พร้อมออกเดินทางสู่แดนมังกรกันหรือยัง ? ประเทศจีนถือเป็นหนึ่งในประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นเมืองเก่าแก่ที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม ธรรมชาติที่งดงามและยิ่งใหญ่ หรือแลนด์มาร์กสำคัญที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต ไม่ว่าคุณจะเป็นสายประวัติศาสตร์ สายชิล หรือสายลุย จีนก็มีอะไรให้คุณได้ตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ วันนี้ YouTrip รวบรวม 50 ที่เที่ยวจีน มาให้แล้ว เตรียมกระเป๋าให้พร้อม แล้วไปสัมผัสเสน่ห์ของแดนมังกรด้วยตัวคุณเองกันเถอะ!
เที่ยวจีนช่วงไหนดี ?
ช่วงเวลาเที่ยวก็สำคัญมากนะ! ถ้าอยากได้บรรยากาศสวย ๆ อากาศกำลังดี ขอแนะนำให้เที่ยวช่วง ใบไม้ผลิ หรือ ใบไม้ร่วง รับรองว่าเหมาะสุด ๆ
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) ช่วงนี้ที่จีนสวยมาก อากาศเย็นสบาย ไม่หนาวเกินไป ดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง โดยเฉพาะดอกซากุระที่ฮิตมากในช่วงนี้ ได้ทั้งบรรยากาศสวยและโอกาสแต่งตัวเก๋ ๆ ด้วยเสื้อกันหนาวแฟชั่น
ฤดูใบไม้ร่วงหรือใบไม้เปลี่ยนสี (กันยายน – พฤศจิกายน) เป็นช่วงที่ธรรมชาติเปลี่ยนโทนสีอบอุ่นทั้งส้ม น้ำตาล และแดง เหมาะกับการถ่ายรูปสุด ๆ อากาศดี ไม่ร้อน ไม่เหนื่อย แถมเดินเที่ยวได้ทั้งวันแบบชิล ๆ
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) ซึ่งเป็นฤดูกาลที่มีเสน่ห์และบรรยากาศสุดพิเศษ เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสอากาศหนาวแบบเต็มตัว โดยเฉพาะในเมืองทางตอนเหนือของจีน เช่น ปักกิ่ง ฮาร์บิน และซีอาน ที่อุณหภูมิอาจลดต่ำถึงติดลบ มีหิมะปกคลุมในบางพื้นที่
การใช้จ่ายท่องเที่ยวในจีน
เพราะว่าคนจีนเขาเป็นสังคมไร้เงินสดมานานแล้ว ฉะนั้นถ้าพกเงินสดไปอาจจะลำบากหน่อยเพราะบางร้านค้าไม่รับเงินสดแล้วล่ะ แนะนำให้ใช้ Alipay ในการใช้จ่ายยังสะดวกที่สุด คนไทยก็ใช้ได้ ที่สำคัญยังสามารถผูกบัตร YouTrip เข้ากับ Alipay ได้ด้วย แบบนี้ระหว่างเที่ยวจีนก็ได้จ่ายประหยัดขึ้นตามเรทของ YouTrip เลย ยกตัวอย่างเช่น

สมมติตั้งงบเที่ยวไว้ที่ งบเที่ยวจีน 10,000 CNY หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะต้องจ่ายที่ยอด 48,526 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนมาจ่ายด้วย YouTrip จะเหลือเพียง 47,265 บาท ได้ประหยัดถึง 1,261 บาท เลยทีเดียว ทำไม YouTrip ถึงถูก! เพราะ YouTrip ให้เรทดี ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5%
ปักกิ่ง (beijing)
1. กำแพงเมือง (The Great Wall of China)

ที่เที่ยวจีน สุดอลังการ! หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่าง กำแพงเมืองจีน คืออารยธรรมโบราณที่น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยความยาวกว่า 20,000 กิโลเมตร และประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าตื่นตาตื่นใจ กำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าเร่ร่อนในสมัยก่อน ซึ่งแม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความชำนาญในการต่อสู้บนหลังม้า และความแข็งแกร่งที่ทนต่อทุกสภาพอากาศ กำแพงแห่งนี้จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อป้องกันดินแดนและเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในยุคนั้น จุดไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือด่านปาต้าหลิ่งใกล้กับปักกิ่ง ที่เป็นจุดยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ด้วยวิวที่สวยงามและความอลังการที่สามารถสัมผัสได้จริง
ค่าเข้า : 40 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 16:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถเมล์สาย 919 จาก Deshengmen Building ไปลงที่ป้าย Nankou แล้วต่อรถเมล์สาย 20 ไปลงที่ Ju Yong Guan
2. พระราชวังต้องห้าม (The Palace Museum and the Forbidden City)

ที่เที่ยวจีน ที่พลาดไม่ได้อีกหนึ่งที่ก็คือพระราชวังต้องห้าม ถือเป็นเอกลักษณ์และแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศจีนได้ก็ว่าได้ สะท้อนให้เห็นความยิ่งใหญ่และวัฒนธรรมของจีนได้เป็นอย่างดี และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังที่สุดในปักกิ่งด้วย ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือพระที่นั่งไท่เหอ สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดใช้ในการทำพิธีสำคัญต่าง ๆ และยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุ และสมบัติล้ำค่าของประเทศอีกด้วย
ค่าเข้า : 40 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 น. – 16:30 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน Line 1 สถานี Tiananmen East ทางออก A หรือ Tiananmen West ทางออก B
3. จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square)

ที่เที่ยวจีน ที่ต้องมาเช็คอินอีกหนึ่งที่ เป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลกพื้นที่ 440,000 ตารางเมตร เป็นแหล่งรวมเหตุการณ์สำคัญมากมายทางประวัติศาสตร์จีน ไฮไลต์ที่ต้องมาถ่ายรูปเลยก็คือกำแพงขนาดใหญ่บิ๊กเบิ้มที่ชั้นบนสร้างเป็นเก๋งหลังคาสีเหลือง มีเสากรมแดง และภาพเหมือนสีน้ำมันขนาดใหญ่ของประธานเหมา เจ๋อ ตุง มีคำขวัญติดไว้สองด้านคือ ประชาชนจีนจงเจริญ” และ “ประชากรโลกจงเจริญ”
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:30 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน Line 1 สถานี Tiananmen East ทางออก A หรือ Tiananmen West ทางออก B
4. พระราชวังฤดูร้อน (The Summer Palace)

เที่ยวปักกิ่งด้วยตัวเองที่ต่อมา อยู่ห่างจากพระราชวังต้องห้ามไป 8 กิโลเมตร ใครไปเที่ยวพระราชวังต้องห้ามเสร็จแล้วเดินทางต่อได้เลยนะ พระราชวังนี้สิ้นสุดการครอบครองในยุคสมัยของพระนางซูสีไทเฮา สตรีทรงอำนาจในยุคหนึ่งของจีน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2541 เนื่องจากเป็นวังที่มันภูมิทัศน์สวยงาม ไฮไลต์อยู่ที่หอคอยริมทะเลสาบคุณหมิงนั่นเอง
ค่าเข้า : 30 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 8:30 – 17:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน Line 4 ไปลงที่สถานี Binggongmen จะเจอทางเข้าทางฝั่งเหนือ
5. หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tian Tan Temple of Heaven)

ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1420 เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีบวงสรวงต่อสวรรค์ตามความเชื่อของจีน พื้นที่ใหญ่มาก ๆ คือใหญ่กว่าพระราชวังต้องห้าม 4 เท่า หอคอยสร้างจากไม้ทั้งหลัง สูง 3 ชั้น ตั้งบนฐานหินหยกขาว ในนี้จะประกอบด้วย 3 โซนหลัก ๆ คือ ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยนหรือตำหนักสักการะทางเหนือ เป็นสถานที่ประกอบพิธี/ตำหนักหวงฉุงหยีว์หรือตำหนักเทพสถิต เป็นที่ประดิษฐานแผ่นป้ายของเทพเจ้าต่าง ๆ /หยวนซิวถานหรือแท่นบวงสรวงฟ้า ตัวแทนของหัวใจแห่งฟ้า เป็นแท่นบวงสรวงบนเนินหิน
ค่าเข้า : 30 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 17:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน Line 5 ลงที่สถานี Tiantandongmen ทางออก A1
6. เมืองโบราณกู๋เป่ย์ (Gubei Water Town)

ที่เที่ยวจีน ที่ควรอยู่เที่ยวทั้งกลางวันและช่วงค่ำ หมู่บ้านโบราณริมน้ำกู๋เป่ยมีอาคารและบ้านเรือนโบราณแบบจีน โรงแรม ร้านค้า แบบสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิงและชิงอยู่มากมาย สวยงามได้บรรยากาศมาก ๆ มีถนนเชื่อมต่อกันทั้งหมู่บ้านและคูน้ำเล็ก ๆ อยู่ทั่วบริเวณหมู่บ้าน จะมีน้ำพุอยู่ 2 แห่งด้วยนะ เป็นน้ำพุร้อนและอีกแห่งเป็นน้ำพุเย็น เมื่อน้ำไหลมาบรรจบกันก็จะกลายเป็นทะเลสาบยวนหยางหูนั่นเอง ตอนกลางคืนเขาจะเปิดไฟรอบหมู่บ้าน ได้บรรยากาศโรแมนติกสุด ๆ เลย
ค่าเข้า : 48 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 21:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัส 980 ไปลงที่ Miyun Bus Station แล้วต่อรถสาย Mi 25 ไปลงที่ Gubeikou Station ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นต่อแท็กซี่ไปอีกประมาณ 15 นาที
7. อุทยานเป๋ยไห่ (Beihai Park)

เป็นสวนที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของพระราชวังต้องห้าม บอกเลยว่าสวยมากและเป็นที่เที่ยวจีนที่สามารถเที่ยวปักกิ่งด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ สบายมาก จุดเด่นเลยคือเจดีย์สีขาวที่ตั้งอยู่ด้านบนเนินเขาเกาะหยก แนะนำให้เข้าทางประตูทิศใต้จะได้เดินผ่านสะพานหย่งอันเป็นสะพานหินอ่อนข้ามทะเลสาบ นอกจากนี้ยังมีกำแพง 9 มังกร แนวกำแพงที่มีลวดลายมังกรแกะสลักสวยงามมาก ทำจากกระเบื้อง 424 ชิ้น
ค่าเข้า : 20 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 06:30 – 20:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน Line 5, 6 ลงที่สถานี Dongsi ทางออก C จากนั้นต่อรถเมล์สาย 101, 103 ลงป้าย Beihai Park Station ซึ่งเป็นประตูทางทิศใต้ของสวน
8. สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing)

เป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอแห่งที่ 3 ในเอเชีย แน่นอนว่าการออกแบบตกแต่งต่าง ๆ ก็จะมีความเป็นจีน ๆ อยู่ด้วย ตอนนี้มีทั้งหมด 7 โซนด้วยกันคือ The Wizarding World of Harry Potter, Transformers Metrobase, Kung Fu Panda Land of Awesomeness, Hollywood, WaterWorld, Minion Land และ Jurassic World Isla Nublar และแน่นอนว่ามีโรงแรมด้วยนะ มาทั้งที่ก็ต้องเก็บเข้าลิตส์ ที่เที่ยวจีน กันไปเลย
ค่าเข้า : สำหรับ 1 วัน 528 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 19:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน Line 7 ไปลงที่สถานี Universal Resort แล้วใช้ทางออก B, C หรือ D จากนั้นเดินต่อ 7 นาที
9. สวนสนุก POP Land (POP Land Theme Park)

กระแสของเล่นหรือโมเดล POP MART กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย สาวกอาร์ตทอยห้ามพลาดสวนสนุกนี้เด็ดขาดเพราะที่นี่เป็นธีมพาร์คแห่งแรกและแห่งเดียว ณ ตอนนี้ มาพบปะบรรดาอาร์ตทอย Labubu, Molly, Pucky, Dimoo พร้อมร้านคาเฟ่และร้านค้าขายของหายากที่มีราคาถูกกกว่าเมืองไทย
ค่าเข้า : 180 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 20:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน Line 14 ไปลงที่สถานี Zhaoying ทางออก D จะใกล้ที่สุด
เซี่ยงไฮ้ (Shanghai)
10. เดอะบันด์ ( The Bund )

เป็นที่เที่ยวจีนที่มาถึงแล้วก็ต้องไปให้ได้ เป็นแลนด์มาร์กของเซี่ยงไฮ้ที่มีชื่อว่า เดอะบันด์ จุดชมวิวอยู่บริเวณทางเดินเลียบแม่น้ำหวงผู่ ทางเดินยาวประมาณ 1.8 กิโลเมตรรอบข้างล้อมไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมสวยงามทรงยุโรปเก่าแก่ ได้ฉายาว่าปารีสแห่งตะวันออกด้วยนะ ช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดินบรรยากาศโรแมนติกมาก ส่วนใครอยากชมวิวเซี่ยงไฮ้แนะนำตอนกลางคืนฟ้ามืดหน่อย ได้เห็นความเป็นแสงสีของเซี่ยงไฮ้แบบเต็มสิบ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 หรือสาย 10 ไปลงที่สถานี Nanjing East Road จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
11. หอไข่มุกตะวันออก ( Oriental Pearl Tower )

เป็นหนึ่งในหอส่งสัญญาณวิทยุและโทรศัพท์ที่สูงที่สุดในโลก เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเซี่ยงไฮ้เลยแหละ รูปร่างก็ดูแปลกตาออกแนวทันสมัยกับไข่มุกเม็ดสีแดงไล่ขนาดเรียงขึ้นท้องฟ้า ออกแบบให้ผสมระหว่างความทันสมัยและศิลปะแบบจีนไว้ด้วยกัน ด้านบนมีระเบียงเป็นจุดชมวิวเมืองเซี่ยงไฮ้ได้แบบ 360 องศา แล้วก็เพิ่มความหวาดเสียวด้วยพื้นกระจกดูวิวมุมสูงได้ด้วย นอกจากนี้เขายังมีร้านอาหารอยู่ชั้นบน ดินเนอร์อาหารอร่อย ๆ พร้อมชมวิวแสงสียามค่ำคืนของเซี่ยงไฮ้ไปพร้อมกัน อาหารอร่อยขึ้นล้านเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ยังมีโซนเปิดใหม่รถไฟเหาะแบบ VR เป็นรถไฟเหาะ VR ในร่มที่แรกและสูงที่สุดในเซี่ยงไฮ้เลย เห็นแล้วอยากลองเล่นบ้าง
ค่าเข้า : 120 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 21.30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงที่สถานี Lujiazui ใช้ทางออกที่ 1
12. เซี่ยงไฮ้เวิลด์ไฟแนนเชียลเซนเตอร์ ( Shanghai World Financial Center )

เรามักจะเห็นว่าเซี่ยงไฮ้เต็มไปด้วยตึกสูง ๆ สวย ๆ ใช่ไหม ที่นี่เป็นตึกสูงในเซี่ยงไฮ้ที่คนนิยมมาเที่ยว มีทั้งหมด 101 ชั้น นอกจากความสูงแล้วรูปทรงของตัวอาคารก็ยังแปลกตาด้วยมีลักษณะคล้าย ๆ ที่เปิดขวด โดยที่บนยอดของตึกถูกออกแบบให้เป็น Moon Gate หรือประตูทรงกลมพระจันทร์ของชาวจีน มีชุดชมวิวอยู่ที่ชั้น 94 และสกายวอล์กที่ชั้น 97 และ 100 ที่เขาว่าเหมือนได้เดินอยู่บนอากาศเลยทีเดียว
ค่าเข้า : บัตรแบบเข้าชมชั้น 94,97,100 ผู้ใหญ่ 180 CNY / เด็ก 90 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 21.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงที่สถานี Dong Chan Road แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
13. วัดจิงอิน ( Jing’ an Temple )

วัดเก่าแก่อายุกว่า 800 ปี เป็นที่นับถือบูชากันทั้งคนจีนเองและนักท่องเที่ยวชาวพุทธ โดดเด่นสุด ๆ ด้วยสถาปัตยกรรมของอาคารในวัด มีความปราณีตและให้ความรู้สึกเป็นวัดจีนมาก ๆ ด้านในวัดมีพระใหญ่อยู่หอกลางและเจ้าแม่กวนอิมสลักจากไม้สูงหกเมตร กิจกรรมยอดฮิตของคนเซี่ยงไฮ้ที่ต้องทำเมื่อมาที่วัดก็คือการโยนเหรียญเข้าไปในเจดีย์ธูปและแตะหยกที่ชื่อว่า Lucky Jade Stone เชื่อว่าทำให้โชคดีและขอพรได้ดั่งใจหวังนั้นเอง เป็น ที่เที่ยวจีน ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันมากอีกที่เลย
ค่าเข้า : 50 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 07.30 – 17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 หรือสาย 7 ลงที่สถานี Jing’an Temple ใช้ทางออกหมายเลข 1
14. สวนอี้หยวน ( Yuyuan Garden )

หรือบางคนอาจจะเจออีกชื่อคือ Yu Garden นะเป็นสถานที่เดียวกัน ที่นี่เป็น ที่เที่ยวจีน ที่อยากให้มามาก ๆ เพราะว่าสวย เป็นสวนเก่าแก่กว่า 400 ปี พื้นที่กว้างมาก 20,000 ตารางเมตร เป็นสวนสไตล์จีนที่มีต้นไม้ดอกไม้เป็นระเบียบสวยงามมาก มีศาลากลางน้ำข้างล่างมีปลาคาร์ปด้วยนะ แล้วมุมถ่ายรูปเพียบ ได้รูปสไตล์จีนแบบตะโกนแน่นอน นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและร้านอาหารจีนอีกด้วย
ค่าเข้า : ด้านนอกเข้าได้ฟรี ด้านในสวนค่าเข้าคนละ 50 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08.45 – 16.15 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 10 ไปลงที่สถานี Yuyuan Garden และเดินต่อ 500 เมตร
15. เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว ( Zhujiajiao )

ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ออกจากวัดไปดูชุมชนจีนโบราณกันบ้าง ชุมชนนี้ก่อตั้งมากกว่า 1,700 ปี เป็นริมคลองเล็ก ๆ ได้ฉายาว่าเวนิสแห่งตะวันออกด้วยนะ ซึ่งไฮไลต์ของที่นี่ก็คือการที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านเชื่อมไปยังพื้นที่อื่น ๆ รอบนอกนั้นเอง เลยได้บรรยากาศแบบร่มรื่นและธรรมชาติสุด ๆ ในนี้ก็มีร้านอาหาร มีร้านของของที่ระลึก ร้านกาแฟ ซึ่งเป็นทรงแบบบ้านจีนโบราณ
ค่าเข้า : 30 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08.30 – 16.30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 17 ไปลงที่สถานี Zhujiajiao แล้วเดินต่อ 15 นาที
16. เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ ( Shanghai Disney Resort )

สวนสนุกชื่อดังอย่างดิสนีย์แลนด์เป็นพิกัด ที่เที่ยวจีน ที่พลาดไม่ได้ รีวิวนี่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าใหญ่มาก ใหญ่กว่าดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงถึง 3 เท่ากันไปเลย มีทั้งหมด 6 โซน Mickey Avenue,Adventure isle,Fantasyland,Gardens of Imagination,Tomorrowland,Treasure cove อัดแน่นไปด้วยเครื่องเล่นจากการ์ตูนและหนังของดิสนีย์ที่เราคุ้นเคย ส่วนปราสาทที่เซี่ยงไฮ้ก็เป็นไฮไลต์นะ เพราะสูงที่สุดในบรรดาดิสนีย์แลนด์ที่อื่นเลย ส่วนใครอยากพักโรงแรมเขามี 2 ธีมคือ Shanghai Disney บรรยากาศห้องพักฟีลเจ้าหญิงพักในวัง และ Toy Story นั้นเอง ใครเป็นแฟนดิสนีย์มาเซี่ยงไฮ้คือห้ามพลาด
ค่าเข้า : ตั๋วแบบ 1 วัน ผู้ใหญ่ 12,11 CNY / เด็ก 1,074 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 11 ลงสถานีสุดท้าย Disney Resort ได้เลย
ฉงชิ่ง (Chongqing)
17. หงหยาต้ง (Hongyadong)

น่าจะเคยเห็นรูปผ่านตากันมาบ้างเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่โด่งดังในโซเชียลมากทีเดียว แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่ติดกับแม่น้ำเจียหลิง มีหลายโซนหลายชั้นมาก ๆ ทั้งของกิน ของใช้ เสื้อผ้า กระเป๋า ไปจนถึงโรงแรม ไฮไลต์คือช่วงกลางคืนที่เปิดไฟส่องสว่างจ้าไปทั่วบริเวณ เป็นภาพสวยติดท็อปที่เที่ยวจีนในโซเชียล แนะนำไปที่ชั้น 4 มีตลาดของกินและจุดชมวิวด้วยล่ะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : เดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน line 1 ลงที่สถานี Xiaoshizi และเดินอีก 4 นาที
18. อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ (Three Natural Bridges)

ที่เที่ยวมรดกโลกของจีนที่อลังการและยิ่งใหญ่มากอีกหนึ่งที่ เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกทำให้เกิดเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่ลึก 300-500 เมตร บางส่วนเป็นโพรงทะลุเหมือนสะพานข้ามระหว่างภูเขาด้วย จุดเที่ยวมีทั้งด้านบนและด้านล่าง ด้านบนเป็นทางเดินพื้นกระจกใส เดินท้าความหวาดเสียวกับความสูง 1,200 เมตร ส่วนด้านล่างจะต้องลงลิฟต์แก้ว แล้วเดินชมธรรมชาติจุด 3 สะพานสวรรค์ ได้แก่ Tianlong Bridge,Qinglong Bridge และ Heilong Bridge แถมที่นี่ยังเป็นโลเคชันถ่ายหนังดังระดับโลกอย่าง Transformer ภาค 4 อีกด้วย
ค่าเข้า : 120 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 16:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Sigongli ใช้ทางออก 3 จากนั้นต่อรถบัสไปลง Wulong
19. ผาหินแกะสลักต้าจู๋ (Dazu Rock Carvings)

ที่เที่ยวฉงชิ่ง ที่จะทำให้ทึ่งกับความสามารถและความศรัทธาของคนในอดีต ผาหินแกะสลักต้าจู๋ เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เป็นผาหินที่ถูกแกะสลักเป็นรูปพระพุทธรูป พระโพธิสัตว์และรูปปั้นอื่น ๆ ที่เป็นเรื่องราวความเชื่อทางศาสนาพุทธอายุกว่าพันปี ถูกแกะสลักโดยมนุษย์อย่างสวยงามและประณีตมาก ๆ นอกจากด้านศาสนาพุทธแล้วยังมีคำสอบของขงจื๊อรวมถึงเทพเจ้าของจีนอีกด้วย
ค่าเข้า : 100 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 18:00 น.
การเดินทาง : เดินทางด้วยรถไฟ line 1 ไปลงที่สถานี Shapingba จากนั้นเปลี่ยนสายรถไฟไปขึ้นสาย Chongqing Shapingba ไปลงที่สถานี Rongchang North และนั่ง taxi ไปลงที่ Dazu Rock Carvings
20. มหาศาลาประชาคม (Chongqing Great Hall of the People)

เป็นสัญลักษณ์ของฉงชิ่ง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเป็นอาคารขนาดใหญ่สร้างในรูปแบบชิโน-โซเวียต จะเห็นได้ว่ามีโดมขนาดใหญ่คล้ายกับ Temple of Heaven ที่ปักกิ่งด้วย ภายในเป็นหอประชุมใช้สำหรับประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้วก็ใช้เป็นโรงละครด้วยนอกจากนี้ยังตกแต่งด้วยน้ำพุและประดับไฟ มีเวทีให้แสดง ตอนกลางพอเปิดไฟครบแล้วสวย สว่าง อลังการมาก ๆ ควรแวะไปชมสักครั้งนะ
ค่าเข้า : 5 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 18:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าสาย 2 ลงที่สถานี Daxigou Station เดินต่อ 15 นาที
21. หมู่บ้านโบราณฉือชี่โข่ว (Ancient Town of Ciqikou)

พักความทันสมัยมาเสพบรรยากาศเมืองโบราณแบบจีนกันบ้าง หมู่บ้านนี้มีหลายชนเผ่ามาอาศัยอยู่ร่วมกันในสมัยก่อนเคยเป็นเมืองท่าในสมัยราชวงศ์หมิง เพราะอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจีน ปัจจุบันนี้ได้รับการบูรณะขึ้นบางส่วนและยังเก็บรักษาความเก่าแก่เอาไว้ให้มากที่สุด มีร้านค้าที่ขายของพื้นเมือง อาหารโบราณและอาหารท้องถิ่นมากมาย มุมถ่ายรูปสวย ๆ เหมือนในหนังจีนเพียบเลย ใครหา ที่เที่ยวจีน ฟีลเมืองจีนโบราณมาเดินเที่ยวได้
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน line 1ลงที่สถานี Ciqikou และเดินอีก 11 นาที
22. ถนนเก่าแก่หลงเหมินห่าว (Longmenhao Old Street)

Photo by : billiechee
เดินเที่ยวหลงใหลในบรรยากาศหนังจีนกันต่อเลย ที่นี่ได้ระดับที่เที่ยว A4 ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ย่านนี้เราจะได้เห็นวัฒนธรรมแบบผสมผสานความเป็นท่าเรือ ร่องรอยจากสงครามและวัฒนธรรมบายู ซึ่งเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นของฉงชิ่งนั่นเอง และยังมีอาคารเก่าแก่ถึง 18 หลัง ให้เราได้ชมและถ่ายรูปสวย ๆ ตัวอาคารส่วนมากจะทำจากอิฐ กระเบื้อง และหิน แม้จะมีการซ่อมแซมแต่ก็พยายามรักษาความคงเดิมเอาไว้อยู่
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 6 แล้วลงที่สถานี Shangxinjie แล้วเดินต่อเล็กน้อย
ลี่เจียง (Lijiang)
23. ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)

ที่เที่ยวจีน ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของการมาเมืองลี่เจียง และยังเป็นหนึ่งในจุดที่สวยที่สุดของจีนด้วยความสูง 5,596 เมตร มาตอนไหนก็สวยใครอยากเจอหิมะหนา ๆ ให้ไปช่วงหน้าหนาว ใครทนความเย็นจัดไม่ไหวก็เที่ยวช่วงใบไม้ผลิหรือใบไม้ร่วงได้หิมะไม่ได้ฟูมากแต่บรรยากาศสวยเหมือนกัน รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่สลับกันไปสวยแบบนี้นึกว่าอยู่ฝั่งยุโรป แต่ต้องระวังเรื่องความสูงด้วยการเกิดอาการแพ้ความสูงหรือหายใจไม่ทันได้ แนะนำให้เตรียมออกซิเจนกระป๋องหรือยาแก้แพ้ความสูงติดไปด้วย
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 100 CNY / เด็กเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 16:00 น.
วิธีเดินทาง : แนะนำให้ไปพักที่เขต old town จะเดินทางง่ายสุดสำหรับคนไม่ไปทัวร์ ให้ขึ้นรถบัสเบอร์ 101 ที่ Zhongyi market รถวิ่งตรงถึงหน้าอุทยานเลย
24. ทะเลสาบพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley)

สถานที่เที่ยวลี่เจียงที่ต่อมาคือทะเลสาบชื่อแสนไพเราะนี้อยู่ใกล้กับภูเขาหิมะมังกรหยกเลยเที่ยวต่อได้ น้ำทะเลสาบเป็นสีฟ้าสวยงามและน้ำใสกิ๊งเลยเป็นที่มาของชื่อซึ่งน้ำในทะเลสาบก็เกิดจากการละลายของน้ำแข็งเป็นภูเขาหิมะมังกรหยกมีแร่ธาตุต่าง ๆ ทำให้น้ำเป็นสีฟ้าแบบนี้ไหลรวมกันกลายเป็นทะเลสาบนั่นเอง แนะนำให้ไปช่วงใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสีวิวว้าวมากเว่อร์ น้ำใสสีฟ้ากับภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลังสวยเหมือนภาพวาดเลยล่ะ ปล.อย่าลืมไปถ่ายรูปกับน้องจามรีด้วยนะ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 130 CNY / เด็กเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:00 น.
การเดินทาง : จาก Jade Dragon Snow Mountain ให้ขึ้นรถบัสสาย 7 ไปยัง Blue Moon Valley ได้เลย เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
25. น้ำตกไป่สุยเหอ (Baisuihe Waterfall)

จากภูเขาหิมะมังกรหยกก็ยังมีที่เที่ยวลี่เจียง แนะนำอีกหนึ่งก็คือน้ำตกไป่สุยเหออีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวจีน ธรรมชาติยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวปักหมุดมา เป็นน้ำตกที่ไหลจากหินปูนขั้นบันไดที่ยื่นออกมาเป็นขั้น ๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ สวยเป็นระเบียบเหมือนมีใครมาขุดไว้เลย ตรงนี้เป็นน้ำสีฟ้าสวยเหมือนกันซึ่งเป็นผลพวงของการละลายน้ำแข็งบนภูเขาหิมะมังกรหยกอีกหนึ่งที่สวยงามมาก ๆ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 80 CNY / เด็กเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 06:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : อยู่บริเวณเดียวกันกับ Blue Moon Valley จาก Jade Dragon Snow Mountain ให้ขึ้นรถบัสสาย 7 ไปยัง Blue Moon Valley ได้เลย เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
26. สระน้ำมังกรดำ (Black Dragon Pool)

หรือชื่อภาษาจีนเรียกว่า เฮยหลงถัน เป็นสระน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติขนาดใหญ่ด้วยความยาว 750 เมตร กว้าง 210 เมตร และลึก 4.6 เมตร น้ำใสสะอาดเป็นมีสีมรกตมีพืชใต้น้ำด้วยนะ น้ำใสขนาดนี้ก็เลยทำให้สามารถมองเห็นใต้น้ำได้ชัดเจนเลย ส่วนชื่อมังกรดำมาจากในสมัยก่อนที่มีตำนานเล่าต่อกันว่ามีมังกรดำอาศัยอยู่ในสระน้ำนี้เพื่อรักษาเมืองลี่เจียงให้พ้นภัย ปัจจุบันนี้สระน้ำมังกรดำก็ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนในท้องถิ่นอยู่และยังเป็น ที่เที่ยวจีน ที่เหมาะกับช่วงใบไม้ผลิด้วยรอบ ๆ มีต้นไม้และดอกไม้สวยงาม
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 80 CNY / เด็กเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 07:30 – 21:00 น.
การเดินทาง : จากในตัวเมืองขึ้นรถประจำทางหมายเลข หมายเลข 3, 4, 6, 7, 8 หรือ 9 และลงที่สถานี Black Dragon Pool (Heilongtan) หรือถ้าอยู่ย่านเมืองเก่าเดินไปได้เลยใช้เวลา 15 นาที
27. เมืองโบราณลี่เจียง (Lijiang Old Town)

แลนด์มาร์ก ที่เที่ยวจีน ของเมืองลี่เจียงที่ต้องมาอีกหนึ่งที่เลย เมืองเก่าแก่ที่ยาวนานกว่า 800 ปีก่อตั้งมาตั้งแต่ราชวงศ์ซ่งและถูกรักษามาอย่างดีโดยตลอดจนถึงปัจจุบันและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเรียบร้อยร้อย ทั้งบริเวณนี้ยังคงมีตึกและบ้านช่องสไตล์จีนดั้งเดิมรวมถึงร่องรอยของวัฒนธรรมก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้าง สองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ของกินท้องถิ่น และร้านขายของฝากเพียบเลย เอ็นจอยที่เมืองเก่าได้เต็มที่ที่ถ่ายรูปสวย ๆ เลยมาก เป็น ที่เที่ยวลี่เจียง อีกหนึ่งที่ที่ต้องมาเลย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถบัสจาก huoche zhan สาย 16 นั่งไปลงหน้าเมืองโบราณฝั่งทางทิศใต้ได้เลย เดินทางประมาณ 50 นาที
28. เมืองโบราณซู่เหอ (Shuhe Ancient Town)

ถัดจากเมืองเก่าลี่เจียงมาไม่ไกลยังมีอีกเมืองเก่าหนึ่งให้แวะเที่ยว นั่นก็คือ เมืองโบราณซู่เหอ ย่านนี้โด่งดังมาจากการเป็นย่านการค้าเก่าที่ดังจากช่างฝีมือและเครื่องหนังและขนสัตว์ ปัจจุบันนี้ก็เป็นเมืองเก่าเมืองโบราณสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองลี่เจียงที่ได้รับความนิยม มีไฮไลต์หลายจุดอย่างเช่น สระมังกร แอ่งน้ำในเมืองโบราณ มีปลาสวยงามว่ายอยู่เต็มสระให้อาหารปลาได้ หรือ สะพานชิงหลง สะพานหินเก่าแก่หลายร้อยปียาว 25 เมตร นอกจากนี้ยังพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวัตถุโบราณและประเพณีพื้นเมืองอีกด้วย เดินทางง่ายสามารถเที่ยวลี่เจียง ด้วยตัวเองได้
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : ถ้ามาจาก Lijiang Old Town จะมีรถรับส่งฟรีมายัง Shuhe Ancient Town รอขึ้นรถหน้าทางเข้าได้เลย หรือห่างมาจากตัวเมืองให้ขึ้นรถบัสสาย 6 หรือ 11 ลงที่แยก Shuhe แล้วเดินต่อ 10 นาที
29. หมู่บ้านไป๋ซา (Baisha)

ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของเมืองลี่เจียงในช่วงสมัยราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์หยวน ปัจจุบันนี้ยังคงเก็บรักษาความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณเอาไว้อย่างดี พอเดินเข้ามาในหมู่บ้านเหมือนได้หลุดไปอยู่อีกช่วงเวลาย้อนอดีตไปช่วงจีนสมัยก่อนนู้นเลย บ้านเรือนไม้แบบสไตล์จีนมีคุณป้า คุณยายเอาของป่ามาวางขายด้วยนะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านแบบสุด ๆ เลย ที่สำคัญยังมองเห็นภูเขามังกรหยกจากหมู่บ้านได้อีกด้วย เป็นที่เที่ยวลี่เจียง ที่วิวสวย x100 ไปเลยจ้า
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 80 CNY / เด็ก 40 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 18:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 6 จาก Lijiang Old Town จากนั้นลงที่ Baisha Lukou จากนั้นเดินต่อเล็กน้อย
30. พระราชวังมู่ (Mu Palace)

Photo by : dan_sporean
วังโบราณอายุกว่า 800 ปี รูปร่างหรือการสร้างคล้ายกับพระราชวังโบราณที่ปักกิ่ง โดยรูปแบบสถาปัตยกรรมของที่ราบตอนกลางของจีนในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงการจัดวางยังคล้ายกับพระราชวังต้องห้ามอีกด้วย แต่งานตกแต่งคือชั้นยอดมีการแกะสลักและภาพวาดที่เรียบง่ายและดูหรูหราแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์สุด ๆ ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา 3 ลูกด้วยกัน คือ ภูเขาหิมะมังกรหยกทางด้านซ้าย ภูเขาเสือทางด้านขวา และภูเขาสิงโตทางด้านหลัง ใครหาที่เที่ยวลี่เจียง แนวประวัติศาสตร์แนะนำเลย
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 60 CNY / เด็กเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:30 น.
การเดินทาง : อยู่ในเมืองโบราณ Lijiang Old Town ฝั่งทางใต้ นั่งรถบัสจาก huoche zhan สาย 16 นั่งไปลงหน้าเมืองโบราณฝั่งทางทิศใต้ได้เลย เดินทางประมาณ 50 นาที ทางเข้าพระราชวัง Mufu อยู่ทางด้านตะวันออกของอาคาร และอยู่ห่างจาก Square Street ไปประมาณ 500 เมตร
จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)
31. ภูเขาเทียนจื่อซาน (Tianzi Mountain)

ที่เที่ยวจางเจียเจี้ย ที่อยากแนะนำ ก็คือ เขาจักรพรรดิที่เป็น ที่เที่ยวจีน โด่งดัง จากหนังหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือหนังฟอร์มยักษ์ชื่อดังระดับโลก Avatar ที่นี่เต็มไปด้วยชะง่อนผาสูงชันความสูงต่างกันสลับซ้อนทับ มีลำห้วยลึกและป่าหินรูปร่างแปลกตาด้วย จุดไฮไลต์ของภูเขาเทียนจื่อซานคือเทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดและยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
ค่าเข้า : 104 CNY (รวมค่ากระเช้าไปกลับ)
เวลาเปิด-ปิด : 07:00 – 18:00 น.
วิธีเดินทาง : ขึ้นรถบัสสาย 1 หรือ 2 ไปลงที่ Wulingyuan Bus Station จากเดินต่อประมาณ 400 เมตรเพื่อไปขึ้นรถบัสสำหรับไปนั่งเคเบิลคาร์เพื่อไปที่ Tianzi Mountai
32. อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park)

ไม่ว่าใครก็ต้องมากับ อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เป็นที่เที่ยวระดับ 5A หมายถึงได้คะแนนความสวยงามมากที่สุดและเป็นอุทยานแห่งชาติที่แรกของจีนอีกด้วย แถมมีที่เที่ยวเยอะมาก วันเดียวอาจจะไม่พอด้วยซ้ำ อย่างภูเขาเทียนจื่อซานก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีจุดไฮไลต์อย่างลิฟต์แก้วไป่หลง, เขาเทียนเหมินซาน, สะพานกระจกจางเจียเจี้ย อีกด้วย
ค่าเข้า : 523 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 07:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 1 หรือ สาย 4 ลงไปที่ Zhangjiaji Bus Stop แล้วต่อรถบัสของอุทยานเข้าด้านในได้เลย
33. แกรนด์แคนยอนและสะพานกระจกจากเจียเจี้ย (Zhangjiajie Grand Canyon & Glass Bridge)

อีกหนึ่ง ที่เที่ยวจีน ที่ต้องไปเช็คอินก็คือสะพานกระจกข้ามเขาที่ยาวและสูงที่สุดในโลกพร้อมดูวิวแกรนด์แคนยอนสูงจากพื้นดิน 980 ฟุต ยาว 400 เมตร สะพานจะปูด้วยกระจกนิรภัยแข็งแรงอย่างดีซึ่งรองรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งละ 800 คนเลยล่ะ สะพานจะเชื่อมไปถึงหน้าผาจางเจียเจี้ยซึ่งมีกิจกรรมให้โดดบันจี้จัมพ์สำหรับคนใจกล้าด้วยนะ เห็นว่าที่นี่ก็กลายเป็นบันจี้จัมพ์ที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย ใครไม่กลัวความสูงอย่าพลาดเชียวล่ะ
ค่าเข้า : 128 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 07:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสจากสถานี Zhangjiajie Long-distance Bus Center ได้เลย
34. ภูเขาเทียนมินซาน (Tianmen Mountain)

ใครชอบที่สูงไม่กลัวความหวาดเสียวละก็เราขอแนะนำภูเขาเทียนมินซาน ไฮไลต์ความหวาดเสียวคือต้องนั่งกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลกขึ้นไป ระยะทางกว่า 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ชมวิวป่าเขาสวยงามรูปร่างแปลกตาไปตลอดทาง เมื่อถึงจุดสูงสุดที่กระเช้ามาส่งเราจะได้เห็นวิวภูเขามุมสูงไกลสุดลูกหูลูกตาและถนน 99 โค้งชื่อดังด้านล่างด้วย
ค่าเข้า : 116 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 07:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 1 หรือ สาย 4 ลงไปที่ Zhangjiaji Bus Stop แล้วต่อรถบัสของอุทยานเข้าด้านใน จากนั้นไปขึ้น Tianmenshan Cableway เพื่อขึ้นไปด้านบนได้เลย
35. ทางเดินกระจกเทียนมินซาน ( Tianmen Mountain Glass Walkway)

นั่งกระเช้าขึ้นไปแล้วก็อย่าพลาดไปวัดใจที่ทางเดินกระจกเทียนมินซานกันล่ะ ต้องมีขาสั่นกันบ้างแหละเพราะเขาทำทางเดินอยู่ของหน้าผาเลยเป็นกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่อีกหนึ่งอย่างเลยก็ว่าได้ ชมวิวสวย ๆ แบบใกล้ชิดของภูเขาเทียนมินซาน ยิ่งถ้าวันไหนหมอกเยอะยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก งานนี้ไม่รู้จะได้ชมวิวหรือรีบเดินรีบเสร็จมากกว่ากันนะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 18:00 น. ปิดวันจันทร์
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 1 หรือ สาย 4 ลงไปที่ Zhangjiaji Bus Stop แล้วต่อรถบัสของอุทยานเข้าด้านใน จากนั้นไปขึ้น Tianmenshan Cableway เพื่อขึ้นไปด้านบนได้เลย
36. ทะเลสาบเป่าเฟง (Baofeng Lake)

ที่เที่ยวจีนในเมืองจางเจียเจี้ยเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติอีกแล้ว ทะเลสาบจะตั้งอยู่บนช่องเขาสูง น้ำเป็นสีเขียวเหมือนหยกสวยงามมากถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาหินและภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ นอกจากนี้ใกล้กันยังมีหมู่บ้านยิงอัวจ้ายด้วย กิจกรรมยอดฮิตเลยคือการล่องเรือชมทะเลสาบ เป็นเรือไม้แบบจีนทรงโบราณสวยงาม นอกจากนี้ยังได้เห็นถ้ำรูปร่างแปลก ๆ และน้ำตกระหว่างทางด้วย
ค่าเข้า : 96 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 07:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 2 ไปลงที่ป้ายสุดท้าย Baofeng lake
37. เมืองโบราณฟ่งหวง (Fenghuang Ancient Town)

ออกจากป่าเขามาเที่ยวเมืองโบราณของจางเจียเจี้ยกันบ้าง ที่นี่เป็นเมืองเก่าที่สร้างตั้งแต่ราชวงศ์ชิง เป็นหมู่บ้านโบราณที่ยังคงรักษาความเก่าแก่ไว้ได้อย่างดี ล้อมรอบด้วยภูเขาและมีแม่น้ำถัวเจียงไหลผ่าน ร่มรื่นและสวยงามสุด ๆ มีชาวบ้านอาศัยอยู่จริง ๆ ฉะนั้นช่วงเช้าเราก็จะได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้าน อย่านำผ้ามาซักที่แม่น้ำในช่วงเช้า แนะนำให้ค้างสักคืนเพราะตอนกลางคืนจะเปิดไฟทั้งหมู่บ้านเป็น ที่เที่ยวจางเจียเจี้ย ที่สวยเหมือนอยู่ในซีรีส์จีน
ค่าเข้า : 255 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสลงที่ Huaihua station จากนั้นต่อรถที่ไป Fenghuang แล้วต่อแท็กซี่เพื่อไปเมืองโบราณ
38. ตึกมหัศจรรย์ 72 (72 Qilou)

มาดู ที่เที่ยวจีน กับจุดเช็คอินใหม่ของเมืองจางเจียเจี้ย เขาสร้างขึ้นช่วงโควิดที่ผ่านมาไม่กี่ปีนี้เอง สร้างเอาไว้เพื่อรอนักท่องเที่ยวกลับมาในวันที่สถานการณ์ดีขึ้นแล้วนั่นเอง การออกแบบเน้นให้เหมือนเอกลักษณ์ของเมืองจางเจียเจี้ยอย่างถ้ำประตูสวรรค์ เทียนเหมินซาน และตั้งชื่อว่า 72 ตามเลขมงคลอีกด้วย มีร้านค้าร้านอาหาร ผับบาร์ โดยเฉพาะตอนกลางคืนอลังการมาก เปิดไฟประดับสวยไปทั้งตึกและยังมีโชว์การแสดงอีกด้วย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟความเร็วสูง Zhangjiajie West ลงที่ Wuling Avenue
กวางโจว (Wulingyuan Scenic Area)
39. วัดพระใหญ่กวางโจว (Guangzhou Big Buddha Temple)

อันนี้อยากให้ไปสักครั้งหนึ่งมาก ๆ เป็นวัดที่เที่ยวจีนที่อลังการและสวยมาก เก่าแก่อีกแล้วสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 917 จากนั้นก็ตกแต่งและบูรณะต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ไว้ให้คนมากราบได้ แถมตอนกลางคืนสวยยิ่งกว่าเดิมเพราะเขาจะเปิดวัดรอบตัววัดหลากหลายสีสันสวยงามมาก ๆ เป็น ที่เที่ยวกวางโจว ชื่อดังเลยล่ะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 17:00 น.
การเดินทาง : รถไฟฟ้าใต้ดินสาย 6 ลงที่สถานี Beijing Lu
40. เมืองโบราณซาวาน (Shawan Ancient Town)

ชมเมืองโบราณอายุกว่า 800 ปีของเมืองกวางโจว แนะนำเลยใครเป็นลายลุยเดี่ยวนะนี่เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวกวางโจว คนเดียวสบายมากนั่งรถ 2 ต่อเท่านั้น ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นที่เที่ยวจีนระดับ 4A เหมือนได้ย้อนไปในช่วงสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง มีบ้านเรือนโบราณแบบจีน มีโชว์ระบำมังกรและสิงโต และยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ สไตล์จีนให้นั่งชิล ๆ ชมวิวด้วย
ค่าเข้า : รอบ ๆ เมืองโบราณเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Shiqao เเล้วต่อรถเมล์ สาย 67
41. จุดชมวิวไป๋สุ่ยไจ่ (Baishuizhai Scenic Area)

จากวิวเมืองเปลี่ยนมาวิวเขาธรรมชาติสวย ๆ บ้าง ที่นี่เราจะได้ชมวิวภูเขาหลายลูกเลยแต่วิวหลักคือเขาไป๋สุ่ยไจ่และน้ำตาไป๋สุยไจ๋ที่ไหลลงมาจากเขาสวยงามเหมือนในภาพวาดเลยล่ะ มาเที่ยวได้หลายฤดูอย่างช่วงใบไม้ผลิและฤดูร้อนเมฆจะเยอะหน่อยได้บรรยากาศเหมือนอยู่เมืองในหมอก ส่วนช่วงใบไม้ร่วงและหน้าหนาวดอกไม้บาน ต้นไม้เขียวได้ทัศนียภาพที่สวย สดใสนั่นเอง
ค่าเข้า : 60 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 น. – 17:30 น.
การเดินทาง : จากในตัวเมืองนั่งรถไฟไปลงที่ Dinghu East ใช้เวลา 55 นาที จากนั้นต่อแท็กซี่ไปลงที่ Baishuizhai ประมาณ 40 นาที
42. เมืองเก่าหย่งชิงฟาง (Yongqingfang)

Photo by : visitguangzhou
เมืองเก่าที่ตั้งอยู่ในถนนที่สวยที่สุดของกวางโจว หนึ่งในแลนด์มาร์กของกวางโจวที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 มีอาคารเก่าหลายแห่งเลยบางที่ตกแต่งใหม่แล้วก็ยังคงความเก่าแก่ไว้ได้มากอยู่ มีหลายอาคารที่น่าสนใจ เช่น บ้านของ Hoi-Chuen Lee คุณพ่อของดาราดังตลอดกาล Bruce Lee นั่นเอง ยังคงถูกเก็บรักษาไว้ให้โครงสร้างแบบเดิม ทุกวันนี้กลายเป็นที่เที่ยวจีนยอดนิยมอีกหนึ่งที่ไปแล้ว
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงที่สถานี Huang Sha จากนั้นเดินต่อประมาณ 15 นาที
หางโจว (Hangzhou)
43. ศูนย์กีฬาโอลิมปิกหางโจว สนามกลาง (Hangzhou Olympic Sports Centre main stadium)

ที่เที่ยวหางโจว ที่พลาดไม่ได้เลยก็ต้องเป็นหนึ่งในสนามที่ใช้แข่งเอเชียนเกม เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความสวยงามมากเขาทำออกมาเป็นลักษณะคล้ายกับดอกบัว ซึ่งเขาต้องการจะสื่อถึงการเป็นทุ่งดอกบัวสถานที่มรดกโลกของหางโจวนั่นเอง มีกลีบดอกบัว 56 กลีบรอบสนาม รองรับผู้ชมได้กว่า 80,000 คน ในเอเชียนเกมศูนย์กีฬาตรงนี้ จะเป็นอาคารหลักที่ใช้แข่งกีฬาทางน้ำ กีฬาท้องถิ่น และใช้ทำพิธีปิดอีกด้วย ใครจะมาเที่ยวหางโจวก็แวะมาดูความสวยงามอลังการของเขาได้
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน Line 1 ไปลงที่ Jiangling Road แล้วเปลี่ยนสายเป็น Line 6 ไปลงที่สถานี Xingmin แล้วเดินต่อเล็กน้อยเข้าศูนย์กีฬาได้เลย
44. ทะเลสาบซีหู (The West Lake)

ที่เที่ยวหางโจว ที่ได้ฉายาว่าเป็นไข่มุกแห่งเมืองหางโจว ไม่ว่านักเดินทางคนไหนที่ได้มาชมทะเลสาบนี้ก็ต่างบอกว่าสวยงามเหมือนอยู่บนสวรรค์ กิจกรรมบริเวณทะเลสาบก็มีมากมายนอกจากชมความสวยงามของธรรมชาติแล้วยังสามารถล่องเรือช่วงพระอาทิตย์ชมวิวกลางทะเลสาบได้อีกด้วยนะ หรือจะถ่ายรูปกับเจดีย์เหลยเฟิงชื่อดังของที่นี่ด้วยก็ได้ แนะนำมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีได้ความรู้สึกอบอุ่นมาก ๆ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายสีแดง Line 1 ไปลงที่สถานี Longxiangqiao หรือ Longxiang Bridge Station แล้วออกทางออก C4 เมื่อออกมาแล้วจะเจอ Apple store สามารถเดินตรงไปยัง West lake ได้เลย
45. เมืองจำลองราชวงศ์ซ่ง (Song Dynasty Town)

สถานที่ท่องเที่ยวจีนโบราณก็ต้องที่เมืองจำลองที่ใหญ่ที่สุดของจีน อารมณ์เหมือนเดินอยู่ในหมู่บ้านเลยมีศาลา อาคาร และร้านค้าต่าง ๆ ที่ตกแต่งแบบในสมัยราชวงศ์ซ่ง ใครที่อินมากเขามีชุดฮ่องเต้ ฮองเฮาให้เช่าถ่ายรูปด้วยนะ แถมยังมีการแสดงความเป็นมาของราชวงศ์ซ่งตั้งแต่การแย่งชิง การต่อสู้ ไปจนถึงโชว์แสงสีและเต้นรำแบบจีนด้วย นอกจากนี้ยังโซนอื่น ๆ อย่างบ้านผีสิง ตลาด พิพิธภัณฑ์แสดงของใช้ อาวุธโบราณอีกด้วย เป็น ที่เที่ยวหางโจว ที่ได้รับความนิยมมากเลย
ค่าเข้า : 300 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 9:00 – 19:00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสสาย 4, 39, 121, 189, 190, 202, 287, 308, 314, 318, 354, 439 หรือ 1400 และลงที่สถานี Songcheng (Song Dynasty Town) 2. ขึ้นรถบัสสาย 121b ไปยังสถานี Songcheng Dong
46. อุทยานพื้นที่ชุ่มน้ำซีสี (Xixi National Wetland Park)

ใครไปทะเลสาบซีหูแนะนำมาเดินเที่ยวต่อที่นี่เลย อยู่ห่างกันแค่ 5 กิโลเมตรเท่านั้น บอกก่อนว่าที่นี่กว้างมาก ๆ ฉะนั้นแนะนำจัดสรรเวลาให้ดี ด้านในเราจะได้เจอกับทิวทัศน์ธรรมชาติและระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ ได้เห็นการใช้ชีวิตและวิถีชีวิตด้านเกษตรกรรมด้วย ไฮไลต์อยู่ที่การล่องเรือไปยัง Quixue Hut เป็นจุดชมวิวยอดฮิต ที่สำคัญที่นี่อากาศดี ร่มเย็น ไม่ร้อนเลย เพราะว่าต้นไม้เยอะมาก ๆ นั่นเอง ใครหาที่เที่ยวจีนสวยๆ แนะนำเลย
ค่าเข้า : 80 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 07:30 – 18:30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินจาก xiaoshan international Airport สาย 19 ไปลงที่ West Lake Cultural Square แล้วเปลี่ยนไปขึ้น line 3 ลง Siuth xixi wetland
ซีอาน (Xi’an)
47. สุสานจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ (Emperor Qinshihuang’s Mausoleum Site Museum)

ที่เที่ยวซีอาน ที่ทุกคนคงคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดีกับสุสานจักรพรรดิฉินที่ 1 หรือ “จิ๋นซีฮ่องเต้” สุสานกองทัพทหาร รถม้า และอาวุธต่าง ๆ ที่ถูกปั้นจากดินเผาตั้งวางเรียงรายกว่า 7,400 ชิ้น ภายใต้ขนาดพื้นที่ใหญ่โตถึง 25,000 ตร.ม. ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1974 ด้วยความอลังการบวกกับความเก่าแก่น่าตื่นตาตื่นใจจึงเป็นจุดไฮไลต์ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ค่าเข้า : 120 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 17:00 น. (เปิดทุกวัน)
วิธีเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 306 ลงป้าย Terracotta Warriors
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/DwfWKxTA1Ma1RCkD9
48. ป้อมปราการแห่งซีอาน (Xi’an City Wall)

ต่อกันด้วย ที่เที่ยวจีน สุดอลังการในเมืองซีอาน จะเรียกกำแพงเมืองซีอานก็ไม่ว่ากัน ถือเป็นหนึ่งในกำแพงของเมืองจีนที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่โตซึ่งยังคงได้รับการดูแลอย่างดี สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 14 มีระยะทางราว 14 ตร.กม. ล้อมรอบเมืองชั้นในเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สามารถเข้าไปชมความยิ่งใหญ่พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้เลย
ค่าเข้า : 54 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 00:00 น. (เปิดทุกวัน)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย 2 ลงสถานี Anyuanmen เดินต่ออีก 6 นาที
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/wJeiBzJuhthmv1DG6
49. หอระฆังแห่งซีอาน (Xi’an Bell And Drum Tower)

เที่ยวซีอานด้วยตัวเอง อีกจุดสุดคลาสสิก เป็นหอระฆังที่ถูกสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1384 สมัยยุคต้นราชวงศ์หมิงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซีอาน ผลิตด้วยวิธีหล่อสำริดฐานหอคอยรูปสี่เหลี่ยมกินพื้นที่ถึง 1,377 ตร.ม. โครงสร้างทำจากอิฐและไม้ระดับความสูงราว 40 เมตร โดดเด่นเป็นสง่าด้วยตำแหน่งที่ตั้งใจกลางเมืองช่วง 4 แยกพอดีเป๊ะ แวะไปถ่ายรูปเก็บไว้กันเถอะ
ค่าเข้า : 30 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 08:30 – 21:30 น. (เปิดทุกวัน ยกเว้นเดือนตุลาคม-มีนาคม ปิด 18.00 น.)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย 2 ลงสถานี Yongningmen เดินต่ออีก 5 นาที
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ohNPLVJZo3bF7uoMA
50. เจดีย์ห่านป่ายักษ์ หรือ เจดีย์ต้าหยาน (Giant Wild Goose Pagoda)

สัญลักษณ์อันเก่าแก่ของซีอานอาคารโบราณที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์อย่างดี สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 652 สมัยราชวงศ์ถัง เดิมมีเพียง 5 ชั้น ก่อนจะสร้างเพิ่มเติมอีก 5 ชั้น ในยุคบูเช็กเทียน ช่วงปี ค.ศ. 704 เน้นสถาปัตยกรรมแบบชาวพุทธอันแสนเรียบง่ายแต่สวยเด่นเป็นสง่าจนใครได้ยลโฉมต่างก็ต้องหลงใหล ได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2014 อีกด้วย ต้องไปเช็กอินเลย
ค่าเข้า : 40 CNY
เวลาเปิด-ปิด : 8:00 – 17:00 น. (เปิดทุกวัน)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย 2 ลงสถานี Dayanta เดินต่ออีก 5 นาที
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/F2BXFZZosBStPCxa9
เที่ยวจีนด้วย YouTrip Perks คุ้มมากขึ้น

เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย
และทั้งหมดนี้คือ ที่เที่ยวจีน ที่เรานำมาแนะนำให้ข้อมูลกันมีที่เที่ยวครบทุกอย่าง ทั้งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม และความทันสมัย ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเที่ยวแบบไหน จีนมีทุกอย่างให้คุณเลือก! วางแผนการเดินทางแล้วไปสัมผัสเสน่ห์ของแต่ละเมืองกันเลย ที่สำคัญถ้าพก YouTrip ไปด้วยอุ่นใจแถมประหยัดชัวร์ เพราะ YouTrip ที่สุดเรื่อง เรทดี ทุกที่ทั่วโลก สมัครไว้เลยแจ่มมาก แถมไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
