หากพูดถึงจังหวัดที่มีความเก่าแก่มากสุดของญี่ปุ่นต้องยกให้กับ “เกียวโต” อดีตเมืองหลวงเก่าที่ปัจจุบันยังคงความน่าสนใจโดยเฉพาะวัดวาอารามเอาไว้แบบไม่เสื่อมคลายพร้อมถูกยกให้เป็นเมืองมรดกโลก ใครเป็นสายมู หรือชอบความเงียบสงบอยากลองเที่ยววัดญี่ปุ่นดูบ้างอย่าพลาดกับ 24 วัดเกียวโต จัดให้ครบ!
ทำความรู้จักกับเกียวโตกันสักนิด
เกียวโต คือเมืองหลวงแห่งนครเกียวโต ตั้งอยู่บนเกาะฮนซู ภูมิภาคคันไซ ก่อตั้งมาตั้งแต่ ค.ศ. 794 เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นมาจนถึงช่วงปี ค.ศ. 1869 แต่ภาพลักษณ์ของความเป็นเมืองเก่าแก่ มีสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณไปจนถึงวัดวาอารามที่บ่งบอกวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นในยุคอดีตก็ยังคงอยู่แบบไม่เสื่อมคลาย ซึ่งใครสงสัยว่า ไปเกียวโตลงสนามบินอะไร แนะนำท่าอากาศยานนานาชาติคันไซจะสะดวกที่สุด
ไปเกียวโตช่วงไหนดี ?
- ฤดูหนาว เดือนธันวาคม –กุมภาพันธ์ อากาศหนาวเย็น อุณหภูมิ 0-5 องศาเซลเซียส มีหิมะปกคลุมในบางช่วง
- ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม – พฤษภาคม อากาศกำลังสบาย อุณหภูมิ 7-20 องศาเซลเซียส เป็นช่วงของการชมดอกซากุระและใบไม้ผลิสวย ๆ
- ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน – สิงหาคม อากาศร้อน อุณหภูมิ 25-35 องศาเซลเซียส ตั๋ว โรงแรมราคาถูก มาเที่ยวได้เช่นกัน
- ฤดูใบไม้ผลิ เดือนกันยายน – พฤศจิกายน อากาศกลับมาเย็นสบายอีกครั้ง อุณหภูมิ 7-20 องศาเซลเซียส เหมาะกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีมาก
การเดินทางไปเกียวโตมีวิธีไหนบ้าง ?
จากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ หากแนะนำวิธีเดินทางสะดวกที่สุดมุ่งตรงไปเมืองเกียวโตเลยแนะนำให้เลือกรถไฟ Airport Express JR HARUKA ลงสถานีเกียวโต จะสะดวกมากที่สุด ใช้เวลาราว 75 นาที ค่าโดยสารเริ่มต้นประมาณ 3,800 JPY ต่อเที่ยว
แต่ถ้าใครไม่รีบร้อนจะเลือกใช้บริการ Nankai Line Rapi:t Airport Express ก็ได้เช่นกัน นั่งลงที่สถานี Tengachaya แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Sakaisuji ลงสถานี Awaji จากนั้นเปลี่ยนสายนั่ง Hankyu-Kyoto ลงที่สถานี Kyoto-Kawaramachi ใช้เวลาเดินทางประมาณ 100 นาที
นอกจากนี้ยังมีวิธีเดินทางด้วยรถบัสลีมูซีนจากสนามบินคันไซไปยังเมืองเกียวโตโดยตรง ใช้เวลาประมาณ 90 นาที
การใช้จ่ายในญี่ปุ่นใช้อะไรดี ?
สมมุติคุณวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยงบ 120,000 JPY หากแลกเงินกับร้านจะได้ 32,520 บาท จ่ายด้วยบัตรเครดิตอยู่ที่ 33,350 บาท แต่เมื่อจ่ายด้วย YouTrip เหลือเพียง 32,418 บาท ประหยัดถึง 932 บาท เพราะใช้ YouTrip เรทดี ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5%
แนะนำ 24 วัดเกียวโต ดินแดนแห่งมรดกโลก
1. Kinkaku-ji Temple
วัดแห่งชัยชนะและความโชคดีของโอซาก้ามีชื่อเล่นว่า ‘วัดของดารุมะ’ ด้วย เป็นเครื่องรางนำโชคที่ที่คนมักซื้อไปขอพรวัดคินคะคุจิหรือวัดทอง ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะว่าตัวอาคารหลักของวัดมีสีทองอร่ามตั้งอยู่ท่ามกลางน้ำ เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวเกียวโต สุดฮิตทั้งคนไทยและต่างชาติรวมถึงคนญี่ปุ่นเองก็นิยมมาที่นี่เช่นกัน นอกจากตัวอาคารสีทองของวัดแล้วภายในวัดยังมีความน่าใจอื่นๆ ทั้งงานสถาปัตยกรรมที่งดงามแบบญี่ปุ่น และบรรยากาศรอบวัดที่จัดสวนได้เป็นระเบียบสไตล์สวนญี่ปุ่นด้วย ช่วงไฮไลท์ก็จะเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีรอบวัดจะมีใบไม้สีแดง เหลือง ส้ม ทำให้นักท่องเที่ยวถ่ายสวยๆ รูปกันได้ตลอดทางเดินเลย
ค่าเข้า : 400 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดจะเป็น Kitanohakubaicho Station จากนั้นต่อรถหมายเลข 204, 205 ลงป้าย Kinkakujimichi แล้วเดินเข้าวัด
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/6K9H1wHuooXgoe2h6
2. Ginkaku-ji Temple
มาดู วัดเกียวโต ที่คนไทยเรียกอีกชื่อว่า “วัดเงิน” ก็ได้เช่นกัน ตั้งอยู่ใกล้กับพระราชวังหลวงเกียวโต ก่อสร้างเมื่อปี 1460 เพื่อใช้เป็นบ้านพักตากอากาศของโชกุนอาชิกางะ โยชิมาซะ ตอนเกษียณ ก่อนมีการต่อเติมในปี 1482 เพื่ออุทิศแด่พระโพธิสัตว์คันนง โดดเด่นด้วยอาคารโทงุโดซึ่งออกแบบตามสถาปัตยกรรมโบราณแบบญี่ปุ่น ด้านในเป็นหอพระสำหรับกราบไหว้ ตัววัดมีความเงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง
ค่าเข้า : 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Keihan Railway ลงสถานี Demachiyanagi Station เดินต่อ 10 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/waDR8m3xkDBwKyzN7
3. Kiyomizudera Temple
วัดคิโยมิสุเดระ มีอีกชื่อเล่นหนึ่งคือ วัดน้ำใส ซึ่งมาจากชื่อภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่าน้ำบริสุทธิ์นั่นเอง วันนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในเกียวโต คนไทยนิยมไปเที่ยวกันมากและเป็นหนึ่งในมรดกโลกด้วย จุดเด่นของวัดนี้คือศาลาไม้สีแดงที่ตั้งอยู่บนเนินเขา การออกแบบถูกรองรับด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่กว่าร้อยต้น ถ้ามองจากศาลาลงไปด้านล่างจะเห็นต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเป็นสีแดงในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และเห็นซากุระในช่วงซากุระบานด้วย และจุดไฮไลท์อีกทีคือ ฮอนโดะ อาคารหลักของวัดความสูง 13 เมตร โครงสร้างทำจากไม้ด้านในมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เมื่ออยู่ในอาคารนี้จะมองเห็นเมืองเกียวโตได้รอบ ถ้ามองดีๆ จะเห็น Kyoto Tower ด้วย
ค่าเข้า : 400 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 06:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Kiyomizu-Gojo สามารถต่อรถบัสลงที่ป้าย Kiyomizu-michi หรือเดินต่อจากสถานีรถไฟประมาณ 1.8 กิโลเมตร
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/eWVydA7UmPGHHxC2A
4. Fushimi Inari Shrine
ศาลเจ้าเทพอินาริหรือที่คนไทยมักเรียกกันว่าศาลเจ้าจิ้งจอก ที่นี่เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต เป็นที่เที่ยวเกียวโต สุดฮิตเลยก็ว่าได้เพราะที่นี่ดังมาจากประตูโทริอิหรือเสาประตูแดงที่เรียงตัวกันอยู่หลังศาลเจ้าหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินที่สามารถเดินได้ทั่วทั้งเขาอินาริเลย นอกจากนี้ระหว่างก็จะมีร้านอาหาร ร้านขนมท้องถิ่นขายด้วย ความน่ารักคือเขาจะตั้งชื่อเป็นธีมจิ้งจอกให้เข้ากับศาลเจ้านะ อย่างเช่น ซูชิจิ้งจอก อูด้งจิ้กจองอะไรแบบนี้
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Nara ลงที่สถานีรถไฟ JR Inari ศาลเจ้าจะอยู่ด้านหน้าสถานีเลย
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/TSh27U98vVtkCQCt6
5. Tofukuji Temple
วัดโทฟุคุจิเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดังมากๆ ในเกียวโต และไม่ใช่แค่นั้นภายในวัดเองก็มีจุดน่าสนใจอย่างอื่นอีกหลายอย่าง เช่น ประตูซานม่อน ความสูง 22 เมตร สร้างแบบเซ็นโบราณ หรืออาคารภายในวัดที่สร้างตั้งแต่สมัยมูโรมาชิ ส่วนจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูใบไม้เปลี่ยนสีมากที่สุดคือสะพานซุเทนเคียว จะมีใบไม้เปิ้ลจะปกคลุมสะพานยาวถึง 100 เมตร บรรยากาศในวัดร่มรื่นมากมีต้นไม้และการจัดสวนแบบญี่ปุ่นอยู่บริเวณรอบให้เราเดินชมความสวยงามเพลินๆ เลย
ค่าเข้า : บริเวณรอบวัดเข้าชมฟรี / สะพานซุเทนเคียวและอาคารอื่นๆ ค่าเข้าชม 400 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 16:30 น.
การเดินทาง : จาก Kyoto Station โดยสารรถไฟ JR Nara Line หรือ Keihan Main Line ลงที่ Tofukuji Station จากนั้นเดินต่ออีก 10 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/eUVNWenkHxgJiyLB7
6. Kifune Shrine
มาถึงเกียวโตก็ต้องไม่พลาดท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างศาลเจ้า ที่นี่คือศาลเจ้าคิฟุเนะ ตั้งอยู่บนเขาทางตอนเหนือของเกียวโต จุดเด่ดคือโคมไฟสีแดงที่บันไดหินตรงทางเข้า ที่นี่ผู้คนนิยมไปขอพรเรื่องความรัก และเซียมซีลอยน้ำที่ใบเซียมซีจะต้องแช่น้ำก่อนถึงจะเห็นคำทำนายด้วย บรรยากาศในศาลเจ้าก็จะมีความธรรมชาติมากๆ เนื่องจากอยู่บนเขา เห็นวิวภูเขาและในช่วงใบไม้เปลี่ยนก็เจอกับใบเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยล่ะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 06:00 – 20:00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟ JR Nara Line มาลงที่สถานี Tofukuji จากนั้นเป็นรถไฟสาย Keihan Main Line มาลงที่สถานี Demachi-Yanagi เปลี่ยนเป็นรถไฟอีกครั้งเป็นสาย Eizan Main Line มาลงที่สถานี Kibuneguchi จากนั้นให้ต่อรถบัสหมายเลข 33 ที่ป้าย Kibuneguchi Ekmae นั่งมาลงที่ป้าย Kifune แล้วเดินต่ออีก 5 นาทีก็จะถึงศาลเจ้า
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/x3STPJrz9ZRg2ciw5
7. Joruri Ji Temple
เป็นที่เที่ยวเกียวโต ที่มีความเรียบง่าย วัดโจรุริจิสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 มีวิหารหลักและเจดีย์สามชั้นเป็นไฮไลท์ของที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของยากุชิ เนียวไร หรือ เทพแห่งยารักษาโรค นั่นเอง ภายในวัดยังมีสวนญี่ปุ่นแบบโบราณ ที่สร้างขึ้นเลียนแบบพุทธเกษตรแดนสุขาวดีด้วย เป็นจุดฮิตที่คนนิยมมาถ่ายรูปและพักผ่อนกัน ใครวางแผนมาเที่ยวเกียวโตอยากให้แวะมาไหว้พระขอพรกันที่นี่นะ บรรยากาศดีมากแถมยังได้พักผ่อนจิตใจด้วย
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 400 JPY / เด็ก 200 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Yamatoji ลงสถานี Kamo จากนั้นให้ขึ้นรถบัส Kizugawa ลงที่ป้าย Joruri-ji mae
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/E5fENJfmrdWystgt7
8. Tenju-an Temple
วัดเทนจูอันจะตั้งอยู่ในวัดนันเซนจิซึ่งเป็นวัดนิกายเซนที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ด้านในยังมีโรงเรียนสอนพุทธศาสนานิกายเซนอีกด้วย เนื่องจากเป็นวัดขนาดใหญ่มากจึงจะมีวัดเล็กๆ ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันหนึ่งในนั้นก็คือวัดเทนจูอันนั่นเอง ที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมมากช่วงเดือนพฤศจิกายน อากาศหนาวๆ กับบรรยายกาศญี่ปุ่นแบบเก่าๆ เป็นอะไรที่เข้ากันสุด
ค่าเข้า : 400 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : รถบัสจากสถานี Kyoto Station สาย 5 ลงป้าย Nanzenji-Eikando-michi ใช้เวลา 35 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/D1BxSJAmvBmvZC7T7
9. Byodoin Temple
สถานที่สำคัญและชื่อเสียงโด่งดังของจังหวัดเกียวโต สร้างขึ้นมากว่า 1,000 ปีแล้วและได้รับเลือกจากยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นด้วย ไฮไลท์ของวัดคือ Amida-do Hall วิหารไม้สีแดงตั้งอยู่ใจกลางของวัด โครงสร้างดั้งเดิมตั้งแต่อดีต มุมสันหลังคามีรูปปั้นนกโฮโอหรือนกฟีนิกซ์ ล้อมรอบด้วยบึงน้ำใสที่เต็มไปด้วยปลาคาร์ปตัวใหญ่ มองแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเป็นวิหารลอยน้ำเลยล่ะ นอกจากนี้ในวัดยังมี Hoshokan Museum พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของโบราณ สวนญี่ปุ่นสามารถเดินเล่นได้ด้วย
ค่าเข้า : บริเวณวัดเข้าชมฟรี สวนและพิพิธภัณฑ์ค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่ 600 JPY / เด็ก 400 JPY
เวลาเปิด-ปิด : Amida-do Hall 9:30-16:10 น./ สวน 8:30-17:30 น./ พิพิธภัณฑ์ 9:00-17:00 น.
การเดินทาง : ลงสถานี JR Uji หรือ สถานี Keihan Uji เดินต่อเดินประมาณ 10 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/BEWBfY9o75N5dYKo8
10. Nariaiji Temple
วัดนาริอาอิจิ ถูกสร้างมากว่าร้อยปีแล้วตอนนี้ตั้งอยู่ที่แถบอามาโนะฮาชิดาเตะจากเดิมที่ตั้งอยู่ใกล้ยอด Tsuzumigatake เนื่องจากภูเขาถล่มเมื่อ 250 ปีก่อน ที่นี่เป็นวัดของพุทธศาสนานิกายชินกอน ไฮไลท์ของวัดคือหอระฆังขนาดเล็กหรือที่เรียกว่า Bell of Neutrality ความพิเศษคือทุกอย่างถูกสร้างจากไม้ทั้งหมดเลย และอีกอย่างเนื่องวัดตั้งอยู่ค่อนข้างสูงเราสามารถชมวิวสูงของแถบนี้ได้อีกด้วย หรือจะไปที่จุดชมวิวอามาโนะฮาชิดาเตะก็ไม่ไกลกันสามารถนั่งรถบัสต่อไปได้
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 500 JPY /เด็ก 200 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 16:30 น.
การเดินทาง : โดยสารรถบัสที่ Kasamatsu Park บัสออกทุกๆ 20-30 นาที และต่อเคเบิ้ลคาร์ขึ้นเขา
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/bgo1raoHF5eCKiDR7
11. Kitano Tenmangu Shrine
ศาลที่สำคัญที่สุดอีกหนึ่งที่ของจังหวัดเกียวโต ออกเสียงยากนิดนึงคือ ศาลเจ้าคิตาโน่เทนมานกุ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรในเรื่องความสำเร็จด้านการศึกษา ฉะนั้นช่วงสอบจะมีนักเรียนนักศึกษามาที่นี่กันเยอะมาก และที่นี่ยังเป็นจุดชมดอกบ๊วย และใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่งของเกียวโตด้วย นอกจากนี้ยังมีสวนป่าสวยๆ ให้เข้าชมด้วย กลางคืนจะมีเปิดไฟสวยงามมาก และทุกๆ วันที่ 25 ของเดือนจะมีตลาดนัดสไตล์ท้องถิ่นขนาดใหญ่ จำหน่ายของกินของใช้แบบท้องถิ่นด้วยนะ ใครอยากช้อปปิ้งพร้อมไหว้ขอพรก็จัดตารางเที่ยวให้ดีๆ
ค่าเข้า : เข้าชมศาลเจ้าฟรี / เข้าชมสวน 600 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 05:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัส Kyoto City Bus หมายเลข 50 หรือ 101 จากสถานี Kyoto และลงที่ป้ายรถบัส Kitano Tenmangumae
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/w9ZAt8nj2QSNjK6WA
12. To-ji Temple
ต่อด้วย วัดมรดกโลกเกียวโต จากการรับรองของยูเนสโก ไฮไลท์เด็ดคือเจดีย์ 5 ชั้น สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 826 สูง 57 เมตร โดยตัววัดสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคเฮอัน หรือหลังจากเกียวโตเป็นเมืองหลวงราว 700 ปี บริเวณวัดกว้างขวางมาก และทุกวันที่ 21 ของทุกเดือนจะมีตลาดนัดซึ่งคนท้องถิ่นนำสินค้ามาขายมากมาย ใครไปตรงช่วงนั้นสามารถเลือกซื้อของสวย ๆ หรือของกินอร่อยกันเลย
ค่าเข้า : 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 207 ลงป้าย Toji Higashimon-mae (Toji Temple) ถึงเลย
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/N6LQG6A5gJMTDGTJ7
13. Chionin Temple
ตะลุย ที่เที่ยวเกียวโต กันต่อกับวัดพุทธนิกายโจโด สิ่งแรกที่จะเห็นเมื่อเดินเข้าวัดคือ ประตูใหญ่ซานม่อน (Sanmon Gate) ประตูไม้สูง 24 เมตร กว้าง 50 เมตร ภายในวัดร่มรื่นกว้างขวาง มีห้องโถงขนาดใหญ่หลายจุดสำหรับให้เข้าไปกราบไหว้สักการะขอพร รวมถึงยังมีสวนโฮโจ (Hojo Garden) ที่ใช้การตกแต่งแบบญี่ปุ่นโบราณ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1600 และยังมีสวนยูเซ็น (Yuzen Garden) ให้ชมความสวยงามด้วย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 16:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 206 ลงป้าย Chinonin-mae เดินต่อ 5 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/YWThsREeygCrGT9R9
14. Sanjusangen-do Temple
อีกชื่อที่คนไทยคุ้นกันคือ วัดเจ้าแม่กวนอิมพันมือ เพราะภายในประดิษฐานเจ้าแม่กวนพันมือถึง 1,001 องค์ ประดิษฐานในอาคารไม้ยาว 120 เมตร ในสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งถูกยกให้เป็นอาคารไม้ที่ยาวสุดของญี่ปุ่นไว้ให้สักการะ ตัววัดถูกค้นพบในปี 1164 โดยรอบวัดบรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย ใครบูชาเจ้าแม่กวนอิมอยู่แล้ววัดนี้ไม่ควรพลาด
ค่าเข้า : 600 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 100, 206, 208 ลงป้าย Hakubutsukan-Sanjusangendo-mae เดินต่อ 3 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/GFUzTfYH1dAeZejy5
15. Nanzen-ji Shrine
ไปกันต่อกับวัดบรรยากาศดีตั้งอยู่บริเวณเชิงเขากาชิยามะ เป็นวัดพุทธนิกายเซนสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 13 แต่ช่วงสงครามสมัยมุโรมาชิวัดได้ถูกเผาทำลายจึงมีการบูรณะขึ้นมาใหม่ภายหลัง ด้านในมีด้วยกันหลายโซนแต่ถ้าแนะนำควรมาช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระจะบานสะพรั่งสวยงาม หรือถ้าเป็นฤดูใบไม้ร่วงก็ชมใบไม้เปลี่ยนสีงดงามอย่าบอกใคร
ค่าเข้า : 600 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:40 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 5 ลงป้าย Nanzenji-Eikando-michi เดินต่อ 5 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/zefZuW5JX1QdSAkx9
16. Tenryu-ji Temple
วัดเกียวโต น่าเที่ยวอีกแห่งซึ่งถือเป็นวัดสำคัญมากสุดของศาสนาพุทธนิกายเซนพร้อมได้รับการยกให้เป็นมรดกโลกเรียบร้อย สร้างขึ้นในปี 1339 เพื่ออุทิศแด่จักรพรรดิโก-ไดโกะ แต่เคยถูกทำลายด้วยสงครามจึงมีการบูรณะขึ้นใหม่ช่วงหลังยุคเมจิซึ่งยังมีการยึดถือตามสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม สามารถเข้าไปชมความสวยงามรวมถึงสูดอากาศกับสวนสไตล์เซนได้เลย
ค่าเข้า : 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keifuku trains ลงสถานี Keifuku Arashiyama Station เดินต่อ 5 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/jEfta988Qz6ypKn98
17. Daitoku-ji Temple
อีกวัดยอดฮิตของสายเที่ยวในเมืองเกียวโต สร้างขึ้นเมื่อปี 1319 แต่ถูกทำลายในสงครามออนอินจึงมีการบูรณะอีกครั้งภายหลังเป็นรูปแบบที่เห็นในปัจจุบัน จุดไฮไลท์ของวัด เช่น ประตูซานม่อน ห้องโถง Butsuden ห้องโถง Hatto บ้านพัก Hojo ถูกสร้างตั้งเรียงกันอยู่ และนักท่องเที่ยวยังสามารถเดินชมความสวยงามและความคลาสสิกของสวนสไตล์เซนได้อีกด้วย ซึ่งพื้นที่ในวัดกว้างมากจริงแล้วจึงมีอีกหลายวัดให้ได้ชมด้วย
ค่าเข้า : 350 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 101, 205, 206 ลงป้าย Daitokuji-mae ก็ถึงเลย
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/tj6AEYVbT3sSESDB6
18. Kodai-ji Temple
แนะนำ ที่เที่ยวเกียวโต อีกแห่งกับวัดพุทธนิกายรินไซซึ่งเป็นนิกายย่อยของเซน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1606 แต่ได้รับการบูรณะหลายครั้งจนมีสภาพใกล้เคียงกับของเดิมมากสุดในปัจจุบัน จุดที่นักท่องเที่ยวชอบมากคือบริเวณสวนหินตกแต่งในสไตล์สึกิยามะลักษณะทำเนินเตี้ย ๆ แทรกด้วยก้อนหินใหญ่โอบล้อมด้วยต้นเมเปิ้ล ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะเป็นเวลาแห่งความงดงามเกินบรรยาย
ค่าเข้า : 600 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 206 ลงป้าย Higashiyama Yasui เดินต่อ 5 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/rMjoia4gckhhaJNh6
19. Shoren-in Temple
วัดแห่งนี้มีเจ้าอาวาสสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ญี่ปุ่นซึ่งถูกเรียกว่ากลุ่มวัดมอนเซคิ (Monzeki Temple) มีไม่มากนักจึงควรค่ากับการมาเยือนสักครั้ง ถูกค้นพบช่วงศตวรรษที่ 12 เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับห้องโถง Kachoden โดดเด่นด้วยลายบนประตูแบบเลื่อนสไตล์ญี่ปุ่นโบราณซึ่งสามารถเดินผ่านไปยังสระน้ำได้อีกด้วย สามารถนั่งชมวิวทิวทัศน์สวย ๆ ตากลมเย็นสบายกันได้เลย
ค่าเข้า : 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 5, 100 ลงป้าย Jingu-michi เดินต่อ 5 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/eFrwoiktkTtqN7wr5
20. Ninna-ji Temple
วัดมรดกโลกอีกแห่งของเมืองเกียวโต ถูกค้นพบมาตั้งแต่ปี 888 ซึ่งถ้ารวมแล้วอายุวัดยังไงก็เกินพันปีแน่นอน แนะนำให้ไปชมอาคารโกเท็นด้วยรูปแบบการสร้างแบบพระราชวังหลวงเกียวโตจึงสง่างามและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน รวมถึงมีประตูบานเลื่อนเพนท์ภาพวาดโบราณ ชมสวนหินและบ่อน้ำโบราณ ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่นี่จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ
ค่าเข้า : 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keifuku Kitano Line ลงสถานี Omuro Ninnaji Station เดินต่อ 10 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/Wn17akMsSDoQLbFs7
21. Heian Shrine
ที่เที่ยวเกียวโต อีกจุดที่น่าสนใจ ถูกสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 1,100 ปี ของเมืองเกียวโต จึงมีอายุกว่า 100 ปี ไฮไลท์สำคัญคือประตูโทริอิขนาดใหญ่สีแดงสดด้านหน้าวัดโดดเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล ขณะที่อาคารหลักใช้สถาปัตยกรรมแบบยุคเฮอัน โอบล้อมด้วยสวนเฮอันที่มีต้นไม้ร่มรื่นสวยงาม จะมาช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้ร่วงก็ได้ฟิลสุดว้าวไม่แพ้กัน ด้านหลังยังมีพิพิธภัณฑ์ให้ชมด้วย
ค่าเข้า : 600 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 5, 100 ลงป้าย Kyoto Kaikan Bijitusu-kan Maei เดินต่อ 5 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/pDMVkcA2WRNfsYRDA
22. Shinnyodo Temple
วัดเกียวโต อีกแห่งของศาสนาพุทธนิกายเซน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 984 มีอายุกว่า 1,000 ปี ภายนอกดูสวยงามตามแบบสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น ขณะที่ภายในมีการตกแต่งได้คลาสสิกพร้อมประดิษฐานรูปปั้นพระโพธิสัตว์ รวมถึงผู้ก่อตั้งนิกายเทนไดในญี่ปุ่น มีภาพวาดสวย ๆ ให้ชมกันเยอะมากซึ่งจะเปลี่ยนใหม่ทุก 6 เดือน บรรยากาศโอบล้อมด้วยต้นไม้ร่มรื่นสุด ๆ
ค่าเข้า : 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 16:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 5, 17, 32, 93, 203, 204, 100, 102 ลงป้าย Kinrin Shako-mae เดินต่อ 8 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/Si28xvrVA5guJBGb6
23. Eishoin Temple
วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1504 ด้วยบริเวณวัดที่ตั้งอยู่สูงกว่าพื้นดินปกติจึงทำให้มีทัศนียภาพสุดงดงามถึงขนาดได้รับการยกให้เป็น “จุดชมวิวร้อยภาพแห่งฟูจิในคันโต” อากาศเย็นสบาย เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของนักบวชร่วม 100 ชีวิต ล้อมรอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะถูกเปลี่ยนเป็นสีทอง ส้ม เหลือง สวยงามมากขึ้นกว่าเดิม
ค่าเข้า : 600 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 07:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 5 ลงป้าย Higashitennocho เดินต่อ 10 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/erDkUwY13fnpMX3i6
24. Gansenji Temple
ปิดท้าย วัดเกียวโต ที่คาดว่าถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 729 หากแปลเป็นไทยหมายถึง “วัดเรือหิน” โดยทางใกล้ทางเข้าประตูหลักจะมีหินรูปเรือตั้งอยู่ ส่วนจุดไฮไลท์คือเจดีย์ 3 ชั้น ด้านในที่ถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ บริเวณห้องโถงหลักยังคงรักษาความโบราณเอาไว้ให้ได้ชมกันแบบงดงาม หากมาช่วงฤดูร้อนจะพบกับสวนไฮเดรนเยียสีสดใส ดอกบัวบานสะพรั่ง และดอกเครปไมร์เทิล
ค่าเข้า : 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Keihan Railway ลงสถานี Chushojima Station เดินต่อ 9 นาที
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/kZ4RWoCDjNK2WjC46
YouTrip เรทดีเที่ยวได้ประหยัดกว่า
เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย
ทั้งหมดนี้คือ 24 วัดเกียวโต 2025 ที่คนชอบความคลาสสิกไม่ควรพลาด และอย่าลืมเพื่อความคุ้มค่าก่อนเดินทางต้องสมัครบัตร YouTrip เพื่อการใช้จ่ายในต่างประเทศแบบสบายใจโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม 2.5% การันตีที่สุดเรื่อง “เรทดี ทุกที่ทั่วโลก” สมัครเลย! ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี