blog

21 จุดชม ซากุระเกียวโต 2025 บานเดือนไหน ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น

Writer
kyoto-sakura
YouTrip blog

21 จุดชม ซากุระเกียวโต 2025 บานเดือนไหน ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น

Writer
kyoto-sakura


เมืองเกียวโตเป็นเมืองเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่มีสิ่งปลูกสร้างได้ขึ้นเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยล่ะ ที่สำคัญเมืองนี้ยังเคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นก่อนจะย้ายไปที่โตเกียวด้วยนะ ฉะนั้นที่เกียวโตเลยหลงเหลือความเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณไว้เยอะเลย รวมถึงช่วงเทศกาลซากุระบานที่เกียวโตมีจุดชมซากุระสวย ๆ อยู่หลายจุดมาก ๆ วันนี้ YouTrip จะไปพาไปแนะนำที่เที่ยวชม ซากุระเกียวโต พร้อมความสวยตระการตาของแต่ละที่กัน


อยากเจอซากุระบานสวย ๆ ต้องไปดูซากุระเกียวโต เดือนไหนดี?

japan-sakura-guide



ใช่ว่าจะไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้านะ ไม่ได้เลยเด็ดขาด ซากุระเองก็มีช่วงที่บานไม่ตรงกันแต่ละเมือง อย่างที่เกียวโตปีนี้จะเริ่มจะเริ่มบานช่วงก่อนปลายเดือนประมาณวันที่ 27 มีนาคม 2025 และซากุระจะบานเต็มที่วันที่ 4 เมษายน 2025 นั่นเอง ตามข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นที่ประกาศออกมาอาจมีคลาดเคลื่อนได้บ้างเล็กน้อย รู้วันแล้วแพ็คกระเป๋าเตรียมชุดรอเลย ที่เที่ยวดูซากุระเกียวโต รออยู่เพียบ!

 แนะนำ 21 จุดชม ซากุระเกียวโต ที่ห้ามพลาด

1. ถนนริมแม่น้ำยาวารากิ (Yawaragi Road)

kyoto-sakura

Photo by : kakajaw


เห็นรูปก็คุ้นตากันแล้วใช่ไหมล่ะจุดชมซากุระเกียวโตที่แรกกับอุโมงค์ซากุระริมแม่น้ำยาวารากิ เป็นจุดซากุระไฮไลต์อีกหนึ่งแห่งของเมืองเกียวโตเลยนะ มีซากุระอยู่ 280 ต้นเรียงอยู่สองฝั่งทางเดินริมแม่น้ำ ต้องมาช่วงที่ซากุระบานเท่านั้นนะถึงเจอบรรยากาศสวย ๆ แบบในภาพนี้ แถมที่นี่ยังเป็นจุดจัดงานเทศกาลดอกซากุระประจำปีด้วยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากันเป็นจำนวนมาก มีร้านอาหารมาออกบูธขายกันเพียบ นั่งทานอาหารญี่ปุ่นอร่อย ๆ ใต้ต้นซากุระฟังเสียงแม่น้ำไหลผ่านเย็น ๆ โอโห้ พูดแล้วอยากให้ถึงช่วงใบไม้ผลิไว ๆ จังเลยนะ

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Sagano ลงที่สถานี JR Kameoka จากนั้นต่อรถบัสประจำเมือง Kameoka มาลงที่ป้าย Nanatanigawa ได้เลย

2. ทางเดินนักปราชญ์ (Philosopher’s Path)

japan-sakura-guide

Photo by : misterdadou


หรือที่เรียกว่าถนนเทสึงาคุ โน มิจิ อยู่ระหว่างวัดกินคะคุจิและวัดนันเซนจิ ที่ได้ชื่อว่าเป็นทางเดินนักปราชญ์ก็เพราะว่าเส้นทางนี้เดิมเป็นทางที่ นิชิดะ คิทาโร่ นักปราชญ์ชื่อดังของญี่ปุ่นใช้เดินทางไปกลับมหาวิทยาลัยอยู่เป็นประจำนั่นเอง และบอกเลยที่นี่เป็นที่เที่ยว ซากุระเกียวโต ที่ต้องห้ามพลาด เป็นจุดชมซากุระที่ฮิตทุกปี ทางเดินจะยาวประมาณ 2 กิโลเมตรแน่นอนว่าตลอด 2 กิโลเมตรนี้เต็มไปด้วยต้นซากุระนับร้อยต้นเรียงขนานกับแม่น้ำสายเล็ก ๆ โดยเฉพาะเทศกาลฮานามิที่นิยมมานั่งทานอาหารพูดคุยกันใต้ต้นซากุระที่นี่ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากเลย ใครอยากมาช่วงฮานามิต้องรีบมาหน่อยนะไม่งั้นไม่มีที่นั่งแน่นอน 

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keihan Railway ลงที่สถานี Demachiyanagi Station จะเจอวัดวัดกินคะคุจิให้เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที จะเจอทางเดินนักปราชญ์

3. ทางลาดเคอาเกะ (Keage Incline)

kyoto-osaka-sakura-iternery

Photo by : dearkiki


มีลักษณะเป็นทางลาดยาว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคลองเชื่อมต่อกับทะเลสาบบิวะของเกียวโตกับภูเขาอีกด้านหนึ่ง แต่ก่อนตรงนี้ใช้เป็นเส้นทางขนส่งเรือจนถึงปี 1950 ปัจจุบันกลายเป็นจุดชมซากุระอีกที่หนึ่งของเมือง มีซากุระกว่า 100 ต้นตรงทางลาดเป็นเส้นตรงยาว 580 เมตร ซึ่งเป็นทางรถรางเก่าปลายทางจะมีรถรางเก่าที่เคยใช้บรรทุกขนเรือจอดไว้ให้ดูด้วย 

ค่าเข้า :  ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tozai Line ลงที่สถานี Keage ใช้ทางออก 1 จากนั้นเดินไปทางซ้ายต่อ 1 นาที

4. คลองโอคาซากิ (Okazaki Canal)

kyoto-sakura

Photo by : kanjiinoue


ชมดอกซากุระบานสวย ๆ ที่ริมคลองโอคาซากิกันเถอะ ซึ่งคลองโอคาซากิก็คืออยู่ต่อจากทางลาดเคอากะด้านบนที่เรารีวิวไปก่อนแล้วนั่นเอง ถ้าใครเริ่มจากทางลาดเคอากะเดินยาวผ่านศาลเจ้าเฮอันมาจะเจอคลองโอคาซากินี่แหละ กิจกรรมฮิตเลยคือล่องเรือชมซากุระสวย ๆ ตลอดเส้นทางมีซากุระอยู่ทั้ง 2 ฝั่งคลองเลยนะ หรือใครไม่อยากล่องเรือจะเดินเล่นริมสะพานก็ได้ สวยไม่แพ้กันเลย แถมพอพระอาทิตย์ตกดินก็เริ่มเปิดไฟระดับสองข้างทางด้วยนะ โรแมนติกเวอร์

ค่าเข้า : ล่องเรือคนละ 1,000 JPY
เวลาเปิด-ปิด : ล่องเรือให้บริการช่วงซากุระบาน 9.30 – 20.30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tozai Line ลงที่สถานี Higashiyama Station แล้วเดินต่อ 10 นาที

5. แม่น้ำทาคาเซะ (Takase River)

kyoto-sakura



ที่เที่ยวชม ซากุระเกียวโต ที่ได้ทั้งชมวิวและกินอิ่มไปพร้อมกัน แม่น้ำทาคาเซะเป็นแม่น้ำสายเล็ก ๆ ไหลไปตามถนนที่ชื่อว่าคิยามาจิเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร มีซากุระกว่า 200 ต้น บริเวณรอบ ๆ เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านขนม เลยทำให้กลายเป็นจุดชมซากุระท่ามกลางย่านร้านอาหาร คนนิยมมานั่งดื่มและทานอาหารกันที่ย่านนี้พร้อมชมซากุระริมแม่น้ำใสไปด้วย ตอนกลางมีเปิดไฟที่ต้นซากุระด้วยยิ่งทำให้สวยกว่าเดิมอีก

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าเปิดตั้งแต่ 10.00 – 23.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีเกียวโตให้ต่อรถบัสสาย 4 (ปลายทาง Kamigamojinja-mae) ลงที่ป้าย Kawaramachisanjo แล้วเดินต่อประมาณ 6 นาที

6. สวนสาธารณะริมเเม่น้ำโยโดกาวะ (Yodogawa Riverside Park)

kyoto-sakura



จุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคคันไซ แม่น้ำโยโดกาวะเป็นแม่น้ำที่อยู่ชายแดนระหว่างโอซาก้าและโตเกียว ถือเป็นจุดแม่น้ำสายสำคัญ 3 สายของเกียวโตเลยด้วย มีทั้ง Katsura, Uji และ Kizu มารวมกัน และมีสวนสาธารณะริมแม่น้ำที่เป็นจุดชมดอกซากุระในช่วงใบไม้ผลิ มีซากุระเรียงกันเป็นแนวยาวกว่า 1.4 กิโลเมตร เดินถ่ายรูปกันได้ยาว ๆ เลย หรือใครจะพกอาหารเครื่องดื่มอุปกรณ์ปิคนิคมานั่งพักผ่อนก็ได้เหมือนกัน แถมยังมีการจัดเทศกาลชมซากุระทุกปีขึ้นที่นี่ด้วย

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keihan Main Line ลงที่สถานี Iwashimizu-Hachimangu จากนั้นเดินต่อประมาณ 15 นาที

7. วัดน้ำใส (Kiyomizu-Dera)

kyoto-osaka-sakura-iternery

Photo by : ghumr.com


ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกแล้วเรียบร้อยได้รับความนิยมเป็นอันดับสถานที่ท่องเที่ยวในเกียวโตด้วยนะจุดเด่นของวัดคืออาคารไม้ขนาดใหญ่ที่ใช้การสร้างจากภูมิปัญญาของคนญี่ปุ่นสมัยก่อน ทำจากไม้และไม่มีตะปูเลยสักชิ้นเดียว ส่วนที่มาของชื่อวัดน้ำใสก็คือมาจากการที่วัดมีน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติซึ่งมาจากน้ำตกโอโตวะที่ไหลผ่านตัววัดนั่นเอง ส่วนจุดชมซากุระก็อยู่บนอาคารนี้นี่แหละ ด้วยความที่โถงของอาคารถูกสร้างให้ยื่นออกไปภายนอกเลยทำให้เป็นจุดชมซากุระช่วงใบไม้ผลิแสนสวยงาม มีชุดกิโมโนและยูคาตะให้เช่าด้วยนะ ใครอยากใส่ถ่ายรูปสวย ๆ ก็เช่าได้ เห็นรูปแล้วซากุระเกียวโต เดือนเมษายนนี่สวยจริง ๆ 

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 300 JPY / เด็ก 200 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 06:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keihan Railway Line ลงที่สถานี Kiyomizu-Gojo Station แล้วเดินต่อประมาณ 20 นาที

8. วัดโทจิ (Toji Temple)

kyoto-sakura



อีกหนึ่งสถานที่สำคัญของเกียวโตที่ได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลก ที่นี่คือวัดโทจิหรือชื่ออย่างเป็นทางการคือวัดเคียวโอโกะโคคุจิ มุมถ่ายรูปยอดฮิตช่วงซากุระของวัดคือหน้าเจดีย์ห้าชั้น เป็นเจดีย์ไม้ที่สูงที่สูงในญี่ปุ่นด้านหน้ามีซากุระบานออกดอกสีชมพูสวย ๆ ถึง 200 ต้น และไฮไลต์อีกอย่างคือต้นซากุระอายุกว่า 130 ปี ชื่อฟุจิซากุระ สูงถึง 13 เมตร ยังคงสภาพดี แข็งแรงยืนต้นและออกดอกบานสะพรั่งสวยงามมาก ๆ อีกด้วย แถมตอนกลางจะมีการเปิดไฟรอบต้นซากุระให้เดินเล่นยามค่ำคืนได้ เก่าแก่ขนาดนี้ต้องจัดอยู่ในลิสต์ที่เที่ยว ซากุระเกียวโต ไว้แล้วนะ จะพลาดไม่ได้เลย

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 500 JPY / เด็ก 300 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 17:00 น. / ไฟกลางคืนเปิดถึง 22.00 น. 
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงที่สถานี Kyoto Station แล้วเดินต่ออีก 15 นาที

9. วัดนินนาจิ (Ninnaji Temple)

kyoto-sakura



วัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องซากุระสายพันธุ์ Omuro Cherry ซึ่งจะบานช้ากว่าซากุระสายพันธุ์หลักอย่าง Somei Yoshino (เป็นซากุระพันธุ์ที่ปลูกกันทั่วไป) เจ้าสายพันธุ์ Omuro จะบานช้ากว่าเพื่อนเขาประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วแบบนี้ถ้าจะมาดูซากุระเกียวโต เดือนไหน ต้องมาเมื่อไหร่ถึงจะเจอซากุระบานที่วัดนินนาจิ สำหรับปีนี้ก็จะเริ่มบานประมาณวันที่ 12 เมษายนนั่นเอง ทางวัดมีการทำทางเดินให้ถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิดเนื่องจากพันธุ์นี้ต้นจะไม่สูงมาก แต่ต้องระวังอย่าไปเด็ดดอกนะ ปล่อยให้เขาร่วงเองตามธรรมชาติจะดีกว่า นอกจากนี้ยังมีโซนม้านั่งให้ทานอาหารและมุมจิบน้ำชาพร้อมชมซากุระสวย ๆ ด้วย ปล.วัดนินนาจิ เป็นวัดสำคัญอีกที่หนึ่งของเกียวและได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลก World Heritage Sites แล้วเรียบร้อย

ค่าเข้า : ช่วงซากุระมีค่าเข้าคนละ 600 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keifuku Kitano Line ลงที่สถานี Omuro Ninnaji Station แล้วเดินต่อ 10 นาที

10. สวนสาธารณะมารุยาม่า (Maruyama Park)

kyoto-sakura



อยู่หลังศาลเจ้ายาซากะที่นี่เป็นจุดชมซากุระของเมืองเกียวโตที่ได้รับความนิยมมากทั้งจากนักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่น มีต้นซากุระสายพันธุ์ใหญ่อย่าง Shidarezakura ขนาดใหญ่ยักษ์ตั้งอยู่ ออกกิ่งด้านสาขายาวเป็นร่มไม้ชั้นดีพอถึงหน้าซากุระบานก็ออกดอกสวยงามหนา ๆ ฟู ๆ ให้เราได้ชื่นชมกัน มีการจัดเทศกาลฮานิมิด้วยนะ ร้านขายอาหารเพียบนั่งทานอาหารญี่ปุ่นอร่อย ๆ ใต้ต้นซากุระใหญ่สวย ๆ กัน

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : จากสถานี Kyoto Station ขึ้นต่อรถบัสหมายเลข 100 หรือ 206 ลงที่ป้าย Gion bus stop สวนอยู่หลังศาลเจ้ายาซากะ(Yasaka Shrine)

11. ศาลเจ้าฮิราโนะ (Hirano Shrine)

kyoto-sakura

Photo by : visitjapan_vn


ว่ากันว่าจุดเริ่มต้นของเทศกาลชมซากุระของเกียวโตขึ้นอยู่กับที่ศาลเจ้าฮิราโนะนั่นแหละ กล่าวก็คือเมื่อต้นซากุระซากิกาเคะซึ่งมีต้นกำเนิดที่ศาลเจ้านี้เริ่มบานเมื่อไหร่ นั่นหมายถึงว่าเทศกาลชมซากุระของเกียวโตได้เริ่มขึ้นแล้ว ในศาลเจ้ามีซากุระอยู่กว่า 60 สายพันธุ์ซึ่งแต่ละสายพันธุ์นั้นบานไม่พร้อมกันการมาเที่ยวที่นี่เลยทำให้มีเวลาชมซากุระยาวกว่าที่อื่นสักหน่อยคือตั้งแต่ช่วงปลายมีนาคมจนถึงเกือบปลายเมษายนได้เลย แถมยังมีเทศกาล Okasai Festival ทุก ๆ วันที่ 10 เมษายนของทุกปีด้วยนะ มีการเดินขบวนย้อนยุค แต่งตัวด้วยกิโมโนและแต่งหน้าแบบสมัยก่อนพร้อมการแสดงพื้นบ้านอีกเยอะเลย เป็นที่เที่ยวพร้อมดู ซากุระเกียวโต เชิงวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณที่ไม่ควรพลาดเลย

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ช่วงซากุระเปิด 06.00 – 21.00 น. 
การเดินทาง : จากสถานี Kyoto Station ให้ต่อรถบัสสาย 50 หรือ 205 ลงที่ป้าย Kinugasako-mae (ใช้เวลา 40 นาที) จากนั้นเดินต่ออีก 3 นาที

12. สวนพฤกษศาสตร์เกียวโต (Kyoto Botanical Gardens)

kyoto-sakura



จุดศูนย์รวมแหล่งพันธุ์พืชธรรมชาติประจำเกียวโตแน่นอนต้องมีซากุระจุใจชาวเราที่ต้องการมาชมซากุระแน่นอน เพราะนอกจากที่นี่จะเดินทางง่ายจนสามารถเที่ยวเกียวโตด้วยตัวเองได้แล้ว ยังมีซากุระถึง 130 สายพันธุ์ รวมกว่า 450 ต้น อลังการมากเวอร์ โดยจุดชมซากุระจะอยู่ที่สวนป่าซากุระอยู่ทางด้านเหนือของสวนเรือนกระจก ได้ตื่นตาตื่นใจกับต้นซากุระพร้อมชมดอกไม้นานาพันธุ์ไปในตัวด้วยกว่า 4,500 ชนิด เป็นสวนเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วยนะ ยิ่งช่วงฤดูใบไม้ผลิแบบนี้ดอกไม้ผลิบานอวดสีสันกันสุดฤทธิ์ และตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟให้ชมซากุระรอบกลางคืนซึ่งเปิดเฉพาะฤดูกาลชมซากุระเท่านั้นด้วยนะ

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 200 JPY / เด็ก 150 JPY
เวลาเปิด-ปิด : เฉพาะช่วงฤดูกาลชมซากุระ 09:00 – 21:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Karasuma ลงที่สถานี Kitayama แล้วใช้ทางออก 3

13.  ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Shrine)

kyoto-sakura

Photo by : dem22san


ไปชมซากุระพันธุ์ย้อยที่ศาลเจ้าเฮอันกันเถอะ พันธุ์ย้อยก็คือย้อยสมชื่อจริง ๆ ต้นไม่สูงมากและก้านย้อยลงต่ำ ที่ศาลเจ้าเขาจะปลูกซากุระพันธุ์ย้อยนี้ไว้ใกล้กับริมสระน้ำเวลาออกดอกเบ่งบานสีสันของซากุระจะสะท้อนกับผิวน้ำเป็นมุมฮิตที่คนนิยมมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกและตอนกลางคืนมีเปิดไฟให้เดินชมได้ด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าเฮอันเป็นศาลเจ้าที่เรียกได้ว่าอายุยังน้อยนะเพราะถูกสร้างในปีค.ศ. 1875 เป็นช่วงที่จีนเข้ามาบทบาทในญี่ปุ่นฉะนั้นการออกแบบในนี้ก็เลยมีความจีน ๆ ผสมกับญี่ปุ่นอยู่ด้วยนั่นเอง

ค่าเข้า : คนละ 600 JPY
เวลาเปิด-ปิด : ช่วงซากุระเปิด 08.30 – 21.00 น. 
การเดินทาง : จากสถานี Kyoto Station ให้ต่อรถบัสสาย 5 หรือ 100 ลงหน้าศาลเจ้าได้เลย

14. สวนเกียวโต เกียวเอน (Kyoto Gyoen National Garden)

kyoto-sakura

Photo by : kely_insta



หรือเรียกอีกอย่างได้ว่าเป็นเซ็นทรัลพาร์คแห่งเกียวโต แต่ก่อนที่นี่เป็นสถานที่สำหรับราชวงศ์เท่านั้นตั้งแต่สมัยเอโดะ พอเวลาผ่านไปได้ปรับปรับเปลี่ยนให้เป็นสวนสาธารณะและเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ จนกลายเป็นจุดชมซากุระขนาดใหญ่มีซากุระอยู่กว่า 1,000 ต้น จุดไฮไลต์คือบริเวณลำธารเดมิซุ ลำธารน้ำใส มีต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวตัดกับซากุระสีชมพูนวล ๆ สวยงามเหมือนหลุดออกมาจากในหนังเลยล่ะ เป็นอีกสถานที่เที่ยวชม ซากุระเกียวโต ที่น่าประทับใจสุด ๆ

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Karasuma Line ลงสถานี Marutamachi ใช้ทางออกที่ 1 แล้วเดินต่ออีก 3 นาที

15. วัดไดโกจิ (Daigoji Temple)

kyoto-sakura

Photo by : ayaco.55___


ที่เที่ยวซากุระเกียวโตที่นี่ขึ้นชื่อมาตั้งแต่ยุคเอฮันกันเลยทีเดียว วัดไดโกจิยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกในปี 1994 ด้วย ว่ากันว่าในสมัยก่อนขุนพลใหญ่อย่างโทโยโทมิ ฮิเดโยชิเป็นผู้สั่งให้นำต้นซากุระกว่า 700 ต้นมาปลูกไว้ที่นี่พร้อมจัดงานไดโกะโนะฮานามิ ดึงดูดคนให้มาร่วมงานและสร้างชื่อเสียงให้กับวัดตั้งแต่นั้นมาก็ผ่านมากกว่า 400 ปีแล้วนะ คนญี่ปุ่นยังนิยมมาที่นี่ในช่วงซากุระบานกันอยู่เลย จุดชมที่สวยที่สุดของวัดมี 2 ที่ คือ บริเวณพิพิธภัณฑ์เรโฮคังและด้านหน้าของซังโบอิน

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1,500 JPY / เด็ก 1,000 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tozai Line ลงที่สถานี Daigo ใช้ทางออกที่ 2 แล้วเดินต่ออีก 10 นาที

16. ปราสาทนิโจ (Nijo Castle)

kyoto-sakura



เป็นจุดชมซากุระที่ดูขลังอีกที่หนึ่งในเกียวโตเลยก็ว่านะ ปราสาทนิโจสร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1603 เพื่อที่เป็นพักของท่านโชกุนโทคุกาวะ โชกุนคนแรกของสมัยเอโดะและได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1994 ในเวลาต่อมา ด้านในประกอบด้วย 3 ส่วนหลักคือ ปราสาทชั้นใน ปราสาทชั้นนอกและกำแพงหินที่ล้อมปราสาทไว้ แถมยังเต็มไปด้วยต้นซากุระหลายสายพันธุ์มีทั้งสีชมพูสีขาวสลับ ๆ กันไปเป็นสีสันตามธรรมชาติที่สวยงามมาก เดินเที่ยวตอนกลางคืนได้ด้วยมีการเปิดไฟประดับสวยงามพร้อมชมความเก่าแก่ของปราสาทยามค่ำคืน

ค่าเข้า : คนละ 620 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:45 – 21:00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Karasuma Subway Line แล้วไปเปลี่ยนเป็นสาย Tozai Line ลงที่สถานี Nijojo-mae Station แล้วเดินต่อ 15 นาที

17. ภูเขาอาราชิยามะ (Arashiyama)

kyoto-sakura

Photo by : suirankyoto


ภูเขานี้อยู่รอบนอกของเมืองเกียวโตได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวอย่างมากเลยล่ะเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเที่ยวได้หลายฤดู อย่างช่วงใบไม้ผลิก็ท็อปฟอร์มไม่แพ้กันเพราะมีต้นซากุระอยู่เยอะมากบริเวณสะพาน Togetsukyo อยู่เชิงเขาหรือที่วัด Daikakuji บริเวณใกล้เคียงกันทำให้เวลามองมาแล้วเหมือนภูเขาอาราชิยามะถูกสีชมพูของดอกซากุระย้อมไว้เลยล่ะ นอกจากนี้เขายังมีรถไฟนำเที่ยว Sagano Torokko หรือใครหากที่ดู ซากุระเกียวโต ตอนกลางคืนที่นี่เขาติดไฟ Light-up ด้วยนะ แนะนำให้ล่องเรือชมซากุระแสนสวยยามค่ำคืนเลย 

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี / ไฟช่วงกลางคืนเปิดถึง 22.00 น. 
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Sagano Line ลงที่สถานี Saga-Arashiyama แล้วเดินต่อ 13 นาที

18. ชิมบาชิ-โดริ (Shimbashi-dori, Gion)

kyoto-sakura

Photo by : Jeffrey Friedl


ที่เที่ยวซากุระเกียวโตที่นี่ขึ้นชื่อมาตั้งแต่ยุคเอฮันกันเลยทีเดียว วัดไดโกจิยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกในปี 1994 ด้วย ว่ากันว่าในสมัยก่อนขุนพลใหญ่อย่างโทโยโทมิ ฮิเดโยชิเป็นผู้สั่งให้นำต้นซากุระกว่า 700 ต้นมาปลูกไว้ที่นี่พร้อมจัดงานไดโกะโนะฮานามิ ดึงดูดคนให้มาร่วมงานและสร้างชื่อเสียงให้กับวัดตั้งแต่นั้นมาก็ผ่านมากกว่า 400 ปีแล้วนะ คนญี่ปุ่นยังนิยมมาที่นี่ในช่วงซากุระบานกันอยู่เลย จุดชมที่สวยที่สุดของวัดมี 2 ที่ คือ บริเวณพิพิธภัณฑ์เรโฮคังและด้านหน้าของซังโบอิน

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1,500 JPY / เด็ก 1,000 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tozai Line ลงที่สถานี Daigo ใช้ทางออกที่ 2 แล้วเดินต่ออีก 10 นาที

19. วัดโคไดจิ (Kodaiji Temple)

kyoto-sakura

Photo by : kyoto_cocoa_001


วัดนิกายรินไซของพระพุทธศาสนานิกายเซนที่เป็นที่นิยมมากในย่านฮิกาชิยาม่าทั้งการตกแต่งและการออกอาคารมีความเรียบหรูและสวนหินที่ชวนให้สบายต่างก็เรียกนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้มากเลยทีเดียว และเป็นสถานที่เที่ยวเกียวโตแสนสวยอีกที่ในย่านนี้ด้วย เห็นว่าซากุระที่นี่เป็นเหมือนตัวแทนของเกียวโตเลยนะโดยเฉพาะต้นซากุระที่อยู่ระหว่างอาคารหลักฮอนโดกับประตูโจคุชิมง ช่วงใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงทุกปีที่วัดจะจัดตกแต่งสวนเปลี่ยนไปตามธีมต่าง ๆ ให้ไม่น่าเบื่อด้วย ใครเล็งที่นี่ไว้เป็นที่เที่ยวชม ซากุระเกียวโต ต้องมาลุ้นเอาเองนะว่าปีนี้จะแต่งสวนเป็นธีมอะไร

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 500 JPY / เด็ก 200 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 100,206 ไปลงที่ป้าย Higashiyama Yasui bus stop แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที

20. ศาลเจ้าคามิกาโมะ (Kamigamo Shrine)

kyoto-sakura

Photo by : tatsushi_shimono



ศาลเจ้าแห่งมรดกโลกมีชื่ออย่างเป็นทางการอีกชื่อหนึ่งว่าศาลเจ้าคาโมะวาเกะอิคาซุจิ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดในโตเกียวไฮไลต์ของที่นี่อยู่ที่ต้นซากุระใหญ่ 2 ต้น แผ่กิ่งก้านออกมาเป็นทางยาวและให้ดอกเยอะมากมีชื่อว่าไซโอซากุระ ซึ่งคำว่า ไซโอ หมายถึงเจ้าหญิงมีหน้าที่รับใช้เทพเจ้าอยู่ในวังและอีกต้นชื่อโกะโชะซากุระ ซึ่งคำว่า โกะโชะ หมายถึง พระจักรพรรดิ นั่นเอง ใครอยากมาดูต้นซากุระเก่าแก่สวยงามขนาดนี้มาที่ศาลเจ้าคามิกาโมะได้เลย

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 05.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีเกียวโตให้ขึ้นรถบัสสาย 4 ลงที่ป้าย Kamigamo jinja-mae แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที

21. แม่น้ำคาโมะ (Kamo River)

kyoto-sakura



ปิดท้ายที่เที่ยว ซากุระเกียวโต กันที่แม่น้ำคาโมะ แม่น้ำสายหลักของเมืองตรงข้ามของแม่น้ำจะมีเป็นสวนคล้าย ๆ สวนสาธารณะเป็นสถานที่นั่งเล่น นั่งชมวิวยอดฮิตในเกียวโตมีต้นซากุระอยู่แม่น้ำเป็นทางยาว จนตรงนี้กลายเป็นจุดชมซากระของคนโตเกียวเลยล่ะ สองข้างทางเราจะได้เห็นวิถีชีวิตคนญี่ปุ่นที่ชอบมารวมตัวกันทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะช่วงซากุระบานที่นี่ฮอตฮิตมากสองข้างทางคือกลายเป็นทะเลสีชมพูของดอกซากุระแล้วพอมีลมพัดมาดอกซากุระจะร่วงลงในแม่น้ำเป็นภาพที่โรแมนติกมากเวอร์ เห็นแล้วอยากไปเล่นกับคนรู้ใจมากเวอร์ ส่วนใครมาเที่ยวเกียวโตคนเดียวก็ไม่เป็นไรซื้อน้ำซื้อขนมมานั่งชิลริมแม่น้ำแบบคนคูล ๆ ได้เล้ย

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Keihan Line มาลงที่ Demachiyanagi Station แล้วเดินต่อประมาณ 1 นาที

เที่ยวญี่ปุ่นด้วย YouTrip ประหยัดกว่า

japan-attractions



เที่ยวญี่ปุ่นแบบประหยัดงบได้มากกว่าเดิมด้วย YouTrip สมมุติทริปนี้ตั้งงบไว้ที่ 134,948 JPY ที่ร้านแลกเงินจะเป็นเงินทั้งหมด 30,354 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 31,127 บาท แต่หากเปลี่ยนมาจ่ายด้วย YouTrip จะเหลือเพียง 30,000 บาท ประหยัดเพิ่มได้ถึง 1,127 บาท เพราะ YouTrip ให้เรทที่ถูกว่า ประหยัดกว่าเดิมเพราะไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่ายด้วย

YouTrip Perks 2.0



เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย

เรียกได้ว่าเกียวโตเป็นเมืองขึ้นชื่อเรื่องซากุระเหมือนกันนะ ชมดอกไม้สวย ๆ ในบรรยากาศเมืองเก่าแบบนี้คงประทับใจน่าดู ที่สำคัญอย่าลืมเช็คว่าซากุระเกียวโต เดือนไหนถึงจะออกดอกบานสวยงามให้เราได้ชื่นชมด้วยนะ ไปช้าวันเดียวอาจเจอแต่ต้นไม่เจอดอกได้เลยแหละ และอย่าลืมพก YouTrip ไปญี่ปุ่นครั้งนี้ด้วยนะ เพราะ ใช้จ่าย เรทดี ทุกที่ทั่วโลก ทุกการจ่ายไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% สมัครด่วน

บทความล่าสุด
related articles
YouTrip_TWD

YouTrip แลกเงินไต้หวันยังไง คู่มือใช้จ่าย TWD แบบละเอียดสำหรับนักเดินทาง

สงสัยว่า YouTrip แลกเงินไต้หวันยังไง? มาหาคำตอบครบที่นี่! อธิบายวิธีใช้ SmartExchange™ แลกเงิน TWD พร้อมเทคนิคใช้งานจริงให้คุ้มค่า สุดประหยัด
japan-new-attractions

35 ที่เที่ยวญี่ปุ่นเปิดใหม่ 2025 ยอดฮิต อินเทรนด์ก่อนใคร

ญี่ปุ่นก็แค่ปากซอย มาอัพเดทที่เที่ยวญี่ปุ่นใหม่ ๆ ไว้รอก่อนเลย ปลายปีนี้จะได้ไปเช็คอินก่อนใคร
youtrip-won

YouTrip แลกเงินวอนยังไง ใช้ที่เกาหลีอย่างไร ?

ตอบคำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อต้องเดินทางไปเกาหลีแล้วอย่างได้เรทแลกเปลี่ยนดี ๆ YouTrip แลกเงินวอนยังไง? พร้อมแนะนำวิธีใช้ YouTrip เกาหลี ให้คุ้ม
diggin’ our content? 
Subscribe to our free newsletter and we’ll deliver the freshest news, announcements and articles to your inbox once a week. Strictly no spam, pinky promise!
ต้องการความช่วยเหลือ?

ติดต่อศูนย์บริการลูกค้า YouTrip Contact Center ตลอด 24 ชม. ได้ที่ support.th@you.co