ที่เที่ยวฮิตขวัญใจคนไทยเราอีกหนึ่งที่กับประเทศเวียดนาม เดินทางง่าย ใช้เวลาไม่เยอะ ที่สำคัญคือราคาจับต้องได้และที่เที่ยวครบหลากหลายแบบทั้งแต่ที่เที่ยวในเมือง นั่งคาเฟ่สวย ๆ ไปจนถึงที่เที่ยวแนวธรรมชาติ ทะเล ภูเขา น้ำตก มีครบ วันนี้ YouTrip จะมาป้ายยา ที่เที่ยวเวียดนาม แบบจุก ๆ 40 ที่กันไปเลยพร้อมแนะนำวิธีเดินทางเที่ยวเวียดนามด้วยตัวเองได้แบบง่าย ๆ ใครเล็งเวียดนามเป็นทริปต่อไปมาเก็บข้อมูลด่วน
เที่ยวเวียดนามช่วงไหนดี ?
เวียดนามเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศหลากหลายเลยต้องแบ่งออกเป็น 3 ภูมิภาคคือ เวียดนามเหนือ เวียดนามกลาง เวียดนามใต้ มีทุกฤดูกาลทั้ง ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูแล้ง ฤดูฝน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ฉะนั้นไปเที่ยวเวียดนามช่วงไหนดีอาจจะต้องเลือก ที่เที่ยวเวียดนาม ตามสภาพอากาศที่ชอบแล้วล่ะ
ฤดูแล้ง มีนาคม – เมษายน
อุณหภูมิ 21 ถึง 25 องศา เหมาะกับเที่ยวทางเวียดนามกลางและเวียดนามใต้ ไม่มีฝนเลยสามารถเที่ยวเวียดนามด้วยตัวเองได้แบบชิล ๆ
ฤดูร้อน (พฤษภาคม – สิงหาคม)
อุณหภูมิประมาณ 27 ถึง 34 องศา มีฝนประมาณ 5% แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวเหมาะกับการไปเที่ยวนาขั้นบันไดทางเวียดนามเหนือ ฤดูนี้นาข้าวจะเขียวมากเป็นพิเศษหรือเที่ยวทะเลก็ดีมากเลย
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
ฤดูฮิตนักท่องเที่ยวเยอะ อากาศเย็นสบาย 24 – 27 องศา ท้องฟ้าโปร่ง ถ่ายรูปสวย
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
อุณหภูมิ 8 ถึง 20 องศา อยากเจอหิมะต้องไปเวียดนามเหนือ ใครอยากเที่ยวแบบหนาว ๆ ในเอเชียเวียดนามเหนืออย่างเมืองซาปา เดินทางไม่ไกล ถือว่าน่าสนใจมากเลย
การเดินทางในเวียดนาม
ใครอยากไปเที่ยวต่างประเทศแบบลุยเองเวียดนามคือเวิร์ค ไม่ต้องมีไกด์นำเที่ยวก็สามารถเที่ยวเวียดนามด้วยตัวเองได้ขนส่งในเวียดนามมีทั้งรถไฟ รถบัส รถตู้ แท็กซี่ สำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อความง่ายแนะนำแท็กซี่เลยเห็นมีสองบริษัทที่คนนิยมใช้บริการคือ Mailinh หรือ VinaSun ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการโก่งราคา หรือใครแอดวานซ์ขึ้นมาหน่อยการเช่ารถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ก็ดีกว่ามาก ราคาไม่แพง ประหยัดเวลาในการเดินทาง แต่สำหรับใครที่ขับรถไม่เป็นหรือแพลนเที่ยวนอกเมืองไว้สามารถซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริปได้ ส่วนมากจะพาไปตามสถานที่ท่องเที่ยวฮิตต่าง ๆ สะดวกสบายพอกันเลย
1. น้ำตกบ่านซก (Ban Gioc Waterfalls) – จังหวัดกาวบั่ง

พาไปเที่ยวน้ำตกกันที่แรกเลย บอกเลยไม่ได้มีแค่ความสวยแต่ยังเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันดับที่ 4 และใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย สูง 53 เมตร กว้าง 300 เมตร คือตระการตาสุด แถมยังเป็นสวนหนึ่งของเขตไม้ป่าชายเลน Cao Bang ในเวียดนาม มีน้ำตกไหลผ่านในเวลาฤดูร้อน ถูกล้อมไปด้วยยอดเขาหินปูนสวยงามจัด ๆ ทิวทัศน์รอบน้ำตกก็จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลนะ อย่างช่วงใบไม้ผลิมีดอก flame-red บานแถวริมน้ำตกด้วย มีสีสันขึ้นมาเลยล่ะ ส่วนใครอยากเห็นน้ำตกแบบใกล้ ๆ เขามีบริการล่องแพด้วยนะ เหมาลำอยู่ที่ 300,000 VND จ้า
ค่าเข้าชม : คนละ 40,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : จากฮานอยให้ขึ้นรถบัสที่สถานี Mỹ Đình Station ไปลงที่เมือง Cao Bang ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง แนะนำให้พักก่อน 1 คืนแล้วค่อยต่อรถมินิบัสที่ไปน้ำตกใช้เวลาเดินทางต่ออีก 2 ชั่วโมง
2. เกาะกั๊ตบา (Cat Ba Island) – จังหวัดไฮฟอง

เกาะที่ใหญ่ที่สุดของอ่าวฮาลองเบย์ มีที่มาด้วยนะซึ่ง Cat Ba ในภาษาเวียดนามหมายถึงเกาะของผู้หญิง ตามตำนานที่เล่าต่อกันว่าหลายศตวรรษก่อนมีผู้หญิงของราชวงศ์ Tran 3 คน ถูกสังหารร่างได้ลอยไปตามน้ำจนมาถึงเกาะบริเวณหาด 3 แห่ง ก่อนจะมีชาวประมงมาพบ เลยสร้างวัดให้กับหญิงสาวทั้ง 3 คนนี้กลายเป็นที่รู้จักในนามเกาะกั๊ตบา ในเกาะจะประกอบไปด้วยหลายหาด อย่างหาด Cat Co 1 จะใหญ่ที่สุดสามารถเห็นวิวของหาดที่มีภูเขาหินล้อมทั้ง 3 ด้านเลย นอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติกั๊ตบา,ถ้ำโรงพยาบาลบนเกาะกั๊ตบา,หมู่บ้านชาวประมง Cai Beo เป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ยอดฮิตในจังหวัดไฮฟอง
ค่าเข้าชม : รอบ ๆ เกาะเข้าชมได้ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : ขึ้นรถบัสที่ Hanoi Old Quarter เป็นรถบัสรับส่งไปยังท่าเรือ Got ใช้เวลา 3 ชั่วโมง จากนั้นต่อเรือเฟอรี่ที่ท่าเรือ Got ข้ามฝั่งไปยังท่าเรือ Cai Vieng บนเกาะ Cat Ba จากนั้นจะมีรถบัสรับจากท่าเรือ Cai Vieng ไปส่งที่โรงแรม สามารถซื้อตั๋วจากท่าเรือ Got หรือ ท่าเรือ Cai Vieng ได้เลย
3. ทะเลสาบเถื่อเทียนในสวนน้ำร้าง (Thuy Tien lake Abandoned Water Park) – จังหวัดเถื่อเทียนเฮว้

Photo by : miss.cherrycherish
เพิ่มสีสันให้กับทริปนี้สักหน่อย ไปเที่ยวสวนน้ำรางกันที่นี่คือ Ho Thuy Tien เป็นสวนน้ำขนาดใหญ่เคยเปิดตัวไปเมื่อปี 2004 แต่ตอนเปิดตัวยังสร้างไม่เสร็จ 100% ทำให้ต้องมีการปิดปรับปรุง นานเข้าขาดการดูแลไม่มีการซ่อมแซมต่อเลยถูกปล่อยร้างมากกว่า 10 ปีแล้ว ปัจจุบันก็คือถูกยึดครองโดยต้นไม้กลายเป็นป่ารก มาถึงจะเจอป้ายว่าห้ามเข้า แต่มีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าอยู่สามารถเจรจาขอเข้าไปถ่ายรูปได้ เพราะทุกอย่างมันทรุดโทรมไปตามกาลเวลาทั้งสไลด์เดอร์ น้ำพุ เครื่องเล่นต่าง ๆ แต่กลับกลายเป็นโลเคชั่นฮิตสำหรับช่างภาพนิยมมาถ่ายรูป บางทีก็มีคนเข้ามาถ่ายพรีเวดดิ้ง หรือนั่งปิคนิดด้วย โดยเฉพาะทะเลสาบเถื่อเทียนจุดเด่นอยู่ที่อควาเรียมโดมมังกรล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสาบด้านในทรุดโทรมเต็มไปด้วยร่องรอยการพ้นสีสเปรย์ ใครมองหา ที่เที่ยวเวียดนาม แบบขนลุก ๆ หน่อยลองมาสัมผัสความท้าทายได้
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : ถ้าจากฮานอยแนะนำให้เช่ารถขับจะสะดวกที่สุดหรือจากตัวเมืองเถื่อเทียนเฮว้ใช้บริการแท็กซี่ได้
4. สะพานกระจกบาจลอง (Bach Long Glass Bridge) – จังหวัดเซินลา

สะพานกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลกรับรองสถิติโดย Guinness World Records เรียบร้อย เป็นที่เที่ยวใหม่อยู่ทางเวียดนามเหนือเพิ่งเปิดไปเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ยาวถึง 632 เมตร สูงจากพื้นดิน 150 เมตร ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาวิวสวยแบบตะโกนอ่ะบอกเลย ส่วนใครกังวลเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องห่วงเขาใช้กระจกนิรภัยจากฝรั่งเศส แข็งแรง ปลอดภัยแน่นอน ซึ่งชื่อสะพานบาจลองนี่ก็มีความหมายว่ามังกรขาวมาจากวัสดุที่ใช้ทำสะพานมีสีขาวนั่นเอง ตัวสะพานจะเชื่อมภูเขาสองลูกเลยปลายสะพานมีถ้ำจิมเถิ้นที่มีหินงอกหินย้อยตามธรรมชาติสามารถเข้าไปชมได้ด้วย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 650,000 VND / เด็ก 450,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 22.00 น.
วิธีการเดินทาง : การเดินทางค่อนข้างยากแนะนำให้ซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริปจากฮานอยไปจะดีกว่า
5. หุบเขาไมโจว (Mai chau Valley) – จังหวัดฮั่วบินห์

Photo by : job_vu
ที่เที่ยวเวียดนามหน้าฝน ใครอยากลองมาเวียดนามหน้าฝนแนะนำที่ไมโจวเลย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวไทขาว ธรรมชาติคือเต็มสิบบรรยากาศแบบชนบท ฮิตมากที่หมู่คนเวียดนามเพราะไม่ไกลจากฮานอย ภายในหมู่บ้านนี่คือเสพธรรมชาติได้แบบเต็มที่เลยมีทั้งทุ่งนา น้ำตก ทะเลสาบแล้วก็สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวไทขาวได้ มีทั้งโรงเรียน ร้านขายของ ร้านกาแฟ ร้านอาหารท้องถิ่น สโลว์ไลฟ์มากถ้ามองหาที่เที่ยวนอกเมืองหลบความวุ่นวายที่นี่น่าสนใจมากเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : รอบหมู่บ้านสามารถชมได้ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : สามารถเช่ารถขับจากฮานอยมาได้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ให้นำรถจอดที่ Ban Luc เพราะห้ามนำรถยนต์เข้าและนั่งรถไฟฟ้าหรือเช่าจักรยานเพื่อเที่ยวต่อในไมโจวได้
6. หาดญาจาง (Nha Trang Beach) – เมืองญาจาง

ที่เที่ยวเวียดนามใต้แนะนำให้มาเที่ยวหน้าร้อนจะสวยและคึกคักที่สุด เดินทางง่ายจากกรุงเทพมีเที่ยวบินตรงไปถึงญาจางเลยด้วยใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ญาจางเป็นเมืองตากอากาศริมชายฝั่งทะเล บรรยากาศดี หาดสวยสะอาด หาดญาจองเป็นหาดที่จะทอดยาวขนาดไปกับทะเลจีนใต้ น้ำทะเลออกสีเขียวฟ้าสามารถมานั่งชิลริมทะเล หรือจะนั่งคาเฟ่ริมหาดก็ได้ นอกจากนี้ในเมืองญาจางยังมีที่เที่ยวอีกเยอะแยะเลยทั้งสวนสนุก วัด ปราสาทเก่าแก่ ตลาดท้องถิ่น คือเมืองนี้เหมาะกับการพักผ่อนของจริง ใครหา ที่เที่ยวเวียดนาม สไตล์บาหลี ๆ มีทะเล มีที่เที่ยวเยอะ ๆ แต่ไม่วุ่นวายแนะนำที่ญาจางเลยแหละ
ค่าเข้าชม : บริเวณชายหาดเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : มีเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ – กามซัญใช้เวลา 3 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถประจำทางไปลงเมืองญาจางได้เลยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ภายในเมืองญาจางมีแท็กซี่หรือสามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ขับได้
7. ยอดเขาฮางหมัว (Hang Mua Peak) – จังหวัดนิงห์บิงห์

Photo by : wesoloapp
อีกชื่อหนึ่งจะเรียกว่าถ้ำหมัว เป็น ที่เที่ยวเวียดนาม สำหรับคนเข่าดี ฮ่า ๆ เพราะว่าไฮไลต์ของที่นี่อยู่ที่การขึ้นไปถึงยอดเขาฮางหมัวซึ่งต้องปีนบันได 500 ขั้นถึงจะพิชิตยอดได้ ยอดเขาฮางหมัวนี่ได้ฉายาว่ากำแพงเมืองเวียดนามด้วยนะ เพราะเส้นทางปีนขึ้นยอดเขาถ้ามองลงมาคือสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเหมือนกำแพงเมืองจีนเลยล่ะ นอกจากนี้บนยอดเขายังมีเจดีย์ เป็นเหมือนจุดปักธงว่าเราได้ขึ้นมาถึงยอดแล้วนั่นเอง
ค่าเข้าชม : คนละ 100,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 17.00 น.
วิธีเดินทาง : แนะนำให้พักแถว Tam Coc ซึ่งจะอยู่ห่างจาก Hang Mua Peak ไปประมาณ 3 กิโลเมตรสามารถเช่ามอเตอร์ขับต่อไปได้ หรือใครอยากเดินทางจากฮานอยซื้อทัวร์แบบหนึ่งวันได้แต่เวลาอาจจะไม่พอสำหรับขึ้นยอดเขา
8. จ่างอานนิงห์บิงห์ (Khu du lịch Tràng An) – จังหวัดนิงห์บิงห์

Photo by : hunglongson
ที่นี่ได้ฉายาว่าเป็นฮาลองเบย์บนบกเลยนะ สวยงามและดูยิ่งใหญ่มาก ๆ จากภูเขาหินปูนอายุกว่า 250 ล้านปี มีความกลมกลืนกันระหว่างแม่น้ำและภูเขาหินกลายเป็นสถานที่เที่ยวเวียดนาม 2025 ที่มีภูมิทัศน์สวยงามน่าตรึงตาตรึงใจอีกอีกหนึ่งที่ การเที่ยวในจ่างอานใช้ขนส่งเรือเป็นหลักมี 3 เส้นทาง คือเส้นทางที่ 1 เน้นชมวัด ถ้ำ ภูเขาหิน เส้นทางที่ 2 วัดศักดิ์สิทธิ์ Cao Son เส้นทางที่ 3 Dot Cave ผ่านถ้ำหินงอกหินย้อยยาวกว่า 1,000 เมตร สามารถเลือกเที่ยวได้ทั้ง 3 เส้นทางเลยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม : ค่าเข้า+ค่าเรือคนละ 250,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 16.30 น.
วิธีเดินทาง : จากฮานอยนั่งรถไฟสาย SE1,SE5,SE7,SE19 ไปลง Ninh Binh จากนั้นนั่งแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยัง Tràng An ได้เลย
9. เจดีย์ Bich Dong (Bich Dong Pagoda) – จังหวัดนิงห์บิงห์

Photo by : vietnamtravelaway
ที่เที่ยวเวียดนาม ที่ต่อมายังอยู่กันที่จังหวัดนิงห์บิงห์ เจดีย์ Bich Dong จะอยู่บนเขา Truong Yen สร้างมาแล้วกว่า 600 ปี ปัจจุบันนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดถ่ายรูปฮิตอย่างหน้าประตูที่มีสะพานหินข้ามแม่น้ำอยู่ พื้นที่นี้สวยงามและร่มรื่นมาเงียบสงบและล้อมรอบไปด้วยภูเขา เดินผ่านประตูไปจะเจอเจดีย์องค์แรก ทำด้วยไม้และเสาหินขนาดใหญ่ และหากต้องการชมเจดีย์ให้ครบทั้งองค์ต้องเดินผ่านถ้ำและขึ้นบันไดไป เจดีย์องค์สุดท้ายจะอยู่บนยอดเขาเลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : อยู่ไม่ไกลจาก Tam Coc ประมาณ 2 กม. สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ต่อมาได้ หรือหากมาจากฮานอยไม่อยากค้างคืนแนะนำให้ซื้อทัวร์แบบ 1 วัน
10. เจดีย์ไบ่ดิ่งห์ (Bai Dinh Pagoda) – จังหวัดนิงห์บิงห์

เป็นเขตโบราณสถานและเป็นจุดท่องเที่ยวที่นิยมมากอีกหนึ่งที่ในเวียดนาม สร้างมาแล้วกว่า 1,000 ปี ทางเดินขึ้นวัดนี้ขอเรียกว่าเป็น ที่เที่ยวเวียดนาม สำหรับคนเข่าดีอีกที่แล้วกัน เพราะว่าต้องปืนบันไดกว่า 300 ขั้นขึ้นไป ที่วัดมีรูปหล่อพระพุทธเจ้าที่ใหญ่ที่สุด หนักราว 100 ตัน ประดิษฐานอยู่และยังมีระฆังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนามสูง 22 เมตร หนัก 36 ตันด้วย เรียกว่าเป็นศูนย์รวมของชาวพุทธทั้งในเวียดนามและชาวต่างชาติเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 22.00 น.
วิธีเดินทาง : ห่างจากฮานอยประมาณ 95 กิโลเมตร สามารถเช่ารถยนต์ขับมาได้ใช้เวลาประมาณ 1.30 น. หรือเลือกซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริปฮานอย – นิงห์บิงห์
11. รูปปั้นมังกรบนถ้ำหมัว (The Lying Dragon) – จังหวัดนิงห์บิงห์

Photo by : backpackersvietnam
ที่เที่ยวเวียดนามที่สุดท้ายในจังหวัดนิงห์บิงห์ อยู่ที่ถ้ำหมัวหรือเขาฮางหมัวที่รีวิวไปก่อนหน้านี้นั่นเอง เจ้ามังกรตัวใหญ่นี้จะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเจดีย์ที่เราบอกไปว่าเหมือนเป็นจุดปักธงของเขาฮางหมัว เป็นประติมากรรมที่น่าสนใจและมีความเก่าแก่ทำจากหินทั้งหมด ไฮไลต์ของจุดนี้นอกจากที่ชมวิวแล้วยังเป็นมุมฮิตของช่างภาพด้วย โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดิน แสงจะสวยมากเป็นพิเศษถ่ายคู่กับมังกรใหญ่ยักษ์ก็ดูสง่าและสวยงามขึ้นมาเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : คนละ 100,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 17.00 น.
วิธีเดินทาง : แนะนำให้พักแถว Tam Coc ซึ่งจะอยู่ห่างจาก Hang Mua Peak ไปประมาณ 3 กิโลเมตรสามารถเช่ามอเตอร์ขับต่อไปได้ หรือใครอยากเดินทางจากฮานอยซื้อทัวร์แบบหนึ่งวันได้แต่เวลาอาจจะไม่พอสำหรับขึ้นยอดเขา
12. หมู่เสาหินแกนดาเดีย (Ganh Da Dia) – จังหวัดฟูเอียน

Photo by : hahalolo.official
ไปชมความงามจากธรรมชาติกันเป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ที่ให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจดีเหมือนกันเพราะเสาหินพวกนี้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติแบบซ้อนกันเหมือนต่อจิ๊กซอว์เลย ต่อกันเป็นชั้น ๆ เหมือนรังขนาดใหญ่ยักษ์เลยแหละ ที่มาของเสาพวกนี้เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อหลายล้านปีก่อนเมื่อหินหลอมเหลวพบกระแสน้ำเย็นจึงเกิดความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแบบนี้นั่นเอง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : แนะนำให้พักในเมืองที่ใกล้ที่สุดคือ Chi Thanh จากนั้นสามารถนั่งรถประจำทางไปลงที่ Ganh Da Dia ได้ ห่างไปประมาณ 15 กิโลเมตร
13. ประภาคารเดี่ยนแหลม (Hai Dang Dai Lanh) – จังหวัดฟูเอียน

Photo by : Vo Thanh Tu
โลเคชั่นที่เหมาะแก่การดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในเวียดนามที่นี่คือประภาคารเดี่ยนแหลม อยู่ติดชายฝั่งทะเล ประภาคารนี้ถูกสร้างขึ้นโดยชาวฝรั่งเศสตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ทางขึ้นจะเป็นบันไดมีทางคดเคี้ยวบางเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยมาก เป็นทางขึ้นเขาแล้วฉากหลังเป็นทะเลแบบสุดลูกหูลูกตาเลย เป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ที่ควรมาถ่ายรูปเช็คอินมาก ๆ อีกหนึ่งที่เลยแหละ
ค่าเข้าชม : คนละ 20,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : จากฮานอยมาฟูเอียนสามารถนั่งรถไฟได้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง จากนั้นเรียกแท็กซี่ไปลงที่หาด Dai Lanh ได้เลย
14. ภูเขาหินอ่อนเมืองดานัง (Marble Mountain) – เมืองดานัง

มาแล้ว ๆ ที่เที่ยวเวียดนาม ดานัง ใครรอที่เที่ยวดานังอยู่บ้างเอ่ย ที่นี่อยู่ห่างจากตัวเหมืองไปแค่ 30 นาทีเท่านั้น ภูเขาหินอ่อนจะมีลักษณะเป็นยอดเขาตั้งสูงเหนือพื้นดิน 5 ลูก สร้างโดยธรรมชาติมีการสันนิษฐานต้นกำเนิดว่ามาจากปลายของภูเขาที่เมื่อเวลาผ่านไปเปลือกโลกมีการเลื่อนและน้ำทะเลแห้งไป เลยกลายเป็นยอดสูงเหนือพื้นดิน 5 ลูก ดังที่เราเห็นกันในปัจจุบัน สามารถเดินขึ้นไปชมบนเขาที่ชื่อ Thuy Son ซึ่งใหญ่สุดในบรรดา 5 ลูกนี่ได้ ด้านบนมีทางเดินต่อไปจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองดานังที่ล้อมรอบภูเขาอยู่ได้อีกด้วย
ค่าเข้าชม : คนละ 40,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 17.30 น.
วิธีเดินทาง : ห่างจากเมืองดานังประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถขึ้นรถเมล์สาย 1 วิ่งจากดานังไปฮอยอัน ลงที่ป้ายภูเขาหินอ่อนได้เลย ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
15. บาน่า ฮิลล์ (Banahill) – เมืองดานัง

ไม่ไปได้ไง ที่เที่ยวเวียดนาม ดานังยอดฮิตที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองเดินทางไม่ยากสามารถเที่ยวเวียดนามด้วยตัวเองได้ ที่เที่ยวเวียดนามที่อยู่ในลิสต์ที่เที่ยวของทุกคนแน่นอน สัมผัสบรรยากาศแบบหมู่บ้านฝรั่งเศสทำสวยจนนึกว่าอยู่ยุโรปเลยแหละ ไฮไลต์ที่พลาดไม่เลยคือนั่งกระเช้าไปถ่ายรูปกับสะพานมือยักษ์นั่นเอง บาน่าฮิลล์นอกเป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตแล้วยังมีโรงแรม ศูนย์รวมเครื่องเล่น ซึ่งถ้าพักที่โรงแรมก็คือเล่นได้ฟรีไม่จำกัดไปเลยจ้า ส่วนใครไม่ได้ใช้บริการโรงแรมสามารถซื้อเป็นตั๋วกระเช้าพร้อมเครื่องเล่นได้เหมือนกัน มาเวียดนามทั้งที่ห้ามพลาดมาเช็คอินนะ เดี๋ยวเขาหาว่ามาไม่ถึง
ค่าเข้าชม : ค่าขึ้นกระเช้า + สวนสนุก ผู้ใหญ่ 550,000 VND / เด็ก 450,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 07:30 – 21:00 น.
วิธีเดินทาง : สามารถซื้อตั๋ว Shuttle Bus จากดานังไปบานาฮิลส์ได้ ตั๋วไปกลับอยู่ที่ราคา 150,000 VND เที่ยวแรก 7.30 น. และเที่ยวสุดท้าย 19.00 น. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
16. สะพานมังกร (Dragon Bridge) – เมืองดานัง

Photo by : seasia.co
ยังอยู่กันกับที่เที่ยวดานัง แนะนำให้มาหลังพระอาทิตย์ตกดินจะเวิร์คสุดเพราะตอนกลางวันอากาศค่อนร้อนยังไม่มีอะไรมาก พอตอนกลางคืนที่สะพานมังกรนี้จะมีสีสันขึ้นมาเลยทันที สะพานมังกรนี้สร้างขึ้นเพื่อฉลองการเป็นอิสรภาพของเมืองดานัง ตอนกลางคืนมีการแสดงไฟบนตัวมังกรเป็นไฟแบบสลับสี ส่วนใครมาคืนเสาร์-อาทิตย์จะได้เห็นมังกรพ่นไฟและมังกรพ้นน้ำด้วยจ้า เรียกได้ว่าเป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ตอนกลางคืนเลยก็ว่ารอบ ๆ เดินลงมาจากสะพานก็มีร้านอาหารมีบาร์ด้วยนะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : เริ่มเปิดไฟ 17.30 – 23.55 น.
วิธีเดินทาง : จากสนามบินดานังอยู่ห่างแค่ 3 กิโลเมตร สามารถเรียกแท็กซี่ไปได้เลยใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเท่านั้น
17. มุยเน่ (Mui Nghe) – เมืองดานัง

Photo by : ig@sim.mitto
หาดเล็ก ๆ ที่อยู่ฝั่งคาบสมุทร Son Tra ที่คนนิยมมาเที่ยวเพราะที่นี่มีเขาสองลูกลักษณะคล้ายสิงโตหันหัวไปทางหน้าผาส่วนลำตัวหันออกไปทางทะเลทำให้เกิดช่องตรงกลางระหว่างหิน ซึ่งทำให้กลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์เพราะว่าตอนเช้าพระอาทิตย์จะขึ้นระหว่างช่องนี้แบบพอดิบพอดีเหมือนมีใครเอามาวางไว้นั่นเอง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : จากตัวเมืองดานังแนะนำให้เช่ารถยนต์ขับไปจะสะดวกที่สุด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
18. ช่องเขาไห่เวิน (Hai Van pass) – เมืองดานัง

Photo by : halo.vietnam
เป็นช่องเขาระหว่างเมืองดานังและเมืองเว้ซึ่งจะข้ามเทือกเขา Bach Ma ที่มีความยาว 21 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในเส้นทางผ่านชายฝั่งที่สวยงามที่สุดในโลกด้วยนะ นอกจากสวยแล้วยังอันตรายที่สุดในเวียดนามด้วยเพราะมีความคดเคี้ยวและแคบแถมชันแบบ 45 องศา บริเวณนี้ก็คือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเลยมีร้านกาแฟ cafe Hon Da Cu Rua ที่มีมุมถ่ายรูปบนเนินหินสุดหวาดเสียว เป็นเส้นทางเดินรถที่ระหว่างทางได้ชมธรรมชาติกันอย่างจุใจเลยแหละ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : ห่างจากตัวเมืองดานัง 20 กิโลเมตร สามารถเดินทางได้ทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซค์และรถไฟ แต่รถไฟไม่มีการจอดแวะให้ลงต้องชมวิวจากบนรถไฟเท่านั้น
19. อ่าวฮาลอง (Halong Bay) – กรุงฮานอย

เที่ยวในเมืองหลวงเวียดนามกันบ้าง แน่นอนต้องมีนึกถึงอ่าวฮาลองเบย์กันบ้างแหละ เป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ที่รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติอีกด้วยนะ ไฮไลต์ของการมาฮาลองเบย์คือล่องเรือชมเกาะต่าง ๆ เช่น เกาะกัดบา (Cat Ba Island) เกาะต่วนเจิว (Tuan Chau) เกาะช้าง เกาะไก่ชน เกาะหลังคา และการชมถ้ำสวรรค์ Thiên Cave ถ้ำขนาดใหญ่มีโถงถึง 3 ห้อง มีหินงอกหินย้อยแปลกตา มีการเปิดไฟแสงสีประดับเพื่อความสวยงามด้วยเป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ฮานอย ที่พลาดไม่ได้ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : แนะนำให้ซื้อทัวร์แบบหนึ่งวัน ฮานอย-ฮาลองเบย์ ซึ่งจะรวมกิจกรรมต่าง ๆ ในอ่าวด้วย
20. ทางรถไฟฮานอย (Hanoi Train Street) – กรุงฮานอย

สถานที่เที่ยวเวียดนาม ฮานอยแบบฮิป ๆ โซนนี้สามารถเที่ยวเวียดนามด้วยตัวเองได้ เน้นการเดิน จุดนี้เราสามารถรอดูรถไฟวิ่งผ่านกลางชุมชนได้เลย เป็นที่ระหว่างสถานีรถไฟฮานอยกับสถานีรถไฟลองเบียน รถไฟจะผ่าน 2 ช่วงเวลาเท่านั้นคือ 15.30 น. และ 19.30 น. สองข้างทางรถไฟคือเต็มไปด้วยร้านกาแฟ คาเฟ่ และร้านขนมที่เราจะได้นั่งห่างจากรถไฟแค่ 1 เมตรเท่านั้น ตรงนี้ต้องระวังความปลอดภัยด้วยนะ หรือจะเซฟด้วยกันนั่งบนชั้นสองก็ได้ ดูวิวจากมุมสูง (ที่ไม่ได้สูงอะไรเลย) บรรยากาศดีดูเป็นย่านเก่า ๆ เหมาะกับมานั่งปล่อยเวลาชิล ๆ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : รถไฟวิ่ง 2 รอบ คือ 15.30 น. และ 19.30 น.
วิธีเดินทาง : จากสถานีรถไฟฮานอยสามารถเดินมาได้ ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร
21. ฮาซาง (Ha Giang Loop) – กรุงฮานอย

ที่เที่ยวเวียดนามเหนือจุดเหนือสุดของประเทศเวียดนามตรงนี้มีพรมแดนติดกับทางใต้ของจีนด้วยนะ และเป็นเส้นทางของนักบิดทั้งหลายมาก ๆ เส้นทางคดเคี้ยวและเล็กสุด ๆ อีกอย่างที่มอเตอร์ไซค์มากันเยอะอาจจะเป็นเพราะทางไม่อำนวยให้แก่รถยนต์ด้วยนั่นเอง เส้นทางส่วนใหญ่ที่นิยมไปกันก็คือ Ha giang – Dong Van – Mapileng Pass เป็นที่เที่ยวฮานอยที่สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ขับได้แต่เหมาะกับคนที่ขับรถแข็งและมีประสบการณ์แล้วนะ เนื่องจากทางจะมีหมอกตลอดทางชันและเป็นเขาสลับกับเหวส่วนใหญ่ แต่วิวคือเหมือนอยู่บนสวรรค์ ขับรถกลางเขาของจริงเลยแหละ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : จากในเมืองฮานอยนั่งรถบัสไปฮาซางได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
22. วัดเฉินก๊วก (Tran Quoc pagoda) – กรุงฮานอย

โดดเด่นที่สุดก็คือเจดีย์สีแดงสร้างขึ้นแบบสถาปัตยกรรมสไตล์จีนโบราณอยู่ในบนเกาะกลางทะเลสาบภายในวัดเฉินก๊วก เจดีย์สูง 15 เมตร มีทั้งหมด 11 ชั้น แต่ละชั้นจะมีช่องหน้าต่างเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอมิตาภพุทธเจ้าองค์สีขาวตามความเชื่อของพุทธมหายาน สูงขนาดนี้เห็นได้ชัดเจนจากระยะไกลเลย แถมวัดนี้มีความเก่าแก่มากสิ่งปลูกสร้างในวัดนี้ส่วนใหญ่มีอายุกว่า 1,500 ปีเลยทีเดียว นับว่าเป็นวัดที่ชาวพุทธควรแวะมาไหว้สักการะสักครั้งในชีวิต นอกจากนี้ยังมีต้นโพธิ์ยักษ์ที่ได้มาจากอินเดียมีความเชื่อว่าเป็นต้นที่มีต้นกำเนิดมาจากต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งตอนตรัสรู้นั่นเอง เป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ทางวัฒนธรรมของเวียดนามที่เดินทางไม่ยาก สามารถเที่ยวเวียดนามด้วยตัวเองได้
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันละ 2 รอบ คือ ช่วงเช้า 7.30 – 11.30 น. และช่วงบ่าย 13.30 -17.30 น.
วิธีเดินทาง : จากย่าน Hanoi Old Quarter สามารถเช่ารถขับไปได้ระยะทาง 4 กิโลเมตร
23. อุทยานแห่งชาติบาหวี่ (Ba Vi National Park) – กรุงฮานอย

Photo by : IG@whereinhanoi
ที่เที่ยวเวียดนาม 2025 ที่อยากแนะนำสำหรับคนแพลนเที่ยวช่วงเดือนตุลาคมมาก ๆ มีไฮไลต์อยู่ที่ดอกทานตะวันป่าซึ่งจะบานออกดอกคลุมไปทั้งพื้นที่เขาเลยเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวและคนเวียดนามเองก็นิยมมาถ่ายรูปที่ทุ่งทานตะวันนี้ นอกจากนี้ภายในอุทยานยังมีโซนให้ทั้งแคมป์ โบสถ์เก่าแก่โบราณ วัด และเดินขึ้นไปชมวิวมุมสูงสูดอากาศเย็น ๆ ให้เต็มปอดได้เลย ระหว่างทางขึ้นจะเจอดอกไม้ป่าสีสันสดใสเพียบตลอดทาง เป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ที่สามารถมาค้างคืนก็ได้หรือมาเช้าเย็นกลับก็ได้อยู่ไม่ไกลจากกลางเมืองฮานอย
ค่าเข้าชม : คนละ 60,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 19.00 น.
วิธีเดินทาง : ห่างจากเมืองฮานอยประมาณ 70 กิโลเมตร แนะนำให้เช่ารถยนต์ขับมาสำหรับคนที่ต้องการตั้งแคมป์ หรือซื้อทัวร์แบบหนึ่งวันไปเช้าเย็นกลับได้
24. ย่านเมืองเก่าถนนต้าเหียน (Old Quarter Ta Hien Corner) – กรุงฮานอย

Photo by : ichiro.takahashi
ที่เที่ยวเวียดนาม สำหรับนักท่องราตรี สายดื่ม สายตี้มาทางนี้เลยจ้ะ Ta Hien มีชื่อเล่นเรียกว่าเป็นถนนเบียร์ของฮานอยเลยแหละ เป็นย่านที่มีร้านนั่งชิล บาร์ ผับ และร้านอาหารเยอะมาก ที่พลาดไม่ได้คือเบียร์โฮมเมดของฮานอยชื่อว่าเบียร์ฮอย รสชาติเบา ๆ แอลกอฮอล์ 3-4% เท่านั้นแต่ก็เมาได้แน่นอนเพราะราคาถูกต้องซดหลายแก้วหน่อย ราคาอยู่ที่ประมาณ 5,000 VND ต่อแก้วเท่านั้น
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ส่วนมากร้านเปิด 17.00 – 03.00 น.
วิธีการเดินทาง : จากในเมืองฮานอยมีรถเมล์หลายสายผ่าน 04, 08, 11, 14, 18, 23, 31, 34, 36, 40 ลงที่ถนน Nguyen Huu Huan
25. วงเวียนฮานอย (Hanoi roundabout) – กรุงฮานอย

หรืออีกชื่อหนึ่งคือจัตุรัส Dong Kinh Nghia Thuc ให้ฟิลไปเดินอนุสาวรีย์ชัยฯบ้านเรา แม้ว่าจะดูแปลก ๆ แต่ไฮไลต์ของการมาที่เที่ยวฮานอยแห่งนี้คือมาเสพความวุ่นวายกลางเมืองฮานอย วงเวียนฮานอยนี้มีถนนตัดกันถึง 5 สาย ถนนบริเวณนี้เลยจะมีความวุ่นวายแบบว่าทั้งเสียงบีบแตรรถ รถติด คนข้ามถนนแยกใหญ่ คนเดินขายของอะไรแบบนี้ แต่ตอนกลางคืนก็ดูมีสีสันดีนะ มีร้านอาหาร บาร์ สตรีทฟู้ด แล้วก็เป็นโลเคชั่นฮิตในคืนวันเคาท์ดาวน์ด้วย เป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ชื่อดังของฮานอยอีกทีหนึ่งเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : รถเมล์สาย 4, 08, 09, 11, 14, 18, 23, 3, 36 และ 40 ลงหน้าจัตุรัส Dong Kinh Nghia Thuc ได้เลย
26. เมืองเก่าฮอยอัน (Hoi An Ancient Town) – เมืองฮอยอัน

ที่เที่ยวเวียดนามกลางที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองมรดกโลกกับเมืองฮอยอัน พามาเที่ยวที่แรกกันเลยที่ Hoi An Ancient Town ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกแล้วเรียบร้อย เชื่อว่าถ้าเห็นรูปหลายคนคงคุ้นตากับมุมฮิตกำแพงสีเหลืองกับการปั่นจักรยานใส่ชุดพื้นเมืองเวียดนามอ่าวหญ่ายแน่นอน ไฮไลต์ที่นี่อยู่ที่สีสันตามผนังของร้านค้า ที่พักนี่แหละ แข่งกันสีสดใสสุด ๆ มุมฮิตของการถ่ายรูปอีกจุดคือสะพานญี่ปุ่นเป็นสะพานข้ามทะเลสาบเล็ก ๆ ที่มีความเก่าแก่มาก นอกจากนี้ภายในเมืองเก่ายังมีร้านอาหาร คาเฟ่สวย ๆ และร้านขายของเฮดเมดเยอะมาก ซื้อติดมือกลับไปเป็นของฝากสวย ๆ ได้เลย
ค่าเข้าชม : คนละ 120,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 19.00 น.
วิธีเดินทาง : สามารถเรียกแท็กซี่หรือใช้บริการ Shuttle Bus แบบเหมาได้ รับส่งตั้งแต่สนามบินดานังถึงฮอยอัน
27. หมู่บ้านกั๊มทาน (Cam Thanh Village) – เมืองฮอยอัน

Photo by : rubicontours.com
เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในเมืองฮอยอันที่นักท่องเที่ยวต้องมาเพราะว่ามีไฮไลต์อยู่ที่การนั่งเรือกระด้ง รอบ ๆ หมู่บ้านจะมีสวนมะพร้าวและแม่น้ำล้อมรอบ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงและเขาก็ใช้เรือกระด้งนี้ในการทำประมงและสัญจรด้วย เรือกระด้งจะทำจากไม้ไผ่เคลือบด้วยน้ำมันสน ตกแต่งสีสันสดใสต้อนรับนักท่องเที่ยว บางลำมีลายธงชาติไทยคู่กับเวียดนามด้วยนะ สามารถนั่งเรือกระด้งชมรอบ ๆ หมู่บ้านได้ นั่งได้ 3 คนรวมคนพาย แถมยังมีโชว์หมุนเรือกระด้งแบบขั้นเทพเป็นไฮไลต์ของที่นี่ เป็นที่เที่ยวเวียดนามกลางชื่อดังอีกที่หนึ่งเลย
ค่าเข้าชม : เข้าฟรี ค่านั่งเรือคนละ 190,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 06:00-19:00 น.
วิธีเดินทาง : สามารถเดินทางต่อจาก Hoi An Ancient Town ได้ แนะนำขึ้นแท็กซี่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที หรือซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริปฮอยอันจะมีหมู่บ้านกั๊มทานอยู่ในแพ็กเกจด้วย
28. สะพานญี่ปุ่น (Japanese Covered Bridge) – เมืองฮอยอัน

ตั้งอยู่ในเมืองเก่าฮอยอัน ชาวเวียดนามจะเรียกสะพานนี้ว่า Lai Vien Kieu แปลว่า สะพานแห่งมิตรไมตรี ใช้เป็นสะพานข้ามคลองเมื่อประมาณ 400 ปีก่อน สร้างโดยคนญี่ปุ่นที่มาตั้งชุมชนและอาศัยอยู่ในนี้ สมัยก่อนพื้นที่ตรงเลยเป็นหมู่บ้านของชาวจีนและญี่ปุ่นอาศัยอยู่ร่วมกัน ปัจจุบันเป็นโลเคชั่นในการถ่ายภาพของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองเก่าฮอยอัน บนสะพานมีศาลเจ้าขนาดเล็กตัวอาคารสร้างจากไม้สไตล์แบบฉบับญี่ปุ่น สามารถมาไหว้สักการะขอพรที่ศาลเจ้าได้
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าเมืองเก่าคนละ 120,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 19.00 น.
วิธีเดินทาง : สามารถเรียกแท็กซี่หรือใช้บริการ Shuttle Bus แบบเหมาได้ รับส่งตั้งแต่สนามบินดานังถึงฮอยอัน
29. ยอดเขาฟานซิปัน (Fansipan Mountain) – เมืองซาปา

Photo by : vietnamtravelaway
ภูเขาที่สูงที่สุดในเวียดนามได้ฉายาว่าเป็นหลังคาแห่งอินโดจีน ข้างบนนี้บรรยากาศตระการตาสุด ๆ ป่าและภูเขาที่ล้อมรอบไว้อุดมสมบูรณ์เขียวขจีการขึ้นไปบนยอดเขามี 2 วิธีคือนั่งเคเบิ้ลคาร์และสำหรับนักปีนเขาสามารถปีนขึ้นไปแต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ให้พาขึ้นไปเท่านั้น ใครมาเช้า ๆ และโชคดีจะเจอทะเลหมอกด้วยนะ ด้านบนมีพิรามิดเป็นเหมือนจุดปักธงว่ามาถึงยอดเขาแล้ว ใครขึ้นมาถึงบนนี้อย่าลืมถ่ายรูปเช็คอินว่ามาถึงที่เที่ยวซาปายอดฮิตที่นี่ด้วยล่ะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 737,000 VND / เด็ก 540,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 น. – 16:00 น.
วิธีเดินทาง : ซาปาเป็นเมืองบนเขาสูงสามารถเดินทางจากฮานอยได้ทั้งรถบัส รถไฟ แต่แนะนำให้ซื้อทัวร์ซาปาจะง่ายที่สุดได้ไกด์นำเที่ยวและมีรถรับส่ง
30. หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) – เมืองซาปา

Photo by : minniethecher
ที่เที่ยวเวียดนาม ซาปายอดฮิตกับหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองซาปามาก ไฮไลต์อยู่ที่นาขั้นบันไดและวิวสวยของมุมสูงภูเขาและชมวิถีชีวิตแบบม้งแท้ ๆ 100% ในหมู่บ้านก็จะมีการแสดงพื้นบ้านให้เราชม มีอาหารพื้นเมืองของชาวม้งในเวียดนาม ที่ฮิตเลยคือไวน์ข้าวโพดเป็นเครื่องดื่มท้องถิ่นของชาวม้งที่นี่ ในหมู่บ้านเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์มากสมกับเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของซาปาเลย น้ำตกเล็กใหญ่คืออลังการและสวยมากมุมถ่ายรูปเยอะสุด ๆ ใครหาที่เที่ยวเวียดนามเหนือ บรรยากาศดี ๆ อยู่ไม่ควรพลาดที่หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต
ค่าเข้าชม : คนละ 90,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 06:00 น. – 18:00 น.
วิธีเดินทาง : อยู่ห่างจากใจกลางเมืองซาปาแค่ 2.5 กิโลเมตร สามารถเดินหรือเช่ามอเตอร์ไซค์ขับไปได้ (ไม่สามารถใช้รถยนต์สัญจรได้)
31. หุบเขาเหมืองฮวา (Muong Hoa Valley) – เมืองซาปา

Photo by : halo.vietnam
ไฮไลต์ของที่เที่ยวซาปาก็คือนาขั้นบันไดและธรรมชาติ อีกหนึ่งจุดของการชมนาขั้นบันไดคือที่ หุบเขาทะเลสาบฮวา แนะนำให้มาช่วงมิถุนายน – สิงหาคม นาขั้นบันไดจะเขียวมากเป็นพิเศษเต็มพื้นที่ ส่วนใครอยากเห็นนาข้าวสีทองใกล้เก็บเกี่ยวให้มาช่วงกันยายน – พฤศจิกายน รับรองเลยสวยเหมือนภาพวาด นอกจากนี้หุบเขาเหมืองฮวายังมีไฮไลต์อีกอย่างคือกลุ่มก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกแกะสลักเป็นภาพวาดลึกลับที่ยังพิสูจน์ถึงที่มาไม่ได้ด้วยนะ ใครหาที่เที่ยวเวียดนามแบบอันซีน ๆ แนะนำที่นี่เลย
ค่าเข้าชม : คนละ 80,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 06:00 น. – 18:00 น.
วิธีเดินทาง : ห่างจากเมืองซาปาประมาน 14 กิโลเมตร เส้นทางเป็นหุบเขาสูงแนะนำให้ใช้บริการทัวร์แบบหนึ่งวันจะปลอดภัยกว่า
32. น้ำตกสีเงิน (Silver Waterfall) – เมืองซาปา

Photo by : lalalandtravel.com
น้ำตกที่สวยที่สุดในเมืองซาปา เป็นที่เที่ยวเวียดนาม ซาปาแนวธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะกันมากที่สุดอีกหนึ่งแก่ง น้ำตกจะไหลจากยอดเขาฟานซิปันลงมาด้านล่างสูง 100 เมตร มีจุดถ่ายรูปยอดฮิตคือบนสะพานข้ามสายน้ำตกจะได้วิวฉากหลังเป็นมวลน้ำตกขนาดใหญ่ไหลลงจากหน้าผาสวยและอลังการสุดและสามารถขึ้นบันไดไปชมน้ำตกใกล้ ๆ ได้ด้วยนะ
ค่าเข้าชม : คนละ 30,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 น. – 16:30 น.
วิธีเดินทาง : อยู่ห่างจากเมืองซาปา 12 กิโลเมตร เป็นทางผ่านไปเมือง Lai Chau แนะนำให้เช่ารถยนต์ขับเองจะสะดวกที่สุด
33. โบสถ์ทันดินห์ (Tan Dinh Church) – นครโฮจิมินห์

Photo by : 123tadi.com
ที่เที่ยวเวียดนาม ที่แค่เห็นรูปก็รู้แล้วว่าอยู่ที่ไหนเนอะ ดังสุด ๆ กับที่โบสถ์ทันดินห์ โบสถ์ที่ตกแต่งแบบยุโรปใช้โทนสีชมพูพาสเทลสะดุดตา เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของนครโฮจิมินห์ โดดเด่นด้วยหอนาฬิกาขนาด 60 เมตรตั้งเด่นอยู่ด้านหน้าเลย สร้างมากกว่า 140 ปีแล้วและใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันเลย และยังเป็นโลเคชั่นฮิตของการถ่ายรูปพรีเวดดิ้งและจัดงานแต่งงานด้วย แถมโฮจิมินห์ยังเป็นเมืองที่เราอยากนำแนะให้เที่ยวเวียดนามด้วยตัวเองมาก ๆ เช่ารถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ขับได้สบาย
ค่าเข้าชม : รอบนอกถ่ายภาพได้ฟรี ภายในโบสถ์มีค่าเข้า
เวลาเปิด-ปิด : เปิด 2 รอบ 8:00–12:00 น. และ 14:00–17:00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
วิธีเดินทาง : นั่งรถเมล์สาย 3 มาลงที่หน้าโบสถ์ได้
34. คาเฟ่อพาร์ทเม้นท์ (the cafe apartment) – นครโฮจิมินห์

แหล่งช้อปปิ้งสไตล์วินเทจในโฮจิมินห์แถมเดินทางง่ายเที่ยวเวียดนามด้วยตัวเองได้เลยในอดีตที่นี่เคยเป็นที่พักของรัฐบาลและทหารช่วงปีค.ศ. 1950 ปัจจุบันมีการรีโนเวทให้เป็นที่เที่ยวเวียดนามกลายเป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเสริมสวย ร้านหนังสือ ฯลฯ รวมทั้งหมด 9 ชั้น แนะนำให้เดินขึ้นบันไดเพราะว่าจะได้เห็นสภาพตึกที่ยังมีเค้าโครงความเก่าอยู่และเป็นมุมถ่ายรูปสวยด้วยนะ ใครชอบร้านค้าสไตล์วินเทจต้องถูกใจแน่นอน
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 22.00 น.
วิธีการเดินทาง : หากไม่เช่ารถให้นั่งรถเมล์สาย 93 ลงที่ป้าย 442 Điện Biên Phủ จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งสาย 19 ลงที่ป้าย 21 Tôn Đức Thắng แล้วเดินต่อ 200 เมตร
35. เจดีย์บู้ล่อง (Buu Long Pagoda) – นครโฮจิมินห์

ที่เที่ยวเวียดนามหน้าฝน ใครอยากลองมาเวียดนามหน้าฝนแนะนำที่ไมโจวเลย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวไทขาว ธรรมชาติคือเต็มสิบบรรยากาศแบบชนบท ฮิตมากที่หมู่คนเวียดนามเพราะไม่ไกลจากฮานอย ภายในหมู่บ้านนี่คือเสพธรรมชาติได้แบบเต็มที่เลยมีทั้งทุ่งนา น้ำตก ทะเลสาบแล้วก็สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวไทขาวได้ มีทั้งโรงเรียน ร้านขายของ ร้านกาแฟ ร้านอาหารท้องถิ่น สโลว์ไลฟ์มากถ้ามองหาที่เที่ยวนอกเมืองหลบความวุ่นวายที่นี่น่าสนใจมากเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 08:00–18:00 น.
วิธีเดินทาง : แนะนำให้เช่ารถขับจะดีที่สุดเนื่องจากรถเมล์บางสายอาจขาดช่วงให้บริการ
36. ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน (Saigon Central Post Office) – นครโฮจิมินห์

Photo by : 123tadi.com
นครโฮจิมินห์หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่าไซ่ง่อน อาจจะงงว่ามาทำอะไรที่ไปรษณีย์ของเวียดนามแต่เพราะว่าที่นี่มีงานออกแบบที่คงความวินเทจแบบยุโรปไว้สุด ๆ ว่ากันว่าที่นี่เป็นมรดกที่ยังเหลืออยู่จากยุคอาณานิคม อาคารสีเหลืองสดใสอยู่ใจกลางโฮจิมินห์ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสผู้ออกแบบหอไอเฟลของฝรั่งเศสด้วยนะ ข้างในอาคารมีเพดานสูงโปร่งและรองรับด้วยเสาเหล็กสีเขียวให้ความรู้สึกเหมือนสถานีรถไฟยุโรปช่วงศตวรรษที่ 20 เลยล่ะ อยู่ใจกลางเมืองแบบนี้ก็เที่ยวเวียดนามด้วยตัวเองแบบสบาย ๆ เลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 07:00 น. – 19:00 น.
วิธีเดินทาง : อยู่ใจกลางเมืองโฮจิมินห์มีรถเมล์สาย 36,150,45
37. อุโมงค์ดินดาลัด (Clay Tunnel) – เมืองดาลัด

ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ประติมากรรมดินเหนียวของเมืองดาลัด พาไปดูที่เที่ยวเวียดนามใต้มีงานประติมากรรมที่ทำจากดินหลากหลายรูปแบบทั้งบ้านดินสองหลังแรกสร้างจากดินหินบะซอลต์และดินสีแดงเข้ม ผสมกับส่วนผสมพิเศษและไม่ผ่านการอบ แถมยังมีการจำลองธรรมชาติกับป่าบนภูเขาลางเบียง เช่น ประติมากรรมรูปช้าง, หมี, ลิง, งู ฯลฯ แต่ที่ดังที่สุดเป็นรูปปั้นหน้าผู้หญิงสองคนอยู่กลางน้ำ เป็นจุดที่ช่างภาพและนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันมากที่สุดเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : คนละ 60,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 17:00 น.
วิธีเดินทาง : เดินทางค่อนข้างยากแนะนำให้ซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริปในเมืองดาลัด
38. ทะเลทรายแดง (Red Sand Dunes) – เมืองมุยเน่

Photo by : _e___sun
โลเคชั่นฮิตสำหรับการดูพระอาทิตย์ตกดินและเป็นที่เที่ยวเวียดนามยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ที่นี่อยู่ใกล้ทะเลเม็ดทรายละเอียดยิบเหมือนแป้ง ยาวประมาณ 50 กิโลเมตร นอกจากมาถ่ายรูปแล้วยังสามารถเห็นความงดงามของเนินทรายที่จะเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อย ๆ ตามแรงลม หน้าด้านของทะเลทรายจะติดกับทะเลมีร้านอาหารด้วยนะ หรือใครอยู่ยันเย็นจะเจอเด็ก ๆ เวียดนามเอาแผ่นพลาสติกมาให้เล่นสไลด์เนินทรายด้วย (แต่จ่ายเงินนะ)
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าฟรี เช่ารถ JEEP อยู่ที่คนละ 300,000 – 500,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : แนะนำให้ซื้อทัวร์มุยเน่จะได้ไปหลายที่ทั้ง White sand dune/Red Sand dune/Fairy Stream/Fishing Village มีรถรับส่งถึงหน้าโรงแรมราคาแบบครึ่งวันคนละประมาณ 200,000 VND
39. ทะเลทรายขาว (White Dunes Sand) – เมืองมุยเน่

Photo by : jeongmini__e
นอกจากทะเลทรายแดงแล้วก็ยังมีทะเลทรายขาวเป็นไฮไลต์อีกที่หนึ่งได้ฉายาว่าเป็นซาฮาร่าแห่งเวียดนามเพราะว่าเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามนั่นเอง ทะเลทรายแดงนิยมไปดูพระอาทิตย์ตกส่วนทะเลทรายขาวนิยมดูพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลทรายขาวจะมีสีและรูปร่างต่างกันไปตามช่วงเวลาแรงลมและแสงแดด เม็ดทรายขาวละเอียดและกว้างกว่าทะเลทรายแดง อย่าลืมหาพร้อบเก๋ ๆ ชุดพริ้ว ๆ มาถ่ายรูปด้วยนะ
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าฟรี เช่ารถ JEEP อยู่ที่คนละ 300,000 – 500,000 VND
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : แนะนำให้ซื้อทัวร์มุยเน่จะได้ไปหลายที่ทั้ง White sand dune/Red Sand dune/Fairy Stream/Fishing Village มีรถรับส่งถึงหน้าโรงแรมราคาแบบครึ่งวันคนละประมาณ 200,000 VND
40. หมู่บ้านชาวประมง (Mui Ne Fishing Village) – เมืองมุยเน่

ปิดท้าย ที่เที่ยวเวียดนาม ก่อนถึงทะเลทรายแดงและทะเลทรายขาวจะต้องผ่านจุดนี้ก่อน เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของคนเวียดนามที่ทำประมง อย่างการออกหาสัตว์ทะเล นำขึ้นฝั่ง ซึ่งเราสามารถซื้ออาหารทะเลสด ๆ ได้ด้วย ใครมาตอนเช้าจะเจอตลาดปลาคึกคักมีของทะเลสดใหม่เพิ่งขึ้นมาวางขายเพียบ แถมวิวก็สวยนะมองจากมุมสูงจะเห็นเรือประมงเรียงรายอยู่กลางทะเลเป็นร้อย ๆ ลำ เลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ตลาดเริ่มตั้งแต่เช้าไปจนถึงช่วงสาย
วิธีเดินทาง : แนะนำให้ซื้อทัวร์มุยเน่จะได้ไปหลายที่ทั้ง White sand dune/Red Sand dune/Fairy Stream/Fishing Village มีรถรับส่งถึงหน้าโรงแรมราคาแบบครึ่งวันคนละประมาณ 200,000 VND
เที่ยวเวียดนามด้วย YouTrip ประหยัดกว่า

แนะนำเที่ยวเวียดนามให้ประหยัดกว่าเดิมด้วย YouTrip ทริปนี้สมมุติตั้งงบเที่ยวเวียดนาม ไว้ที่ 20,547,945 VND ร้านแลกเงินจะเป็นเงินทั้งหมด 30,000 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตอยู่ที่ราคา 31,329 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนมาจ่ายด้วย YouTrip จะเหลือเพียง 29,917 บาท ได้ประหยัดเพิ่มถึง 1,412 บาท ไปเลย เพราะว่า YouTrip ให้เรทที่ดีและไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่ายผ่านบัตรนั่นเอง

เท่านั้นยังไม่พอ! เที่ยวเวียดนามแม้ไปไม่ยากแต่ก็อย่าลืมวางแผนให้ดีก่อนออกเดินทางนะ ให้ YouTrip Perks เป็นไกด์นำทางไปจองที่พักสวยๆจาก Agoda หรือซื้อตั๋วเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook มีโปรดีๆทั้งส่วนลดและได้เงินคืนด้วย
มี ที่เที่ยวเวียดนาม ที่น่าสนใจเยอะมากเลยเนอะ แถมบางที่เป็นเที่ยวแบบอันซีนได้ขึ้นเป็นมรดกโลกด้วย แบบนี้ต้องห้ามพลาดแล้วล่ะ แถมสามารถเที่ยวเวียดนามด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ แค่เช่ารถขับชิลตามแผนที่ได้เลยไปไม่ยาก และอย่าลืมพก YouTrip ไปเวียดนามทริปนี้ด้วยได้ประหยัดกว่าเดิมไปอีกต่อ เพราะ ใช้จ่าย เรทดี ทุกที่ทั่วโลก ไม่มีค่าธรรมเนียมทุกการใช้จ่าย รีบสมัครเลย
