ปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมืองท่องเที่ยวในฝันของใครหลายคน มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม งานศิลปะตั้งแต่ยุคโบราณ ธรรมชาติที่ติดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก วันนี้ YouTrip เลยจะพาไปรีวิว ที่เที่ยวปารีส เมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงามและศิลปะ ว่ามีที่ไหนห้ามพลาดบ้าง
เที่ยวฝรั่งเศสช่วงไหนดี
มาทำความรู้จักกับฝรั่งเศสกันก่อนเล็กน้อยก่อนออกเดินทางนะ ฝรั่งเศสสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่กับว่าอยากได้บรรยากาศแบบไหนนั่นเอง ที่ฝรั่งเศสมีทั้งหมด 4 ฤดูกาล ดังนี้
ฤดูใบไม้ผลิ: เริ่มกลางเดือนมีนาคม – กลางเดือนมิถุนายน อุณหภูมิประมาณ 10-18 องศา กำลังดีไม่ร้อนและไม่หนาว ฤดูนี้จะมีดอกไม้ออกดอกบานอวดสีสันสวยงาม หญ้าก็เขียวขจีกำลังแตกหน่อ เหมาะกับเที่ยวสวนดอกไม้หรือสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
ฤดูร้อน: เริ่มกลางเดือนมิถุนายน – กลางเดือนกันยายน อุณหภูมิประมาณ 20-30 องศา อากาศร้อนแต่งตัวแบบที่ไทยได้เลยจ้า ช่วงกลางวันจะยาวแดดแรงดีทำให้ถ่ายรูปสวยได้ฟิลสดใส ๆ เหมาะไปเที่ยวเมืองตากอากาศชายทะเลหรือทุ่งลาเวนเดอร์
ฤดูใบไม้ร่วง : เริ่มกลางเดือนกันยายน – กลางเดือนธันวาคม อุณหภูมิประมาณ 10-18 องศา เป็นช่วงผลัดเปลี่ยนจากอากาศร้อนมาเริ่มเย็น ๆ อีกครั้งและอาจมีฝนเล็กน้อย เราจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีออกส้ม เหลือง แดง เหมาะการเที่ยวแบบชมเมืองเพราะจะได้บรรยากาศอบอุ่นจากใบไม้เปลี่ยนสีไปด้วย
ฤดูหนาว : เริ่มกลางเดือนธันวาคม – กลางเดือนมีนาคม อุณหภูมิประมาณ 2-5 องศา ใครอยากเจอหิมะมาเลย มองไปทางไหนก็เจอแต่หิมะแน่นอน ฤดูนี้มีเทศกาลตามสถานที่สำคัญเยอะแแล้วก็เริ่มมีการประดับไฟในบรรยากาศคริสต์มาสแล้วด้วยนะ ใครชอบเทศกาลต่าง ๆ แนะนำฤดูนี้เลย
การเดินทางในปารีส
มาทำความรู้จักกันก่อนว่าการเดินทางในปารีสเป็นยังไงบ้าง ซึ่งการเดินทางในปารีสไม่ยากอย่างที่คิดเพราะมีระบบขนส่งสาธารณะให้เลือกใช้หลากหลายเลย
- รถไฟใต้ดิน หรือ Metro เป็นระบบขนส่งสาธารณะหลักที่นิยมมากที่สุด และสามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่สำคัญได้ทันที มีทั้งหมด 16 สาย ราคาก็ไม่แรงอยู่ที่ 1.8 EUR ตลอดสายไปเลย โดยรถไฟใต้ดินจะครอบคลุมพื้นที่ภายในตัวเมืองโซน 1-2 เท่านั้น
- รถไฟ RER เน้นการเดินทางจากใจกลางเมืองตั้งแต่โซน 3 – 5 ไปยังบริเวณชานเมือง แบ่งเป็น 5 สายหลัก ได้แก่ A, B, C, D และ E ราคาเริ่มที่ 1.8 EUR – 11 EUR ขึ้นอยู่กับระยะทาง
- รถราง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชมวิวระหว่างทาง มีเส้นทางหลักๆด้วยกัน 3 สาย ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อกันทั้งหมด ราคาแบบเที่ยวเดียว 1.8 EUR
- รถประจำทาง สามารถเข้าถึงสถานทีท่องเที่ยวได้หลากหลายมีบริการทั่วถึงทั้งภายในใจกลางเมืองรวมถึงบริเวณรอบ ๆ ปารีส แต่ใช้เวลาเดินทางนานกว่ารถไฟ
- แท็กซี่ ตอบโจทย์คนที่ต้องการเดินทางแบบรวดเร็ว แต่ต้องระวังแท็กซี่เถื่อน โดยแท็กซี่ที่มีใบอนุญาตถูกต้อง จะมีป้าย Taxi Parisien ด้านบนหลังคา ใบอนุญาตขับรถที่จะต้องแปะโชว์ให้เห็นด้านข้างขวาและมีระบบมิตเตอร์ ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 2.20 EUR
- จักรยาน ราคาถูกเริ่มที่ 1.70 EUR เท่านั้น (แต่ต้องมีเงินมัดจำอีก 150 EUR ด้วยนะ แต่จะได้รับเงินหลังจากนำจักรยานมาคืนเรียบร้อยแล้ว) เหมาะกับนักท่องเที่ยวมากแถมมีเส้นทางจักรยานเพียบพร้อมจุดเช่ากว่า 100 จุดทั่วปารีสเลย
รวมที่เที่ยวปารีสยอดฮิตตลอดกาล
1. หอไอเฟล ( Eiffel Tower )
แน่นอนว่าขาดหอไอเฟลไม่ได้อยู่แล้วสำหรับการเที่ยวในปารีส สัญลักษณ์ของฝรั่งเศสที่ใครต่างก็ต้องมาถ่ายรูปเพื่อเช็คอิน โดยเฉพาะลานหน้าปราสาท Palais de Chaillot ที่เป็นมุมฮิตของการถ่ายภาพเพราะจะได้มุมที่เห็นหอไอเฟลแบบเต็มจอโดยไม่มีอะไรมากั้นเลยแหละ ตัวหอไอเฟลแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ ส่วนฐาน เป็นส่วนที่เอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว มีของที่ระลึก ต่อมาคือส่วนกลาง พื้นที่โล่งเปิดรับให้คนชมบริเวณรอบ ๆ และชมวิวจากข้างบนลงไปข้างล่าง ส่วนสุดท้ายคือส่วนยอด ต้องใช้ลิฟท์ในการขึ้นไป เป็นที่เที่ยวฝรั่งเศสที่ห้ามพลาดไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงฝรั่งเศสนะ
ค่าเข้าชม : ส่วนยอดบนสุดราคา 13 EUR/คน
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 23.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ RER สาย C ไปลงสถานี Champ de Mars Tour Eiffel ทางออก Sortie ทาง Eiffel
2. พระราชวังแวร์ซาย ( Versailles Palace )
พระราชวังที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามระดับโลกนั่นก็คือพระราชวังแวร์ซายอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของปารีส แถมยังได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโกด้วยนะ เป็นพระราชวังที่ตกแต่งอย่างหรูหรามากตามสไตล์ยุโรป ภายในประกอบด้วยห้องถึง 700 ห้อง มีภาพวาดที่ทรงคุณค่าอยู่กว่า 6,000 ภาพ และงานศิลปะแกะสลักกว่า 15,000 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีสวนที่จัดตกแต่งอย่างสวยงามเต็มไปด้วยพืชและดอกไม้นานาพันธุ์อีกด้วย เป็นที่เที่ยวฝรั่งเศสยอดฮิตตลอดกาลอีกหนึ่งที่
ค่าเข้าชม : เข้าชมบริเวณพระราชวัง 15 EUR/คน
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 17:30 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ RER สาย C ลงที่สถานี Versailles Rive Gauche (Versailles RG) เดินเท้าต่ออีกประมาณ 15 นาที
3. ประตูชัยฝรั่งเศส ( Arc de Triomphe )
รีวิวเที่ยวปารีสกับประตูชัยฝรั่งเศสอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่คนนิยมไปเช็คอิน ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล ทางทิศตะวันตกของช็องเซลีเซ เป็นซุ้มประตูที่มีความงดงามและเป็นผลงานแกะสลักที่ได้รับการยอมรับว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกด้วยนะ ประตูชัยนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีเหล่าทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง โดยประตูชัยจะเป็นจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของถนนถึง 12 เส้นทางเชื่อมโยงถึงเมืองสำคัญต่าง ๆ ไปยันชานเมืองปารีสเลยทีเดียว ก็นับว่าเป็นสถานที่สำคัญอันดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวแวะมาเยือนล่ะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่คนละ 8 EUR / เด็กต่ำว่า 17 ปีเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 23.00 น.
วิธีการเดินทาง :นั่งรถไฟ RER สาย A ไปลงที่ Charles de Gaulle หรือ รถ Metro สาย 1, 2 และ 6, ลงสถานี Charles-de-Gaulle-Etoile จากนั้นให้ออกทาง Wagram Exit เพื่อขึ้นไปที่เกาะกลางที่มีประตูชัยอยู่ เพราะจะไม่สามารถเดินข้ามถนนไปได้
4. ถนนฌ็องเซลิเซ่ ( Champs-Elysees )
มาฝรั่งเศสเมืองแห่งแฟชั่นแบบนี้ก็ต้องช้อปปิ้งสักหน่อย พามาเยือนถนนช้อปปิ้งที่เที่ยวปารีสชื่อดังอย่างถนนช็องเซลีเซ แถมไม่ธรรมดาเพราะได้ชื่อว่าเป็นถนนช้อปปิ้งที่งดงามที่สุดในโลกอีกด้วยจ้า เพราะตึกส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานศิลปะ Art Deco กับการตกแต่งสไตล์ Art Nouveau แถมแต่ละร้านล้วนมีการออกแบบร้านและตกแต่งอย่างมีสไตล์และทันสมัยอยู่ตลอดเวลา สองข้างทางคือเต็มไปด้วยร้านแบรนด์เนมชื่อดัง ร้านอาหารและคาเฟ่ขนมหวาน เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าสมเป็นเมืองแห่งศิลปะและแฟชั่นจริง ๆ เลยเชียว
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีการเดินทาง :สามารถนั่งรถไฟใต้ดินมาได้มีหลายสถานีที่ผ่าน เช่น สถานี George V สาย 1, สถานี Franklin D. Roosevelt สาย 1 กับ 9 และ สถานี Champs-Élysées – Clemenceau สาย 1 กับ 13
5. พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ( Musee du Louvre )
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “The Grand Louvre” เป็น ที่เที่ยวปารีส ที่หลายคนน่าจะคุ้นตากันอยู่แล้ว เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะมีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ที่นี่เป็นที่จัดแสดงภาพวาดระดับโลกอย่างโมนาลิซ่า จากศิลปินดาวินชี และผลงานอื่น ๆ อย่างเช่น รูปปั้นเทพีวีนัส, รูปปั้นเทพีไนกี้แห่งซาโมเทรซ, ภาพพิธีบรมราชาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียน ฯลฯ นอกจากนี้ยังจัดแสดงและเก็บรักษาผลงานศิลปะล้ำค่ามากกว่า 35,000 ชิ้น อีกด้วย
ค่าเข้าชม : 17 EUR/คน
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ วันพุธ วันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ 09.00-17.45 น. / วันพุธและวันศุกร์ 09.45-21.45 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงที่สถานี Palais Royal หรือนั่งรถประจำทางสาย 21, 24, 27, 39, 48, 68, 69, 72, 76, 81, 95 ลงหน้าพิพิธภัณฑ์ได้เลย
6. จตุรัสโวชส์ ( Place des Vosges )
สถานที่พักผ่อนท่ามกลางงานสถาปัตกรรมสวย ๆ กับจตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง Place des Vosges รอบบริเวณเต็มไปด้วยตึกที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ในย่านดัง เลอมาเรส์ เป็นสวนสาธารณะที่คนฝรั่งเศสก็นิยมมาพักผ่อนกันในช่วงวันหยุด ทั้งอ่านหนังสือ ปิคนิคหรือนอนอาบแดดในหน้าร้อน ตรงกลางสวนจะมีอนุเสาวรีย์ของพระเจ้าอ็องรีที่ 4 ตั้งอยู่ด้วย แถมบริเวณรอบ ๆ ก็ยังเป็นย่านสำหรับเดินเล่นเที่ยวกินอีก เพราะมีร้านช้อปปิ้ง ซื้อของฝาก ร้านสังสรรค์ คาเฟ่อยู่เต็มไปหมดเลยเป็น ที่เที่ยวปารีส สำหรับวันชิล ๆ เดินเล่นชมเมืองอะไรแบบนี้
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Bastills จากนั้นเดินต่ออีก 500 เมตร
7. พระราชวังลุกซ็องบูร์ ( Luxembourg Gardens and Palace )
ที่เที่ยวปารีสกับสวนและพระราชวัง ลุกซ็องบูร์เป็นอีกจุดพักผ่อนของชาวเมืองที่จะใช้เวลาวันหยุดกับครอบครัวกันที่แห่งนี้ พูดถึงในส่วนของพระราชวังกันก่อนที่นี่อยู่ในเขตของสวนลุกซ็องบูร์บริเวณทางเหนือออกแบบให้มีสไตล์คล้ายกับศิลปในเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นเมืองบ้านเกิดของพระราชินีมารี เดอ เมดิชิ แห่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ภายในประดับด้วยภาพวาดงานศิลปะที่สื่อถึงศาสนา ตกแต่งหรูหราแบบสไตล์โรมันปัจจุบันได้กลายเป็นที่ทำการของวุฒิสภา ส่วนสวนลุกซ็องบูร์ก็ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้สีเขียวจำนวนมากและประดับตกแต่งด้วยรูปปั้นประติมากรรมกว่า 106 ชิ้น
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ภายในราชวังสามารถเข้าชมได้ทุกวันจันทร์และศุกร์(หรือวันที่ไม่มีการประชุมของวุฒิสภา) 08.00 – 17.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Saint-Sulpice หรือ นั่ง RER ลงสถานี Luxembourg
8. ย่านมงต์มาตร์ ( Montmartre )
ย่านมงต์มาตร์เป็น ที่เที่ยวปารีส ที่เป็นจุดต้นกำเนิดผลงานศิลปะของศิลปินมากมายในเมืองปารีสอยู่สุดเขตทางเหนือของปารีส มีลักษณะเป็นเนินเขาสูง 130 เมตร สำหรับสถาปัตยกรรมที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือมหาวิหารซาเครเกอร์ เป็นโบสถ์คาทอลิกที่ตั้งอยู่บนเนิน Montmartre ภายในโบสถ์ยังมีภาพโมเสกที่ใหญ่ที่สุดโลกอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในโลเคชั่นถ่ายทำซีรีย์ชื่อดัง Emily in Paris อย่างร้านอาหาร La Maison Rose โดดเด่นด้วยอาคารสีชมพูตัดด้วยหน้าต่างสีเขียวที่ไม่ว่าใครผ่านมาก็ต้องถ่ายรูปตามรอยซีรีย์ดันสักหน่อย หรือถ้าใครมาช่วงนี้เดือนตุลาคมจะมีเทศกาล Fetes de Vendanges เป็นเทศกาลเก็บเกี่ยวผลองุ่น ในงานมีทั้งพาเหรด แสดงดนตรีมีการเต้นรำบนถนนและแผงขายผลิตภัณพ์ที่เกี่ยวกับองุ่นด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : นั่ง Metro สาย 4 ลงสถานี Château Rouge หรือ Metro สาย 12 ลงสถานี Abbesses
9. ย่านกาตีเย่ลาแต็ง ( Latin Quarter )
เปลี่ยนมาเดินเล่นสไตล์วัยรุ่น ๆ กันบ้างที่ย่าน Latin Quarter เป็นย่านละตินทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำแซน ที่นี่มีนักเรียนนักศึกษาอาศัยอยู่กันมากเพราะมีโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเยอะ เลยเต็มไปด้วยบรรยากาศครึกครื้น สดใส วัยรุ่น ๆ หน่อย แน่นอนว่ามีร้านอาหารและบาร์อยู่เพียบ อย่างร้านขนมชื่อดัง Carl Marletti ร้านขนมหวานร้านนี้ได้รับรางวัลเยอะแยะเป็นได้ชื่อเป็นร้านขนมที่ดีที่สุดในปารีส หรือสาว ๆ อยากซื้อสกินแคร์ก็มีแหล่งราคาถูกที่สุดในปารีสด้วยนะชื่อว่า Monge Beauty Shop มีทั้งยา เครื่องสำอางและสกินแคร์ราคาถูกเพียบเลย เป็น ที่เที่ยวปารีส ที่ไม่ได้จบแค่เดินเล่นแน่นอนเพราะร้านเด็ด ๆ เพียบ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : นั่ง Merto สาย 7 ลงสถานี Place Monge
10. พิพิธภัณฑ์รอแด็ง ( Musee National Rodin )
อย่างที่บอกว่ามาฝรั่งเศสก็ต้องเที่ยวชมงานศิลปะ เปิด ที่เที่ยวปารีส ที่แรกกันที่พิพิธภัณฑ์สำคัญของฝรั่งเศส ที่นี่มีงานศิลปะหลากหลายรูปแบบทั้งภาพเขียน งานแกะสลักหินอ่อน ทองสัมฤทธิ์ ภาพถ่าย และศิลปะเชิงวัตถุมากกว่า 2,900 ชิ้น พิพิธภัณฑ์มีทั้งหมด 2 ชั้นแบ่งโซนให้เดินง่ายชัดเจน เช่น ห้องศิลปะงานปั้นหินอ่อน ผลงานชื่อ Le Baiser , ห้องภาพเขียน , ห้องภาพถ่าย เป็นต้น ซึ่งตามประตูเชื่อมต่อห้องอื่น ๆ จะมีงานแกะสลักอยู่ด้วย เรียกว่าทุกอย่างในพิพิธภัณฑ์เป็นงานศิลปะหมดเลยจริง ๆ งานศิลปะที่ห้ามพลาดเลยคือ The Thinker,The Kiss,The Walking Man,The Age Of Bronze
ค่าเข้าชม : คนละ 13 EUR
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.30 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 13 ลงที่สถานี Varenne จากนั้นเดินต่อ 3 นาที
11. พิพิธภัณฑ์ปีกัสโซ ( Musee Picasso )
ศูนย์งานศิลปะที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ปีกัสโซใจกลางปารีสและเป็นที่เที่ยวฝรั่งเศสที่ถูกยกย่องให้เป็นอนุสรณ์สถานประวัติศาสตร์ในปี 1986 ซึ่งโด่งดังจากภาพเขียนจากบาโบล ปีกัสโซ นั่นเอง ในนี้ยังมีผลงานของปีกัสโซในหลายช่วงชีวิตเขาเลยนะ งานแต่ละชิ้นมีความหมายลึกซึ้งไม่ว่าจะเป็นผลงานชื่อ blue period เป็นช่วงเวลาที่ปีกัสโซกำลังโศกเศร้าจากการสูญเสียเพื่อนรัก ภาพเขียนของเขา ณ ช่วงเวลานั้นเลยใช้สีฟ้าเป็นหลักนั่นเอง ในพิพิธภัณฑ์จะมีผลงานตั้งโชว์และเก็บสะสมไว้กว่า 5,000 ชิ้น ทั้งภาพถ่าย ประติมากรรม รูปวาด สีน้ำ งานแกะสลัก หรือแม้แต่งานภาพสเก็ตช์
ค่าเข้าชม : คนละ 14 EUR (เข้าฟรีทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน)
เวลาเปิด-ปิด : 10.30 – 18.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Saint-Paul หรือรถบัสสาย 20, 29, 65, 69, 75, 96
12. โบสถ์แซงท์ ชาแปลล์ ( Sainte-Chapelle )
เป็น ที่เที่ยวปารีส ใจกลางเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โบสถ์แซงท์ ชาแปลล์จะตั้งอยู่ในเขตพระราชวังกลางแม่น้ำแซนเป็นโบสถ์เก่าแก่นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ใช้จัดเก็บเครื่องมือใช้ทรมานพระเยซูหรือเรลิกแห่งแซงท์ ชาแปลล์นั่นเอง โบสถ์ใช้สถาปัตยกรรมแบบแรยอน็อง สวยงามมาก ภายในตกแต่งด้วยกระจกสะท้อนลวดลายที่หาชมได้ยาก ส่วนด้านบนจะเป็นหน้าต่างกุหลาบและภาพวาดที่กล่าวถึงพระเยซูและเรลิก นอกจากความสวยงามแล้วยังถือเป็นศิลปะที่หาชมได้ยากมากเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่คนละ 11.50 EUR อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 9.00 – 18.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 4 ลงสถานี Cite
13. พิพิธภัณฑ์ออร์แซ ( musee d orsay )
ถ้าใครได้มีโอกาสล่องเรือชมแม่น้ำแซนแล้วเห็นอาคารที่แสนจะสะดุดตาคล้ายสถานีรถไฟละก็ ที่นั่นคือพิพิธภัณฑ์ออร์แซ เป็นแหล่งรวบรวมงานศิลปะภาพเขียน งานปั้น และผลงานศิลปะแนวอิมเพรสชั่นนิสต์ชื่อดังมากมาย กว่า 2, 000 ชิ้นมีผลงานของศิลปินระดับโลกเพียบเลยเช่น Degas, Manet, Monet, Van Gogh, Renoir งานศิลปะที่ไม่ควรพลาดได้แก่ผลงานจากแวนโก๊ะ Starry Night Over the Rhone,The Starry Nigh,Self-portrait ผลงานจาก Claude Monet อย่าง Poppy Field หรือ Water “Llilies” เป็นต้น
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 16 EUR อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 9.30 – 18.00 น. (ปิดวันจันทร์)
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ RER ลงสถานี Musée d’Orsay
14. สวนสาธารณะบิท-โชมองต์ ( Parc des Buttes-Chaumont )
พาไปเดินเล่นสวนสาธารณะที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของปารีส เขาบอกว่าสมัยก่อนพื้นที่ตรงนี้เป็นป่ารกร้างแต่นโปเลียนที่ 3 และบารอน Haussmann ต้องการสร้างสวนไว้ให้ชนชั้นกรรมกรในการพักผ่อนก็เลยดำเนินการสร้างขึ้นมา ใช้เวลาสร้างอยู่ 4 ปี เลยนะ เปิดให้เข้าใช้บริการครั้งแรกปี 1867 ในสวนนี้มีทะเลสาบเทียมอยู่ตรงกลางและล้อมไปด้วยเนินเขาซับซ้อนกับต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ ไฮไลต์คือ วิหาร Temple de la Sibylle ซึ่งเป็นการจำลองเทวสถานเวสตา เทวสถานโรมันโบราณของอิตาลีนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีสะพานแขวน และถ้ำอีกด้วย ใครเบื่อเดินในเมืองก็มาเดินเล่นชิล ๆ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวฝรั่งเศส ธรรมชาติ ที่ร่มรื่นที่เดียวล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 21.00 น.
วิธีการเดินทาง : รถไฟฟ้าใต้ดินลงที่สถานี Buttes Chaumont
15. สวนสาธารณะตุยเลอรี ( Jardin des Tuileries )
ที่เที่ยวปารีส ที่ต่อมายังคงเป็นสวนสาธารณะอีกหนึ่งแห่งซึ่งอยู่ขั้นกลางระหว่างจัตุรัสคองคอร์ดและพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ บอกเลยว่าเราจะได้เดินเล่นในบรรยากาศที่เหมือนอยู่ในวังเพราะเดิมที่ตรงนี้เป็นสวนของพระราชวังตุยเลอรี ถูกเปิดให้เป็นสวนสาธารณะหลังการปฏิวัติฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 19-20 และเป็นสวนที่สวยที่สุดในปารีสเลยทีเดียว ซึ่งก็สวยมากจริง ๆ เพราะที่นี่ร่มรื่นทั้งดอกไม้และต้นไม้เยอะมาก คนฝรั่งเศสนิยมมาใช้วันหยุดนั่งพักผ่อนที่นี่แหละ อ่านหนังสือบ้าง ปิกนิกบ้าง แถมยังมีประติมากรรมระดับโลกตกแต่งอยู่ในสวนนี้ด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 21.00 น.
วิธีการเดินทาง : รถไฟฟ้าใต้ดินลงที่สถานี Concordes หรือ Tuileries ก็ได้
16. สวนลอยฟ้า คูเล่ เวทเต้ ฮอนเน่ ดูมองท์ ( Coulee verte Rene-Dumont )
ที่นี่ถูกสร้างให้มีความแปลกใหม่เข้าด้วยกันคือผสมผสานระหว่างป่าดงดิบคู่กับทางรถไฟภูมิทัศน์ทันสมัยยาว 4.5 กิโลเมตรเพราะแต่เดิมตรงนี้เป็นรางรถไฟเก่านั่นเอง เป็นแลนด์มาร์คความร่มรื่นรูปแบบใหม่กลางปารีสเลยก็ว่าได้ ที่นี่จะมีดอกไม้ ต้นไม้หลายสายพันธุ์ตลอดทางเดินเขาว่าเปรียบเหมือนเดินอยู่ในวันเดอร์แลนด์เลยล่ะ สวนลอยฟ้านี้มีทางเข้าออกหลายทางสามารถเดินไปทะลุได้หลายสถานที่ทั้งทางเชื่อมต่ออุโมงค์ สะพาน และแหล่งการค้าย่านช้อปปิ้งอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวฝรั่งเศสที่ทำแนวคิดออกมาได้ทันสมัยมากเลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 21.30 น. ( หน้าหนาวเปิดถึง 17.30 น. )
วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดินสถานีลงสถานี Bastille
17. คลองเดอลาอูร์ค ( Canal de l’ Ourcq )
สถานที่ชิล ๆ ในปารีส บริเวณนี้จะเป็นคลองเดอลาอูร์ค จริง ๆ จะเชื่อมต่อไปอีก 2 คลองนะ แต่รอบ ๆ บริเวณนี้มีร้านค้าและพื้นที่ให้เดินเล่นชมบรรยากาศมากกว่า เดิมที่คลองเส้นนี้ใช้เป็นทางขนส่งทั้งการค้าและขนส่งสาธารณะเลย แต่ด้วยความทันสมัยเข้ามาแทนที่ขนส่งแบบเรือ ปัจจุบันนี้เลยกลายเป็นที่พักผ่อนเสียมากกว่า รอบ ๆ คลองเขาก็ทำเส้นแบ่งทางเดินทางวิ่งไว้ด้วยนะ สำหรับใครชอบออกกำลังกาย แล้วก็มีบริการเช่าเรือปั่นเป็ดด้วย ธรรมชาติระหว่างทางก็เลิศมากมีน้องเป็ดน้องห่านลอยมาต้อนรับด้วย ก็เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวฝรั่งเศสสไตล์ชิล ๆ แบบเดินเล่นเงียบ ๆ แก้เซ็ง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 8 ไปลงที่ Mitry Claye จากนั้นต่อรถบัสสาย 9 ไปลงที่ป้าย Centre แล้วเดินต่ออีกประมาณ 12 นาที
18. หอคอย มงต์ปาร์นาส ( Montparnasse Tower )
รีวิวเที่ยวฝรั่งเศสกับวิวกรุงปารีสแบบ 360 องศา เวลาไปเที่ยวเราก็มักจะมองหาจุดชมวิวของเมืองนั้น ๆ เนอะ สำหรับ ที่เที่ยวปารีส ก็ต้องเป็น Montparnasse Tower นี่แหละ ตึกที่สูงที่สุดของฝรั่งเศส และยังสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 13 ของยุโรปด้วย ถ้ามองจากที่สูงจะเห็นเลยว่าตึก Montparnasse Tower อยู่ตรงข้ามกับหอไอเฟล และสามารถเห็นวิวมุมสูงของปารีสได้ 360 องศาทำให้ที่นี่เป็นจุดยอดฮิตในการชมวิวเมืองปารีสนั้นเอง ที่นี่มีทั้งหมด 59 ชั้น นอกจากจุดชมวิวแล้วก็ยังมีร้านอาหาร บาร์ แหล่งช้อปปิ้งอีกด้วย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 15 EUR / เด็ก 7.50 EUR
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 23.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4,12,13 ลงสถานี Paris Montparnasse ออกมาทางชั้น 1 จะเห็นป้ายบอก Tour Montpanrnesse
19. ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม ( The Centre Pompidou )
ที่เที่ยวฝรั่งเศสแห่งนี้ถูกสร้างโดยประธานาธิบดี Georges Pompidou ที่เขาต้องการให้ปารีสมีศูนย์กลางของวัฒนธรรม ที่นี่ก็เลยเป็นศูนย์กลางการสร้างสรรค์ศิลปะทุกอย่าง ทั้งพิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด ฮอลล์เพื่อจัดการแสดงดนตรี ร้านขายของ จนถึงภาพยนตร์ มีทั้งหมด 6 ชั้นโดยแต่ละขั้นจะมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือการไปชมวิวชั้นบนสุด จะได้เห็นหอไอเฟล วิหาร Sacr’ e-Coeur แห่งมงมาตร์ และตึกรามบ้านช่องมุมกว้าง สำหรับนิทรรศการต่าง ๆ จะจัดหมุนเวียนกันไป ช่วงนี้มีนิทรรศการที่น่าสนใจคือ Museum: Modern and Contemporary Collection จัดแสดงยาว ๆ ถึงสิ้นปีนี้เลย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 18 EUR / เด็ก 15 EUR
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 22.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Rambuteau หรือรถบัสสาย 21, 29, 38, 47, 58, 69, 70, 72, 74, 75, 76, 81, 85, 96
20. ล่องเรือ Bateaux Mouches
อีกหนึ่งกิจกรรมฮิตของการเที่ยวปารีสคือล่องเรือแม่น้ำแซน เดี๋ยวจะพาไปรีวิวเที่ยวปารีสให้ฟังว่าทำไมไม่ควรพลาดกับกิจกรรมล่องเรืองแม่น้ำแซน บอกก่อนว่าทริปพานักท่องเที่ยมชมสองฝั่งแม่น้ำแซนเนี้ยมีมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1867 เลยนะ ซึ่งมีนักท่องที่ยวกว่า 2 ล้านคนต่อปีเลยด้วย ทริปล่องเรือ บาโต มูช จะล่องเรือพาเราผ่านสถานที่สำคัญของฝรั่งเศส เช่น หอไอเฟล,พิพิธภัณฑ์ดอร์เซ,เกาะกลางแม่น้ำแซน อีลแซ็ง-หลุยส์,มหาวิหารนอเทรอดาม,พิพิธภัณฑ์ลูฟร์,ประตูชัยฝรั่งเศส ช่วงเวลาที่แนะนำคือตอนกลางคืนเพราะจะได้เห็นสถานที่ต่าง ๆ ในยามค่ำคืนเปิดไฟสวยงามโรแมนติกมาก ๆ เลย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่คนละ 13.5 EUR / เด็กคนละ 6 EUR (สำหรับล่องเรืออย่างเดียว)
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 22.30 น. (เวลาล่องเรือรอบละ 1 ชั่วโมง)
วิธีการเดินทาง : เดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน Metro ลงสถานี Alma-Marceau สาย 9
21. สะพานปงต์เนิฟ ( Pont Neuf )
สะพานข้ามแม่แซนที่เก่าแก่ที่สุดในปารีสกับสะพานปงต์เนิฟ เชื่อมต่อเมือง 37 เมืองรวมถึงสองฝากฝั่งแม่น้ำเซนเข้าหากัน ความพิเศษคือสะพานถูกสร้างด้วยเทคโนโลยีและศิลปะแบบโรมันของสมัยพระเจ้าอ็องรีที่ 3 ปี ค.ศ. 1578 ใช้เวลาสร้างกว่า 30 ปี ซึ่งก็สร้างเสร็จในสมัยพระเจ้าอ็องรีที่ 4 ปี ค.ศ.1607 พอดี และความพิเศษอีกอย่างของสะพานปงต์เนิฟก็คือความเชื่อที่ว่าคู่รักใดที่มาสะพานแห่งนี้อธิฐานเรื่องความรัก พร้อมคล้องกุญแจร่วมกันและโยนลูกกุญแจทิ้งลงในแม่น้ำเซนความรักของทั้งคู่จะอยู่ไปตลอดกาล ก็เลยเป็นจุดหมายสำคัญของคู่รักหลาย ๆ คู่ด้วยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Pont Neuf ได้เลย
22. สะพานอะเลคแซนเดอร์ที่ 3 ( Pont Alexandre III )
รีวิวเที่ยวปารีสพามาเที่ยวสะพานสำคัญของเมืองปารีสอีกหนึ่งที่กับสะพานอะเลคแซนเดอร์ที่ 3 เป็นหนึ่งในสะพานที่สวยงามและมีการประดับตกแต่งมากที่สุดของเมือง ความพิเศษคือเป็นการก่อสร้างให้ไม่มีเสาค้ำบริเวณแม่น้ำ และสูงห่างจากน่านน้ำ 6 เมตรและใช้เพียงแค่เหล็กกล้าในการประกอบสะพานนี้เท่านั้น ส่วนความสวยงามที่ต้องมาเยือนก็คือบนตัวเสาของสะพานถูกประดับด้วยโคมไฟที่เป็นรูปปั้นของเหล่าเทพและเหล่าสัตว์สวรรค์ เป็นศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ส่วนจุดฮิตที่นักท่องเที่ยวชอบถ่ายรูปกันก็จะเป็นมุมเสาหลักที่มีรูปปั้นม้าเทพเพกาซัสสีทองนั่นเองแถมยังเป็นมุมที่ไม่มีสิ่งกีดขวางมาบังวิวของสองฝั่งทางด้วยนั่นเอง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Invalides หรือ สถานี Champs-Élysées – Clemenceau ก็ได้
23. โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย ( Palais Garnier )
พูดง่าย ๆ ก็คือที่นี่เป็นโอเปร่าเฮาส์ หรือโรงละครที่ใช้สำหรับการแสดงโอเปร่านั่นเอง สร้างแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูบาโรก ส่วนข้างในก็คือหรูแบบตะโกนตกแต่งปราณีตและวิจิตรมาก ๆ โดยรวมจะใช้หินอ่อนหลากหลายสีในการแกะสลักเป็นแนวกรีกโรมัน ส่วนอีกจุดที่เป็นไฮไลต์คือเพดานเป็นประติมากรรมติดทอง ภายในของโรงละครที่เห็นระเบียงและบันไดมีประติมากรรมจากทองสำฤทธิ์ ส่วนโซนแสดงคือต้องอ้าปากค้างรอบ ๆ เขาตกแต่งด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงยาวไปผนังเลยคลาสสิคมาก ทุกวันนี้ยังมีโชว์ Orchestra และบัตเล่ต์ อยู่ด้วยนะ เป็นที่เที่ยวฝรั่งเศสยอดฮิตที่อีกหนึ่งที่เลย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 14 EUR / เด็ก 11 EUR
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 17.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ Metro มาลงที่สถานี Opera เดินออกจาก Metro จะมีป้ายบอก ทางออกไปยัง Palais Garnier
24. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Fondation Louis Vuitton
ทุกคนน่ารู้จักแบรนด์ดังอย่าง หลุยส์ วิตตอง อยู่แล้วเนอะ แต่ว่าที่นี่ไม่ได้สร้างขึ้นมาเฉพาะจัดแสงสินค้าจาก หลุยส์ วิตตอง อย่างเดียวเท่านั้นนะ แต่ยังเป็นหอศิลป์ที่เขาต้องการให้เป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะหลากหลายแขนง ที่โดดเด่นเลยก็คือตัวอาคารนี่แหละ ออกแบบให้คล้ายกับเรือใบที่กำลังแล่นกินลมอยู่ ข้างในจะแบ่งเป็นโซน มีทั้งงานแสดงผลงานศิลปะของแบรนด์ Louis Vuitton,งานประติมากรรม,งานแสดงภาพเขียนและงานดนตรี เป็นต้น ส่วนการจัดแสดงก็ผลัดเปลี่ยนกันไปไม่มีซ้ำเลย เป็น ที่เที่ยวปารีส ของคนชอบงานศิลปะและแฟนคลับ หลุยส์ วิตตองได้ดีเลย
ค่าเข้าชม : แล้วแต่นิทรรศการที่ต้องการชมราคาประมาณ 7 – 16 EUR
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 20.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Les Sablons ออกประตู Fondation Louis Vuitton แล้วเดินต่อมา 10-15 นาที
25. สวนสนุกดิสนี่ย์แลนด์ ปารีส ( Disneyland Paris )
พลาดไม่ได้จริง ๆ นะ มาปารีสก็ต้องแวะ ที่เที่ยวปารีส ยอดฮิตอย่างดิสนี่ย์แลนด์สักหน่อย ความพิเศษคือที่นี่เป็นดิสนี่ย์แลนด์ที่เดียวในยุโรปเลยเธอ จะมี 2 ปาร์คใหญ่ ๆ คือ Disneyland Park มีปราสาทเจ้าหญิง มีโซนเครื่องเล่น และโซนย่อยเล็ก ๆ ข้างในเช่น Fantasy Zone Alice เมืองมหัศจรรย์, Discovery Land รถไฟเหาะ เป็นต้น ส่วนอีกหนึ่งปาร์คคือ Walt Disney Studios Park จะเป็นโซนจำลองโรงถ่ายภาพยนตร์ของดิสนี่ย์ มีตัวละครตัวการ์ตูนต่าง ๆ ลืมโลกภายนอกไปเลยแหละ นอกจากนี้ก็มีโรงแรมและร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้า
ค่าเข้าชม : ตั๋วแบบ 1 วัน เข้า 2 ปาร์ค ผู้ใหญ่ 130 EUR / เด็ก 122 EUR
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 22.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ RER สาย A นั่งสุดสายเลยลงที่สถานี Parc Disneyland
26. ชมผลงานของ Van Gogh ( Atelier des Lumieres )
มาเที่ยวฝรั่งเศสก็ต้องไม่พลาดแวะไปเดินหอศิลป์นะ ที่นี่คือหอศิลป์ที่แรก ๆ ของเมืองปารีสเลยที่จัดแสดงศิลปะแบบ Digital Art ใครไม่อินกับศิลปะสมัยก่อนเป็นภาพวาดเดินขมเงียบ ๆ ลองเปลี่ยนมุมมองมาชมแบบ Digital Art ทันสมัยดูนะ พอเข้ามาแล้วจะรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่งเลยล่ะเพราะงานศิลปะแบบดิจิทัลนี้จะครอบคลุมไปทั้งสถานที่จัดแสดงโชว์ ตั้งแต่กำแพง เสา ไปจนถึงพื้นที่ใช้ยืนอยู่กันเลย นอกจากนี้บางโซนก็จะมีดนตรีเล่นพร้อมกับฉายภาพไปด้วย รับรองว่าเป็นการชมงานศิลปะรูปแบบใหม่ที่น่าเบื่อแน่นอน
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่คนละ 14.50 EUR / เด็กคนละ 9.50 EUR
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 22.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Voltaire หรือ Saint-Ambroise (สาย 9) Rue Saint-Maur (สาย 3) หรือ Père Lachaise (สาย 2)
27. ห้างสรรพสินค้าลาฟาแยตต์ ( Galeries Lafayette )
งานช้อปปิ้งเราจะได้พลาดได้อย่างไร ที่เที่ยวปารีส ที่ต่อมาพาไปดูแหล่งช้อปปิ้งกันบ้าง ที่นี่เป็นห้างหรูที่ดังที่สุดแห่งหนึ่งในปารีส ไม่ได้มีดีแค่ห้างดังนะแต่งานสถาปัตยกรรมและการตกแต่งคือสวยเริ่ด โดยเฉพาะหลังคาโดมภายในตัวโถงอาคารเป็นโครงเหล็กประดับกระจกสีมีลวดลายสไตล์อาร์ตนูโว อลังการไม่ไหว มาเรื่องช้อปปิ้งกันบ้างห้างจะเป็น 3 โซนใหญ่ ๆ คือ โซนหลักจะมีสินค้าแบรนด์เนมและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โซนผู้ชาย เน้นเสื้อผ้าของใช้คุณผู้ชายไม่ใช่ของแบรนด์เนมและมีร้านกาแฟ ขนม แอลกอฮอล์ โซนสุดท้ายจะเรียกว่า Masion ขายเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านนั่นเอง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 19.30 น. (วันอาทิตย์เปิดถึง 21.00 น.)
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 7 หรือสาย 9 ลงสถานี Chaussee d’ Antin La Fayette พอเดินออกมาจากสถานีนิดหน่อยก็จะเห็นตัวห้างเลย
28. ห้างสรรพสินค้า La Samaritaine
ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ตั้งแต่ปีค.ศ. 1870 La Samaritaine ที่ถูกนำปรับปรับให้มีชีวิตอีกครั้ง เต็มไปด้วยร้านค้าระดับพรีเมียมกว่า 600 แบรนด์ 12 ร้านอาหารและโรงแรม Cheval Blanc Paris ที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อยู่ที่ผสานทั้งความเก่าแก่ โมเดิร์น แฟชั่นและศิลปะ ที่สำคัญห้างยังอยู่ในย่าน Les Halles ที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย พูดง่าย ๆ คือเดินช้อปเสร็จแล้วก็ยังแว๊บไปเที่ยวสถานที่ใกล้ ๆ ได้ในคราวเดียวกันเลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 20.00 น.
วิธีการเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดคือ Pont Neuf สาย 7
29. แหล่งช้อปปิ้งย่าน เล ปาสซาจส์ คูแวร์ ( Les Passages Couverts )
เป็นย่านช้อปปิ้งย่านร้านค้าในปารีส ในสมัยก่อนตรงนี้เป็นเหมือนทางเดินผ่านไว้ให้คนหลบฝน มีร้านอาหารเล็ก ๆ ร้านขายขนมเล็ก ๆ เท่านั้น แต่ทุกวันนี้กลายเป็นย่านช้อปปิ้งไปแล้ว จะออกแนวยุโรปวินเทจหน่อย ๆ นะ มีร้านขายหนังสือ ร้านกาแฟ ร้านอาหารชื่อดัง โปสการ์ด ฯลฯ ความพิเศษก็ที่นี่ก็น่าจะเป็นบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกว่าอยู่ยุโรปมาก ๆ ทั้งสไตล์การแต่งร้าน โคมไฟประดับ อาหาร หรือหลังคากระจกนี่ได้บรรยากาศจริง ๆ ใครหา ที่เที่ยวปารีส ที่ถ่ายรูปสวย ๆ มาที่นี่ได้เลย ไม่ผิดหวัง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ส่วนมากร้านค้าเปิด 10.00 – 23.00 น. โดยประมาณ
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Palais Royal – Musée du Louvre ออกทาง Passage Richelieu แล้วเดินต่อประมาณ 300 เมตร
30. แหล่งช้อปปิ้ง Passage Choiseul
เที่ยวปารีสด้วยเส้นทางเดินสุดวินเทจมีมาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ด้านในก็มีร้านค้ามากมายทั้งร้านอาหาร ร้านหนังสือ หอศิลป์เล็ก ๆ ร้านค้าเครื่องประดับ ร้านเสื้อวินเทจ ร้านทำผมส่วนด้านบนเป็นที่พักอาศัย เรียกได้ว่าเป็นย่านที่รวมของสไตล์วินเทจเอาไว้แหละ และยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในการถ่ายทำซีรีย์ Emily in Paris ด้วยนะ ใครเป็นแฟนซีรีย์ก็มาถ่ายรูปตามรอยซีรีย์ไปลงไอจีเก๋ ๆ ได้เหมือนกัน
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Pyramides และเดินต่ออีก 5 นาที
31. ตลาดอาลิเกร ( Marche d Aligre )
ไปเดินตลาดแบบชาวปารีสกัน ใครไปเที่ยวปารีสแล้วมีโอกาสทำอาหารกินเองแต่ยังไม่มีแหล่งซื้อวัตถุดิบละก็มาที่นี่เลย เป็นตลาดสดที่มีครบทุกอย่างและชาวปารีสก็นิยมมาซื้อของที่นี่เหมือนกันซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในปารีสเลยด้วยนะ ที่นี่มีทั้งของสด ผลไม้สด ดอกไม้ และอาหารชื่อดังของฝรั่งเศสที่นี่ก็มี ทั้งไวน์ ตับห่าน ชีส ขนมปัง ขนมอบต่าง ๆ หรือใครสายถ่ายภาพอยากได้ภาพวิถีชีวิตคนปารีสก็มาเก็บรูปสวย ๆ ที่นี่ได้เหมือนกันนะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 14.30 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ลงที่สถานี Reuilly – Diderot แล้วเดินต่อ 900 เมตร
32. พิพิธภัณฑ์คาเฟ่สุดโรแมนติค ( Musee de la Vie Romantique )
มองแทบไม่ออกว่านี่คือพิพิธภัณฑ์ ที่นี่เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ที่จะรวบรวมของใช้ต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นความเป็นอยู่ของผู้คนเมื่อประมาณ 200 ปีที่แล้ว เจ้าของคือคุณ Ary Scheffer เป็นจิตรกรจากประเทศเนเธอร์แลนด์และย้ายมาอยู่ปารีสเมื่อปี 1811 ที่นี่มี 2 ชั้น โดยจะมีทั้งเฟอร์นิเจอร์ กรอบรูป ภาพวาด เครื่องดนตรี ฯลฯ ในสมัยก่อนเก็บไว้เพียบ แถมด้านล่างยังมีคาเฟ่ร้านเบเกอร์รี่โฮมเมดให้ลองชิมด้วย รอบ ๆ ก็ยังมีสวนไว้ให้เดินเล่นหรือนั่งจิบชาพักผ่อนในสวนได้ด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 12 ลงสถานี Saint-Georges หรือสาย 2 ลงสถานี Pigalle ก็ได้เหมือนกัน
33. ทางรถไฟเก่า Petite Ceinture ( La Petite Ceinture )
เป็นเส้นทางรถไฟที่ถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่ปี 1934 ปัจจุบันนี้เขารีโนเวทใหม่บางส่วนกลายเป็นคล้าย ๆ คอมมูนิตี้ท่ามกลางธรรมชาติอะไรแบบนี้อ่ะ เรียกว่าเป็น ที่เที่ยวปารีส ที่น่าสนใจเลยล่ะ ตรงนี้บางคนเขาเรียกว่าเป็นสถานที่ที่ถูกซ่อนอยู่ในปารีสอะไรแบบนี้ มีการจัดเวิร์คช็อปต่าง ๆ สลับเวียนไปทุกเดือน มีตลาดนัดขายสินค้าทางการเกษตรและบางเดือนมีพาทัวร์รอบทางรถไฟสายเก่าด้วยเล่าความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเส้นทางรถไฟ Petite Ceinture ค่อนข้างยาวนะ จะมีทั้งจุดที่ถูกรีโนเวทแล้วและบางจุดยังปล่อยให้รกร้างอยู่เป็นโลเคชั่นของช่างภาพหลายคนเหมือนกัน
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ RER สาย B ไปลงที่สถานี Cité Universitaire
34. สุสานใต้ดินปารีส ( Les Catacombes )
ไปดูที่เที่ยวฝรั่งเศสแปลก ๆ กันบ้าง ลักษณะคือเป็นอุโมงค์ใต้ดินที่มีซากกระดูกมนุษย์กองเรียงเป็นกิโลเมตรซึ่งมาจากมนุษย์กว่า 6 ล้านคน ถือเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ ฝรั่งเศสได้เลย เรื่องก็คือที่นี่เป็นสุสานใต้ดินมีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 ก่อนหน้านี้เป็นแค่ช่องทางเดินขนของเข้าไปส่งในเมือง แต่หลัง ๆ มาสุสานรอบนอกขาดพื้นที่ในการฝั่งศพมีปัญหาเรื่องกลิ่นและภาพที่ไม่ชวนมองมาก ๆ อยู่หลายปี จนวันหนึ่งเจ้าของเหมืองอุโมงค์เสนอให้รัฐบาลเอาอุโมงค์เป็นพื้นที่จัดการศพก็เลยขนย้ายศพเข้ามาเรียงเก็บในนี้เป็นชั้นกำแพงจนกลายเป็นซากกระดูกอย่างที่เห็น ปัจจุบันก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลอน ๆ เปิดให้เข้าชมกันนี่แหละ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 29 EUR / เด็ก 5 EUR
เวลาเปิด-ปิด : 09.45 – 20.30 น.
วิธีการเดินทาง : เดินทางด้วยรถไฟ RER ลงสถานี Denfert-Rochereau
35. คลองแซงต์มาร์แตง ( Canal Saint-Martin )
พิกัด ที่เที่ยวปารีส สุดท้ายปิดจบด้วยการเดินเล่นชิล ๆ ที่คลองแซงต์มาร์แตง คลองเก่าแก่ของปารีส ที่นี่เป็นแหล่งพักผ่อนยอดฮิตของคนปารีสเลยก็ว่าได้คลองนี้ยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ขุดตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในกรุงปารีสนั่นเอง ปัจจุบันก็เป็นพื้นสาธารณะมีทั้งคนมาวิ่งออกกำลังกายในหน้าร้อนและด้วยสภาพแวดล้อมที่เย็นสบายมีต้นไม้ใหญ่ทำให้เป็นที่เดินเล่นโรแมนติก ๆ อีกหนึ่งที่ในปารีสเลยล่ะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานี République ออกทาง R. du Fbg du Temple แล้วเดินต่อประมาณ 300 เมตร
เที่ยวฝรั่งเศสด้วย YouTrip ประหยัดกว่า
แจกเคล็ดลับไปเที่ยวปารีสให้คุ้มอิ่มใจด้วย YouTrip อิ่มใจขนาดไหนมาดูกัน ตั้งงบเที่ยวฝรั่งเศสครั้งนี้ไว้ที่ 1,390 EUR หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะเป็นเงิน 51,694 บาท แต่ถ้าจ่ายด้วย YouTrip จะเป็นเงินเพียง 49,971 บาท ประหยัดได้ถึง 1,723 บาท กันไปเลย เพราะ YouTrip ให้เรทที่ถูกและไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% นั่นเอง
เท่านั้นยังไม่พอ! และเพื่อให้การไปเที่ยวฝรั่งเศสครั้งนี้ให้สะดวกมากขึ้น ขอแนะนำผู้ช่วยอย่าง YouTrip Perks ใครอยากคุ้มสามารถใช้จองโรงแรมหรือโฮสเทลผ่าน Agoda หรือจองตั๋วเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ก็ได้เงินคืนเพิ่มสูงสุด 10% ด้วยนะ
เรียกได้ว่าปารีสเป็นเมืองที่มีความหลากหลายมาก ๆ ที่เห็นได้ชัดก็คงจะเป็นงานศิลปะและแฟชั่นที่ผสานกันได้อย่างลงตัวสุด ๆ และนี่ก็คือ เที่ยวปารีส จุดฮิตจุดดังที่ห้ามพลาดเมื่อไปถึงฝรั่งเศสนะ บอกเลยแต่ละที่มีความพิเศษในตัวเองมาก ๆ ใครชอบสไตล์ไหนเลือกได้เลยทั้งเดินเล่น ล่องเรือ ชมศิลปะ หรือช้อปปิ้งเราก็ทำรีวิวเที่ยวปารีสมาให้ครบ และอย่าลืมพก YouTrip ไปด้วย เพราะ ใช้จ่าย เรทดี ทุกที่ทั่วโลก แถมไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% เวลาใช้จ่าย ที่สำคัญจัดโปรคืนเงินให้ตลอดปี รีบสมัครเลย!