เกาะเชจู ที่เที่ยวในเกาหลีที่ควรไปสักครั้งในชีวิต ใครที่ไปเกาหลีบ่อย ๆ และเริ่มเบื่อการเที่ยวในเมืองเดิม ๆ แล้ว ลองเปลี่ยนมาเที่ยวชมธรรมชาติกันบ้างดีไหม ที่เกาะเชจูนอกจากธรรมชาติจะสวยงามแล้วยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมรวมถึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดย UNESCO เกาหลีทริปหน้านี้เปลี่ยนไปเที่ยวเกาะเชจูด้วยกัน เดี๋ยว YouTrip จะพาไปดู 15 ที่เที่ยวเชจู 2023 ต้อนรับหน้าร้อนชมธรรมชาติแบบสดใสเบอร์สุด ๆ
เที่ยวเกาะเชจู เดือนไหนดี
แนะนำให้ไปช่วงหน้าร้อนเดือนมิถุนายน – สิงหาคม อากาศแจ่มใสอุณหภูมิ 24-30 องศา ร้อนแต่สวย เป็นช่วงที่เหมาะกับการเที่ยวทะเลโดยเฉพาะ เพราะทุกหาดจะเปิดให้เล่นน้ำได้นั่นเอง แถมยังสามารถทำกิจกรรมทางน้ำได้อย่างเล่นเซิร์ฟ ปีนเขา ดำน้ำ
การเดินทางบนเกาะเชจู
เกาะเชจู เกาหลีเป็นเกาะขนาดเล็ก แต่ด้วยความเป็นเมืองท่องเที่ยวก็จะมีขนส่งรูปแบบต่าง ๆ ให้เลือกแล้วแต่ความต้องการ เกาะเชจู เดินทางไม่ยาก สามารถเที่ยวเชจูด้วยตัวเองมีให้เลือกหลายแบบ
– เดินเท้า บางครั้งจุดห่างระหว่างที่เที่ยวก็ไม่ไกลมากหรืออยู่ใกล้ที่พักสามารถเดินไปได้
– เช่ารถยนต์ ต้องมีใบขับขี่สากลหรือใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ สะดวก เป็นส่วนตัว และประหยัดเวลา
– รถบัส เน้นประหยัดงบ มีรถบัสสายต่าง ๆ ให้บริการอยู่ทั่วเกาะ
– แท็กซี่ เรียกได้จากแอป KakaoTaxi ราคาสูง
ที่เที่ยวเชจู 2023 ที่ห้ามพลาด
1. ถนนเลียบชายฝั่งทัคเมียว ( Dakmeoreu Coastal Road )
เที่ยวเกาะเชจูกันที่แรกด้วยฟิลซัมเมอร์แบบเต็มตา ที่นี่เป็นทางเดินตามแนวชายฝั่งเห็นเขาบอกว่าเป็นที่เที่ยวในเกาะเชจูที่คนยังไม่ค่อยรู้จักด้วย ทางเดินตรงนี้ยาวประมาณ 1.8 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินเชื่อมไปถึงท่าเรือ Sinchon ได้ ไฮไลต์อยู่ที่ศาลาแปดเหลี่ยมอยู่บนเนินเขาเตี้ย ๆ เป็นที่ชมวิวสามารถมองเห็นทะเลได้แบบกว้าง ๆ ข้อดีของการมาหน้าร้อนคือแดดสวยและรอบ ๆ จะเต็มไปด้วยหญ้าที่เขียวขจีตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าคือสวยมาก
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 340-1 ไปลงที่ป้าย Sinchon Elementary School จากนั้นเดินต่อ 800 เมตร
พิกัด : https://goo.gl/maps/s9apVzuGhAw6Dm5HA
2. อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน ( Hallasan National Park )
เอาล่ะว่าอย่างที่เกริ่นไปว่าช่วงหน้าร้อนบนเกาะเซจูเขาจะเปิดให้ปีนเขา ใครชอบเดินเขาให้มาที่อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน ที่นี่เป็นสัญลักษณ์ของเชจูเลยก็ว่าได้และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย กิจกรรมยอดฮิตก็ไม่พ้นเดินเขาและปีนเขานี่แหละ มีหลายเส้นทางให้เลือกเดินส่วนมากไม่เกิน 10 กิโลเมตรก็จะถึงยอดเขา ระหว่างเดินก็ชมธรรมชาติไปด้วยมีพืชพันธุ์มากกว่า 1,800 สายพันธุ์ ซัมเมอร์ก็คือดอกไม้ต้นไม้ออกดอกใบกันสีแจ่ม ๆ สดใสมาก
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : หน้าร้อนเปิด 05:00 – 18:00 น. (เดินเขาต้องลงมาก่อนพระอาทิตย์ตกดิน)
การเดินทาง : จากสถานีรถบัสให้ขึ้นรถสาย 5.16 ไปลงที่ Seongpanak ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จะเจอทางขึ้นเขาเส้นทาง Seongpanak
พิกัด : https://goo.gl/maps/oUcvwLAqFSkGjzAi9
3. ยอดเขาซองซานซันไรส์ ( Seongsan Sunrise Peak )
หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Seongsan Ilchulbong เป็น ที่เที่ยวเชจู 2023 แนวธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อห้าพันปีก่อน ปากปล่องกว้าง 600 เมตร ใหญ่มากลักษณะเหมือนชาม และสูงถึง 90 เมตร ส่วน Seongsan Sunrise Peak เนี้ยเหมือนเป็นฉายาของยอดเขานี้เพราะว่าเป็นจุดฮิตที่มักได้รับความนิยมในการดูพระอาทิตย์ขึ้น การเดินขึ้นไปบนยอดเขาใช้เวลาประมาณ 50 นาที ส่วนมุมฮิตคือมุมที่เป็นทุ่งหญ้ากว้างติดทะเลและยังเป็นพิกัดสำหรับถ่ายหนังด้วยนะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 2,000 KRW / เด็ก 1,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 07:30 – 20:00 น.
การเดินทาง : จากสนามบินเชจู ให้นั่งรถบัสสาย 100 ไปลงที่ Jeju Intercity Bus Terminal จากนั้นต่อรถประจำทาง Dongilju bus bound for Seongsan ไปลงที่ Seongsalliipgu Bus Stop พอลงรถจะเห็นเขาซองซานอยู่ห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร
พิกัด : https://goo.gl/maps/tszg65Yanvhm2jmh8
4. เส้นทางเดินป่าจอลมุล ( Jeolmul Forest Trail )
พิกัดเที่ยวเชจูด้วยตัวเองที่ต่อมาพาไปเดินเล่นในป่าสนซีดาร์ เป็นป่าสนขนาดใหญ่ตรงกลางของป่าเป็นปล่องภูเขาไฟ สามารถเดินไปยอดเขาได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จะเจอสุดชมวิวมองเห็นปล่องภูเขาไฟ ช่วงซัมเมอร์อากาศแจ่มใสเราจะมองเห็นความสวยงามบนเกาะนี้ได้ชัดเจนได้เลยล่ะ แถมแดดที่ส่องลอดผ่านทิวต้นสนนี่ก็ทำให้ถ่ายรูปสวยสุด ๆ และเขามีการจัดที่พักในป่านี้ด้วยนะ เป็นที่พักแบบเคบิน จำกัด 2,000 คนต่อวัน ใครอยากมาพักแคมป์ในป่าสนต้องจองล่วงหน้าด้วยนะ
ค่าเข้าชม : คนละ 1,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 07:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 343 ลงที่ Jeolmul Forest Trail ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พิกัด : https://goo.gl/maps/pDSaCRXy5J5VuFzx5
5. อ่าวซอพจิโกจิ ( Seopjikoji )
ที่เที่ยวเชจู 2023 ที่ทั้งเป็นจุดเที่ยวยอดนิยมและเป็นโลเคชันฮิตในการถ่ายซีรี่ย์ถ่ายเรื่องเลยล่ะ ที่นี่เป็นอ่าวเล็ก ๆ มุมิ มีเนินเขาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมทะเล บนเนินมีประภาคาร โบสถ์ และอาคารอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวและดอกไม้สดใส มีทางเดินเล็ก ๆ ให้เดินเล่นเลียบหน้าผาเตี้ย ๆ ติดกับทะเล บรรยากาศดีมาก ส่วนใครอยากเจอเวอร์ชั่นมาดอกไม้ต้องมาฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกคาโนล่าสีเหลืองบานสลับกับสีเขียวของหญ้า น่ารักสุด
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ตลอดเวลา
การเดินทาง : ขึ้นรถบัส Intercity bus ที่วิ่งมาทางฝั่งตะวันออก ลงป้าย Seongsan-eup Goseong-ri แล้วต่อแท็กซี่ไปอีก 5 นาที
พิกัด : https://goo.gl/maps/wdGyfXxFgNjSoCJ56
6. 1100 บึงเชิงนิเวศที่ราบสูง ( 1100 Highland Ecological Swamp )
เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งอยู่บนความสูงกว่า 1,100 เมตรของภูเขาไฟฮัลลาซาย พื้นที่นี้ได้รับการอนุรักษ์ให้มีความสมบูรณ์ของพื้นป่า มีพรรณป่าหลากหลายและสัตว์ป่าหายากหลายชนิดอาศัยอยู่ เที่ยวได้ตลอดปีโดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน ป่าจะเขียวชอุ่มและช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจากสีเขียวในหน้าร้อนจะกลายเป็นสีส้มแดงทั้งป่าทันที กิจกรรมฮิตก็หนีไม่พ้นเดินป่าแน่นอนมีสะพานไม้ยาวให้เราเดินชมความงามของธรรมชาติด้วยนะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 06:00 – 16:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 360A ไปลงที่ป้าย Jeju Jeil High School จากนั้นเปลี่ยนสายรถบัสไปขึ้นสาย 240 ลงที่ 1100-goji Service Area ได้เลย
พิกัด : https://goo.gl/maps/7Sg9YxB6LbH9i7bEA
7. วัดยักชอนซา ( Yakcheonsa Temple )
พาไปเยี่ยมชม ที่เที่ยวเชจู 2023 วัดที่มีการออกแบบสถาปัตยกรรมในแบบวัดพุทธสมัยต้นราชวงศ์โชซอน ความพิเศษคือวัดนี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีน้ำแร่ธรรมชาติไหลออกมาจากพื้นดินตลอดปี เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ทำให้วัดนี้เป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมของชาวพุทธทั้งจากเกาหลีและต่างชาติ ด้านหน้ามีพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่สูงกว่า 5 เมตร และกลองที่ตั้งอยู่ข้างกัน ส่วนพื้นที่รอบวัดจะมีสวนดอกไม้ประดับอยู่รอบ ๆ วัด เพิ่มความสวยงามให้วัดนี้ได้ดีมาก ชาวพุทธเราแวะมาเชจูก็อย่าลืมมาไหว้พระขอพรที่วัดยักชอนซากันนะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ตลอดเวลา
การเดินทาง : จากสนามบินให้นั่ง Airport Limousine Bus สาย 600 ลงที่ Yakchunsa Temple แล้วเดินต่อ 300 เมตรจะถึงทางเข้าวัด
พิกัด : https://goo.gl/maps/L7KpwBVTLkT4XVnE8
8. สวนหินเขาวงกต ( Maze Land )
พิกัดที่เที่ยวต่อมานอกจากจะเที่ยวเชจูด้วยตัวเองได้แล้วยังสนุกอีกต่างหาก ที่นี่เป็นสวนเขาวงกตที่สร้างขึ้นมาจากหินและไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ยาว 5 กิโลเมตรอ่ะคิดดู ซึ่งถ้ามองลงมาจากมุมสูงเราจะเห็นว่าเขาทำมาเป็นสัญลักษณ์ของเกาะเชจูด้วยนะ และแน่นอนเข้าไปเล่นในเขาวงกตนี้ได้ด้วย กิจกรรมชาวแก๊งสุด ๆ แต่ระวังหาเพื่อนไม่เจอนะ ฮ่า ๆ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเขาวงกตด้วยให้เราได้เข้าชมและศึกษาความเป็นมาอีกด้วยล่ะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 9,000 KRW / เด็ก 6,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : นั่งแท็กซี่จะสะดวกที่สุด สามารถขึ้นแท็กซี่จากสถานีรถขนส่งระหว่างเมืองเชจูไปได้เลยใช้เวลา 50 นาที
พิกัด : https://goo.gl/maps/5Wj5ksECAX1V1QHH6
9. สวนคาเมเลีย ( Camellia hill )
หน้าร้อนเกาหลีนี่พลาดไม่ได้จริง ๆ กับน้องคาเมเลีย Camellia hill เป็นโซนหนึ่งอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์บนเกาะเชจู มีคาเมเลียอยู่กว่า 6000 ต้น และมากกว่า 500 สายพันธุ์ ใครรักดอกไม้คือต้องกรี๊ดเพราะน้องจะออกดอกเป็นพุ่มหนา ๆ สีสวยมาก นอกจากนี้ยังมีสวนปาล์ม ดอกไม้ป่าหายาก และพรรณพืชอื่น ๆ อยู่มากมายเลย และมีคาเฟ่ในสวนคาเมเลียด้วยนะ ร้อน ๆ ก็พักเหนื่อยชิบน้ำชมดอกไม้ก่อนได้ เป็น ที่เที่ยวเชจู 2023 ที่ต้องไปให้ได้อีกหนึ่งที่
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 7,000 KRW / เด็ก 3,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 18:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 780 ลงที่ป้าย sangchangri จากนั้นข้ามถนนมาอีกฝั่งแล้วต่อรถสาย 940 ลงที่ป้าย Camellia garden bus stop ได้เลย
พิกัด : https://goo.gl/maps/5Te5CTQffpyGyYku5
10. สวนพฤกษศาสตร์ยอมิจิ ( Yeomiji Botanical Garden )
สวนพฤกษศาสตร์สุดอลังการในเชจู มีทั้งโซนกลางแจ้งที่รวมพรรณไม้หายากกว่า 2,300 ชนิดไว้ที่นี่แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ให้เราเดินชมได้ง่าย ส่วนโซนในร่มเป็นสวนเรือนกระจกรวมพืชพื้นเมืองของเชจู เกาหลี ญี่ปุ่น อิตาลีและฝรั่งเศส มีความนานาชาติมากเวอร์ นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ เขามีการจัดสวนจำลองในสไตล์สวนของต่างประเทศอย่างสวนญี่ปุ่น สวนอังกฤษ ด้วย ถ่ายรูปสวยมากอย่าลืมพกชุดสวย ๆ มาด้วยล่ะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 9,000 KRW / เด็ก 5,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : จากสนามบินนั่งรถบัสสาย 600 ไปลงที่ Yeomiji Botanical Garden ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พิกัด : https://goo.gl/maps/gFo8GM6boY3LzuSE9
11. หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอึบ ( Seongeup folk village )
หมู่บ้านโบราณเกาหลีเล็ก ๆ บนเกาะเชจู สร้างมาตั้งแต่เมื่อ 500 ปีก่อนจนถึงปัจจุบันนี้ยังมีคนอาศัยอยู่สืบทอดกันเป็นรุ่น ๆ ในหมู่บ้านนี้มีทั้งบ้านพัก โรงเรียน ศาลเจ้า ซากอาคารโบราณ และอนุสรณ์หิน มาเดินเที่ยวคือจะได้สัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุคแบบโบราณสุด ๆ จุดเด่นเลยก็คือตัวบ้านที่สร้างจากหินลาวาและหลังคาที่มุงด้วยหญ้าแฝกนี้แหละ กลางหมู่บ้านยังมีต้นไม้โบราณเกาหลี ต้นเซลโคว่าอายุหลายร้อยปีพอ ๆ กับหมู่บ้านนี้ด้วยนะ ส่วนถ้าใครมาเที่ยวเชจูหน้าหนาว ที่หมู่บ้านนี้จะปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว สวยไปอีกแบบเหมือนฉากในหนังเกาหลีสมัยก่อนเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ตลอดเวลา
การเดินทาง : ขึ้นรถบัส Intercity Bus ปลายทาง Beonnyeong-ro ไปลงที่ Seongeup 1 (il) -ri samuso จากนั้นเดินต่อไปอีก 200 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง
พิกัด : https://goo.gl/maps/RoP1LDqqVKsJeUBe9
12. พิพิธภัณฑ์อาร์เต ( ARTE MUSEUM )
สถานที่จัดแสดงนิทรรศการศิลปะร่วมสมัยแบบดิจิทัลอาร์ต จะมีทั้ง Art Gallery และโซน Exhibition ที่แถวเข้างานยาวอยู่ตลอดเวลา ที่นี่ได้รับความนิยมจากคนเกาหลีมาก ๆ ในนี้จะโชว์งานศิลปะในรูปสื่อสมัยสมัยทั้งภาพเคลื่อนไหวที่เหมือนจริง ๆ มาก แสง สี เสียง และกลิ่น ผลงานดัง ๆ ของเขาเลยคือ Wave เป็นศิลปะสื่อสาธารณะที่เคยไปจัดแสดงที่ Coex และตึก SM Town กับภาพเสมือนจริงของคลื่นน้ำ ใครสนใจไปดูงานศิลปะของเขาได้มีหลายโซนมาก ๆ แถมเดินทางไปเที่ยวเชจูด้วยตัวเองง่ายด้วยนะ
ค่าเข้าชม : เฉพาะเข้าชมนิทรรศการ ผู้ใหญ่ 17,000 KRW / เด็ก 10,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 20:00 น.
การเดินทาง : จากสนามบินเชจู นั่งรถบัสสาย 343,344 ไปลงป้าย Ora 3Dong แล้วเปลี่ยนสายรถบัสไปขึ้นสาย 291 ลงที่ป้าย Eoeum-ri ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
พิกัด : https://goo.gl/maps/4R77PbFqw7TQaviAA
13. นิทรรศการโนฮยองซูเปอร์มาร์เก็ต ( Nohyung Supermarket )
เป็นนิทรรศการที่จะนำเสนอศิลปะผ่านแสงในธีมต่าง ๆ เปิดโลกงานศิลปะไปอีกขั้นมากเวอร์ พอเดินเข้าไปในงานเขาเปิดตัวด้วยพื้นที่แรกเป็นสีขาวดำหมดเลย สื่อว่าทุกอย่างนั้นจะหายไปในความมืด พอผ่านสีขาวดำมาแล้วจะเจอพื้นที่เป็นสีนีออนแบบระยิบระยับ เหมือนท้องฟ้าและจักรวาล ส่วนโถงหลักจะเป็นภาพน้ำตกและแก่งหินที่นำเสนอในรูปแบบวิดีโอ บอกเลยว่าแสงสีแต่ละโซนคือสุด เป็น ที่เที่ยวเชจู 2023 ที่ควรมา เพราะเป็นงานศิลปะที่ดูได้เฉพาะในเชจูเท่านั้น!
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 15,000 KRW / เด็ก 10,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 19:00 น.
การเดินทาง : จากสนามบินเชจู นั่งรถบัสสาย 255 ไปลงที่ Jeju Atrium แล้วเดินต่อ 100 เมตร
พิกัด : https://goo.gl/maps/jf6bpACDWDGKNGkc9
14. ชายหาดอิโฮเทวู ( Iho Tewoo Beach )
ไปเกาะเชจูก็ต้องไปเดินหาดอะเนอะพลาดไม่ได้เลย โดยเฉพาะที่หาดอิโฮเทวูเป็นหาดที่สามารถเดินทางเที่ยวเชจูด้วยตัวเองได้ง่ายมาก เพราะอยู่ใกล้ตัวเมือง หาดทรายสะอาดน่าเดินเล่น เดินง่ายไม่ชันมาก แถมธรรมชาติรอบ ๆ ก็สวย แต่ไฮไลต์คือเจ้าประภาคารม้า เป็นประภาคารขนาดใหญ่รูปน้องม้ามี 2 ตัวนะ คือน้องสีแดง กับ น้องสีขาว เป็นจุดเด่นของหาดนี้ที่คนชอบมาถ่ายรูปเลยแหละ สร้างสีสันให้หาดมากเวอร์ นอกจากนี้ยังกิจกรรมให้ทำเยอะอย่าง เช่าเรือไปตกปลา เป็นใกล้กันเป็นแหล่งประมงยอดนิยม ตรงนั้นจะมีปลาทะเลเยอะเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ตลอดเวลา
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสสาย 7, 17, 60 หรือ รถสีน้ำเงิน สาย 36 ไปลงที่ป้าย Iho Beach ได้เลย
พิกัด : https://goo.gl/maps/7LJ7TwWLvaBogx4B7
15. หาดวอลจองรี ( Woljeongri Beach )
ส่งท้าย ที่เที่ยวเชจู 2023 กันที่หาดวอลจองรี เป็นหาดตามหมู่บ้านชายฝั่งเล็ก ๆ ค่อนข้างเงียบสงบหาดทรายขาวบวกกับน้ำทะเลสีเขียวฟ้าสดใสมากเวอร์ มองไปจะเห็นกังหันลมที่ขาวเรียงรายอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยนะ หาดนี้เหมาะกับมาพักผ่อนนั่งชิลมากเพราะมีคาเฟ่น่ารัก ๆ อยู่ใกล้หาดหลายที่เลย แนะนำไปหน้าร้อนจะได้บรรยากาศสุดเพราะคนจะมาเล่นน้ำกันคึกคักมากเวอร์
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ตลอดเวลา
การเดินทาง : จากสนามบินขึ้นรถบัสสาย 43-1 ไปลงที่ Hankook Hospital จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถบัสสาย 201 ลงที่ Kujwa Joongang Elementary School ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเดินต่อ 600 เมตร
พิกัด : https://goo.gl/maps/npSgCrkRAzCnsjxq5
เที่ยวเกาหลีด้วย YouTrip ถูกกว่า ประหยัดกว่า
แนะนำวิธีเที่ยวเกาหลีให้ประหยัดงบได้เยอะกว่าเดิมด้วย YouTrip สมมุติทริปนี้ตั้งงบไว้ที่ 1,000,000 KRW ที่ร้านแลกเงินจะเป็นเงินทั้งสิ้น 28,100 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะต้องจ่ายที่ 28,539 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนมาจ่ายด้วย YouTrip จะลดเหลือ 27,812 บาท ประหยัดถึง 727 บาทเลยล่ะ เพราะ YouTrip ให้เรทที่ถูกกว่า ดีกว่า แถมทุกการใช้จ่ายไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ด้วย
เห็นที่เที่ยวเกาหลี 2566 แล้วก็อย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีกว่าเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย
ถ้าอยากไปเที่ยวเกาหลีหน้าร้อน นี่บอกเลยว่าเกาะเชจูคือนัมเบอร์วัน ไปง่าย เที่ยวเชจูด้วยตัวเองได้ไม่ยาก ที่เที่ยวหลากหลายแถมได้ใจสายชอบธรรมชาติสุดเพราะมันสวยมาก ใครหากที่เที่ยวเกาหลีช่วงซัมเมอร์ลองดูที่เที่ยวเกาะเชจู รีวิวจากเราได้นะ และอย่าลืมพก YouTrip ไปด้วยนะ พกไว้ใช้จ่ายระหว่างเที่ยวให้เรทดีกว่าทุกสกุลเงิน มี Cashback ตลอดปี สมัครเลย! ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี