นอกจากนี้ข้างกันยังมีพระราชวังฮอมมารุ ที่ออกแบบและตกแต่งแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ มีจัดแสดงภาพเขียนต่าง ๆ ให้ชมด้วย
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 500 JPY (เด็กเข้าชมฟรี)
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 น. – 16.30 น.
การเดินทาง : จากสถานี Nagoya ให้นั่งรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama Lineให้เปลี่ยนเป็นสาย Meijo Line (Clockwise) ที่สถานี Sakae มาลงที่สถานี Shiyakusho
3. Nagoya TV Tower
หอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นกลายเป็น ที่เที่ยวนาโกย่า สุดฮิตของนักท่องเที่ยว หอคอยมีความสูง 180 เมตร ซึ่งหอคอยมีต้นแบบมาจากหอไอเฟลที่ปารีสนั่นเอง ด้านมีจุดชมวิวโดยมักจะมีการตกแต่งตามธีมต่าง ๆ อยู่เสมอ เช่นวันวาเลนไทน์ หรือเทศกาลของญี่ปุ่น ช่วงเวลาที่แนะนำให้ขึ้นมาคือก่อนพระอาทิตย์ตกดิน จะได้เห็นทั้งบรรยากาศ กลางวัน โพล้เพล้ และ แสงไฟในยามค่ำคืน ทำให้รู้สึกว่านาโกย่ามีชีวิตชีวามาก ๆ
ค่าเข้า : 700 JYP / คน
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
การเดินทาง : โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Higashiyama Line ไปลงที่ Sakae Station
4. Osu Kannon Temple
วัดเจ้าแม่กวนอิมแกะสลัก เป็นที่เที่ยวนาโกย่าที่มีความสวยงามและเก่าแก่ด้านวัฒนธรรมมาก ๆ มีสมบัติประจำชาติหลายชิ้นและสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญรวมทั้งสำเนาโคจิกิที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอยู่ด้วยนะ เรียกว่าเป็นสถานที่รวมตำนานเลยก็ว่าได้ ไฮไลท์คือโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ที่สามารถเขียนคำอธิฐานลงบนกระดาษแล้วเอาไปผูกติดกับโคมไฟได้ด้วย เชื่อว่าคำอธิฐานของเราจะเป็นจริงล่ะ ใครสายขอพรไหว้พระ แนะนำที่เที่ยวนาโกย่าที่วัดโอสุคันนอนเลย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา
การเดินทาง : จากสถานี Kamimaezu บนรถไฟใต้ดิน Tsurumai และ Meijo ผ่านทางช้อปปิ้งอาเขตที่อยู่ติดกับวัด ใช้เวลาเดินเพียง 5-10 นาที
5. Atsuta Shrine
พูดถึงญี่ปุ่นก็ต้องนึกถึงศาลเจ้าเนอะ ที่นี่เป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดของศาสนาชินโต ที่โดดเด่นมาก ๆ คือสถาปัตยกรรมที่สร้างแบบญี่ปุ่นชินเมซูคุริ แถมยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพแห่งพระอาทิตย์ Amaterasu ที่ผู้คนต่างให้การเคารพบูชา และที่สำคัญยังมีห้องเก็บดาบศักดิ์สิทธิ์ Kusanagi ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของจักพรรดิและยังมี Bunka-Den (Treasure Exhibition Hall) เป็นที่เก็บโบราณวัตถุอีกหลายพันชิ้นด้วย
ค่าเข้า : ศาลเจ้าเข้าชมฟรี / Bunka-Den ค่าเข้า 300 JPY
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา / Bunka-Den เปิดตั้งแต่ 9.00 – 16.30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Meitetsu Line มาลงที่สถานี Jingumae เดินต่ออีก 3 นาที
6. Chiyoho Inari Shrine
Photo by : wabisabimiyabi
หากอยากได้บรรยากาศแบบเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่น แนะนำที่เที่ยวนาโกย่าที่ศาลเจ้าจิโยโบะอินาริเป็นตัวเลือกที่แจ่มสุด ๆ ที่นี่จะสักการะบูชา “อินาริไดจิน” หรือเทพเจ้าแห่งธัญญาหาร ส่วนใหญ่คนที่เดินทางมากขอพรก็จะเน้นเรื่องธุรกิจค้าขายรุ่งเรืองอะไรแบบนี้กัน และที่เป็นไฮไลท์เลยคือที่นี่เขาจะใช้เต้าหู้ทอดเป็นเครื่องสักการะให้กับสุนัขจิ้งจอกซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้รับใช้เทพเจ้าอินาริไดจินเนื่องจากคนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าสุนัขจิ้งจอกชอบกินเต้าหู้ทอดนั่นเอง ใครสายบุญแวะมาเลย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงที่สถานี Gifu-Hashima Station จากนั้นเดินหรือนั่งแท็กซี่ต่อได้ประมาณ 20 นาที
7. Tokoname
แหล่งท่องเที่ยวผลิตเครื่องปั้นดินเผาเมืองโทโกนาเมะ ที่เมืองนี้มีวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมาคือการทำเครื่องปั้นดินเผาที่สืบต่อกันเป็นรุ่น ๆ มาเป็นพันปีแล้ว ที่นี่ยังมี ยากิโมโนะ ซันโปโดะ หรือเส้นทางเครื่องปั้นดินเผาเป็นพื้นที่ของหมู่บ้านเซรา ได้รับการยอมรับว่าเป็นมรดกของญี่ปุ่นอีกด้วยนะ และที่ขาดไม่ได้เลยหรือแมวกวักนำโชคที่ทุกคนคุ้นเคยก็มาต้นกำเนิดมาจากเมืองนี้เช่นกันเพราะที่นี่มีแมวกวักนำโชคอยู่ทุกหนทุกแห่งในเมือง และยังมีแมวกวักขนาดยักษ์ที่มีความกว้าง 6.3 เมตรและสูง 3.8 เมตร อย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกับน้องแมวกวักกันน้า
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : รอบ ๆ หมู่บ้านเปิดตลอดเวลา
การเดินทาง : จากสถานี Nagoya Station เดินไปสถานี Meitatsunagoya Station เพื่อนั่งรถไฟ Metestu Ltd.Exp ไปลงที่สถานี Tokoname Station
8. Nagoya City Science Museum
มาดู ที่เที่ยวนาโกย่า สำหรับครอบครัวกันบ้างดีกว่ากับ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า ใครวางแพลนพาเด็ก ๆ มาเปิดหูเปิดตาบอกเลยว่าที่นี่นอกจากเป็นที่เที่ยวแล้วยังได้ความรู้กลับไปเต็ม ๆ ตัวอาคารมีลักษณ์เป็นรูปโลกยักษ์สีเงินซึ่งโดดเด่นมาก มีท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยล่ะ น่าสนใจมาก! พิพิธภัณฑ์มีทั้งหมด 7 ชั้น มีการจัดแสดงนิทรรศที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงกิจกรรมเพื่อเรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านการทดลอง เช่น ห้องแลปทอร์นาโด ห้องแลปไฟฟ้า และห้องแลปแช่แข็งที่จำลองสภาวะบริเวณขั้วโลก อีกด้วย
ค่าเข้า : คนละ 800 JPY (รวมตั๋งเข้าชมการแสดงท้องฟ้าจำลอง)
เวลาเปิด-ปิด : 9.30-17.00 น. ปิดทุกวันจันทร์
การเดินทาง : โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Higashiyama Line หรือ Tsurumai Subway Line ไปลงที่สถานี Fushimi Station แล้วเดินต่อไปอีก 5-10 นาที
9. Noritake Garden
แนะนำที่เที่ยวนาโกย่าแหล่งชิวสุดฮิต ที่นี่คือสวนโนริตาเกะ บริเวณสวนเป็นที่ตั้งของจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์หัตถกรรม ผู้เข้าชมสามารถชมกระบวนการการสร้างเครื่องลายคราม หรือจะลองทำด้วยตนเองก็ได้ด้วย ไฮไลท์อีกอย่างก็คือ ตึกอิฐแดง ที่เป็นจุดนิยมของการถ่ายภาพบรรยากาศรอบ ๆ เป็นตึกอิฐแดงทรงยุโรป ลานน้ำพุ สนามหญ้า และลำธารน้ำใส ภายในบริเวณสวนกว้างขวางมากสามารถมาเดินเล่นกินชมชิว ๆ หรือหากิจกรรมทำได้เลย
ค่าเข้า : บริเวณรอบสวนเข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 -17.00 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสายฮิกาชิยามะ ลงที่สถานีคาเมะจิมะ ไปทางออกที่ 2 แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
10. Oasis 21
ที่เที่ยวนาโกย่าในย่านซาคาเอะ ที่นี่คือศูนย์การค้าโอเอซิส 21 เป็นที่ฮอตฮิตของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาก ๆ เนื่องจากเป็นแหล่งช้อปปิ้งและมีอาหารหลากหลายให้เลือกชิม ทั้งอาหารนานาชาติ หรืออหารท้องถิ่นก็มีครบ จุดเด่นอยู่ที่ Spaceship Aqua เป็นโครงสร้างกระจกแบบรูปวงรีขนาดใหญ่ยักษ์เหนือพื้น 14 เมตร สามารถเดินบริเวณขอบด้านนอกได้ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กลางอากาศ และยังมีสวน Field of Green ที่อยู่ระดับเดียวกับพื้นอีกด้วย ต้นไม้เขียวสดใสตลอดทั้งปีเป็นจุดฮิตที่อยากแนะนำที่เที่ยวนาโกย่าเลย
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1,000 JPY / เด็ก 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
การเดินทาง : โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Sakuradori Line ไปลงที่ Hisayaodori Station
11. Sakae
ย่านซากาเอะอยู่ใจกลางเมืองนาโกย่า เป็นย่านท่องเที่ยงและแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญของนาโกย่าเลยเลย บริเวณใกล้กันก็มี Nagoya TV Tower และ Oasis 21 ที่เราแนะนำที่เที่ยวนาโกย่าไปก่อนหน้านี้แล้วด้วยนะ นอกจากนี้ยังมี Sky Boat ชิงช้าสวรรค์ขนาด 52 เมตรไซส์ยักษ์จุใจที่สามารถขึ้นไปนั่งเล่นชมวิวสูง ๆ ได้ด้วย และที่สำคัญมีดองกี้นะจ๊ะ คนไทยต้องห้ามพลาดแล้วไหม ไปขนขนมญี่ปุ่นกลับไทยแบบจุก ๆ ได้เลยจ้า เรียกว่าเป็นย่านที่สามารถใช้ชีวิตยามค่ำคืนได้เต็มอิ่มเลย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าต่าง ๆ เปิดประมาณ 10.00 – 21.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Meijo Line มาลงสถานี Sakae ออกทางออกหมายเลข 16 แล้วเดินอีก 3 นาที
12. LEGOLAND® Japan
อย่าว่าแต่เด็กเลยผู้ใหญ่อย่างเราก็อยากไป ฮ่า ๆ ไปตะลุยเลโก้แลนด์กัน! บอกเลยว่าสีสันคือจัดเต็มเหมือนอยู่ในโลกของเลโก้แบบ 3000% ในเลโก้แลนด์ แบ่งออกเป็น 6 โซน ซึ่งจะมีทั้งโซนของเด็กโดยเฉพาะและโซนที่เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เหมาะเป็นกิจกรรมครอบครัวมาก โซนใหม่ล่าสุดคือ Ninjago World เอาใจวัยรุ่นสุด มีเครื่องเล่น Flying NINJAGO ที่บินได้สูงถึง 22 เมตร ด้วยความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กรี๊ดกันให้คอแตกไปเลย แถมยังมีกันดั้มยักษ์ที่เป็นเวอร์ชั่นเลโก้ด้วย เท่มาก เอาเป็นว่าใครเป็นแฟนเลโก้อย่าพลาด ที่เที่ยวน่าโกย่า ที่นี่เด็ดขาดเลยนะ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 6,200 JPY / เด็ก 4,700 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 16.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสด่วน JR Tokai Expressway Bus จากสนามบิน Centrair International Airport มาถึงสถานี Kinjo-futo แล้วเดินต่ออีกประมาณ 3 นาที
13. Nagashima Resort
นางาชิมะ รีสอร์ทแต่ไม่ได้เป็นแค่รีสอร์ทแต่ยังเป็นสวนสนุก สวนน้ำและศูนย์การค้าไปเลยจ้า เรียกว่าอณาจักรก็ไม่ผิดนะแบบนี้ ที่สวนน้ำมีที่สระที่มีคลื่นด้วย สามารถเล่นกระดาษลื่นได้แบบฟิน ๆ ส่วนน้ำพุร้อนเขามีส่วนที่สปาสำหรับใครอยากผ่อนคลายก็มาอาบน้ำได้เลยมีทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง สวนสนุกก็มีเครื่องกว่า 40 ชนิดให้เลือกแบบจุก ๆ นอกจากนี้ยังมีศูนย์การค้าใหญ่รวมร้านค้ากว่า 300 ร้านกันไปเลย แต่ไฮไลท์ที่สวนดอกไม้นาบะนะ โนะ ซาโตะ ที่เต็มไปด้วยสีนสันของดอกไม้หลากสีแถมเดือนตุลาคมและช่วงต้นเดือนพฤษภาคมจะมีการประดับไฟทั่วทั้งสวนเลยโรแมนติกมาก ๆ
ค่าเข้า : สวนสนุกเรื่มที่ 1,600 JYP / น้ำพุร้อน 2,100 JYP
เวลาเปิด-ปิด : 09.00-21.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Meitetsu Bus Center (ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟ Nagoya Station) โดยสารรถบัสที่มุ่งสู่ Nagashima Onsen ไปลงที่ Nabana no Sato
14. Higashiyama Zoo & Botanical Gardens
แนะนำที่เที่ยวนาโกย่าสำหรับคนรักสัตว์รักธรรมชาติ ที่นี่คือ สวนสัตว์ฮิงาชิยามะและพฤกษศาสตร์ แบ่งพื้นที่เป็นโซนสวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์อยู่คนละฝั่งกัน ซึ่งตรงกลางระหว่างสองโซนจะเป็นที่ตั้งของอาคารสูง Higashiyama Sky Tower นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองได้ด้วยนะ ฝั่งสวนสัตว์ก็มีสัตว์กว่า 500 สายพันธุ์ทั้งลิงแชมแพนซี, จิงโจ้, เสือโคร่งสุมาตรา, สิงโต, ยีราฟ, โคอาลา, แรดอินเดีย ฯลฯ โซนสวนพฤกศาสตร์ ร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาชนิดรวมกว่า 7,000 สายพันธุ์ ทั้งไม้ยืนต้น พืชสมุนไพร พืชน้ำ และสวนญี่ปุ่น
ค่าเข้า : 500 JPY/คน
เวลาเปิด-ปิด : 09.00-16.50 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Higashiyama ลงสถานี Higashiyama Koen ทางออก 3 แล้วเดินตรงไปยังประตูทางเข้าสวนสัตว์ระยะทางประมาณ 150 เมตร
15. Port of Nagoya Public Aquarium
ปิดจบทริปเที่ยวด้วย พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกย่า มีโชว์การแสดงจากสัตว์น้ำน่ารักแสนรู้และเป็นที่อยู่ของสัตว์น้ำอีกมากมายเลย แบ่งออกเป็น 2 อาคาร อาคารทิศเหนือเป็นที่อยู่และที่จัดแสดงโชว์ของโลมา วาฬออร์กาและวาฬเบลูกา อาคารทิศใต้ ป็นที่อยู่ของสัตว์และที่จัดแสดงของสัตว์น้ำในทวีปแอนตาร์กติกาในซีกโลกใต้ รวมถึงสัตว์ทะเลในบริเวณรอบๆ ญี่ปุ่น ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือน้องโลมาแสนรู้ที่จะโชว์ทักษะต่าง ๆ ให้เราชมนั่นเอง
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 2,000 JPY / เด็ก 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 17.30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Meiko Line มาลงที่สถานี Nagoyako (ออกทาง Exit 3) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
เที่ยวญี่ปุ่นด้วย YouTrip ประหยัดกว่า
แนะนำวิธีเที่ยวญี่ปุ่นให้ประหยัดกว่าเดิมด้วย YouTrip ประหยัดยังไงมาดูกัน สมมุติตั้งงบเที่ยวญี่ปุ่น ครั้งนี้ไว้ที่ 120,000 JPY ที่ร้านแลกเงินจะอยู่ที่ 32,520 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 33,350 บาท แต่หากเปลี่ยนมาจ่ายด้วย YouTrip จะเหลือเพียง 32,418 บาท ประหยัดมากขึ้น 932 บาท เพราะ YouTrip ให้เรทที่ดีไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย
นาโกย่าถือเป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอยู่หลากหลายและสวยงามมาก ๆ ใครอยากมาเที่ยวญี่ปุ่นแบบได้สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมลองแวะมาเที่ยวที่นาโกย่าดูนะ บ้านเมืองสวยงาม อาหารอร่อย แถมเดินทางง่ายด้วย และเพื่อให้ทริปนี้เริ่ดกว่าเดิมอย่าลืมพก YouTrip เป็นตัวช่วยความประหยัดในทริปญี่ปุ่นครั้งด้วยนะ เพราะให้คุณ ใช้จ่าย เรทดี ทุกที่ทั่วโลก ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% คุ้มค่า ใช้สะดวก รับรองประหยัดขึ้นเยอะ สมัครฟรี! ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
