ใครวางแผนไปเที่ยวเกาหลีช่วงมีนาคม บอกเลยว่าจะได้เจอเกาหลีเวอร์ชั่นสีชมพูสดใสไปทั่วเมืองแน่นอน เพราะว่าเป็นช่วงเวลาที่ดอกซากุระเกาหลี (แต่คนเกาหลีเขาจะเรียกว่าดอกพอตกต หรือ Cherry Blossom นะ) จะเบ่งบานนั้นเอง โดยเฉพาะในโซลมีที่ให้ดูซากุระเกาหลีสวย ๆ เยอะมาก เดินทางง่ายอยู่ในโซลไม่ต้องออกต่างจังหวัดก็ได้เห็นบรรยากาศสวย ๆ สุดโรแมนติก เดี๋ยวมาเที่ยวไปพร้อมกันเลยว่ามีที่ไหนสวยบ้าง
ที่โซลซากุระบานวันไหน?
ใช่ว่าจะไปแบบสุ่ม ๆ ได้นะ ต้องเช็คพยากรณ์ซากุระเกาหลีด้วยไม่งั้นอาจจะพลาดไปช่วงที่ยังไม่บานหรือดอกร่วงไปแล้ว สำหรับที่โซลปี 2024 จะเริ่มบาน 3 เมษายน 2567 ปล. แต่ละเมืองเริ่มบานไม่เหมือนกันแนะนำให้เช็คว่าดอกซากุระบานเดือนไหนในเกาหลีทุกครั้งก่อนวางแผนเดินทางด้วยนะ
แนะนำ 15 จุดชมซากุระเกาหลี โซล ถ่ายรูปสวย ปังๆ
1. เทศกาลดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิยอดึงโพยออีโด (Yeongdeungpo Yeouido Spring Flower Festival)
เรียกได้ว่าเป็นงานเทศกาลดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิที่ใหญ่ที่สุดในโซลเลยก็ว่าได้ งานจะจัดบริเวณพื้นที่โดยรอบของเกาะยออีโดริมแม่น้ำฮันและสวนสาธารณะยออึยโด เริ่มจัดช่วงต้นเมษายนของทุกปีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ซากุระเกาหลีจะบานอย่างเต็มที่แล้วนั้นเอง บริเวณนี้จะมีต้นดอกพอตกด เกาหลีกว่า 1,641 ต้น ดอกสีชมพูอ่อน ๆ เรียงรายอยู่พันต้นแบบนี้เป็นความสวยที่ตระการตาจริง ๆ นอกจากนี้ยังมีดอกไม้อื่นอีกกว่า 13 สายพันธุ์ รวมกว่า 87,859 ต้น อย่างเช่น ดอกอซาเลีย ฟอร์ซิเทีย รอยัลอซาเลีย เป็นต้น
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 5 ลงที่สถานี Yeouinaru Station ใช้ทางออกที่ 1 แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 400 เมตร
2. นัมโซลทาวเวอร์ (Namsan Seoul Tower)
ที่นี่มีหลายชื่อมากทั้งเอ็นโซลทาวเวอร์ โซลทาวเวอร์และชื่อล่าสุดคือนัมซานทาวเวอร์ ทั้งหมดคือที่เดียวกันนะเผื่อใครเจอชื่อหน้างานแล้วอาจจะงงได้ มีกิจกรรมให้ทำเยอะมากอีกทั้งยังสามารถนั่งเคเบิ้ลคาร์ลงไปที่สวนนัมซานเพื่อชมซากุระเกาหลีได้อีกด้วย กิจกรรมฮิตอย่างคล้องกุญแจคู่รัก ชมวิวกรุงโซลที่หอคอยและชมดอกไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ถ้าอยู่บนหอคอยก็สามารถชมซากุระได้จากมุมสูงแต่ถ้าอยากดูใกล้ ๆ ถ่ายรูปสวยแนะนำลงไปที่สวนนัมซานเลยมีต้นพอตกตกว่าพันต้น เดินชมได้ทั้งสวนเป็น จุดชมซากุระเกาหลี โซล ที่ได้ความนิยมอยู่เสมอ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 9,000 KRW / เด็ก 7,000 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 23.00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3,4 ไปลงที่สถานี Chungmuro Station ใช้ทางออกที่ 2 จากนั้นให้ขึ้นรถบัส Namsan Circular Shuttle Bus สาย 02 ลงที่นัมซานทาวเวอร์ได้เลย
3. เทศกาลดอกซากุระเกาหลีทะเลสาบซอกชน (Seokchon Lake Cherry Blossom Festival)
ไปดูเทศกาลดูซากุระเกาหลีที่ทะเลสาบซอกชนกันบ้าง อยู่ใกล้กับ LOTTE WORLD ด้วยนะใครแวะไปล็อตเต้เสร็จแล้วไปเดินดูดอกไม้สวย ๆ ต่อได้เลย มีซากุระเกาหลีที่เขาปลูกเรียงรายริมทะเลสาบน่าเดินเล่นเดินถ่ายรูปมาก ๆ ปกติงานจะจัดช่วงต้นเมษายน จัดยาว 5-8 วัน ในงานจะมีการแสดง มีคอนเสิร์ตและงานศิลปะ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่เดินเล่นและพักผ่อนของแท้เลยล่ะ ตอนกลางคืนก็จะได้วิวไปอีกแบบนะเพราะว่ามีไฟสว่างจากสวนสนุกในล็อตเต้เวิลด์และตึกสูงรอบ ๆ ดูโรแมนติกดีเหมือนกัน
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว หรือสาย 8 สีชมพู ลงสถานี Jamsil ใช้ทางออกที่ 3 แล้วเดินตรงไปอีก 200 เมตร
4. ป่ากรุงโซล (Seoul Forest)
เป็นป่าใจกลางเมืองที่ช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสีได้รับความนิยมมากเวอร์ เพราะว่าเป็นอีกหนึ่งจุดในโซลที่เดินทางง่ายและสามารถชมดอกไม้ได้แบบจุใจในพื้นที่กว่า 1,16 ล้าน ตารางเมตร ที่นี่จะประกอบไปด้วย 5 ส่วนคือ สวนศิลปะวัฒนธรรม,สวนนิเวศวิทยา,สวนศึกษาธรรมชาติ,พื้นที่นิเวศวิทยาชุ่มน้ำ และ สวนริมแม่น้ำฮันกัง สำหรับไฮไลท์การดูซากุระเกาหลีอยู่ที่สวนริมแม่น้ำฮัน เป็นทางเดินอุโมงค์ซากุระสีชมพูหวานแหวว เดินเล่นได้ยาว ๆ เพลินมากไม่มีเมื่อยแน่นอน
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 07:00-20:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Bundang Line ลงที่สถานี Seoul Forest Station ใช้ทางออก 3 แล้วเดินต่อไปประมาณ 5 นาที
5. เทศกาลชมดอกเชอร์รี่ที่โซลแกรนด์พาร์ค (Seoul Grand Park Cherry Blossom Festival)
อีกหนึ่งเทศกาลดูดอกซากุระเกาหลีจัดที่ Seoul Grand Park ชมซากุระเกาหลีเลียบริมทะเลสาบของสวนสาธารณะรวมถึงกิจกรรมมากมายอย่างมินิคอนเสิร์ต กิจกรรมวาดภาพ โซนถ่ายรูป ที่นี่นอกจากเป็นสวนสาธารณะแล้วยังมีการแบ่งพื้นที่ย่อย ๆ อีกหลายโซนเลยอย่างเช่น สวนสัตว์ เป็นสวนสัตว์แห่งแรกของโซลด้วยนะ,สวนกุหลาบสไตล์อังกฤษ,สวนสนุก Seoul Land และพิพิธภัณฑ์ กิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือนั่งกระเช้าห้อยขาดูวิวซากุระรอมทะเลสาบจากมุมสูงนั้นเอง ถ่ายรูปออกมาได้แบบเก๋ ๆ เลยล่ะ
ค่าเข้า : บริเวณสวนรอบ ๆ ชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Seoul Grand Park ใช้ทางออก 1, 2 หรือ 3 จากนั้นสามารถนั่งรถ Shuttle Bus ให้บริการรับส่งฟรีภายในสวนจากหน้าสถานีได้เลย
6. เทศกาลชมดอกเชอร์รี่และโคมไฟยางแจชอน (Yangjaecheon Stream Cherry Blossom and Lantern Festival)
ที่นี่เป็นพื้นที่ของสวนสาธารณะริมน้ำยางแจชอน โดยสวนสาธารณะริมน้ำนี้จะมีทางยาว 18 กิโลเมตร เป็น จุดชมซากุระเกาหลี โซล ที่สามารถปั่นจักรยานชมวิวสวย ๆ ได้ สำหรับงานเทศกาลก็จะคล้ายกับสถานที่อื่นคือมีดนตรี มีการแสดงโชว์และงานศิลปะ แม้จะคล้าย ๆ กันแต่อะไรแบบนี้มันเหมาะกับการพักผ่อนจริง ๆ เนอะ หรือใครสายออกกำลังกายแนะนำมาแต่เช้าหน่อยสามารถวิ่งออกกำลังกายได้เหมือนกันนะเขาแบ่งเป็นเส้นทางเดินไว้ด้วยเหมือนกันจ้า หรือใครจะปิคนิคริมน้ำก็ทำได้น้า แต่บริเวณริมน้ำมีที่ไม่เยอะอาจจะต้องเสี่ยงดวงหน่อย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : ขึ้นรถบัสสาย 472 ไปลงที่ Grand Prix Department Store จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 200 เมตร
7. เส้นทางชมดอกซากุระที่ลำธารบันโพชอน (Banpocheon Stream Cherry Blossoms Trail)
จุดชมซากุระเกาหลีริมลำธารที่เขาว่ากันว่าที่นี่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านเยอะเท่าที่อื่น จริง ๆ ตรงนี้เป็นเหมือนทางผ่านเฉย ๆ แต่วิวสวยดีนะ ฉะนั้นเหมาะกับคนที่อยากดูซากุระเกาหลีแต่ไม่ชอบความวุ่นวาย ตรงจุดนี้เป็นทางเดินริมลำธารแคบ ๆ ที่มีต้นดอกพอตกตปลูกอยู่ตามทางลำธารเลย สามารถเดินได้ทั้งด้านบนมีต้นซากุระเกาหลีแล้วดอกแปะก๊วยสีเหลืองสลับกันน่ารักดี ส่วนข้างล่างเป็นเหมือนทางจักรยานเล็ก ๆ น่าจะลงไปเดินเล่นได้เหมือนกันแต่ระวังรถนิดนึงนะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : ไปขึ้นรถบัสสาย 7212 ที่ Donghwa-dong ลงที่ Sindang-dong Cheonggu Station จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถบัสสาย 6211 แล้วลงที่ป้าย Bokwang Sindongah Apt, Samsung Riverville Apt. จากนั้นเปลี่ยนรถอีกครั้งขึ้นสาย 405 ลงที่ Seoul Regional Public Procurement Service, Seoul St. Mary’s Hospital แล้วเดินต่อ 100 เมตร
8. มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha Womans University)
มหาวิทยาลัยหญิงล้วนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลกที่นี่คือมหาวิทยาลัยอีฮวา เป็นโลเคชั่นฮิตของคนที่มาเกาหลีเหมือนกันนะเพราะนอกจากได้มาเดินชมความสวยงามในมหาวิทยาลัยแล้วยังอยู่ใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งย่านอีแดด้วย ในมหาวิทยาลัยมีต้นไม้และดอกไม้เยอะมากหนึ่งในนั้นคือต้นพอดกตเป็นจุดชมซากุระ โซล ยอดฮิตเลยก็ว่าได้เพราะว่าได้บรรยากาศที่ไม่เหมือนอยู่เกาหลีสักเท่าไหร่เนื่องจากอาคารส่วนใหญ่เป็นทรงโบราณที่สร้างจากกลุ่มมิชชันนารีชาวอเมริกันนั่นเอง ซากุระที่นี้ไม่ได้มีเยอะ แต่กระจายอยู่รอบ ๆ มหาวิทยาลัย อาจต้องเดินหาสักหน่อยนะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น. (ปิดเสาร์อาทิตย์)
วิธีเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี Ewha Womans University Station ใช้ทางออกที่ 2,3 แล้วเดินจากสถานีเพียงแค่ 5 นาที
9. มหาวิทยาลัยยอนเซ (Yonsei University)
หนึ่งในมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของเกาหลี ที่นี่ก่อตั้งโดยกลุ่มมิชชันนารีสถาปัตยกรรมในมหาวิทยาลัยเลยมีความคลาสสิคมาก ๆ นิยมเป็นสถานที่ถ่ายรูปอาร์ต ๆ ของวัยรุ่นไฮไลท์อยู่ที่อาคารเก่าที่ประดับด้วยพุ่มไม้เลื่อยรอบอาคารสีของใบไม้เปลี่ยมตามฤดูกาล ฝั่งตรงข้ามมีซากุระเกาหลีอยู่ด้วยนะเป็น จุดชมซากุระเกาหลี โซล อีกหนึ่งแห่งในมหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยมเช่นกัน
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.30 น. (ปิดเสาร์อาทิตย์)
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 ลงที่สถานี Sinchon แล้วใช้ทางออก 2, 3
10. มหาวิทยาลัยคยองฮี (Kyung Hee University)
นึกว่าอยู่ในยุโรปซะอีกนะเนี้ย ชวนมาดูซากุระเกาหลีที่มหาวิทยาลัยคยองฮี ที่บอกว่าเหมือนอยู่ยุโรปเพราะว่าอาคารออกแบบสไลต์ Gothic Style นั้นเอง แถมรอบมหาลัยเขาก็ตกแต่งสวนได้สวยงามเรียบหรูเข้ากับอาคารสุด ๆ โดยเฉพาะช่วงใบไม้ผลิที่มีดอกพอดกตหรือซากุระเกาหลีคือสวยกว่าเดิม 300% คนเลยนิยมเลือกที่นี่เป็นหนึ่งใน จุดชมซากุระเกาหลี โซล ที่น่ามาเดินชมความสวยงามที่สุด โดยเฉพาะบริเวณอาคาร Grand Peace Hall ถูกออกแบบเหมือนโบสท์ในฝรั่งเศสมีต้นซากุระอยู่ใกล้กันด้วยเวลาออกดอกบานเปลี่ยนบรรยากาศให้ละมุนได้เยอะขึ้นเลย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.30 น. (ปิดเสาร์อาทิตย์)
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 หรือสาย Jungang Line ก็ได้ลงที่สถานี Hoegi Station แล้วใช้ทางออกที่ 1จากนั้นเดินต่ออีก 10 นาที
11. พระราชวังคยองบกกุง (Gyeongbokgung Palace)
สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเกาหลี คุ้นหูคุ้นตากันแน่นอนที่นี่คือพระราชวังคยองบกกุง เป็นสัญลักษณ์ของกรุงโซลเลยก็ว่าได้แหละ สมัยก่อนที่นี่มีอาคารกว่า 200 ตำหนักแต่จากการรุกรานของญี่ปุ่นทำให้ถูกทำลายลงปัจจุบันเหลือเพียงอาคาร 10 หลังเท่านั้น หนึ่งในนั้นคือศาลาคยองฮวีรู สมัยก่อนมักใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญและเป็นบริเวณที่มีต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ รวมถึงซากุระเกาหลีของเราด้วยนะจุดนี้เลยเป็นไฮไลท์ในการมาดูซากุระเกาหลีนั้นเอง
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 3,000 KRW / เด็ก 1,500 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09:00-18:00 น.
วิธีเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Gyeongbokgung Palace Station ใช้ทางออก 5 จากนั้นเดินตรงไปอีก 100 เมตรก็จะถึงประตูทางเข้าพระราชวัง
12. พระราชวังชางด็อกและสวนลับ (Changdeokgung Palace & Secret Garden)
จุดชมซากุระเกาหลี โซลในวังเก่า พระราชวังชางด็อกถูกสร้างขึ้นหลังพระราชวังคยองบกกุงที่พูดถึงก่อนหน้านี้นะ แล้วก็เคยเป็นวังหลักของกษัตย์หลายพระองค์ในสมัยโชซอนด้วย ข้างในจะมีพระราชวังสำหรับราชวงศ์และสวนลับที่ชื่อว่าสวนฮูวอน สวนหย่อมที่มีต้นไม้เก่าแก่ 300 ปี บ่อน้ำ และศาลาพักผ่อนซึ่งจะต้องเข้าชมพร้อมไกด์เท่านั้นแบ่งเวลาเป็นรอบละประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วที่ขาดไม่ได้ก็คือมีต้นซากุระเกาหลีอยู่บริเวณหน้าตำหนักด้วยนะแม้จะมีไม่เยอะไม่ได้เป็นพุ่มใหญ่แต่ได้บรรยากาศชมซากุระในวังเก่าเลยล่ะ ถือเป็นสถานที่เที่ยวซากุระเกาหลีที่สวยและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกที่หนึ่งเลย
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 3,000 KRW / เด็ก ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 09:00-18:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Anguk Station ใช้ทางออกที่ 3 แล้วเดินต่อ 300 เมตร
13. พระราชวังชังกย็อง (Changgyeonggung Palace)
1 ใน 5 ของพระราชวังที่สำคัญที่สุดในเกาหลีเป็นที่ประทับในช่วงปลายรัชสมัยของกษัตริย์เกาหลีถึง 10 รัชกาล ที่นี่สวยงามตามแบบฉบับของเกาหลีดั้งเดิมแบบแท้ทรู ทั้งงานสถาปัตกรรมและศิลปะในอาคารรวมไปถึงสวนสไตล์เกาหลีด้วย ที่นี่มีหลายอาคารและหลายประตูมาก ๆ แนะนำให้วางแผนการเดินทางภายในพระราชวังด้วย ว่าด้วยเรื่องของที่เที่ยวซากุระเกาหลีที่นี่เป็นหนึ่งใน จุดชมซากุระเกาหลี โซล ในวังที่ควรมา คือเข้ามาแล้วเหมือนอยู่ในซีรีย์เกาหลีโบราณอ่ะ แนะนำให้เช่าชุดฮันบกใส่ด้วยจะได้ภาพที่คุ้มค่าแน่นอนเพราะจะได้วิวซากุระสีชมพูที่ด้านหลังเป็นพระราชวัง เนียน ๆ เป็นพี่สาวพี่ชายเกาหลีได้เลย
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1,000 KRW / เด็ก 500 KRW
เวลาเปิด-ปิด : 09:00-18:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Anguk Station ใช้ทางออกที่ 2 จากนั้นเดินต่อประมาณ 1 กิโลเมตร
14. ห้องสมุดจองด็อก ซัมชองดง (Jeongdok Library @ Samcheongdong)
ที่นี่เป็นห้องสมุดประชาชนที่มีต้นซากุระเกาหลีแสนสวยอยู่ จริง ๆ แล้วที่นี่เขาจะฮิตทั้งฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเลยล่ะ เนื่องจากมีบรรยากาศที่เงียบสงบ มีความเรียบง่ายแอบมินิมอล ช่วงซากุระบานมีกิจกรรมเล็กน้อยอย่างดนตรีสด ฉายหนังและกิจกรรมจากนักเขียน บรรยากาศร่มรื่นแบบนี้สามารถเช่าหนังสือออกมานั่งอ่านใต้ต้นไม้ได้ด้วยแถมยังใกล้กับที่เที่ยวดัง ๆ อย่าง หมู่บ้านบุกชอนฮันอกและพระราชวังคยองบกกุงด้วย
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Anguk ใช้ทางออกที่ 1 แล้วเดินต่อ 500 เมตร
15. ซองบุกชอน (Seongbukcheon)
ปิดท้าย จุดชมซากุระเกาหลี โซล กันที่ซองบุกชอน ที่นี่เป็นทางเดินริมคลอง น้ำใสสะอาด ใครหาที่เดินเล่นเงียบ ๆ ไม่มีเสียงวุ่นวายเหมือนในเมืองที่นี่ได้ฟีลสโลว์ไลฟ์สุดแถมมีซากุระเกาหลีสวย ๆ ตลอดทางเดินเลยล่ะ ทั้งสบายและน่ารักมาก มีทางปั่นจักรยานด้วยนะแต่น่าเสียดายเขาไม่มีบริการเช่า รอบ ๆ มีตลาดนัดและร้านอาหารเยอะเลยแวะทานอาหารก่อนกลับได้
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีเดินทาง : ไปขึ้นรถบัสสาย N31 ที่ Woori Bank Jongno Branch ไปลงที่ป้าย Sungshin Women’s Univ. Station แล้วเดินต่อ 500 เมตร
เที่ยวเกาหลีด้วย YouTrip ประหยัดกว่า
แนะนำวิธีเที่ยวเกาหลีให้ประหยัดมากขึ้นด้วย YouTrip ยกตัวอย่างเช่น งบเที่ยวเกาหลีครั้งนี้ไว้ที่ 1,154,000 KRW ที่ร้านแลกเงินจะเป็นเงินทั้งสิ้น 30,004 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 30,311 บาท แต่ถ้าจ่ายด้วย YouTrip จะลดเหลือ 29,698 บาท ประหยัดได้เพิ่มถึง 613 บาท เพราะว่า YouTrip ให้เรทที่ถูกกว่าและไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่ายนั่นเอง
เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีกว่าเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย
เป็นยังไงบ้าง เห็นแต่ละที่แล้วอยากไปเลยใช่ไหม ใครยังไม่ได้วางแผนเที่ยวรีบด่วนเลยนะรับรองได้เห็นเกาหลีบรรยากาศสีชมพูอ่อน ๆ อบอุ่นและโรแมนติกแน่นอนแถมไม่ต้องไปไหนไกลอยู่ในโซลนี่แหละ ไม่ต้องเดินทางเยอะก็ได้เจอซากุระเกาหลีสวย ๆ เหมือนกันแต่ต้องไม่ลืมเช็คว่าซากุระเกาหลีบานช่วงไหนด้วยนะ ไม่งั้นอาจพลาดช่วงเวลาสำคัญไปได้ และอย่าลืมพก YouTrip ไปเป็นตัวช่วยการใช้จ่ายในทริปนี้ด้วยนะ ใช้จ่าย เรทดี ทุกที่ทั่วโลก รีบสมัครเลย!