พูดถึงที่เที่ยวในญี่ปุ่นแล้วจังหวัดฟุกุโอกะก็เป็นอีกหนึ่งที่ ๆ นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวมากเช่นกัน ตั้งอยู่บนเกาะคิวชูทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เราสามารถเริ่มเที่ยวจากสนามบินฟุกุโอกะได้เลยเพราะสนามบินที่นี่อยู่ห่างตัวเมืองแค่ 5 นาที ลงเครื่องมาก็ต่อรถไฟเข้าเมืองไปเที่ยวได้เลยชิวมาก แถมที่ฟุกุโอกะ การเดินทางก็สะดวกมีทั้งรสบัสและรถไฟที่ทั่วถึงทั้งจังหวัดเลย เที่ยวง่าย วันนี้ YouTrip จะพาไปดูที่เที่ยวฮิตและอัพเดต ที่เที่ยวฟุกุโอกะ กันแบบจุก ๆ 30 ที่ เมืองนี้จะมีอะไรน่าเที่ยวบ้างไปดูกัน
การเดินทางไปฟุกุโอกะ
- จากประเทศไทยมีสายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพฯมายังฟุกุโอกะได้เลย เช่น แอร์เอเชีย,การบินไทย,Vietjet Air, Thai Lion Air ฯลฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
- ใครแวะเที่ยวเมืองอื่นก่อนก็สามารถนั่งเครื่องบินหรือรถไฟชินคันเซ็นมาได้เช่นกัน
เวลาในการเดินทางโดยเครื่องบิน
- จากโตเกียว 2 ชั่วโมง 15 นาที
- จากนาโกย่า 1 ชั่วโมง 25 นาที
- จากโอซาก้า 1 ชั่วโมง 15 นาที
สำหรับรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ลงที่สถานี Hakata หรือจะลงที่ Kokura ก็ได้ ใครมาจากเมืองที่ไกลกว่าโตเกียวไม่แนะนำให้เดินทางมาฟุกุโอกะโดยรถไฟเท่าไหร่นะ เพราะใช้เวลาค่อนข้างนานเลยทีเดียว
ควรเที่ยวฟุกุโอกะ เดือนไหนดี ?

ฤดูหนาว : ธันวาคม – กุมภาพันธ์
สำหรับช่วงนี้ จะมีความหนาวเย็นอุณหภูมิเฉลี่ย ราวๆ 0 – 6 องศา ไม่ถึงกับติดลบ ใครที่อยากเจอหิมะจะต้องลุ้นกันนิดนึง หากใครที่อยากสัมผัสหิมะหรือเล่นสกี อาจจะต้องออกนอกเมืองบนภูเขาหรือไปจังหวัดทางเหนือของคิวชูแทน
ฤดูใบไม้ผลิ : ปลายมีนาคม – ต้นพฤษภาคม
ช่วงนี้กำลังเย็นสบายไม่หนาวจนเกินไป เหมาะกับการมาเที่ยวที่สุด มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 10 – 20 องศา มีดอกซากุระบานในช่วงปลายเดือนมีนาคม และดอกวิสทีเรียในปลายเมษายน การชมดอกไม้ถือว่าเป็นไฮไลท์ของช่วงนี้เลย สายมุ้งมิ้ง ชอบถ่ายรูปกับดอกไม้ต้องมาช่วงนี้
ฤดูร้อน : มิถุนายน – สิงหาคม
อากาศช่วงนี้จะร้อนชื้น มีฝนตกมากที่สุดในรอบปี อุณหภูมิส่วนใหญ่จะประมาณ 25-32 องศา มีช่วงเวลากลางวันยาวนานกว่ากลางคืนอีกด้วย ถ้าใครไม่อยากเจอฝนให้หลีกเลี่ยงช่วงนี้ไป
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี : กันยายน – พฤศจิกายน
ความหนาวเย็นในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 13 – 23 องศา ตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ จะค่อยๆ ไล่ผลัดเปลี่ยนสี พีคสุดๆ ในเดือนพฤศจิกายน รู้แล้วบุ๊กที่จองตั๋วไว้เลย โรแมนติกไม่แพ้ที่ไหนเช่นกัน รู้จักฟุกุโอกะกันไปคร่าว ๆ แล้วมาดู ที่เที่ยวฟุกุโอกะ กันดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
ที่เที่ยวฟุกุโอกะเปิดใหม่
1. ทีมแล็บฟอเรสต์ ( TeamLab Forest )

พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอล จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์คืองานศิลปะที่ชื่อว่า ป่าแห่งการรวบรวม และ ป่าแห่งการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นงานศิลปะแบบ Interactive Art ที่เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผลงานแต่ละชิ้นได้ อย่างเช่น งานศิลปะ ป่าแห่งการรวบรวม เขามีคอนเซ็ปต์คือ จับ สังเกต ปล่อย ก็คือเราจะต้องจับสัตว์ต่าง ๆ ที่เจอในงานด้วยแอพพลิคเชั่นในมือถือ พอเราจับได้ก็จะแสดงข้อมูลของสัตว์ตัวนั้นออกมาเป็นงานศิลปะ ทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวสัตว์พวกนั้นด้วย เป็น เที่ยวฟุกุโอกะ ที่ทั้งสวยงาม แปลกใหม่และได้ความรู้ไปพร้อมกันเลย น่าสนใจมาก
ค่าเข้า : 2,200 JPY (ผู้ใหญ่) / 800 JPY (เด็ก)
เวลาเปิด-ปิด : จันทร์ – ศุกร์ 11:00-20:00 น., เสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10:00-20:00 น.
วิธีเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานี Tojinmachi Station และเดินต่ออีก 13 นาที
2. ลาล่าพอร์ต ฟุกุโอกะ ( LaLaport Fukuoka )

ห้างเปิดใหม่ที่มีกันดั้ม RX-93ffν Gundam ไซส์ใหญ่เท่าขนาดจริง! แฟนกันดั้มที่แพลนมาเที่ยวฟุกุโอกะอย่าพลาดเลยเด้อออ นอกจากนี้ยังจะมี KidZania Fukuoka ให้เด็ก ๆ ได้มาทำกิจกรรมทดลองเข้าสังคมหรือลองทำอาชีพต่าง ๆ ด้วย ที่สำคัญเขายังจะทำเป็นแหล่งปลูกต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วยจ้า และมีพื้นที่ให้ทำกิจกรรมมากมาย เช่น สนามฟุตบอล ฟาร์มให้เชาส โซนบาร์บีคิว ฯลฯ ใครแฟนกันดั้มจองตั๋วเลย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 21.00 น.
วิธีเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานี JR Takeshita แล้วเดินต่อประมาณ 9 นาที
3. เดอะ เอาท์เล็ทส์ คิตะคิวชู ( The Outlets Kitakyushu )

พามาเอ้าต์เล็ตเปิดใหม่ในฟุกุโอกะอีกแล้ว ใครวางแผนหา ที่เที่ยวฟุกุโอกะ การเดินทางไม่ยาก ก็แวะมานั่งชิล ๆ ได้จ้า แต่ห้างนี้เรียกได้ว่าเป็น ที่เที่ยวฟุกุโอกะ ที่ครบมากจริง ๆ นอกจากจะเป็นช้อปปิ้งมอล์ที่รวบรวมสินค้าจากแบรนด์ดังแล้วยังมีร้านอาหารขึ้นชื่อของเมืองฟุกุโอกะและของขึ้นชื่อของญี่ปุ่นเพียบเลย นอกจากโซนชอปปิ้งก็มีโซนพักผ่อนชิว ๆ ให้นั่งกันด้วย มีสระน้ำเล็ก ๆ โซนสนามกีฬา ลานสเก็ตบอร์ด ปีนผาจำลอง ฯลฯ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 20.00 น.
วิธีเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานี Space World และเดินต่อประมาณ 5 นาที
ที่เที่ยวฟุกุโอกะยอดฮิต
4. ย่านเมืองเก่าฮากะตะ ( Hakata Old Town )

Photo by : tiny_eb_colossal_life
เที่ยวห้างเยอะแล้วเปลี่ยนมาเที่ยวชมเมืองเก่าบ้างดีกว่ามี่เมืองเก่าฮากาตะ เป็นย่านที่อนุรักษ์บ้านเรือนทรงโบราณ และวัดเก่าแก่เยอะแยะเลย วัดดังของฮากาตะก็อย่างเช่น Tochoji Temple แวะเข้าไปไหว้ขอพรกันได้นะ เมืองนี้ก็ให้ฟิลแบบเย็น ๆ เดินดูบ้านเมืองโบราณเพลิน ๆ กันไป มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเหมือนกันนะ เตรียมชุดมาให้เข้ากับเมืองโบราณแบบนี้ด้วยล่ะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.30 น. ( Tochoji Temple )
วิธีเดินทาง : ลงสถานีรถไฟ Gion Station วัด Tochoji Temple จะอยู่ตรงข้ามสถานี และเดินดูเมืองเก่ารอบๆ ได้เลย
5. เมืองดาไซฟุ ( Dazaifu )

พาชมเมืองเก่ากันอย่างต่อเนื่อง ดาไซฟุเป็นเมืองศูนย์กลางของคิวซูมากว่า 500 ปี แล้ว มีสถานที่เที่ยวสำคัญเยอะเลย ไฮไลท์คือศาลเจ้าดาไซฟุ อายุกว่าพันปีแล้ว สวยตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า สะพานข้ามแม่น้ำ ไปถึงอาคารหลักของศาลเจ้าเลย และแน่นอนว่าดีไซน์ทุกอย่างยังคงเป็นแบบดั่งเดิม นอกจากนี้ยังมีร้านสตาร์บัคสาขาดาไซฟุที่สวยติดอันดับสาขาที่น่านั่งที่สุดในโลกด้วยนะ
ค่าเข้า : ไม่มี (ถ้าชมพิพิธภัณฑ์ต้องเสียเพิ่ม)
เวลาเปิด-ปิด : 06:00 – 19:00 น.
วิธีเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Nishitetsu Dazaifu ไปลงที่สถานี Dazaifu จะอยู่ถนนข้างๆ สถานี
6. ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ ( Miyajidake Shrine )

Photo by : japanko_official
เห็นรูปครั้งแรกแล้วนึกถึงอนิเมะของญี่ปุ่นมากเลย วิวตรงนี้คือใช่ ที่นี่คือศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ เป็นศาลเจ้าของศาสนาชินโต มีศาลเจ้ารวมกันอยู่ถึง 8 แห่ง อาคารหลักจะมีเชือกชิเมะนะวะอันเป็นเอกลักษณ์ขนาดใหญ่ประดับไว้ และไฮไลท์ก็คือทางเข้าที่มีวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดนั่นเอง ถ้าเรายืนหันตัวกลับไปที่บันไดขั้นบนสุด จะได้เห็นทางยาวที่เชื่อมกับถนนมุ่งต่อไปยังทะเลด้วย เป็นวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยมาก ๆ เลยแหละ ใครชอบดูพระอาทิตย์ตกดินเก็บไว้ให้ลิสต์ ที่เที่ยวฟุกุโอกะ เลยนะ อย่าพลาด ๆ
ค่าเข้า : ไม่มี (ถ้าชมพิพิธภัณฑ์ต้องเสียเพิ่ม)
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
วิธีเดินทาง : ลงสถานี JR Fukuma แล้วต่อรถบัส Nishitetsu สาย 5 ลงที่ป้าย Miyajidake Miya Mae
7. หินคู่แต่งงาน ( Sakurai Futamigaura )

Photo by : kyoko1903
ไปทะเลกันนน อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของฟุกุโอกะที่ห้ามพลาด ที่นี่นอกจากทะเลสวยแล้วยังมีไฮไลท์คือหินคู่หินคู่เมโทอิวะ โขดหินสามีภรรยา เป็นหินก้อนใหญ่ 2 ก้อน ที่คนญี่ปุ่นเปรียบเป็นสามีภรรยาที่แนบติดกัน ช่วงเย็นที่พระอาทิตย์จะตกดินระหว่างกลางที่หินคู่นี้พอดีเลย เป็นช่วงเวลาที่คนรอถ่ายรูปกันมากที่สุดและยังถูกเลือกติดอันดับ 1 ใน 100 ของบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นด้วยนะ ปล.เขาว่ากันว่ามาขอพรให้ได้แฟนจากหินนี้ได้ด้วยนะ ใครโสดลองดูจ้า
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : จากสถานี Chikuzenmaebaru Station ขึ้นรถบัส Showa Bus สาย Nogita Line ที่ป้าย Maebarueki-Kitaguchi แล้วให้ลงที่ป้าย Imuta แล้วเดินต่อประมาณ 30 นาที
8. เกาะนาคาซึ ( Nakasu Island )

Photo by : manorajjkumar
เที่ยวจนเหนื่อยแล้วก็เยียวยาด้วยของกินสิถึงจะชื่นใจ โดยเฉพาะ Street Food ที่เป็นร้านแผงลอย (Yatai) บนเกาะ Nakasu เป็นเกาะกลางเมืองและที่เกาะนี้มี Street Food อาหารญี่ปุ่นอร่อย ๆ อยู่เพียบ เรียงยาวข้างถนนกว่า 20 ร้าน พร้อมวิวแม่น้ำข้างทาง ลมเย็น ๆ กินอาหารฟิน ๆ แค่คิดก็อยากวาปไปตอนนี้เลยอ่ะ มาญี่ปุ่นทั้งทีต้องไม่พลาด Street Food อยู่แล้วแหละเนอะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ส่วนมากร้านเริ่มเปิดตั้งแต่ 5โมงเย็น และทยอยปิดเวลาเที่ยงคืน
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Nakasu Kawabata หรือสถานี Minami Tenjin และเดินต่อประมาณ 10 นาที
9. หอคอยฟุกุโอกะ ( Fukuoka Tower )

Photo by : yuehlin0903
หอคอยฟูกุโอกะ แลนด์มาร์กสำคัญ เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองฟูกุโอกะ มีความสูงของถึง 234 เมตร เป็นตึกที่สูงลักษณ์ของคิวซูก็ต้อง Fukuoka Tower เป็นหอคอยที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองนี้เลยและยังเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดในฟูกุโอกะด้วย บอกเลยตอนกลางคืนวิวสวยมาก และยังเป็นหอคอยริมทะเลที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นด้วยนะ ด้วยความสูง 234 เมตร จุดชมวิวมี 3 ระดับ คือชั้นแรกที่ความสูง 116 เมตร ชั้นสองที่ความสูง 120 เมตร และชั้นสามด้วยความสูง 123 เมตร เห็นวิวได้ 360 องศาของอ่าวฮากาตะและหมู่เกาะใกล้เคียง รวมถึงตัวเมืองฟุกุโอกะทั้งหมดด้วย
ค่าเข้า : 800 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 22.00 น.
วิธีเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Nishijin จากนั้นเดินต่ออีก 20 นาที หรือขึ้นรถบัสสาย 306 จากหน้าสถานี Hakata มาลงที่ป้ายหน้า Fukuoka Tower ได้ทันที
10. สวนริมทะเลยูมิโนนะกะ ( Uminonakamichi Seaside Park )

จุดชมซากุระที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับต้น ๆ ของฟุกุโอกะ มีต้นซากุระกว่า 1,000 ต้น พอถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิช่วงซากุระบานก็ผลิดอกออกผลกันสะพรั่งเลย สวยงามมาก เหมือนอยู่ในนิยายเลยอ่ะ นอกจากต้นซากุระแล้วเขาก็ยังมีทุ่งดอกเนโมฟีลาสีฟ้า ซึ่งจะออกดอกพร้อมกันกับซากุระพอดี สีฟ้าตัดกับสีชมพูงดงามมากจริง ๆ แค่เห็นรูปก็อยากไปแล้ว ของจริงคงสวยน่าดูเลยนะ ใครอยากมาดูซากุระญี่ปุ่นสักครั้งที่ฟุกุโอกะก็น่าสนใจเลยทีเดียวนะคะ เป็น ที่เที่ยวฟุกุโอกะ ที่สวยงามมากเลย
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 450 JPY เด็กเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.30 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ลงที่สถานี Uminonakamichi หรือนั่งรถบัสแล้วลงที่ป้าย Marine World
11. สวนสาธารณะเกาะโนโคโนะชิมะ ( Nokonoshima Island Park )

สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ในฟุกุโอกะอย่างเกาะโนโคชิมะ บอกเลยว่าสวยงามไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์และสามารถชมดอกไม้ได้ตลอดปีทุกฤดูกาลเลย โดยเขาจะแบ่งสวนดอกไม้ออกหลายโซนมาก ๆ ตามฤดูกาล ช่วงไฮไลต์ของที่นี่จะอยู่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม เราจะได้ชมดอกไม้สวย ๆ อย่าง เดซี่,ป๊อปปี้,Marigold,Hydrangea,Dahlia,หงอนไก่,ทานตะวันและเฟื่องฟ้า จากชมดอกไม้แล้วในสวนยังมีสวนสัตว์ขนาดเล็ก เนินเขาชมวิว ร้านสินค้าทำมือ คาเฟ่และร้านอาหารด้วยนะ ใครชอบบรรยากาศหวาน ๆ เดินเล่มชมดอกไม้ชมวิวแนะนำมาก บรรยากาศดี๊ดี
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1,200 JPY / เด็ก 600 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 18.30 น.
วิธีเดินทาง : ขึ้นรถบัส Nishitetsu Bus จาก Hakata ไปลงที่ป้ายท่าเรือ Noko dosenba (ferry terminal) จากนั้นต่อรถเฟอร์รี่ไปลงที่ท่าเรือ Nokonoshima Ferry Terminal ใช้เวลาประมาณ 10 นาที แล้วต่อรถบัส Nishitetsu bus ไปลงที่หน้าสวนได้เลย
12. สวนโอโฮริ ( Ohori Park )

โอเอซิสของชาวฟุกุโอกะ เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมืองที่คนญี่ปุ่นเองก็นิยมมากันสุด ๆ จุดเด่นเลยคือมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางเหมือนกันชื่อสวนโอโฮริที่มีความหมายว่าคูน้ำรอบเมือง สวนที่นี่มีความคลาสสิคหน่อย ๆ ออกแนวจีนและมีสไตล์ญี่ปุ่นอยู่ด้วยเหมือนกันทางฝั่งใต้ของสวน มีเกาะกลางสระอยู่ 3 ที่ ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินหินนะเดินเล่นต่อกันได้เลยประมาณ 2 กิโลเมตร ไฮไลต์คือชมพระอาทิตย์ตกดินที่ศาลา 6 เหลี่ยม ถ่ายรูปสวยมาก นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะอีกด้วย
ค่าเข้า : รอบ ๆ สวนเข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 17.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟลงที่สถานี Tenjin Station ใช้ทางออก 1 แล้วเดินต่อ 140 เมตร
13. สวนนิชิ ( Nishi Park )

Photo by : jun.ys
สวนสาธารณะที่อยู่บนเนินเขาติดกับชายฝั่งทะเลทำให้เราจะได้เห็นวิวสวย ๆ จากข้างบน สวนนิชิเป็นโลเคชันฮิตของคนฟุกุโอกะเลยแหละ เหมาะกับการพักผ่อนและทุกเทศกาลก็มักจะเป็นจุดฮิตในการมาชมวิว ทั้งซากุระ ใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสี โดยเฉพาะช่วงซากุระที่นี่จะคนเยอะมากเพราะมีซากุระกว่าพันต้น ได้ชมซากุระกับวิวทะเลสวย ๆ ส่วนใครพลาดซากุระไปแล้วเก็บลิสต์ไว้เป็น ที่เที่ยวฟุกุโอกะ ใบไม้เปลี่ยนสีก็ได้เหมือนกัน จะเปลี่ยนบรรยากาศสวนนิชิให้กลายเป็นสีส้มสีน้ำตาลถ่ายรูปสวยไม่แพ้กันเลย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสถานี Ohori Koen จากนั้นเดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามเดินต่ออีก 700 เมตร
14. สวนสาธารณะริมทะเลโมโมชิ ( Momochi Seaside Park )

ที่เที่ยวฟุกุโอกะ ริมทะเล เป็นโลเคชันฮิตช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และไม่ใช่บรรยากาศสวนทั่ว ๆ ไปแต่เขาตกแต่งแบบชิค ๆ โมเดิร์น มีความอิตาลีอยู่นะ มีต้นไม้เรียงตามทางเดินและอาคารทรงแปลก ๆ ดูสวยดี แล้วก็มีความทันสมัยมากเลยด้วย ไฮไลต์คือส่วนที่เป็นเกาะลอยเขาจะเรียกว่า Marizon ยื่นออกไปในทะเลเป็นพื้นที่นั่งเล่นรับชมทะเล มีโซนช้อปปิ้งเล็ก ๆ อย่างงร้านอาหาร คาเฟ่ เป็นสถานที่พักตากอากาศได้เลยมีโรงแรมอยู่บริเวณใกล้เคียงด้วย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Hakata แล้วต่อรถบัสสาย 5 ลงที่ Fukuoka Tower Minamiguchi แล้วเดินต่อ 5 นาที
15. ซากปราสาทฟูกุโอกะและสวนมาอิซูรุ ( Fukuoka Castle Ruin and Maizuru Park )

Photo by : wanderlohst
ที่เที่ยวฟุกุโอกะ ทางประวัติศาสตร์ เป็นซากที่เหลืออยู่จริง ๆ แบบของจริงเลยของปราสาทฟุกุโอกะซึ่งตั้งอยู่ในสวนมาอิซูรูอีกทีหนึ่ง หาง่ายนะอยู่ใจกลางเมืองเลยเที่ยวฟุกุโอกะด้วยตัวเองได้ง่ายมาก ปราสาทฟุกุโอกะเคยได้ชื่อว่าเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในคิวชู และถูกทำลายในช่วงเปลี่ยนถ่ายไปยุคเมจินั่นเอง ปัจจุบันเหลือเพียงซากของกำแพงและฐานของหอคอยเล็ก ๆ อยู่ภายในสวนสาธารณะ สวนมาอิซูรุเองก็เป็นเป็นที่นิยมช่วงเทศกาลเช่นกันอย่างใบไม้ผลิก็มีซากุระคนนิยมมานั่งปูเสื่อทานอาหารกันใต้ต้นซากุระ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Koen Subway Station ใช้ทางออก 2 แล้วเดินต่อ 15 นาทีถึงเลย
16. Ichiran Ramen Tower

คนไทยเราน่าจะคุ้นเคยกับราเม็งข้อสอบกันแล้วเนอะ แต่ไปญี่ปุ่นทั้งที่ไปกินถึงต้นกำเนิดเลยดีกว่าเพราะเจ้าราเม็งข้อสอบต้นกำเนิดอยู่ที่ฟุกุโอกะนั่นเองจ้า ความสนุกของราเม็งร้านนี้คือเราจะต้องทำข้อสอบเพื่อเป็นการสั่งอาหารนั่นเอง สามารถติ๊กคำตอบได้ตามความชอบของเราเลย (อยากกินอะไรก็ติ๊กอันนั้นอ่ะแหละ) แถมร้านเขายังตกแต่งเป็นเหมือนห้องสอบจริง ๆ ด้วย มีกั้นฉากโต๊ะเดี่ยวกันเพื่อนลอกข้อสอบด้วย ฮ่า ๆ
ราคาเริ่มต้น : 980 JPY (ต่อชาม)
เวลาเปิด-ปิด : เปิด 24 ชั่วโมง
วิธีเดินทาง : ลงสถานีรถไฟ Nakasukawabata Station ออกประตูหมายเลข 2 แล้วหันหน้าหาแม่น้ำฮากะตะ จากนั้นเดินข้ามถนน จะเห็นตึกราเม็งอยู่ขวามือ
17. Nanzoin Temple

Photo by : jamesragudo
วัดนันโซอิน ที่ฟุกุโอกะ ไฮไลท์ก็คือพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์อันดับ 1 ของโลก ขนาดใหญ่เท่าเทพีเสรีภาพที่อเมริกาเลยล่ะ ยาว 41 เมตร สูง 11 เมตร และหนัก 300 ตัน พระนอน หรือคนญี่ปุ่นเรียกว่า เนฮัมบุตสึ คือ พระพุทธรูปที่แสดงท่าทางของพระพุทธเจ้าตอนเสด็จดับขันธปรินิพพาน สามารถเข้าไปสักการะบูชาและขอพรได้เลยโดยที่มือของพระพุทธรูปมีเชือกเชื่อมต่ออยู่เพื่อให้ผู้คนสามารถสัมผัสกับมือของพระพุทธรูปผ่านเชือกนั่นเอง
ค่าเข้า : 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟจาก JR Fukukita Yutaka Line (สาย 8) มาลงที่ Kido-Nanzōin-mae Station แล้วเดินต่ออีก 3 นาที
18. Nyoirinji Temple

Photo by : IG@i.davis0624
วัดนโยอิรินจิ หรือ วัดกบ ที่มีชื่อเล่นว่าวัดกบก็เพราะว่าที่วัดนี้มีรูปหินและของประดับโชว์เป็นรูปกบทั้งหมดเลย ที่มาก็คือมีนักบวชนำตุ๊กตาหยกรูปกบกลับมาจากเมืองจีนเพื่อขอให้เดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย นับตั้งแต่นั้นมาของประดับเกี่ยวกับกบก็เพิ่มขึ้นทุกปีจนปัจจุบันมีถึง 10,000 ไอเทมเลยทีเดียว และที่วัดเขาก็จะมีจัดกิจกรรมสักการะตามฤดูกาลด้วย เช่น ช่วงหน้าร้อนก็จะเป็นกระดิ่งลมมอบคำอธิฐาน เป็นต้น
ค่าเข้า : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 17.00 น.
วิธีเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Nishitetsu Tenjin Omuta Line ไปลงที่สถานี Mikunigaoka แล้วเดินอีก 15 นาที
19. ศาลเจ้าเทนมานกุที่ดาไซฟุ ( Dazaifu Tenmangu Shrine )

มาญี่ปุ่นต้องไม่พลาดมาศาลเจ้า ศาลเจ้าเทนมานกุที่ดาไซฟุที่ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงในฟุกุโอกะ ปีหนึ่งคือมีนักท่องเที่ยวเดินมาทางเยอะมาก ๆ ยิ่งช่วงเทศกาลจะคึกคักเป็นพิเศษเลยล่ะ ศาลเจ้าแห่งนี้อายุกว่าพันปีแล้ว สร้างตั้งแต่ยุคเฮอันเพื่อเป็นการสักการะให้แก่นักปราชญ์ในยุคนั้น ที่ศาลเจ้าเลยเป็นสถานที่ที่โด่งดังเรื่องการเรื่องการเรียน ช่วงใกล้สอบเด็กนักเรียนมากันเยอะมาก ๆ นอกจากนี้หน้าศาลเจ้ายังมีถนนคนเดินด้วยนะ มีขนมเด็ด ๆ อย่างโมจิย่างไส้ถั่วแดง เป็นขนมขึ้นชื่อของเขาด้วยล่ะ
ค่าเข้า: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 19.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟลงที่สถานี Dazaifu Station ใช้ทางออกทางฝั่งตะวันออกแล้วเดินต่อ 5 นาที
20. วัดโชฟุคุจิ ( Shofukuji )

วัดนิกายเซนแห่งแรกของญี่ปุ่นสร้างตั้ง ค.ศ. 1195 รวม ๆ ก็ 800 กว่าปีมาแล้วนะ ศาสนาพุทธนิกายเซนเริ่มเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ซามูไรตั้งแต่สมัยก่อน แล้วก็กระจายความนิยมไปทั่วทั้งญี่ปุ่น ที่วัดเราจะเห็นว่าเขาออกแบบและสร้างสไตล์วัดนิการเซนทั่วไปนี่แหละ มีความเรียบง่ายตั้งแต่ประตูไปถึงตัวอาคาร ไฮไลต์คือประตูใหญ่ด้านหน้าวัด อยู่ใกล้กับสระน้ำ สะพาน หอระฆัง เรียกว่าประตูเซนม่อน สวยงามมากเปรียบเหมือนหัวใจก็ศาสนาพุทธนิกายเซนเลยก็ว่าได้
ค่าเข้า: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Hakata Station ใช้ทางออก 1 แล้วเดินต่อประมาณ 800 เมตร
21. ศาลเจ้าฮาโกซากิงุ ( Hakozakigu Shrine )

รีวิวเที่ยวฟุกุโอกะเป็นศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องการจัดแสดงดอกไม้และเทศกาลต่าง ๆ ที่ศาลเจ้าฮาโกซากิงุ เป็นศาลเจ้าในฟุกุโอกะที่มีพื้นที่กว้างมากจนสามารถใช้จัดเทศกาลประจำศาลเจ้าได้ จะมี 2 เทศกาล คือ เทศกาลทามะเซเซริในเดือนมกราคม และเทศกาลโฮะโจะยะในเดือนกันยายน ซึ่งทั้งสองก็เป็นหนึ่งในเทศกาลใหญ่ของเมืองฮากาตะด้วยนะ กิจกรรมหลักของงานคือการปล่อยนก ปล่อยปลาและมีจัดร้านขายของขายอาหารต่าง ๆ มากมายในงานเลย ใครอยากสัมผัสงานเทศกาลญี่ปุ่นจองตั๋วเครื่องบินเดือนกันยายนไว้รอเลย
ค่าเข้า: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 19.00 น.
วิธีเดินทาง : ลงรถไฟใต้ดินสถานี Hakozaki-Miyamae Station ทางออก 1 แล้วเดินประมาณ 5 นาที
22. ศาลเจ้าอุกิฮะอินาริ ( Ukiha Inari Shrine )

จุดชมวิวและ ที่เที่ยวฟุกุโอกะ ที่ต้องมา ศาลเจ้าที่มีวิวยอดฮิต ศาลเจ้าอุกิฮะอินาริจะตั้งอยู่บนเขาซึ่งเราต้องเดินขึ้นเขาไปนั่นเองและไฮไลต์ก็อยู่ตรงนี้เพราะเราจะได้เดินผ่านประตูโทริอิสีแดง 91 ประตูเป็นแนวยาวไล่ผ่านไปทางลาดชันก็ของไหล่เขา มองจากข้างบนลงมาเราจะได้เห็นวิวด้านล่างของเมือง Ukiha มีทุ่งนา บ้านเรือน ที่นี่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้า ซึ่งพอเราเดินผ่านประตูโทริอิพ้นไปก็จะเป็นจุดให้สักการะพอดี เน้นมาขอพรเรื่องธุรกิจ ความรุ่งเรือง ความปลอดภัยในการเดินทาง สุขภาพและการศึกษา
ค่าเข้า: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 08.30 – 17.15 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี JR Hakata Station มาลงสถานี Ukiha Station แล้วต่อแท็กซี่ ( ประมาณ 5 นาที )
23. วัดโทโชจิ ( Tochoji Temple )

หนึ่งในวัดเก่าแก่เป็น ที่เที่ยวฟุกุโอกะ ที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีและเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ วันนี้เป็นวัดหลักของศาสนาพุทธนิกายชินกอน มีพระพุทธรูปนั่งทำจากไม้แกะสลักสูง 10.0 เมตร หนักมากกว่า 30 ตัน เป็นพระพุทธรูปนั่งที่ทำจากไม้ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งคนส่วนใหญ่จะเรียกว่าพระใหญ่แห่งฟุกุโอกะ หรือภาษาญี่ปุ่นคือ ฟูกุโอกะ ไดบุสสึ นั่นเอง นอกจากพระพุทธรูปแกะสลักไม้แล้วยังมีเจดีย์สีแดงสดสูง 5 ชั้น หอไม้โบราณทรง 6 เหลี่ยม ได้ไหว้พระและได้ชมความงดงามของวัดไปในตัวด้วย
ค่าเข้า: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Gion Station ใช้ทางออกที่ 1 แล้วเดินต่อเล็กน้อย
24. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มารีนเวิลด์ อุมิโนะนากะมิจิ ( Marine World umino-nakamichi )

เป็น ที่เที่ยวฟุกุโอกะ ที่ควรมาเก็บมาก ๆ เพราะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จุดรวมปลาหลากหลายสายพันธุ์และมีพื้นที่จัดแสดงโชว์สัตว์น้ำอาคารขนาดใหญ่และพื้นที่การแสดงกลางแจ้ง ไฮไลต์ของโชว์กลางแจ้งคือโลมา-วาฬ-แมวน้ำ ถ้าไม่ดูคือเหมือนมาไม่ถึง น้อง ๆ ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี ฉลาดมาก ส่วนในอาคารจะเป็นอะแควเรียมขนาดใหญ่มีสัตว์น้ำมากมายอย่างแมวน้ำ แมงกะพรุนสี แพนกวิน และตู้ปลาขนาดใหญ่ที่เหมือนเราได้อยู่ใต้ท้องทะเลกว้างใหญ่จริง ๆ มองมุมไหนก็เจอสัตว์น้ำเต็มไปหมดเลยล่ะ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 2,500 JPY / เด็ก 700 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 17.30 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Kashii Line ไปลงที่สถานี Uminonakamichi จากนั้นเดินต่อ 5 นาที
25. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของเกาะคิวชู ( Kyushu National Museum )

มาดูพิพิธภัณฑ์กันบ้าง รีวิวเที่ยวฟุกุโอกะกับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติคิวชู เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลำดับที่ 4 ในญี่ปุ่น ด้านในเข้าจะแบ่งออกเป็น 4 โซน โดยยึดคอนเซปต์ “เข้าใจญี่ปุ่นผ่านแนวคิดของเอเชีย” นั่นเอง จะจัดแสดงถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเป็นที่จัดเก็บสิ่งของมีค่ามรดกของชาติอย่างระฆังโบราณขนาดใหญ่ ภาพวาดโบราณ พระพุทธรูปนิกายต่าง ๆ และเครื่องใช้สมัยยุคเอโดะอีกด้วย
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 700 JPY / เด็กนักเรียน 350 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 17.00 น. ( ปิดวันจันทร์ )
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟ Nishitetsu-Dazaifu Line ไปลงที่สถานี Dazaifu Station ใช้ทางออกฝั่งตะวันออกแล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
26. พิพิธภัณฑ์ฟูกุโอกะ ซิตี้ ( Fukuoka City Museum )

พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่จะพาเราไปรู้จักความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและจังหวัดฟุกุโอกะ ด้านในจะมีทั้งห้องสมุด ศูนย์การเรียนรู้ ห้องทดลอง และยังเป็นสถานที่เก็บ Gold Seal เครื่องทองเหลืองที่ค้นพบบนเกาะ Shikanoshima ซึ่งถูกยกย่องให้เป็นสมบัติของประเทศอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ช่วงยุคน้ำแข็งที่มีคนมาตั้งรกฐานเมื่อ 15,000 ปีที่แล้วอีกด้วย ใครชอบเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์แบบได้ความรู้คือต้องมา
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 200 JPY / เด็กนักเรียน 150 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 17.30 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่ Hakata Station จากนั้นต่อรถบัสสาย 5,6 ไปลงที่ Hakubutsu-kan Kitaguchi แล้วเดินต่อ 5 นาที
27. ห้างคาแนลซิตี้ฮากาตะ ( Canal City Hakata )

แหล่งช้อปปิ้งในฟุกุโอกะ ช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองและเป็น ที่เที่ยวฟุกุโอกะ แลนด์มาร์กของนกท่องเที่ยวเลยแหละ จุดเด่นคือมันมีคลองไหลผ่าน ซึ่งบริเวณข้างคลองเขามักจะจัดกิจกรรมอยู่เสมอด้วย ส่วนในห้างก็คือมีร้านรวงมากมายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอำอาง ของเล่น เกมส์ การ์ตูน ร้านอาหารญี่ปุ่นและนานาชาติ ที่สำคัญใครเป็นคอราเมนห้ามพลาดเขามีโซน Raumen Stadium ร้านราเม็งไว้กว่า 10 ร้าน ชิมให้กันหนำใจไปเลย นอกจากนี้ยังมี Capsule Toy Store ศูนย์รวมกาชาปอง EVANGELION STORE HAKATA และ THE GUNDAM BASE FUKUOKA แฟน ๆ ห้ามพลาด
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 21.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถบัสสะดวกสุด ขึ้นสาย 68, 113, 200, 201 จาก Hakata Bus Terminal มาลงป้าย Canal City Hakatamae ได้เลย
28. ย่านช้อปปิ้งเท็นจิน ( Tenjin )
ย่านช้อปปิ้ง Downtown ของฟุกุโอกะ อันดับหนึ่งในคิวชูเลยนะ เป็นย่านที่เต็มไปด้วยช้อปปิ้งมอลล์เต็มสองฝั่งถนน ถนนคนเดิน เรียกว่าไปทางไหนก็มีของให้ซื้ออยู่ทุกทางดักเงินในกระเป๋าสุด ๆ ที่สำคัญย่านเท็นจินเขายังมีทางเดินใต้ดินขนาดใหญ่ยาวกว่า 600 เมตร ใหญ่ที่สุดในคิวซู ตกแต่งทั้งพื้น ผนัง และเพดานแบบยุโรปสวยงามน่าเดินมาก มีร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ อยู่แบบแน่น ๆ ใครหาแหล่งช้อปปิ้งในฟุกุโอกะห้ามพลาด
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 20.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟลงที่สถานี Tenjin Station ได้เลย ออกได้ทุกทาง
29. Kawachi fuji Garden

Photo by : IG@beaut.ifulcountries
เป็นอุโมงดอกวิสทีเรียหรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่าดอกฟูจิ ที่นี่เราจะได้เดินลอดซุ้มเป็นทางยาวที่ด้านบนประดับไปด้วยดอกไม้สีสด ๆ แสนงดงาม ทางเดินยาว ๆ 220 เมตร แถมสีของดอกไม้ต่างกันด้วยนะเพราะว่าเขารวมดอกวิสทีเรียที่แตกต่างกันไว้กว่า 22 สายพันธุ์ รวมแล้วกว่า 150 ต้นเลย แนะนำให้มาในช่วงปลายเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม ดอกไม้จะบานยาวประมาณ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น วางแผนกันดี ๆ ก่อนมานะ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1,700 JPY, เด็ก 800 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 21.00 น.
วิธีเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Kagoshima Main Line ไปลงที่สถานี JR Yahata จากนั้นต่อรถบัส Nishitetsu สาย 56 แล้วลงที่ป้าย Kawachi Elementary School เดินอีก 10-15 นาทีจะถึงสวน
30. Nakayawa Kumano Shrine

Photo by : IG@japanjourneys.jp
ปิดท้าย ที่เที่ยวฟุกุโอกะ ด้วยจุดชมดอกวิสทีเรียแต่จุดเป็นสะพาน สวยไม่แพ้กันเลย ที่นี่เขาจะมีเทศกาล Nakayama O-fuji Festival จัดประจำทุกปีช่วงปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม บริเวณจัดงานจะอยู่ที่ศาลเจ้า Nakayama Kumano Shrine เป็นเทศกาลจัดแสดงดอกวิสทีเรียที่สวยงามมากแม้กระทั่งคนญี่ปุ่นเองก็นิยมเดินทางข้ามจังหวัดมาเพื่อชมความสวยงามของดอกไม้เลยแหละ หรือช่วงนอกเทศกาลก็มาเที่ยวชมศาลเจ้า Nakayama Kumano Shrine ได้เหมือนกันนะ
ค่าเข้า : 300 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 08.30 – 16.30 น.
วิธีเดินทาง : ตั้งต้นที่สถานี Nishitetsu Fukuoka (Tenjin) มาลงที่สถานี Nishitetsu Yanagawa และขึ้นรถบัสให้บริการฟรี รับส่งจากสถานี (เฉพาะช่วงเทศกาล)
ไปเที่ยวจังหวัดฟุกุโอกะยังไงให้ประหยัดขึ้น?

วางแผนเที่ยวแล้วอย่าลืมวางแผนเรื่องเงินด้วยน้า อันไหนประหยัดได้ก็เซฟไว้ดีกว่า เปลี่ยนมาใช้จ่ายผ่านบัตร YouTrip ได้เที่ยวแบบประหยัดขึ้นแน่นอน ประหยัดกว่ายังไงมาดูกัน ตั้งงบเที่ยวฟุกุโอกะไว้ที่ 134,948 JPY ร้านแลกเงินทั่วไปจ่ายที่ 30,364 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจ่ายที่ 31,127 บาท แต่ถ้าจ่ายด้วย YouTrip จะได้จ่ายในราคา 30,000 บาท ประหยัดได้อีก 1,127 บาท เลยจ้า ใช้จ่ายผ่าน YouTrip ไม่มีค่าธรรม 2.5% ทุกการใช้จ่ายด้วยนะ

เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย
โดยรวมแล้วจังหวัดฟุกุโอกะ การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบายมีทั้งรถบัสและรถไฟใต้ดินให้บริการค่อนข้างทั่วถึง ทำให้เราสามารถเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวได้ไม่ยากนัก แถมจังหวัดฟุกุโอกะก็เป็นเมืองท่าติดทะเล มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งสวนดอกไม้ธรรมชาติ ทะเล พิพิธภัณฑ์ ศาลเจ้าศักดิ์ รวมไปถึงเทศกาลชมดอกไม้แสนสวยงามด้วย ใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้วเบื่อเมืองเดิม ๆ ลองเปลี่ยนมาฟุกุโอกะได้เลยแล้วจะหลงรัก และอย่าลืมพกบัตร YouTrip ไว้ด้วย เพราะจะทำให้คุณเที่ยวญี่ปุ่นได้ด้วยเรทที่ดีแลกเงินสดและรูดบัตรเครดิต ใช้จ่ายได้ประหยัดถูกสุดๆ ของแบบนี้มันต้องมี สมัครเลย!
