เมื่อพูดถึงสถานที่ชมซากุระในญี่ปุ่น หลายคนยังเลือกไม่ถูกว่าจะไปที่ไหนดี แต่ละที่มีความงดงามที่ไม่เหมือน แต่ถ้าใครไปสายธรรมชาติ รักสถานที่โบราณ เราขอแนะนำให้มาเที่ยวเกียวโต โอซาก้า เพราะที่นี่เป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมหลายอย่าง แถมมีวัดศาลเจ้าแบบโบราณมากมาย ยิ่งเป็นช่วงซากุระ ยิ่งสวยทวีคูณ มาดูกันว่า 5 วัน 4 คืน เราพาคุณไปที่ไหนบ้าง
พยากรณ์ซากุระ เกียวโต 2020
เพราะดอกซากุระเป็นดอกไม้ที่เปราะบาง บานในระยะสั้น เซนซิทีฟสภาพอากาศค่อนข้างสูง แค่อุณหภูมิเปลี่ยนนิดเดียวสามารถทำให้ซากุระร่วงได้เลย ฉะนั้นพยากรณ์ซากุระถือว่าสำคัญมากเลย จากพยากรณ์ซากุระ เกียวโต โอซาก้า ฉบับแรก คาดการณ์ไว้ว่าจะบานเต็มที่ Full Bloom ในวันที่ 1 เมษายน 2020 บวกลบ 1 – 2 วัน หากใครสามารถลางานได้ให้ไปช่วงนี้เลย
ทริปนี้ต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง?
ค่าเครื่องบิน
อย่างแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ ตั๋วเครื่องบินไปลงสนามบินคันไซที่โอซากก้า ช่วงซากุระบาน ถือว่าราคาไม่แพงเลย บินไปวันที่ 30 มีนาคม 2020 กลับวันที่ 3 เมษายน 2020 รวมไปกลับ 9,095 บาทเอง ( ราคาจอง ณ วันที่ 17 มกราคม 2020)
ค่าที่พัก
สำหรับโรงแรมเราแนะนำให้นอนโอซาก้า 2 คืน เกียวโต 2 คืน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศและย่นระยะเวลาในการเดินทาง โดยแบ่งเป็น ดังนี้
คืนแรก – โอซาก้า
คืนที่สอง – เกียวโต
คืนที่สาม – เกียวโต
คืนที่สี่ – โอซาก้า
โรงแรมในโอซาก้าส่วนใหญ่ หากไปช่วงซากุระโรงแรม 3 ดาว เฉลี่ยคืนละ 800 – 1,000 บาท ต่อคน และสำหรับในเกียวโต โรงแรม 3 ดาว เฉลี่ยคืนละ 1,000 บาท ซึ่งใครที่อยากรู้ว่าจุดพักจุดไหนดีที่สุดเราจะแนะนำให้ในหัวข้อต่อไป
แต่ถ้าใครไม่อยากลากกระเป๋าเดินทางเปลี่ยนโรงแรมจะพักที่โอซาก้าที่เดียวก็ได้ ซึ่งใช้ระยะเวลานั่งรถไฟไปยังเกียวโตเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
ค่าอาหาร
ค่าอาหารในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไซส์ค่อนข้างใหญ่อยู่ที่ประมาณมื้อละ 750 – 1,000 JPY ราคาพอๆ กับอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทย กินจานเดียวอิ่ม ซึ่งในทริปนี้เราตีให้คุณ 14 มื้อ มื้อละ 300 บาท รวมค่าอาหารทั้งหมดควรจะสำรองเงินไว้ 15,000 JPY หรือจำนวน 4,500 บาท ซึ่งในบางมื้ออาจจะใช้ไม่ถึงที่กำหนดไว้ก็ได้
สำหรับสายประหยัด การทานข้าวจากซุปเปอร์มาเก็ตหรือร้านสะดวกซื้อ จะทำให้คุณประหยัดมากขึ้น สำรองเงินไว้ 10,000 JPY ไม่เกิน 3,000 บาท ก็อยู่แล้ว
เที่ยวโอซาก้า พักแถวไหนดี?
ที่พักในโอซาก้าบริเวณที่เราแนะนำคือแถว Dotonbori หรือ Shinsaibashi เพราะเป็นศูนย์กลางของเมือง เป็นแหล่งกินแหล่งช้อปปิ้ง มีสายรถไฟเยอะ ค่อนข้างเดินทางสะดวกสบาย โดยโรงแรมที่แนะนำในโอซากก้าคือ Hotel Shinsaibashi Lions Rock เป็นโรงแรม 3 ดาว อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ สามารถเดินถึงโรงแรมได้สบายๆ ราคาพัก 2 คน ห้องละไม่เกิน 1,714 บาท ต่อคืน ไม่รวมอาหารเช้า ตกคนละ 800 กว่าบาทต่อคืนเอง
เที่ยวเกียวโต พักแถวไหนดี?
โรงแรมในเกียวโตส่วนใหญ่ค่อนข้างแพง เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวและได้รับเป็นมรดกโลก ใครๆ ก็อยากมาพักที่นี่ สำหรับโรงแรมที่แนะนำคือ Kyoto Rich Hotel ราคาคืนละ 2,010 บาท พักได้ 2 คน เป็นโรงแรมที่วิวสวยติดกับแม่น้ำสายเล็กๆ ราคาถูกกว่าโรงแรมในระดับเดียวกัน
* ราคาจากเว็บไซต์ agoda วันที่ 18 มกราคม 2019
เที่ยวเกียวโต โอซาก้า : Day 1
หากบินถึงสนามบินคันไซช่วงเช้า เราแนะนำให้ใช้ Kansai Thru Pass เลย แค่นั่งรถไฟจากสนามบินเข้าเมืองก็ใช้ค่าใช้จ่ายไปเยอะแล้ว หลังจากฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมมาดูกันว่าทริปเที่ยวเกียวโต โอซาก้า วันแรกไปที่ไหนกันบ้าง
A: Kuromon Ichiba Market
เดินทางถึงตอนเช้า ท้องร้องจ๊อกๆ หิวใช่มั้ยล่ะ? เดินทางจากโรงแรมย่านชินไซบาชิ สู่ตลาด Kuromon Ichiba Market ที่เรียกว่าเป็นห้องครัวของโอซาก้า มีของกินอร่อยๆ ให้เลือกทานมากมาย รับรองว่าสดใหม่ จะกินแบบสด หรือ ปรุงสุก ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น ไข่หอยเม่น เนือโกเบย่าง เนื่อวากิว หอยเชลล์โฮตาเตะ ข้าวหน้าปลาแซลม่อน ทาโกะยากิ และที่ขาดไม่ได้ร้านซูชิ แต่ละเมนูน่าทานทั้งนั้น ลงสถานีรถไฟ Nippombashi ใช้ทางออกหมายเลข 9 เดินต่อจากสถานีรถไฟ 1 นาที
B: Osaka Castle
หลังจากเติมพลังกันแล้ว มาเดินชมดอกซากุระที่โอซาก้า ซึ่งมีจุดไฮไลท์เด็ดตรง สวนนิชิโนะมารุ จะมีซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะ ให้ชมถึง 300 ต้น งดงามจนไม่อยากกลับไทยเลย นอกจากจะได้ชมซากุระแล้ว ต้องไปถ่ายรูปกับปราสาทโอซาก้าให้ได้ ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ใครไม่มาถ่ายรูปเหมือนมาไม่ถึง ลงสถานีที่รถไฟ Tanimachi 4 – chome ทางออกหมายเลข 1B และ 9
ถ้าใครมีพลังเหลือยังสนุกกับการเที่ยวแนะนำให้เที่ยวช้อปปิ้ง ชินไซบาชิ หรือ กินข้าวเย็นที่โดทงโบริ แต่ถ้าใครเหนื่อยแนะนำให้กลับโรงแรมพักผ่อน เพราะวันต่อไปเราต้องเดินทางไกล
เที่ยวเกียวโต โอซาก้า : Day 2
เก็บกระเป๋าเดินทางออกจากโรงแรมไปยังโรงแรม Kyoto Rich Hotel ที่เกียวโต ลงสถานี Kiyomizu Gojo Station ให้ซื้อตั๋วรถไฟเป็นเที่ยวเองประมาณ 840 JPY ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที เมื่อฝากกระเป๋าที่โรงแรมแล้ว มาตะลุยทริปเที่ยวเกียวโต โอซาก้า วันที่ 2 กันเลย
C: Kiyomizu-dera
วัดคิโยะมิสุหรือคนไทยเรียกกันว่าวัดน้ำใส จะห่างจากโรงแรมราวๆ 20 นาที สามารถเดินไปได้เลย แต่ถ้าใครไม่ไหวสามารถนั่งแท๊กซี่หรือรถบัสก็ได้ โดยวัดแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมโบราณที่งดงาม จนยูเนสโกได้บันทึกให้วัดแห่งนี้ขึ้นเป็นมรดกโลก เป็นจุดชมซากุระที่ขึ้นชื่อของเกียวโตอีกด้วย
D: Keage Incline
มาเที่ยวเกียวโตกันต่อ อีกหนึ่งพิกัดชมซากุระในเกียวโตที่น่าสนใจ บนทางรถไฟสายเก่าที่ไม่เปิดให้บริการแล้ว ซึ่งสถานที่แห่งนี้มีดอกซากุระสีชมพูนับร้อยเรียงรายอยู่ริมทางรถไฟ 2 ข้างทางที่สวยมาก แถมยังมีจุดถ่ายรูปกับอุโมงค์รถไฟที่ดูวินเทจสุดๆ ใครที่มาโตเกียวพลาดไม่ได้นะ นั่งรถไฟไปยัง Keage Station ทางออกประตูหมายเลข 9 ได้รูปเก๋ๆ ไปอวดเพื่อนแน่ๆ
E: Philosopher’s Path
มาชมตามรอยซากุระญี่ปุ่นกันต่อ ให้เดินไปยัง Kogei Gallery & Salon Sayuu ( ใช้ Googlemap ) โดยข้างๆ จะมีแม่น้ำสายเล็กๆ นั่นก็คือจุดชมซากุระที่เรียกว่า ทางเดินนักปราชญ์ โดยตลอดเส้นทาง 2 กิโลเมตร จะเรียงรายไปด้วยต้นซากุระนับร้อยๆ ต้น ที่พากันพร้อมใจบานสะพรั่งพร้อมๆ กัน ดูแล้วโรแมนติกสุดๆ
F: Takenaka Inari Shrine
ปิดท้ายทริปเที่ยวเกียวโตวันที่ 2 กับศาลเจ้าเล็กๆ ที่มีชื่อว่า ศาลเจ้าทาเคนากะ อินาริ โดยศาลเจ้าแห่งนี้มีเสาแดง Torii ตั้งเรียงรายรายเหมือนศาลเจ้าชื่อดัง จะมีดอกซากุระสีขาวจะตัดกับเสาสีแดง งดงามดูเป็นญี่ปุ่นแบบแท้ๆ เลย
เที่ยวเกียวโต โอซาก้า : Day 3
G: Arashiyama Park
เริ่มเช้าวันใหม่กับทริปเที่ยววันที่ 3 เดินทางด้วยรถไฟไปยังสถานี Arashiyama เพื่อไปดูสวนป่าไผ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติชื่อดังของเกียวโต มีเส้นทางเล็กๆ ที่เรียงรายต้นไผ่ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ตลอดเส้นทางจะได้กลิ่นหอมของต้นไผ่ สำหรับใครที่ไม่อยากเดินจะมีมีรถลากโบราณคอยบริการด้วย
H: Kinkaku-ji
จากพิกัดแรกนั่งมาลงยังสถานี Emmachi Station เพื่อเดินทางมายัง วัดคินคะคุจิ เป็นวัดสุดเก่าแก่ ซึ่งเดิมเป็นที่ประทับของโชกุนอะชิกะงะ โยชิมิตสึ ในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซังมาก่อน หลังจากท่านโชกุนเสียชวิต ที่แห่งนี้จึงตกเป็นของลูกชายท่านโชกุนและได้เปลี่ยนเป็นวัดนิกายเซนแทน โดยที่เที่ยวแห่งนี้มีค่าเข้าชม 400 JPY บริเวณใกล้เคียงจะมีสวนดอกไม้ที่ชื่อว่า Haradani-en Garden สามารถแวะเข้าไปชมสวนซากุระได้ ค่าเข้าชมวันธรรมดา 1,200 JPY
เที่ยวเกียวโต โอซาก้า : Day 4
สำหรับทริปวันที่ 4 เราขอให้เช็คเอ้าท์ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน เพื่อไปเก็บสถานที่ไฮไลท์อีก 1 แห่งในเกียวโต ซึ่งพลาดไม่ได้เลย พร้อมแล้วลุยเลย
I: Fushimi Inari Shrine
ก่อนกลับโอซาก้าในช่วงบ่าย มาเก็บไฮไลท์ของเกียวโตที่เป็นแลนด์มาร์กชื่อดัง ถูกใช้เป็นโลเคชั่นในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง อย่าง Memoirs of a Geisha ที่คนไทยเรียกว่า วัดเสาแดง ที่หลายคนต่างตะลึงกับภาพที่สวยงามของเสาโทริอิสีแดง ที่เรียงรายกันเป็นนับหมื่นต้น ใครไม่มาถือว่ามาไม่ถึงเกียวโต นั่งรถไฟมาลงสถานี JR Inari หรือ สถานีรถไฟ Fushimi Inari ก็ได้
J: Shinsaibashi
จากเกียวโตกลับมายังโอซากก้า กับการช้อปปิ้งที่รอคอยบนเส้นทางที่ยาวกว่า 2 กิโลเมตร ที่เรียกว่า ชินไซบาชิ ร้านค้าเล็กๆ สองข้างทาง มีทั้งร้านค้าทั่วไปและแบรนด์ต่างๆ ทั้งเสื้อผ้า ลองเท้า กระเป๋า รวมไปจนถึงร้านขายของมือสอง ใครอยากได้อะไรจดลิสต์ไว้ในมือแล้วช้อปวนไปเลยจ้า ขอแนะนำให้ลงที่สถานี Namba เพราะจะได้เดินตั้งแต่ต้นซอย
เที่ยวเกียวโต โอซาก้า : Day 5
หากกลับไฟลท์บินช่วงเย็น ตอนเช้าเรายังพอมีเวลา แวะหาอะไรกินสักหน่อย
K: Dotonbori
ปิดท้ายทริปเที่ยวเที่ยวเกียวโต โอซาก้า อย่าลืมมาถ่ายรูปชูไม้ชูมือกับ ป้ายกูลิโกะ แถวบริเวณโดทงโบริ หากพูดถึงของกิน ที่นี่มีให้อาหารญี่ปุ่นให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ทั้ง ร้านปู Kani Dorak, ทาโกะยากิ ร้าน Creo-Ru , ราเมน ร้าน Dotombori Kinguemon , พิซซ่าญี่ปุ่น ร้าน Mizuno Okonomiyaki ล้วนแต่เป็นร้านอาหารชื่อดังทั้งนั้น ส่วนใหญ่ร้านจะเปิด 11 โมงเช้า
จบทริปเที่ยวเกียวโต โอซาก้า กันแล้วล่ะ สำหรับทริปนี้ไม่เกิน 20,000 บาท ไม่รวมช้อปปิ้ง คิดว่าพอ ใครที่อยากเพิ่มเติมสวนสนุก Universal Studio Japan อาจจะต้องตัดโปรแกรมออก 1 วัน แล้วใส่เข้าไปแทน สำหรับการใช้จ่ายในญี่ปุ่น เราแนะนำให้ใช้ YouTrip เพราะจะช่วยทำให้คุณได้เรทที่ดีกว่า มันใจทุกการใช้จ่ายไม่มีค่าธรรมเนียม สมัครวันนี้ฟรี ง่าย เพียง 3 นาที