เที่ยวญี่ปุ่นจุดหมายยอดฮิตที่คนไทยเราชอบไปกันมาก ๆ ก็คือการชมภูเขาไฟฟูจิ ตามจริงแล้วภูเขาไฟฟูจินั้นสามารถมองเห็นได้หลายจังหวัดของญี่ปุ่น แต่ที่เที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่คาวากุจิโกะหรือที่เที่ยวยามานาชิ ถือเป็นที่เที่ยวชื่อดังที่เราสามารถไปดูภูเขาไฟฟูจิได้ทั้งปี ไปแต่ละฤดูขะได้อารมณ์ต่างกันในแต่ละช่วงเวลา วันนี้มาดูกันว่า ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ มีที่ไหนน่าไปบ้าง
ไปคาวากุจิโกะช่วงไหนดี ? ตามจริงแล้วก็สามารถไปเที่ยวได้ทั้งปี แต่จะได้ความรู้สึกแตกต่างกัน มาดูกันว่าฤดูไหนเป็นยังไงบ้าง
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) เป็นฤดูไฮไลต์ยอดฮิตของคาวากุจิโกะ อากาศเย็นกำลังดี มีซากุระ บรรยากาศโรแมนติกได้ชมดอกไม้ที่เบ่งบานมากมาย แถมได้จัดเต็มเครื่องกันหนาวสวย ๆ อีกด้วยนะ
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อากาศร้อน หน้าร้อนญี่ปุ่นจะค่อนข้างร้อนมาก แต่ก็ยังสามารถไปเที่ยวคาวากุจิโกะได้ ภูเขาไฟฟูจิจะไม่มีหิมะที่ยอดแต่จะได้เห็นเวอร์ชั่นเขียวชอุ่มทั้งภูเขานั่นเอง อากาศแจ่มใส คนน้อย
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อากาศกลับมาเริ่มเย็นอีกครั้ง ใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง น้ำตาล เหลือง บรรยากาศมีสีสันนะ ถ่ายรูปสวย ใครอยากเจอฟูจิแบบที่ยอดเขามีหิมะแล้วแนะนำช่วงกลางเดือนถึงปลายพฤศจิกายน
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) มีหิมะตกใครชอบบรรยากาศหนาวแบบจับใจและมีหิมะฟู ๆ ต้องช่วงนี้เลย เป็นฤดูสุดฮอตอีกหนึ่งช่วง โรแมนติกเหมือนอยู่ในเมืองหิมะ และเป็นหนึ่งช่วงเวลาที่ภูเขาฟูจิสวยที่สุดอีกด้วย
การเดินทางจากโตเกียวไปคาวากุจิโกะมีวิธีเดินทางดังนี้
- รถไฟ Fuji Excursion สะดวกและรวดเร็ว รถไฟวิ่งตรงจากโตเกียวสถานี Shinjuku ไปถึงสถานี Kawaguchiko ได้เลย ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 55 นาที ราคาไปกลับ 8,260 JPY หรือใช้ Tokyo Wild Pass ได้ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม (15,000 JPY)
- รถไฟ JR นั่งจากสถานี Shinjuku ไปลงที่ สถานี JR Otsuki (2,360 JPY) จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Fujikyu เพื่อไปลงที่สถานี Kawaguchiko (1,170 JPY) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
- รถบัส เป็นวิธีไปคาวากุจิโกะจากโตเกียวที่สะดวกและง่ายที่สุด รถบัสวิ่งตรงจากสถานีรถบัสด่วนพิเศษชินจูกุ (Shinjuku Expressway Bus Terminal) ถึงหน้าสถานีรถไฟ Kawaguchiko เลย เที่ยวรถเยอะ ไม่ต้องกังวลเรื่องเปลี่ยนสายรถไฟ มี wifi บนรถให้ใช้ด้วย แนะนำสำหรับคนที่ไม่ได้เดินทางช่วงเทศกาลและช่วงเวลาเร่งด่วน ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร ราคา 2,200 JPY / เที่ยว
- ขับรถไปเอง สามารถใช้บริการเช่ารถจากโตเกียว เหมาะกับคนที่มาเป็นกลุ่มหลายคน เช่ารถขับเองจะถูกกว่าโดยสารสาธารณะ เช่ารถมีหลายราคาเริ่มที่ประมาณ 15,000 JPY / วัน ราคาขึ้นอยู่กับประเภทรถ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรด้วย
การใช้จ่ายในญี่ปุ่น
การใช้จ่ายที่ญี่ปุ่นตอนนี้คือง่ายและสะดวกมากเว่อร์ ตั้งแต่มี YouTrip จะทำให้คุณใช้จ่ายสะดวกสบายและประหยัดมากกว่าบัตรเครดิตและบัตรเดบิตเยอะเลย ใครจะไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องมีไว้ ใครอยากรู้ว่าประหยัดขึ้นเท่าไหร่เราเปรียบเทียบให้ดูชัด ๆ เลย
ที่สำคัญแลกเงิน JPY ผ่าน YouTrip ไว้คือแจ่มที่สุด ได้เรทดีมาก ยกตัวอย่างให้ดู ทริปนี้ตั้งงบเที่ยวไว้ที่ 120,000 JPY ไปร้านแลกเงินจะเป็นเงินทั้งหมด 32,520 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 33,350 บาท แต่ถ้าจ่ายด้วย YouTrip จะเหลือเพียง 32,418 บาท ประหยัดได้ถึง 932 บาท กันเลย คุ้มมากเพราะYouTrip ให้เรทดีที่สุด แถมไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่ายด้วย
1. ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko)
หนึ่งในทะเลสาบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรอบภูเขาไฟฟูจิ อยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟ ธรรมชาติสวยมากทุกฤดู แถมยังเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวด้วย อย่างช่วงซากุระใบไม้ผลิจะได้มุมถ่ายรูปยอดฮิตที่มีก้านซากุระโน้มลงมาที่ยอดภูเขาไฟฟูจิมีหิมะฟู ๆ กับท้องฟ้าแจ่มใสนั่นเอง เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดโด่งดังอีกหนึ่งที่อีกด้วยนะ ใครมาก็ต้องไม่พลาดชมวิวหลักล้านที่มุมนี้
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสสายสีแดงลงป้าย 20,17,22,14
2. ทะเลสาบไซโกะ (Lake Saiko)
ทะเลสาบถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและป่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เท่าทะเลสาบคาวากุจิโกะและเล็กกว่า แต่สวยงามไม่แพ้กันบอกเลย ที่นี่คนนิยมมาตั้งแคมป์ พายเรือ ตกปลา เดินป่า พูดง่าย ๆ คือเหมาะกับคนชอบกิจกรรมกลางแจ้งนั่นเอง ที่นี่อาจจะเห็นฟูจิได้ไม่เต็มรูปแต่ยังไงก็บรรยากาศดี อากาศสุด ๆ เหมือนกัน หรือจะนั่งปิกนิกเสพบรรยากาศกับอากาศสะอาด ๆ ริมทะเลสาบก็ได้ สดชื่นสุด
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสสีเขียว ลงป้ายสุดท้าย Saiko Minshuku
3. ทะเลสาบโชจิโกะ (Lake Shojiko)
ทะเลสาบขนาดเล็กที่สุดในบรรดาทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ เป็นที่เที่ยวยามานาชิที่ค่อนข้างส่วนตัว บริเวณนี้มีโรงแรมอยู่ 2-3 แห่ง ใครอยากพักที่คาวากุจิโกะแบบตื่นมาแล้วเห็นวิวฟูจิแบบกระแทกตาไม่มีร้านค้าหรือตึกมาบังก็พักแถวนี้ได้เลย หรือจะตั้งแคมป์ ตกปลา พายเรือก็ทำได้
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสสายไปเส้นทาง Shin-Fuji Shimobe Onsen ลงที่ป้าย Lake Shojiko
4. ทะเลสาบโมโตซูโกะ (Lake Motosuko)
ทะเลสาบที่มีความลึกและมีน้ำใสมากที่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้งหมดรอบฟูจิ ที่นี่นอกจากจะมีนักท่องเที่ยวแห่มาชมวิวมากมายทุกวันแล้วยังเป็นหนึ่งในโลเคชั่นของนักวาดภาพ ช่างภาพ และศิลปะทั้งหลายที่มักจะมาปักหลักกันอยู่ที่จุดนี้ด้วย มีกิจกรรมกลางแจ้งเช่นกัน พายเรือ ตกปลา ตั้งแคมป์ เดินป่า
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสสีอะไรก็ได้ลงที่ Motosuko-Iriguchi bus แล้วเดินต่อ 5 นาที
5. ทะเลสาบทานูกิ (Lake Tanuki)
อีกหนึ่ง ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ กับชุดชมวิวฟูจิคนน้อย สงบ บริเวณนี้มีต้นไม้ล้อมรอบทะเลสาบและมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ สวยมากฟีลยุโรปสุด แถมไฮไลต์ของที่นี่คือเราสามารถชมปรากฏการณ์ธรรมชาติ Diamond Fuji ได้ด้วย นั่นคือการที่พระอาทิตย์จะตกลับขอบฟ้าที่ตรงยอดของภูเขาไฟฟูจิแบบตรงเป๊ะ จะได้เห็นเส้นแสงอาทิตย์ส่งประกายเป็นแฉกเหมือนประกายของเพชรนั่นเอง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : จากสถานี Fujinamiya ต่อรถบัสสาย 2 ลงป้าย Lake tanuki
6. ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako)
เป็นทะเลสาบที่อยู่ใกล้ฟูจิมากที่สุดเลยนะ แน่นอนว่าเราจะได้เห็นฟูจิแบบเต็มตาเหมือนมาตั้งอยู่ตรงหน้าเลย รอบทะเลสาบก็ธรรมชาติสวยงามเหมือนเคย มีต้นไม้สีเขียว ดอกไม้ป่าข้างทางรวมถึงซากุระด้วย ปั่นจักรยานชมวิวรับลมรอบ ๆ ได้ หรือใกล้อยากล่องเรือชมวิวก็มีเรือสวอนเลค (Swan Lake) เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่รูปหงส์นั่นเอง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Fujisan Station จากนั้นต่อรถบัสสาย Yamanakako-go Bus ไปลงที่ป้าย Yamanakako Iriguchi
7. สวนโออิชิ (Oishi Park)
ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ ที่เหมือนเป็นจุดศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวเลยเพราะมีทุ่งดอกไม้ Pink Moss สีสดใสบานสะพรั่งช่วงใบไม้ผลิ หน้าร้อนมีลาเวนเดอร์ ใบไม้ร่วงมีหญ้ามูลี่สีชมพู ทะเลสาบน้ำใส เย็น กับฟูจิแสนสวย และยังเป็นสถานที่ขายของที่ระลึกมากมาย มีร้านอาหาร อาหารท้องถิ่น และเป็นจุดขึ้นรถบัสอีกด้วย ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่ห้ามพลาดมาคาวากุจิโกะเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสสายสีแดง (Red-Line) ที่วิ่งรอบทะเลสาบ Kawaguchiko แล้วไปลงที่ป้ายรถบัส Kawaguchiko Natural Living Center
8. สวนยากิซากิ (Yagizaki Park)
อยู่ข้าง ๆ สวนโออิชิปาร์ค จุดชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่สวยที่สุดในคาวากุจิโกะช่วงหน้าร้อนใครมาหน้าร้อนต้องมาถ่ายรูปที่นี่เลยนะ นอกจากนี้เขามักจะมีการจัดงาน เทศกาลสมุนไพร Herb Festival ประจำทุกปีด้วยนะ สำหรับปีนี้ต้องรอติดตามข่าวอีกทีว่าจะจัดงานเมื่อไหร่ บริเวณรอบ ๆ สวนจะมีร้านอาหาร คาเฟ่ กาแฟ สไตล์ออกแนวยุโรปด้วย เขากับบรรยากาศหน้าร้อนและลาเวนเดอร์มาก ๆ เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งที่เลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : บัส Fujikyu Retro Bus สาย Lake Saiko ประมาณ 12 นาที ลงป้าย Yakizaki Park
9. จุดชมวิวฟูจิยามะ ทวิน เทอเรซ (FUJIYAMA Twin Terrace)
ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ระเบียงชมวิวมุมสูงที่เราจะสามารถมองเห็นได้ทั้งฟูจิและวิวเมืองรอบ ๆ ทะเลสาบทั่วจังหวัดยามานาชิเลย ทางเดินขึ้นเป็นเนินเขาที่ทำทางขึ้นไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เป็นทางชันเล็กน้อยแต่เดินสบาย ระหว่างก็ชมต้นไม้ธรรมชาติสวยงามและอากาศที่สดชื่นไปด้วย พอถึงจุดชมวิวจะมีที่ให้นั่งพักสามารถทานอาหาร หรือซื้อข้าวกล่องจากด้านล่างมานั่งทานก็ได้
ค่าเข้าชม : 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Isawa-Onsen Station ให้ขึ้นรถบัสแล้วลงที่ป้าย Kami ashikawa รอขึ้นรถบัส Fujiyama Twin Terrace ได้ฟรี
10. สวนโอคุ-คาวากุจิโกะ ซากุระ-โนะ-ซาโตะ (Oku Kawaguchiko Sakura no sato)
ที่นี่เป็นจุดชมวิวทะเลสาบคาวากุจิโกะและใบไม้เปลี่ยนยอดนิยมอีกหนึ่งที่ เป็นเส้นทางเดินทางป่าระหว่างทางก่อนถึงจุดชมวิวก็ได้สัมผัสธรรมชาติญี่ปุ่นในแต่ละฤดูใบด้วย ที่นี่เงียบสงบ เนื่องจากเส้นทางกว้างมีจุดระเบียงชมวิวหลายจุดเลยทำให้คนไม่พลุกพล่านมาก สามารถนั่งทานอาหารกลางวันที่นี่ได้พร้อมชมวิวภูเขาไฟฟูจิไปพร้อมกัน
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 JPY / เด็กเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสจาก Kawaguchiko station ไปลงที่ Nagahama Bus Stop แล้วเดินต่อไปอีก 15 นาที
11. สวนฮานะโนะมิยะโกะ ทะเลสาบยามานากะโกะ (Yamanakako Hananomiyako Park)
สวนที่เราจะได้เจอกับทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาลกว้างกว่า 3 แสนตารางกิโลเมตร ไฮไลต์มาก ๆ เลยคือที่นี่เป็นทะเลสาบที่อยู่ใกล้กับฟูจิมากที่สุด ฉะนั้นเราก็จะได้เห็นดอกไม้ทั้งทุ่มเบ่งบานมีฟูจิเป็นฉากหลัง ดอกไม้ในฤดูกาลต่าง ๆ เช่น ทิวลิปในฤดูใบไม้ผลิ ดอกทานตะวันในฤดูร้อน ดอกคอสมอสในฤดูใบไม้ร่วง ส่วนฤดูหน้าจะมีการจัดงานไฟอิลลูมิเนชั่น เป็น ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ ที่มาแล้วสวยทุกฤดู
ค่าเข้าชม : รอบทุ่งดอกไม้เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:30 น.
การเดินทาง : จากสถานี Fujikyuko Fujisan นั่งรถบัสรอบทะเลสาบยามานากะโกะ Fujikko ใช้เวลา 30 นาที ลงป้าย Hananomiyako koen
12. เทนโจเซน ศาลเจ้าโคมิตาเกะ (Tenjosan Komitake Shrine)
เข้าป่าไปชมวิวฟูจิ ใครชอบลุยอยากเดินป่าญี่ปุ่นต้องมาที่นี่เลย เป็นการเดินป่าระยะสั้นระหว่างทางก็ได้มองคุณฟูจิได้ด้วยเพลิน ๆ ให้หายเหนื่อย ทางเดินไม่ยากแต่มีอุปสรรคบ้างเป็นทางลูกรังบางช่วง มีทางลื่นบางช่วงอีกด้วย ด้านบนมีศาลเจ้า Komitake เป็นศาลเจ้าเล็ก ๆ แวะไปไหว้ขอพรก่อนเดินลงกลับด้านล่างได้ด้วย ใครหา ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ พร้อมได้เดินป่าไปด้วยอันนี้เวิร์ค
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : จากสถานี Kawaguchiko ให้ไปขึ้น Mr.Fuji Ropeway ที่สถานี Kawaguchikohan Station แล้วเดินเข้าป่าตามป้าย Tenjosan Komitake Shrine ได้เลย
13. ศาลเจ้าอารายาม่า (Arayayama Shrine)
ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่เชิงเขาของฟูจิ โด่งดังเรื่องการขอพรด้านโชคลาภ ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 3 สุดยอดศาลเจ้าสายเงินทองของญี่ปุ่นกันเลยทีเดียวนะ ที่ศาลเจ้าจะมีจัดงานประจำปีด้วยคือทุกวันที่ 17 ตุลาคมของทุก จัดพิธีบูชาเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย มีโซนส่วนลึกของศาลเจ้าชื่อว่า Okunomiya ว่ากันว่าโซนนี้ขลังมาก ไปยากแค่ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายนเท่านั้น ใครเป็นสายไหว้ขอพร สายบูชา แนะนำให้ไปไหว้สักครั้งในชีวิต
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 16:00 น.
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Kawaguchiko นั่งรถบัสไปลงที่ Arayayama Minkan Iriguchi โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที แล้วเดินต่ออีก 8 นาที
14. วัดโทโคจิ (Tokoji Temple)
วัดที่มีการก่อสร้างเป็นเอกลักษณ์ด้วยไม้ ได้รับอิทธิพลมาจากจีนแต่ทั้งนี้ก็ยังมีการผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นให้เห็นอยู่บ้าง นอกจากเป็นวัดแล้วก็ยังเป็นโรงเรียนพุทธศาสนานิกายเซนโอบาคุอีกด้วย ส่วนที่น่าสนใจมากของวัดอีกอย่างอยู่ที่ด้านหลังวัด มีสุสานโมริ ขุนนางศักดินาสมัยช่วงยุคเอโดะอีกด้วย นักท่องเที่ยวไม่เยอะเหมาะกับคนที่หาที่เที่ยวแบบเงียบ ๆ ไม่เบียดไม่แย่งกับใครนะ
ค่าเข้าชม : 300 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงที่สถานี Higashi-Hagi Station จากนั้นต้องเดินต่ออีก 30 นาทีเพื่อขึ้นไปที่วัด
15. กระเช้าลอยฟ้าชมภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji Panoramic Ropeway)
อีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตของการมาเที่ยวคาวากุจิโกะก็คือนั่งกระเช้าลอยฟ้าชมวิวภูเขาไฟมุมสูงนั่นเอง เราจะต้องนั่งกระเช้าลอยขึ้นไปเพื่อชมวิวแบบพาโนราม่าสูงกว่า 1,075 เมตรจากระดับน้ำทะเล ด้านบนน่ารักมากเพราะเขาตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนพื้นบ้านญี่ปุ่น Kachi Kachi Yama เกี่ยวกับกระต่ายและทานูกิ ด้านบนมีร้านขายของฝากของที่ระลึก ด้านบนนี้สามารถชมวิวได้ทั่วทะเลสาบคาวากุจิโกะเลย
ค่าเข้าชม : ค่ากระเช้าไปกลับ ผู้ใหญ่ 1,000 JPY / เด็ก 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสีแดงจาก สถานี Kawaguchiko มาลงที่ป้ายหมายเลข 9 (Sightseeing Boat/Ropeway Ent.)
16. หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai)
ว่ากันว่าแต่ก่อนพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นพื้นที่ของทะเลสาบรอบฟูจิ แต่ก็น้ำก็แห้งหายไปตามธรรมชาติที่ใช้เวลากว่าร้อยปีทำให้เปิดเป็นหมู่บ้านขึ้นมา ในหมู่บ้านจะมีบ่อน้ำ 8 แห่ง ซึ่งเปิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟฟูจิ น้ำไหลผ่านหินลาวาและรวมกับแร่ธาตุต่าง ๆ ทำให้น้ำใสสมชื่อหมู่บ้านนั่นเอง บ้านในหมู่บ้านมีร้านอาหาร ร้านขายของ และหมู่บ้านไม้แบบญี่ปุ่นโบราณ เป็น ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ ที่อยู่ในลิสต์การเที่ยวของทุกคนแน่นอน
ค่าเข้าชม : รอบหมูบ้านชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสสายสีเขียว ไปลงที่ป้าย Oshino Iriguchi
17. พิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรีคาวากุจิโกะมิวสิคฟอเรสต์ (Kawaguchiko Music Forest Museum)
พิพิธภัณฑ์แบบธีมปาร์คพร้อมการจัดแสดงเครื่องดนตรีคลาสสิคที่นำเข้ามาจากยุโรปอายุยาวนานและมีล้วนมีประวัติศาสตร์ทั้งนั้น รวมกว่า 1,000 ชิ้น แต่ไฮไลต์คือเครื่องดนตรีเหล่านั้นสามารถเล่นเองได้ด้วยนะ หรือมีเครื่องดนตรีให้เราลองเล่นด้วย พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ร่มรื่น และตกแต่งกึ่งตะวันตก สวยน่าเดินเล่น เพลินมาก ๆ เลยล่ะ แถมยังเป็น ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ ยอดฮิตอีกด้วย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,500 JPY / เด็ก 1,100 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสายสีแดง จาก Kawaguchiko มาลงที่ป้ายหมายเลข 17
18. พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิจิคุ คุโบตะ (Kubota Itchiku Art Museum)
พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะของ Itchiku Kubota ศิลปินญี่ปุ่นที่เป็นผู้ฟื้นฟูศิลปะการย้อมสีผ้าไหมจิกาฮานะ ในการทำชุดกิโมโนนั่นเอง ในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงกิโมโนในรูปแบบพิเศษ เช่น จักรวาล และฤดูกาล มีผลงานที่เป็นไฮไลต์และยังทำไม่เสร็จด้วย นั่นก็คือ “Symphony of Light” เป็นกิโมโน 30 ชุดที่เรียงต่อกันเป็นรูปภูเขาไฟฟูจินั่นเอง
ค่าเข้าชม : 1,300 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 16:30 น.
การเดินทาง : จาก Kawaguchiko Stationนั่งรถบัสสีแดงไปลงที่ Itchiku Bijutsukan bus stop
19. หมู่บ้านโบราณไซโกะ อิยะชิ โนะ ซะโตะ เนมบะ (Saiko Iyashi-no-Sato Nemba)
เป็นหมู่บ้านจำลองที่จะพาเราย้อนไปสู่อดีต มีบ้านโบราณแบบญี่ปุ่นที่สร้างตามแบบฉบับเดิมกว่า 20 หลัง ที่นี่เราสามารถฝึกทำเครื่องฝีมือพื้นเมืองได้ด้วย ร่วมถึงมีของทำมือจากชาวบ้านท้องถิ่นสวย ๆ จำหน่ายเป็นที่ระลึก จากจุดลงรถเดินเข้าหมู่บ้านประมาณ 300 เมตร ระหว่างทางชมวิวฟูจิได้ สวยงามมาก ๆ หรือใครมาหน้าหนาวหิมะตกหมู่บ้านจะปกคลุมด้วยหิมะสีขาว สวยละมุนสุด ๆ เป็น ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ ที่แนะนำให้มาเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : คนละ 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Kawaguchiko เดินทางด้วย Retro Bus ลงที่ป้าย Saiko Iyashi no sato Nenba
20. สะพานข้ามทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Ohashi Bridge)
จุดถ่ายรูปยอดฮิตที่คนนิยมไปกันแต่เช้าเพื่อวิวที่สุดยอด นอกจากถ่ายรูปแล้วยังเหมาะกับเดินเล่นชมวิวทะเลสาบคาวากุจิโกะ แน่นอนว่าจะได้เห็นคุณฟูจิด้วยเหมือนกัน หรือหากใครมีแพลนเช่าจักรยานเส้นทางนี้ก็แจ่ม แนะนำเลยวิวสวยมาก คนยังมาเที่ยวน้อยถ่ายรูปสบาย ๆ และยังเป็นเส้นทางที่นักวิ่งชอบมาวิ่งออกกำลังกายกันด้วย อากาศดี คนน้อย ใครหาที่ดูฟูจิใหม่ ๆ ลองมาที่นี่ดูนะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสสายสีแดง จากสถานี Kawaguchiko ไปลงที่ Ubuyagasaki แล้วเดินต่อเล็กน้อย
21. สวนนากาซากิ (Nagasaki Park)
ชมภูเขาไฟฟูจิแบบไม่มีอะไรมาบังมากั้นทั้งสิ้น ที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่ยื่นออกมาจากทะเลสาบคาวากุจิโกะเลยไม่มีอะไรกั้นวิวฟูจิข้างหน้าเลย ที่นี่คนจะเยอะมากช่วงซากุระฤดูใบไม้ผลิเพราะว่าจะมีต้นซากุระบานสะพรั่งเต็มสองฝั่นถนน เป็นภาพที่สวยงามมากจนเหล่าช่างภาพทั้งหลายก็จะมาปักหลักกันอยู่ตรงนี้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสวนที่เหมาะกับการชมวิวฟูจิมาก ๆ อีกหนึ่งที่
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสสายสีแดงจากสถานี Kawaguchiko ไปลงที่ป้าย Sunny-de-mae-nagasak-ikoen-iriguchi เดินต่อ 3 นาที
22. สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland)
พลาดไม่ได้เลยสำหรับสวนสนุก Fuji-Q Highland ไฮไลต์ของ ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ ตลอดกาล ที่อยู่ห่างจากภูเขาไฟฟูจิแค่ไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้นมีรถไฟเกาะที่ได้บันทึกสถิติโลกไว้หลายครั้งแล้วด้วย ที่สำคัญเป็นรถไฟเหาะที่เดียวที่สามารถนั่งชมวิวฟูจิซังได้หวาดเสียวที่สุด ใครไม่กลัวความสูงแนะนำให้ลองเลยล่ะ เครื่องหวาดเสียวติดอันดับของเขาก็มีอย่างเช่น Takabisha เป็นรถไฟเหาะที่ชันที่สุดในโลก หรือ Dodonpa เป็นรถไฟเหาะที่เร็วที่สุดในโลก ในระยะเวลาสั้น ๆ 1.5 วินาที เป็นต้น
ค่าเข้าชม : คนละ 6,000 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 19:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สาย Fujikyu ลงที่สถานี Fuji-Q Highland
23. สวนสนุกฟูจิซูบารุแลนด์ (Fuji Subaruland)
สวนสนุกสำหรับครอบครัวจริง ๆ พื้นที่ใหญ่มากเต็มไปด้วยธรรมชาติล้วน ๆ มีกิจกรรมให้ทั้งของเด็กของผู้ใหญ่ไม่น่าเบื่อแน่นอน เช่น Roll Glider กิจกรรมสุดดังให้เราสำรวจธรรมชาติผ่านเครื่องร่อนนั่นเอง หรือสำหรับเด็ก ๆ ก็ต้องเสริมทักษะด้วย Donguri บ้านและลานต้นไม้ธรรมชาติให้เด็ก ๆ ผจญภัยในด้านต่าง ๆ อีกด้วยนะ หรือใครอยากตั้งแคมป์เขามีก็พื้นที่ให้บริการด้วย บรรยากาศดีสุด ๆ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 3,700 JPY / เด็ก 3,100 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 16:00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรับส่งได้ที่ Fuji Kankou Kaihatsu หน้าสถานี Kawaguchiko
24. อุโมงค์ใบเมเปิ้ลโมมิจิ (Momiji Tunnel)
มาดู ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ กับจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ห้ามเด็ดขาด สวยมาก เป็นทางเดินยาวประมาณ2 กิโลเมตรเลียบแม่น้ำสายเก่า สองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลกว่า 2,000 ต้น เปลี่ยนเป็นสีแดงสีส้มในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคือสวยมาก ๆ ช่วงเย็นมีเปิดไฟประดับตามทางเดินด้วย ใครที่ชอบบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนต้องแวะมาเดินชมความสวยงามนะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสสายสีแดง จากสถานี Kawaguchiko ไปลงที่ป้าย 19 หรือ ป้าย Itchiku Kubota Art Museum ก็ได้แล้วเดินต่อเล็กน้อย
25. สวนสไตล์อังกฤษของกระต่ายน้อยปีเตอร์ (Peter Rabbit English Garden)
ปิดท้ายกับงาน Rainbow Flower Festival ที่จะจัดขึ้นในฤดูร้อนของทุกปีที่คาวากุจิโกะ จะได้เจอกับดอกไม้นานาชนิด มีโซนใหม่อย่าง Peter Rabbit English Garden กับสวนสวยใสสไตล์อังกฤษ สดใสเข้ากับหน้าร้อนมาก ๆ โซนนี้มีดอกไม้กว่า 300 ชนิด แถมยังมีคาเฟ่ให้ชิมเครื่องเดิมและลิ้มรสเมนูสุดพิเศษด้วย หน้าร้อนที่คาวากุจิโกะไม่น่าเบื่อแน่นอน
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 800 JPY / เด็ก 250 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 16:00 น. งานมีเฉพาะฤดูร้อนเท่านั้น
การเดินทาง : จากสถานี kawaguchiko station ต่อรถบัส Shibasakura line ซึ่งจะมีให้บริการเฉพาะช่วงที่มีการจัดงานเท่านั้น
YouTrip Perks เที่ยวญี่ปุ่นประหยัดมากขึ้น
แนะนำฟีเจอร์ YouTrip Perks จาก YouTrip ที่ทำให้ทริปญี่ปุ่นคุ้มมากขึ้นไปอีก แค่จองที่พักผ่าน Agoda หรือ ซื้อตั๋วเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ก็ได้เงินคืนเพิ่มไปอีก! นอกจากนี้ยังมีร้านอื่น ๆ เข้าร่วมรายการอีกเพียบได้ช้อปแน่นอนไม่ต้องห่วง
ไปญี่ปุ่นทั้งที่ต้องไปพลาดไปชมความงามของธรรมชาติอย่างภูเขาไฟฟูจิสักครั้งเนอะ ที่ไปคาวากุจิโกะจากโตเกียวสะดวกมาก ไปแบบ One Day Trip ก็ได้ หรือใครอยากเก็บครบ ๆ แนะนำ 3 วัน 2 คืน กำลังดี ที่สำคัญใช้ YouTrip สะดวก ง่าย ประหยัดตลอดทริปอีกด้วย เพราะ YouTrip ใช้จ่าย เรทดี ทุกที่ทั่วโลก สมัครไว้รอก่อนเดินทางได้เลย รับรองคุ้มติดใจ