จังหวัดเกียวโต อีกจังหวัดหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงเก่ามาก่อนทำให้ที่เมืองเกียวโตกลายเป็นแหล่งประวัติศาสตร์และรวมศิลปะวัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่นไว้มากมาย เมืองนี้เลยกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรมเสียส่วนใหญ่ และนอกจากนี้ยังมีที่เที่ยว ลับๆ เกียวโต อีกหลายแห่งที่คนไม่ค่อยรู้จักกันด้วย YouTrip จะขอเป็นไกด์นำเที่ยวให้เองว่ามีที่ไหนน่าไปบ้าง
เที่ยวเกียวโตช่วงไหนดี ?
ฤดูไฮไลท์ของเมืองเกียวโตเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี กลางเดือนตุลาคม – ปลายพฤศจิกายน เราจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนจากสีเขียวชอุ่มเป็นสีแดง ส้ม เหลือง กับอีกช่วงคือเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงใบไม้ผลิ จะได้เห็นซากุบะและดอกไม้อื่นๆ ออกดอกโชว์สีสันสวยงามให้กับเมืองเกียวโต
ที่เที่ยว ลับๆ เกียวโต เปิดใหม่ ที่ไม่ควรพลาด
1. Kayabuki No Sato Village
เป็นหมู่บ้านชนบทท่ามกลางหุบเขาเป็น เที่ยวเกียวโต 2024 ที่อยากแนะนำมาก หมู่บ้านโบราณแบบเกษตรกรรมมีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมแบบ 100% มีบ้านที่เป็นแบบโบราณอยู่คือหลังคาสูง มุมหลังคาแบบ kayabuki เป็นบ้านชั้นเดียว เนื่องจากชาวบ้านที่นี่ประกอบอาชีพเกษตรกรกัน เราเลยจะได้เห็นแม่น้ำ ทุ่งนา รวงข้าม กลางธรรมชาติแสนสวยเลยล่ะ ในหมู่บ้านยังมีคาเฟ่คอยต้อนรับนั่งท่องเที่ยวด้วยนะ มาจิบกาแฟชมวิวกันเพลินๆ ได้ เป็นที่เที่ยว ลับๆ เกียวโตที่คนไม่เยอะเท่าไหร่ ไปเที่ยวได้ไม่แออัด
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่ง JR Bus สายที่ไป Takao จาก Kyoto Station ลงที่ป้าย Shuzan จากนั้นให้นั่งรถบัส Nantan Bis ไปลงที่ Miyama
2. Kifune Shrine
มาถึงเกียวโตก็ต้องไม่พลาดท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างศาลเจ้า ที่นี่คือศาลเจ้าคิฟุเนะ ตั้งอยู่บนเขาทางตอนเหนือของเกียวโต จุดเด่ดคือโคมไฟสีแดงที่บันไดหินตรงทางเข้า ที่นี่ผู้คนนิยมไปขอพรเรื่องความรัก และเซียมซีลอยน้ำที่ใบเซียมซีจะต้องแช่น้ำก่อนถึงจะเห็นคำทำนายด้วย บรรยากาศในศาลเจ้าก็จะมีความธรรมชาติมากๆ เนื่องจากอยู่บนเขา เห็นวิวภูเขาและในช่วงใบไม้เปลี่ยนก็เจอกับใบเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยล่ะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 20.00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟ JR Nara Line มาลงที่สถานี Tofukuji จากนั้นเป็นรถไฟสาย Keihan Main Line มาลงที่สถานี Demachi-Yanagi เปลี่ยนเป็นรถไฟอีกครั้งเป็นสาย Eizan Main Line มาลงที่สถานี Kibuneguchi จากนั้นให้ต่อรถบัสหมายเลข 33 ที่ป้าย Kibuneguchi Ekmae นั่งมาลงที่ป้าย Kifune แล้วเดินต่ออีก 5 นาทีก็จะถึงศาลเจ้า
3. Joruri Ji Temple
เป็นที่เที่ยวเกียวโต 2024 ที่มีความเรียบง่าย วัดโจรุริจิสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 มีวิหารหลักและเจดีย์สามชั้นเป็นไฮไลท์ของที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของยากุชิ เนียวไร หรือ เทพแห่งยารักษาโรค นั่นเอง ภายในวัดยังมีสวนญี่ปุ่นแบบโบราณ ที่สร้างขึ้นเลียนแบบพุทธเกษตรแดนสุขาวดีด้วย เป็นจุดฮิตที่คนนิยมมาถ่ายรูปและพักผ่อนกัน ใครวางแผนมาเที่ยวเกียวโตอยากให้แวะมาไหว้พระขอพรกันที่นี่นะ บรรยากาศดีมากแถมยังได้พักผ่อนจิตใจด้วย
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 400 JPY / เด็ก 200 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Yamatoji ลงสถานี Kamo จากนั้นให้ขึ้นรถบัส Kizugawa ลงที่ป้าย Joruri-ji mae
4. Tenju-an Temple
วัดเทนจูอันจะตั้งอยู่ในวัดนันเซนจิซึ่งเป็นวัดนิกายเซนที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ด้านในยังมีโรงเรียนสอนพุทธศาสนานิกายเซนอีกด้วย เนื่องจากเป็นวัดขนาดใหญ่มากจึงจะมีวัดเล็กๆ ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันหนึ่งในนั้นก็คือวัดเทนจูอันนั่นเอง ที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมมากช่วงเดือนพฤศจิกายน อากาศหนาวๆ กับบรรยายกาศญี่ปุ่นแบบเก่าๆ เป็นอะไรที่เข้ากันสุด
ค่าเข้า : 400 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : รถบัสจากสถานี Kyoto Station สาย 5 ลงป้าย Nanzenji-Eikando-michi ใช้เวลา 35 นาที
5. Byodoin Temple
สถานที่สำคัญและชื่อเสียงโด่งดังของจังหวัดเกียวโต สร้างขึ้นมากว่า 1,000 ปีแล้วและได้รับเลือกจากยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นด้วย ไฮไลท์ของวัดคือ Amida-do Hall วิหารไม้สีแดงตั้งอยู่ใจกลางของวัด โครงสร้างดั้งเดิมตั้งแต่อดีต มุมสันหลังคามีรูปปั้นนกโฮโอหรือนกฟีนิกซ์ ล้อมรอบด้วยบึงน้ำใสที่เต็มไปด้วยปลาคาร์ปตัวใหญ่ มองแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเป็นวิหารลอยน้ำเลยล่ะ นอกจากนี้ในวัดยังมี Hoshokan Museum พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของโบราณ สวนญี่ปุ่นสามารถเดินเล่นได้ด้วย
ค่าเข้า : บริเวณวัดเข้าชมฟรี สวนและพิพิธภัณฑ์ค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่ 600 JPY / เด็ก 400 JPY
เวลาเปิด-ปิด : Amida-do Hall 9:30-16:10 น./ สวน 8:30-17:30 น./ พิพิธภัณฑ์ 9:00-17:00 น.
การเดินทาง : ลงสถานี JR Uji หรือ สถานี Keihan Uji เดินต่อเดินประมาณ 10 นาที
6. Nariaiji Temple
วัดนาริอาอิจิ ถูกสร้างมากว่าร้อยปีแล้วตอนนี้ตั้งอยู่ที่แถบอามาโนะฮาชิดาเตะจากเดิมที่ตั้งอยู่ใกล้ยอด Tsuzumigatake เนื่องจากภูเขาถล่มเมื่อ 250 ปีก่อน ที่นี่เป็นวัดของพุทธศาสนานิกายชินกอน ไฮไลท์ของวัดคือหอระฆังขนาดเล็กหรือที่เรียกว่า Bell of Neutrality ความพิเศษคือทุกอย่างถูกสร้างจากไม้ทั้งหมดเลย และอีกอย่างเนื่องวัดตั้งอยู่ค่อนข้างสูงเราสามารถชมวิวสูงของแถบนี้ได้อีกด้วย หรือจะไปที่จุดชมวิวอามาโนะฮาชิดาเตะก็ไม่ไกลกันสามารถนั่งรถบัสต่อไปได้
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 500 JPY /เด็ก 200 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 16.30 น.
การเดินทาง : โดยสารรถบัสที่ Kasamatsu Park บัสออกทุกๆ 20-30 นาที และต่อเคเบิ้ลคาร์ขึ้นเขา
7. Pontocho ตรอกลับเกียวโต
ที่นี่คือย่านเก่าของเกอิชาเนื่องจากแต่เดิมบริเวณนี้เป็นโรงน้ำชาและที่จัดแสดงของเกอิชา ปัจจุบันกลายย่านสุดคลาสสิคและมีเสน่ห์ยามค่ำคืน ระยะทางกว่า 500 เมตร ที่วางตัวคู่ขนานไปกับแม่น้ำคาโมะ เต็มไปด้วยร้านอาหารปิ้งย่าง คาเฟ่ บาร์ คลับ เป็นที่นิยมของหนุ่มสาวและวัยทำงานที่ออกมาดื่มสังสรรค์กันตอนกลางคืน นอกจากนี้ตัวอาคารร้านค้าต่างๆ ก็ยังมีลักษณ์ย้อนยุคแบบเอโดะด้วย เป็นที่เที่ยวเกียวโต 2024 ที่น่าสนใจมากๆ เลย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 17.00 – 23.00 น.
การเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานี Gion-Shijo ทางออก 3 หรือ 8 หรือลงรถไฟที่สถานี Kyoto-Kawaramachi ทางออก 1A แล้วเดินต่อ
ที่เที่ยวเกียวโต 2024 สุดฮิต มาเกียวโตทั้งทีห้ามพลาด
8. Kiyomizudera Temple
วัดคิโยมิสุเดระ มีอีกชื่อเล่นหนึ่งคือ วัดน้ำใส ซึ่งมาจากชื่อภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่าน้ำบริสุทธิ์นั่นเอง วันนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในเกียวโต คนไทยนิยมไปเที่ยวกันมากและเป็นหนึ่งในมรดกโลกด้วย จุดเด่นของวัดนี้คือศาลาไม้สีแดงที่ตั้งอยู่บนเนินเขา การออกแบบถูกรองรับด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่กว่าร้อยต้น ถ้ามองจากศาลาลงไปด้านล่างจะเห็นต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเป็นสีแดงในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และเห็นซากุระในช่วงซากุระบานด้วย และจุดไฮไลท์อีกทีคือ ฮอนโดะ อาคารหลักของวัดความสูง 13 เมตร โครงสร้างทำจากไม้ด้านในมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เมื่ออยู่ในอาคารนี้จะมองเห็นเมืองเกียวโตได้รอบ ถ้ามองดีๆ จะเห็น Kyoto Tower ด้วย
ค่าเข้า : 400 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 06:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Kiyomizu-Gojo สามารถต่อรถบัสลงที่ป้าย Kiyomizu-michi หรือเดินต่อจากสถานีรถไฟประมาณ 1.8 กิโลเมตร
9. Fushimi Inari Shrine
ศาลเจ้าเทพอินาริหรือที่คนไทยมักเรียกกันว่าศาลเจ้าจิ้งจอก ที่นี่เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต เป็นที่เที่ยวเกียวโต 2024 สุดฮิตเลยก็ว่าได้เพราะที่นี่ดังมาจากประตูโทริอิหรือเสาประตูแดงที่เรียงตัวกันอยู่หลังศาลเจ้าหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินที่สามารถเดินได้ทั่วทั้งเขาอินาริเลย นอกจากนี้ระหว่างก็จะมีร้านอาหาร ร้านขนมท้องถิ่นขายด้วย ความน่ารักคือเขาจะตั้งชื่อเป็นธีมจิ้งจอกให้เข้ากับศาลเจ้านะ อย่างเช่น ซูชิจิ้งจอก อูด้งจิ้กจองอะไรแบบนี้
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Nara ลงที่สถานีรถไฟ JR Inari ศาลเจ้าจะอยู่ด้านหน้าสถานีเลย
10. Sannen-zaka and Ninnen-zaka
ถ้าอยากไปเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ชมวิถีชีวิตของคนเกียวโตแนะนำให้มาที่นี่ ที่นี่คือถนนย่านนิเนน-ซากะและซาเนน-ซากะ ร้านค้าและบ้านเรือนของคนที่ย่านนี่ยะงเป็นแบบยุคเอโดะและถูกรักษาเอาไว้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เต็มที่ด้วยร้านอาหาร ร้านชากาแฟตลอดสองข้างทาง และมีอาหารท้องถิ่นให้ลองชิมเยอะมากๆ ความน่ารักอีกอย่างคือชาวบ้านที่นี่ก็มักจะใส่ชุดกิโมโนหรือยูคากาตะออกมาเดินจับจ่ายของกันด้วย เป็นที่เที่ยวเกียวโต 2024 ที่เห็นแล้วได้สัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นแบบเต็มๆ เลย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าจะเปิดประมาณ 09.00 – 18.00 น.
การเดินทาง : จากสถานี JR Kyoto นั่งบัสสาย 100 หรือ 206 ไป 15 นาที ลงป้าย Kiyomizi miji เดินต่อ 5 นาที
11. Arashiyama Bamboo Grove
มาดู เที่ยวเกียวโต 2024 แนวธรรมชาติกันบ้าง ที่นี่คือสวนป่าไผ่ที่ดังมากๆ ของเกียวโตเลยล่ะ ใครชอบเดินเล่น เดินดูธรรมชาติอยากให้ลองมาที่นี่ มีทางเดินเล็กๆ ที่ล้อมไปด้วยป่าไผ่ยาวแบบสุดลูกหูลูกตา ระหว่างเดินเขาบอกว่าจะได้กลิ่นไม้ไผ่โชยมากับลมด้วยนะชื่นใจดีมากๆ ที่สำคัญไม่ต้องกลัวแดดกลัวร้อนเพราะไม้ไผ่ต้นสูงมากบังได้ดีเยี่ยม หรือใครไม่อยากเดินก็มีรถลากให้นั่ง มีร้านขายของที่ระลึกและสินค้าที่ทำจากไม้ไผ่จำหน่ายด้วย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : จากสถานี Kyoto นั่งรถไฟสาย JR ไปลงสถานี Sagaarashiyama แล้วเดินอีก 10 นาที ทางเข้าสวนป่าไผ่อยู่ด้านบนของวัด Tenryu-ji
12. Kinkaku-ji Temple
วัดแห่งชัยชนะและความโชคดีของโอซาก้ามีชื่อเล่นว่า ‘วัดของดารุมะ’ ด้วย เป็นเครื่องรางนำโชคที่ที่คนมักซื้อไปขอพรวัดคินคะคุจิหรือวัดทอง ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะว่าตัวอาคารหลักของวัดมีสีทองอร่ามตั้งอยู่ท่ามกลางน้ำ เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวเกียวโต 2024 สุดฮิตทั้งคนไทยและต่างชาติรวมถึงคนญี่ปุ่นเองก็นิยมมาที่นี่เช่นกัน นอกจากตัวอาคารสีทองของวัดแล้วภายในวัดยังมีความน่าใจอื่นๆ ทั้งงานสถาปัตยกรรมที่งดงามแบบญี่ปุ่น และบรรยากาศรอบวัดที่จัดสวนได้เป็นระเบียบสไตล์สวนญี่ปุ่นด้วย ช่วงไฮไลท์ก็จะเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีรอบวัดจะมีใบไม้สีแดง เหลือง ส้ม ทำให้นักท่องเที่ยวถ่ายสวยๆ รูปกันได้ตลอดทางเดินเลย
ค่าเข้า : 400 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดจะเป็น Kitanohakubaicho Station จากนั้นต่อรถหมายเลข 204, 205 ลงป้าย Kinkakujimichi แล้วเดินเข้าวัด
13. Kitano Tenmangu Shrine
ศาลที่สำคัญที่สุดอีกหนึ่งที่ของจังหวัดเกียวโต ออกเสียงยากนิดนึงคือ ศาลเจ้าคิตาโน่เทนมานกุ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรในเรื่องความสำเร็จด้านการศึกษา ฉะนั้นช่วงสอบจะมีนักเรียนนักศึกษามาที่นี่กันเยอะมาก และที่นี่ยังเป็นจุดชมดอกบ๊วย และใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่งของเกียวโตด้วย นอกจากนี้ยังมีสวนป่าสวยๆ ให้เข้าชมด้วย กลางคืนจะมีเปิดไฟสวยงามมาก และทุกๆ วันที่ 25 ของเดือนจะมีตลาดนัดสไตล์ท้องถิ่นขนาดใหญ่ จำหน่ายของกินของใช้แบบท้องถิ่นด้วยนะ ใครอยากช้อปปิ้งพร้อมไหว้ขอพรก็จัดตารางเที่ยวให้ดีๆ
ค่าเข้า : เข้าชมศาลเจ้าฟรี / เข้าชมสวน 600 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 05.00 – 18.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัส Kyoto City Bus หมายเลข 50 หรือ 101 จากสถานี Kyoto และลงที่ป้ายรถบัส Kitano Tenmangumae
14. Gion District
ที่นี่คือย่านกิออน ที่เที่ยวเกียวโต 2024 เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบเก่าแก่ของญี่ปุ่น ที่นี่เราจะได้เห็นเกอิชาในชุดกิโมโนแบบดั้งเดิมด้วยนะ เพราะย่านนี้มีเกอิชาอยู่จำนวนมากเลยล่ะ ใครอยากชมการแสดงเกอิชาก็มาได้ที่ Gion Corner เป็นโรงละครที่แสดงศิลปะของญี่ปุ่น ย่านกิออนเราสามารถสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นได้เต็มอิ่มเลยทั้งบ้านเรือนที่ยังคงเป็นทรงญี่ปุ่นโบราณ พื้นถนนที่ปูด้วยหิน ร้านค้าแบบมาจิยะที่เป็นทั้งร้านค้าและที่อยู่อาศัย อารมณ์เหมือนร้านโชห่วยบ้านเราทำนองนี้ บริเวณใกล้กันจะมีศาลเจ้ามากมาย มีวัดเคนนินจิ และแม่น้ำคาโมะ เดินเล่น เดินกิน แวะไหว้พระ ถ่ายรูปได้ยาวๆ เลย
ค่าเข้า : บริเวณรอบๆ เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ส่วนใหญ่ร้านค้าจะเปิดประมาณ 11.00 – 21.00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟสาย JR Nara Line มาลงที่สถานี Tofukuji แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Keihan Main Line มาลงที่สถานี Gion-Shijo
15. Tofukuji Temple
วัดโทฟุคุจิเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดังมากๆ ในเกียวโต และไม่ใช่แค่นั้นภายในวัดเองก็มีจุดน่าสนใจอย่างอื่นอีกหลายอย่าง เช่น ประตูซานม่อน ความสูง 22 เมตร สร้างแบบเซ็นโบราณ หรืออาคารภายในวัดที่สร้างตั้งแต่สมัยมูโรมาชิ ส่วนจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูใบไม้เปลี่ยนสีมากที่สุดคือสะพานซุเทนเคียว จะมีใบไม้เปิ้ลจะปกคลุมสะพานยาวถึง 100 เมตร บรรยากาศในวัดร่มรื่นมากมีต้นไม้และการจัดสวนแบบญี่ปุ่นอยู่บริเวณรอบให้เราเดินชมความสวยงามเพลินๆ เลย
ค่าเข้า : บริเวณรอบวัดเข้าชมฟรี / สะพานซุเทนเคียวและอาคารอื่นๆ ค่าเข้าชม 400 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.30 น.
การเดินทาง : จาก Kyoto Station โดยสารรถไฟ JR Nara Line หรือ Keihan Main Line ลงที่ Tofukuji Station จากนั้นเดินต่ออีก 10 นาที
เที่ยวญี่ปุ่นด้วย YouTrip ประหยัดกว่า
บอกเคล็ดลับที่ดีๆ ให้เที่ยวญี่ปุ่นได้ประหยัดกว่าเดิมด้วย YouTrip ดีกว่ายังไงมาดูกัน ตั้งงบเที่ยวญี่ปุ่นไว้ที่ 120,000 JPY ที่ร้านแลกเงินจะเป็นเงินทั้งสิ้น 32,520 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตทั่วไปต้องจ่ายทั้งหมด 33,350 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนมาจ่ายด้วยบัตร YouTrip จะเหลือเพียง 32,418 บาท ประหยัดขึ้นเห็นๆ 932 บาท เลยล่ะ
เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย
และนี่ก็คือ ที่เที่ยวเกียวโต 2024 ที่ฮิตที่ไม่ควรพลาด และยังที่เที่ยว ลับๆ เกียวโตที่เราจัดมาให้เพิ่มอีกแบบจุกๆ ไม่ต้องกลัวเลยว่าเกียวโตจะน่าเบื่อเพราะที่เที่ยวสวยๆ ธรรมชาติว้าวๆ มีอยู่เยอะมาก รับรองว่าได้กลิ่นอาบญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไปเต็มๆ และเพื่อความฟินอย่าลืมพก YouTrip ไปใช้จ่ายที่เกียวโตด้วยเรทที่ดี ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% คุ้มค่า ใช้สะดวก รับรองประหยัดขึ้นเยอะะะ