blog

26 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน 2025 ยอดฮิต อากาศดี เที่ยวได้ไม่แพ้ฤดูอื่น

Writer
japan-summer
YouTrip blog

26 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน 2025 ยอดฮิต อากาศดี เที่ยวได้ไม่แพ้ฤดูอื่น

Writer
japan-summer


ญี่ปุ่นใครว่าต้องไปแต่ช่วงฤดูหนาวหรือใบไม้ผลิล่ะ รู้ไหมหน้าร้อนญี่ปุ่นก็มีดีเหมือนกัน ช่วงหน้าร้อนสำหรับญี่ปุ่นถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่นจะอยู่ช่วงเดือน มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม ข้อดีคือตั๋วเครื่องบินถูกลงเยอะจัด ๆ และนักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นมากเท่าฤดูกาลอื่น ๆ ฉะนั้นใครที่มีงบจำกัดอยากเที่ยวญี่ปุ่น หน้าร้อนคือตอบโจทย์ เดี๋ยววันนี้ YouTrip จะพาไปดู ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน กันว่ามีอะไรน่าสนใจ พร้อมบอกวิธีเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองแบบไม่ยากอีกด้วย



เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนเดือนไหน ?


ฤดูร้อน มิถุนายน – สิงหาคม เป็นช่วงที่จะมีฝนตกประปรายในช่วงต้นฤดู จากนั้นอุณหภูมิก็จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 27-35 องศา มีเทศกาลดอกไม้ไฟ และเทศกาลประจำเมืองของแต่ละเมืองเช่น เทศกาลคันดะ ที่โตเกียว เทศกาลเท็นจิน ที่โอซาก้า ถือเป็นฤดูกาลแห่งงานรื่นเริงก็ญี่ปุ่นเลยล่ะ

1. เทศกาลดอกไม้ไฟริมแม่น้ำซุมิดะ ( Sumida Fireworks Festival ) – โตเกียว

japan-summer

Photo by : tobu_japan_trip


เปิดที่แรกด้วยที่เที่ยวโตเกียว หน้าร้อนไปดูดอกไม้ไฟกว่า 20,000 ดอกกัน เทศกาลเก่าแก่ที่จัดต่อเนื่องมากกว่า400 ปีแล้วล่ะ ซึ่งเขาจะจัดในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคมของทุกปีจะมี 2 จุดที่ยิงดอกไม้ไฟคือในโตเกียว ก็คือ โตเกียวสกายทรี และ วัดเซนโซจิ เป็นเทศกาลดอกไม้ไฟยิ่งใหญ่อลังการและเรายังจะได้เห็นดอกไม้หลากหลายแบบทั้งStarmine ที่ยิงขึ้นพร้อมกันจำนวนมากในครั้งเดียว แบบแผง แปรตัวอักษร หรือตัวการ์ตูนอย่างหอยทาก ปลา อันปังแมน การ์ตูนโปเกมอน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการประกวดดอกไม้ไฟอีกด้วยนะ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนโดยเฉพาะเลยล่ะ

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : เริ่มจุดดอกไม้ไฟ 19.00 – 20.30 น. โดยประมาณ
การเดินทาง : นั่งรถไฟสายสีส้ม Ginza Line ไปลงที่สถานี Asakusa Sta. ใช้ทางออกที่ 4 แล้วเดินต่อ 350 เมตร

2. ภูเขาไฟฟูจิ ( Mount Fuji ) – ยะมะนาชิ

japan-summer


สถานที่เที่ยวญี่ปุ่นชื่อดังต้องมีฟูจิอยู่ด้วยอย่างแน่นอน กิจกรรมยอดฮิตของการไปภูเขาไฟฟูจิช่วงหน้าร้อนนั่นก็คือปีนเขาจ้า สำหรับใครเป็นสายปีนเขาช่วงหน้าร้อนนี่แหละเหมาะสุดสำหรับการปีนภูเขาฟูจิ ซึ่งจะเปิดช่วงหน้าร้อนอย่างเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนกันยายนเท่านั้น บนภูเขาไม่มีหิมะและอากาศดี เส้นทางปีนเขาจะมี 4 ทางด้วยคือ เส้นทาง Fujinomiya Trail, Gotemba Trail, Subashiri Trail, Yoshida Trail บนภูเขาฟูจิเขาไม่อนุญาตการกางเต็นท์นอนฉะนั้นข้างบนจะมีกระท่อมไว้ให้บริการแทนนะ มีเครื่องนอนให้เช่า มีอาหารเครื่องดื่มขายด้วย ใครเป็นสายปีนชอบผจญภัยก็ฟิตร่างกายเตรียมอุปกรณ์รอได้เลย

ค่าเข้า : คนละ 1,000 JPY
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เดินขึ้นเขา 06.00 น. เป็นต้นไป เปิดเฉพาะเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนกันยายนเท่านั้น
การเดินทาง : จากโตเกียวให้ขึ้นรถไฟ JR Chuo Line Limited Express ไปลงสถานี Otsuki จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Fuji Kyuko Line ไปลงที่สถานี Kawaguchiko แล้วต่อรถ Fuji Kyuko Bus ไปลงที่ป้าย Fujisan Gogome

3. ทุ่งลาเวนเดอร์ที่ทะเลสาบคาวากุจิ ( Kawaguchiko ) – ยะมะนาชิ

japan-summer



ดอกไม้หน้าร้อนก็ต้องนึกถึงลาเวนเดอร์ที่ม่วงสุดสดใสล่ะนะ ไปดูทุ่งลาเวนเดอร์ริมทะเลสาบคาวากุจิกันดีกว่า เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 ที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิ ถือเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนที่คุ้มมาก เพราะจุดนี้นอกจากได้ชมลาเวนเดอร์สวย ๆ แล้วยังเป็นจุดชมวิวฟูจิยอดฮิตอีกด้วย ไปที่เดียวได้ 2 ต่อเลย ช่วงหน้าร้อนจะอากาศแจ่มใส สายถ่ายรูปแฮปปี้มากแน่นอนเพราะจะรูปที่ได้จะเป็นทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังนั่นเอง

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00-18.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Kawaguchiko ได้เลยแล้วต่อรถบัสสายสีแดงลงที่ป้าย 20 Kawaguchiko Natural Living Center

4. โทมิตะฟาร์ม ( Tomita Farm ) – ฮอกไกโด

japan-summer



อีกหนึ่งพิกัด ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์อยู่ที่จังหวัดฮอกไกโด เป็นเมืองทางเหนือฉะนั้นอากาศจะเย็นกว่าภาคอื่นนะ ที่โทมิตะฟาร์มช่วงฤดูร้อนแบบนี้คือเป็นไฮไลต์เลยล่ะ เพราะเขามีทุ่งลาเวนเดอร์สายรุ้งอยู่นั่นเอง เป็นการปลูกดอกลาเวนเดอร์สลับดอกไม้อื่น ๆ ที่มีสีต่างกันจนดูเหมือนกับสายรุ้งนั่นเอง นอกจากสวนดอกไม้แล้วเขายังมีพิพิธภัณฑ์ และส่วนร้านค้าอีกด้วยนะ มีทั้งน้ำหอม สบู่ น้ำมันหอมระเหย ดอกไม้อบแห้ง ฯลฯ แต่ที่ห้ามพลาดเลยคือซอฟต์ครีมลาเวนเดอร์ หวานหอมอร่อยเข้ากับหน้าร้อนสุด ๆ

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 200 JPY / เด็ก 100 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Furano Line ลงที่สถานี Nakafurano

5. ทุ่งดอกไม้ ฟลาวเวอร์แลนด์ เมืองคามิฟุราโนะ ( Flower Land Kamifurano ) – ฮอกไกโด

japan-summer



ยังคงพาไปชมดอกไม้กันต่อ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นเชิงเกษตร มีพันธุ์ดอกไม้หลากหลายชนิดปลูกกันเรียงรายยาวไปบนเทือกเขาโทกาชิ ใหญ่และเยอะมากจริง ๆ คือมองได้แบบสุดลูกหูลูกตากันเลย แถมเขายังมีกิจกรรมยอดฮิตของฟาร์มคือการนั่งรถแทรกเตอร์ชมทุ่งดอกไม้ บอกเลยได้ความรู้สึกเป็นหนุ่มสาวชาวไร่สุด ๆ นอกจากนี้เขาจะมีจัดเวิร์คช้อปสำหรับคนชอบงานแฮนด์เมดด้วย อย่างการทำหมอนจากดอกลาเวนเดอร์นั่นเอง

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 18.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Furano Line ลงที่สถานี Kamifurano จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อมาอีกประมาณ 8 นาที

6. Shirogane Blue Pond (Aoi-ike) – ฮอกไกโด

hokkaido-attractions



ใครมาฮอกไกโดห้ามพลาดที่นี่เลย ที่นี่คือบ่อน้ำสีฟ้าแห่งเมืองบิเอะซึ่งจะสวยงามไม่แพ้หน้าหนาวเลย บ่อน้ำนี้เป็นบ่อน้ำที่ถูกกักไว้จากการสร้างเขื่อนบริเวณภูเขาไฟ การที่น้ำในบ่อมีสีฟ้าสดกว่าบ่อน้ำทั่วไปๆ ก็เป็นเพราะอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์จากการปะทุของภูเขาไฟที่อยู่ในน้ำได้สะท้อนกับแสงแดดที่ส่องลงมานั่นเอง

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Biei โดยสารรถบัสสาย Biei-Shirogane Onsen ไปลงที่ Shirogane Aoiike Iriguchi บัสออกวันละ 5 เที่ยว

7. แหลมคามูอิ ( Cape Kamui ) – ฮอกไกโด

hokkaido-attractions



แหลมคามูอิแหล่ง ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน สุดงดงามแห่งเกาะฮอกไกโด เชื่อว่าน่าจะเคยเห็นภาพในอินเทอร์เน็ตกันบางเนอะกับภาพแหลมหินยื่นออกไปในทะเล มีทางเดินเล็ก ๆ ยาวไปตามเนินเขาสีเขียวตัดกับน้ำทะเลสีครามสดใส ที่นี่คือแกลมคามูอิแห่งคาบสมุทรชาโคตัน ที่แหลมหินสามารถเดินขึ้นไปที่ปลายแหลมได้จะมีบันไดไม้และทางเดินคดเลี้ยวไปตามแนวเขา ระยะทางไม่ไกลประมาณ 700 เมตร ทางเดินไม่ยากนะเดินเท้าได้สบาย แถมมีลมเย็นจากทะเลผ่านมาเรื่อย ๆ ให้หายเหนื่อยด้วย ข้างทางจะเต็มไปด้วยดอกไม้และต้นหญ้าเขียวชอุ่ม เดินเพลิน ๆ แปปเดียวถึงปลายทางบริเวณปลายเเหลม มีประภาคารเล็กๆตั้งอยู่ ว่ากันว่า มีอายุมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1888 เลยทีเดียว

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 น. – 18.00 น.
การเดินทาง : จากเมืองโอตารุโดยนั่งรถบัสสาย Hokkaido Chuo Bus จากป้าย Otarueki-mae Bus Termial มาลงที่ป้าย Kamui Misaki ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

8. อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง ( Daisetsuzan National Park ) – ฮอกไกโด

japan-natural



อุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ที่อยู่ใจกลางเกาะฮอกไกโดที่นี่มีภูเขาสูงโทกาจิ สูงมากจนมีชื่อเรียกว่า “หลังคาแห่งฮอกไกโด” ด้วยความที่อยู่สูงขนาดนี้จึงมีพืชพรรณไม้แบบป่าสนอัลไพน์สีสันสวยงามและธรรมชาติและยังมีระบบนิเวศน์สมบูรณ์มากจนมีสัตว์หายากและปลาพันธุ์เฉพาะอยู่ด้วย ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือจุดชมวิวที่จะได้เห็นทะเลหมอกที่ผาโซอุนเคียวตอนเช้า หรือใครอยากเช่าจักรยานปั่นชมวิวเขาก็มีให้บริการเช่นกัน ส่วนใครมาหน้าหนาวก็มาเล่นสกี สโนว์บอรด์หรือเดินขึ้นเขาได้เหมือนกัน เรียกได้ว่ามาเที่ยวได้ทุกฤดูกาลเลยล่ะ

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Shimokitamon ลงที่สถานี Kamikawa จากนั้นนั่งรถประจำทางสาย Sounkyo-Kamikawa Line จนสุดสายเพื่อลงที่ป้าย Sounkyo Gorge ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

9. สวนริมทะเลอุมิโนะนาคามิจิ ( Uminonakamichi Seaside Park ) – ฟุกุโอกะ

fukuoka-attractions



อยู่บริเวณริมอ่าวฮากาตะ เป็นสวนติดริมทะเลที่ควรค่าแก่การพักผ่อนที่สุดมีดอกไม้นานาชนิดคอยออกดอกไม้อวดสีสันแจ่ม ๆ รับหน้าร้อน เขาจะแบ่งออกเป็นโซนอย่างชัดเจน มีทั้งสวนดอกไม้ สนามเด็กเล่น สนามกีฬา สวนน้ำ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ฤดูร้อนถือเป็นอีกหนึ่งฤดูไฮไลต์ของที่นี่เลยด้วย แถมยังมี Marine World พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จัดแสดงเกี่ยวกับพันธุ์สัตว์นี้ต่าง ๆ ทั่วเกาะคิวชูอีกด้วย ใครแพลนเที่ยวหน้าร้อนต้องมีสวนริมทะเลอุมิโนะนาคามิจิเป็นหนึ่งในที่เที่ยวหน้าร้อนของทริปนี้ให้ได้เลย

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 450 JPY / เด็กเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟเส้นทาง JR Kashii Line ไปลงที่สถานี Uminonakamichi

10. สวนคาวาชิฟูจิการ์เด้น ( Kawachi fuji Garden ) – ฟุกุโอกะ

fukuoka-attractions

Photo by : IG@beaut.ifulcountries


ไฮไลต์ของที่นี่คืออุโมงค์วิสทีเรีย ถูกเลือกให้เป็น 1 ใน 34 สถานที่ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นด้วยนะ แบ่งออกเป็น 3 โซนคือ โซนอุโมงวิสทีเรีย แปลงดอกไม้ และใบไม้แดง โดยเข้ามาถึงก็จะเจออุโมงวิสทีเรียก่อนเลยมีดอกวิสทีเรียกว่า 22 ชนิด เรียงสลับสีกันไปเรื่อย ๆ ทั้งม่วงเข้ม ม่วงออ่น ชมพู และขาว สวยงามเหมือนอยู่ในเทพนิยายก็ว่าได้ จากอุโมงค์แล้วก็มีหลังคาวิสทีเรียสีม่วงด้วย เขาจะปล่อยดอกไม้ให้ห้อยลงมาอยู่เหนือหัวเรา สวยมาก ๆ เป็นที่เที่ยวฟุกุโอกะหน้าร้อนที่ควรแวะมาเลยล่ะ

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1,500 JPY / เด็กเข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สถานี Yahata Station จากนั้นต่อแท็กซี่มาอีก 20 นาที

11. ศาลเจ้านากาคาวะ ( Nakagawa Shrine ) – ฟุกุโอกะ

fukuoka-attractions

Photo by : IG@japanjourneys.jp


ศาลเจ้าที่เป็นสถานที่จัดเทศกาลดอกวิสทีเรีย Nakayama O-fuji Festival จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ช่วงหน้าร้อนจะมีไม่งานเทศกาลแต่ละสามารถเดินทางเยี่ยมชมและกราบไหว้ที่ศาลเจ้าได้เช่นกัน เป็นศาลเจ้าที่ใหญ่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง Nakatsugawa โบสถ์อาคารสวยงาม มีห้องโถงที่มีหลังคาที่มุงด้วยแผ่นทองแดง ศาลเจ้าหลักที่ควรไปสักการะจะอยู่ที่ด้านบนต้องเดินขึ้นไปบันไดเป็นเนินชัน โดยรวมคือเป็นศาลเจ้าที่เงียบสงบมาก รอบ ๆ มีธรรมชาติร่มรื่นอีกด้วย

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Yamanote Line ลงที่สถานี Shinagawa Station จากนั้นต่อรถไฟชินคันเซน Tokaido-Sanyo Shinkansen ไปลงที่ Nagoya เปลี่ยนรถไฟอีกครั้งนั่งสาย Shinano ไปลงที่ Nakatsugawa Station แล้วเดินต่อ 16 นาที

12. สวนดอกไม้ อาชิคางะ ( Ashikaga Flower Park ) – โทชิกิ

japan-summer



หนึ่งในสวนดอกไม้ที่มีดอกวิสทีเรียสุดอลังการอีกที่ของญี่ปุ่น คือดอกวิสทีเรียเป็นอีกหนึ่งดอกไม้สำคัญของญี่ปุ่นเลยนะ พอ ๆ กับซากุระเลยแหละ เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ที่มีอุโมงค์ต้นวิสทีเรียยาวเกือบ 100 เมตร และต้นวิสทีเรียขนาดใหญ่ยักษ์ อายุกว่า 140 ปีด้วย ชื่อว่า Great Miracle Wisteria ก็คือต้นใหญ่อลังการออกดอกแผ่กิ่งก้านสวยงามเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีสวนในโซนอื่น ๆ อีก เช่น พีระมิดดอกไม้ลอยอยู่กลางสระน้ำ,โดมดอกไม้, น้ำตกจำลอง ฯลฯ

ค่าเข้า : ราคาตามช่วงฤดูกาล หน้าร้อน ผู้ใหญ่ 400 – 1,300 JPY / เด็ก 200 – 700 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 18.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟชินคันเซ็นไปลงที่สถานี Tomita Station จากนั้นก็เดินต่ออีกประมาณ 900 เมตร

13. หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ( Shirakawa-go ) – กิฟุ

japan-attractions



หมู่บ้านเก่าแก่ญี่ปุ่นโบราณมีหลังคาทรงสูงเรียกว่า Gassho-Zukuri อายุกว่าร้อยปีเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ในปี ค.ศ. 1995 ปกติเราจะมักจะเห็นรูปหมู่บ้านนี้จะช่วงฤดูหนาวมีหิมะปกคลุมหนา ๆ แต่ว่าช่วงหน้าร้อนนี่แหละเป็นอะไรที่สดชื่นกว่ามาก ๆ เพราะว่าเป็นฤดูที่ทุ่งนาและต้นไม้กำลังเขียวชอุ่มเลยล่ะ แถมยังมีดอกไม้สีสันสดใสเพิ่มบรรยากาศอีกด้วย ที่สำคัญแม้จะเป็นหน้าร้อนแต่อากาศดีไม่ร้อนจนเกินไปด้วย สามารถมาแบบค้างคืนแบบ Homestay ได้ด้วยนะ เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นยอดฮิตทุกฤดูกาลเลยแหละ

ค่าเข้า : รอบ ๆ หมู่บ้านเข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ลงสถานี Toyama จากนั้นนั่งรถบัสจากหน้าสถานีต่อมาลงที่หมู่บ้าน Shirakawa-go ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

14. เทศกาลแห่โคมไฟคันโต มัตสึริ ( Kanto Matsuri ) – อาคิตะ

japan-summer



เทศกาลหน้าร้อนของจังหวัดอาคิตะ เป็นเทศกาลที่เราจะได้เห็นขบวนแห่ที่ชาวญี่ปุ่นจะพากันถือเสาโคมไฟทำจากกระบอกไม้ไผ่สูง 12 เมตร คือสูงมากแถมยังมีโคมไฟญี่ปุ่นที่จุดสว่างแล้วถึง 46 โคม รวม ๆ แล้วหนักประมาณ 50 กิโล แถมคนถือคือต้องแข็งแรงเพราะต้องถือคนเดียวด้วยส่วนหนึ่งของร่างกายเพียงจุดเดียวเท่านั้นด้วย เป็นประเพณีที่ว้าวซ่ามาก ๆ มองแล้วแอบเหมือนโชว์กายกรรมอะไรแบบนี้เหมือนกัน เพราะเขาจะมีโชว์เป็นรายบุคคลด้วย ใครหา ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ที่ได้ดูวัฒนธรรมญี่ปุ่นก็ลองมาได้

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 3-6 สิงหาคม เริ่ม 18.30 – 20.30 น.
การเดินทาง : จากโตเกียวให้นั่งรถไฟ Akita Shinkansen ไปลงที่ Akita Station จากนั้นเดินต่อ 600 เมตร ไปยัง Area Nakaichi

15. ภูเขาไฟอะโสะ ( Mount Aso ) – คุมาโมโตะ

japan-natural


พามาจังหวัดคุมาโมโต้กันบาง พิกัด ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน อยู่ที่ภูเขาไฟอะโซะซึ่งอยู่ใจกลางเกาะคิวชูเลย ภูเขาไฟอะโซะเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับนะโดยจุดไฮไลต์คือปากปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะ เป็นปากปล่องภูเขาไฟที่สามารถเขาถึงได้ง่ายสามารถขึ้นไปได้ทั้งทางถนนหรือกระเช้าไฟฟ้า แต่เตือนนิดนึงว่าก่อนไปควรจะเช็คสถานะของปล่อยภูเขาไฟก่อนนะเผื่อว่าช่วงที่เราไปอาจจะเป็นช่วงที่มีก๊าซพิษปล่อยออกมาเยอะหรืออยู่ในช่วงที่กำลังจะปะทุขึ้นมากอีกรอบอะไรแบบนี้ รอบ ๆ ภูเขาไฟก็มีธรรมชาติสวยงามมากมีเมืองชนบทเล็ก ๆ มีนาข้าว มีทุ่งหญ้ากว้างที่มีน้องวัวและน้องม้าอยู่ด้วย เป็นที่เที่ยวแนวธรรมชาติที่น่าสนใจมาก

ค่าเข้า : ไม่มีค่าเข้าแต่จะเสียเป็นค่าผ่านทางหรือกระเช้าไฟฟ้าไปกลับคนละ 1,000 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00-17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ JR Aso มาลงที่สถานีขึ้นกระเช้าไฟฟ้า Asosan Nishi จากนั้นต่อกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปบนปากปล่องภูเขาไฟใช้เวลาประมาณ 40 นาที

16. เกาะยะคุชิมะ ( Yakushima Island ) – คะโงะชิมะ

japan-natural



ไปเดินป่าญี่ปุ่นกันบ้างดีกว่าที่นี่คือเกาะยาคูชิม่าเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีป่าดงดิบและภูเขาอยู่ภายในเกาะ ป่านี้มีต้นสนโบราณอายุกว่าพันปีเอาไว้หลายต้น เห็นว่าต้นที่มีอายุมาที่สุดอยู่มานานกว่า 7,000 ปีเลยทีเดียวนะ ระยะทางรอบเกาะประมาณ 100 กิโลเมตรวิธีการเที่ยวที่ดีที่สุดคือขับรถเที่ยวรอบ ๆ เกาะ หรือหากอยากไปเดินป่าก็ใช้บริการรถบัสสาธารณะได้แต่ว่ารถวิ่งไม่บ่อยนะ เส้นทางเดินป่า Yakusugi Land เป็นเส้นทางที่คนนิยมมากที่สุด มีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน มีสะพานข้ามลำธารที่วิวธรรมชาติสวยมากแถมมีต้นซีดาร์ญี่ปุ่นเก่าแก่อายุกว่า 1,000 ปีด้วย

ค่าเข้า :  500 JPY / คน
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : จากโอซาก้าจะมีเที่ยวบินตรงมายังสนามบินยะคุชิมะได้เลย จากนั้นขึ้นรถบัสจากสนามบินมาท่าเรือแล้วนั่งเรือเฟอรี่มายังเกาะยาคูชิม่า

17. น้ำตกนะชิ ( Nachi Waterfall ) – วากายามะ

japan-natural



น้ำตกนะชิ สัญลักษณ์ของเมืองนะชิคัตซึอุระเป็นน้ำตกสูง 133 เมตรไหลลงมาจากป่าทึบเก่าแก่ ด้วยความที่เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นทำให้มีละอองน้ำลอยอยู่ทั่วบริเวณฉะนั้นหากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวที่น้ำตกนะชิจะรู้เลยว่าที่นี่เย็นตลอดปีแม้แต่ช่วงหน้าร้อนด้วย ไฮไลต์คือศาลเจ้าฮิโรตั้งอยู่บริเวณฐานน้ำตก ศาลเจ้าที่ก่อสร้างแบบศิลปะญี่ปุ่นฉากหลังเป็นน้ำตกสูงมีละออกน้ำปกคลุมอยู่รอบ ๆ เป็นภาพที่สวยงามมากแต่เป็นจุดแลนด์มาร์คของนักท่องเที่ยวที่ต้องมาถ่ายรูปในมุมนี้เลยล่ะ

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 8.30-16.00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Shin-Osaka ให้นั่งรถไฟ LTD. EXP KUROSHIO ไปลงที่สถานี Kiikatsuura ใช้เวลา 4 ชั่วโมง จากนั้นขึ้นรถ Kumano Kotsu Bus ไปลงที่ป้าย Nachi no Taki-Me และเดินต่ออีก 5 นาที

18. ป่าไผ่ Arashiyama – เกียวโต

kyoto-attractions



อาราชิยาม่าอยู่ที่จังหวัดเกียวโตเป็นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เส้นทางป่าไผ่ ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตและเป็นมุมรูปถ่ายรูปที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องแวะ มุมฮิตที่ว่านี้จะอยู่หลังวัดเทนริวจิ ได้วิวทั้งแม่น้ำโฮซูกาวะ และสะพานโทเก็ตสึเคียว นอกจากนี้ที่อาราชิยาม่ายังเหมาะแก่การพักผ่อนแบบสุด ๆ เลยเพราะว่าป่าไผ่สูงมากทำให้บังแดดได้ดี อากาศไม่ร้อนและมีลมเย็นด้วย มีคาเฟ่และร้านอาหารเพียบ กิจกรรมที่น่าสนใจในนี้้คือล่องเรือแม่น้ำโฮซูกาวะและนั่งรถไฟสายโรแมนติกชมวิวหุบเขาและสองข้างทางของแม่น้ำ

ค่าเข้า : บริเวณป่าไผ่เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Sagano Line มาลงที่สถานี Saga-Arashiyama

19. คามิโคจิ ( Kamikochi ) – นากาโนะ

japan-natural



ดินแดนสวรรค์บนดินของจังหวัดนากาโนะ ที่คือคามิโคจิอยู่ทางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชูบุซังกะกุ เป็นสถานที่พักผ่อนที่เย็นสบายตลอดทั้งปีแม้กระทั่งในฤดูร้อน ฮิตมากในหมู่คนญี่ปุ่นและเป็นที่ชื่นชอบสำหรับคนชอบเดินป่าปีเขาอีกด้วย เพราะที่นี่เลืองชื่อเรื่องธรรมชาติสมบูรณ์ของป่าและเขา ฤดูไฮไลต์ของที่นี่จะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเราจะได้เห็นภาพป่าเขาเต็มไปด้วยสีส้มสีแดงของใบไม้ที่เปลี่ยนสีแล้วเรียบร้อย เปลี่ยนบรรยากาศให้กลายเป็นป่าที่อบอุ่นเลยทีเดียว หากสงสัยว่าเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงไหนดีใครชอบป่าเขียว ๆ แนะนำให้มาหน้าร้อนนะ จุดแลนด์มาร์คของการถ่ายภาพอยู่ที่แม่น้ำอาซุสะ น้ำใสกิ๊งไหลผ่านตลอดหุบเขาวิวข้างหลังเป็นภูเขาลูกใหญ่กับท้องฟ้าสดใส เหมือนอยู่แถวยุโรปเลยล่ะ

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ปิดช่วงฤดูหนาว เปิดตั้งแต่เดือนเมษายน – พฤศจิกายน
การเดินทาง : มี Direct Bus วิ่งตรงจากโตเกียวไปคามิโคจิ ขึ้นได้จากหลายสถานี ได้แก่ ชินจูกุ โตเกียว และชิบูย่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-7 ชั่วโมง

20. หุบเขาทะคะจิโฮะ ( Takachiho Gorge ) – มิยะซะกิ

japan-natural



ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตามรอยตำนานและเทพนิยายของญี่ปุ่นกัน มีตำนานเล่าต่อกันมาว่าเขาทาคาจิโฮะคือสถานที่ ๆ เหล่าเทพเสด็จลงมาครั้งแรกเหมือนประเทศญี่ปุ่นถือกำเนิดขึ้นบนโลก ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยสถานที่ที่ ๆ มักจะเห็นในเทพนิยายของญี่ปุ่นอยู่ทั่วตามจุดต่าง ๆ เช่นศาลเจ้า Amano Iwato ที่มีตำนานเชื่อว่ามีเทพเจ้ามารวมตัวกันที่ศาลเจ้าแห่งนี้ บริเวณใกล้กันมีถ้ำขนาดใหญ่ ด้านในเต็มไปด้วยก้อนหินที่ถูกวางเป็นชั้น เชื่อว่าหากทำแล้วอธิฐานจะทำให้สมปรารถนา ใครชอบธรรมชาติแถมได้ไหว้พระขอพรในเวลาเดียวกันก็มาเยือนที่นี่ได้เลย

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : จากสนามบิน Kumamoto มีรถบัสให้บริการจากสนามบินนั่งมาลงที่ Takachiho Bus Center จากนั้นเดินต่ออีก 2 กิโลเมตร (ระหว่างทางมีศาลเจ้าให้แวะ หรือใครไม่อยากแวะสามารถนั่งรถ shuttle bus ได้)

21. เกาะมิยาโกะ ( Miyako Island ) – โอกินาว่า

japan-natural



เปลี่ยนไปทะเลกันบ้าง เกาะแห่งปะการัง หาดทรายสวย ที่นี่คือเกาะมิยาโกะถูกจัดให้อยู่อันดับต้น ๆ อยู่เสมอจากเว็บไซต์รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น เห็นรูปแล้วบอกเลยว่าสวยจริง ๆ หาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีเขียวมรกตท้องฟ้าก็แจ่มใสเหมาะกับการพักผ่อนสุด ๆ ใครชอบทำกิจกรรมทางน้ำก็มีเพียบเลยนะ เจ็ตสกี บานาน่าโบ๊ท พาราเซลลิ่ง ฯลฯ จุดเด่นของที่นี่คือ สะพานอิราบูโอฮาชิ เป็นสะพานที่เชื่อต่อเกาะอีก 3 เกาะเข้าด้วยกันแถมเป็นสะพานที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมยาวที่สุดในญี่ปุ่นด้วยนะ วิวอลังการสุด ๆ ไปเลย แนะนำให้มาช่วงพระอาทิตย์ตกจะได้เห็นวิวเปลี่ยนแปลงไปตามน้ำขึ้นน้ำลงและแสงก่อนพระอาทิตย์ตกดินสวยสุด ๆ ไปเลย

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : เดินทางด้วยเครื่องบินเท่านั้นมีเที่ยวบินตรงจากโตเกียวและโอซาก้า บินตรงได้เลยที่สนามบิน Miyako และแนะนำให้เช่ารถขับต่อรอบเกาะจะสะดวกที่สุดหรือใช้บริการรถบัสจากโรงแรมก็ได้

22. เกาะอิชิงากิ ( Ishigaki Island ) – โอกินาว่า

japan-summer



มาต่อกับ ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ในโอกินาว่าอีกที่ ใครชอบบรรยากาศสดชื่นหรือหาแหล่งดำน้ำอยู่ห้ามพลาดเลยล่ะ เกาะอิชิงากิเป็นเมืองตากอากาศขึ้นชื่อของญี่ปุ่นอันดับต้น ๆ เลย มีจุดให้ไปเที่ยวหลายที่มากแต่ละที่สวย ๆ ทั้งนั้น เช่น อ่าวคาบิระ รายล้อมไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ น้ำทะเลสีเขียวอมฟ้า นิยมนั่งเรือชมวิว,ชายหาดโยเนะฮาระ นิยมดำน้ำตื้นดูปะการัง มีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์,แหลมฮิราคุโบะซากิ ชมวิวสวย ๆ ที่มีประภาคารสีขาวที่ตั้งอยู่ตรงสุดปลาย บนเกาะมีโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าเพียบเลยนะ สมกับเป็นเมืองตากอากาศขึ้นชื่อเลยล่ะ

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : จากโตเกียวสามารถนั่งเครื่องบินภายในประเทศได้ลงสนามบิน Ishigaki จากนั้น ต่อรถบัสลงที่ป้าย Shiraho แล้วเดินต่อเล็กน้อย

23. หาดยูริกะฮามะ ( Yurigahama Beach ) – คาโกชิม่า

japan-natural

Photo by : rion.911



ยังต่อที่ชายหาดกันรัว ๆ สำหรับ ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน คราวนี้ มาต่อกันที่หาดยูอิกาฮามะ เป็นส่วนหนึ่งของเกาะโยรอนซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดคาโกชิม่า หาดที่ชมได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้นเพราะว่าในช่วงฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูร้อนเป็นช่วงที่น้ำทะเลจะลงและมีหาดทรายสีขาวโผล่ขึ้นมา แต่ว่าจุดที่ทรายขาวจะโผล่ขึ้นมาไม่ได้มีแค่จุดเดียวนะ แต่ละวันจะไม่เหมือนกันแหละ ด้วยความที่มีระยะเวลาจำกัดแบบนี้ทำให้คนเรียกกันว่าเป็นชายหาดล่องหนเพราะว่ามาแว๊บเดียวก็หายไปเหมือนเวทมนต์นั่นเอง

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : การเดินทางไปเกาะ Yoron สามารถนั่งเครื่องบินตรงถึงได้เลยจาก 3 สนามบินดังนี้ Kagoshima Airport / Amami Airport / Naha Airport

24. ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย เมืองฮาโกเน่ ( Hakone Tozan Railway Line ) – คานางาวะ


ไปเปิดประสบการณ์นั่งรถไฟชมดอกไม้กันบ้างดีกว่า เป็น ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ที่เราอยากนำเสนอมาก ๆ กับดอกไฮเดรนเยีย หรือคนญี่ปุ่นเขาจะเรียกว่าดอกอาจิไซ ดอกไม้เป็นช่อดอกแน่น ๆ สีสดมาก ความพิเศษของการมาชมดอกไฮเดรนเยียที่เมืองฮาโกเน่คือเราต้องนั่งรถไฟสายอาจิไชนั่นเอง ซึ่งจะวิ่งผ่านทุ่งดอกไม้เป็นทางยาว แถมช่วงหน้าร้อนเขาจะเปลี่ยนชื่อเป็น Hydrangea Train ด้วยนะ ตลอดสองข้างทางเราจะได้ชมวิวไฮเดรนเยียกันทั้งทางเลย แถมยังจะวิ่งผ่านสถานที่สำคัญอย่าง วัด ถนน และพิพิธภัณฑ์ของเมืองอีกด้วย

ค่าเข้า : ตั๋วแบบ 1 วัน ขึ้นลงได้ไม่จำกัดครั้ง ผู้ใหญ่ 1,580 JPY / เด็ก 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : ตามรอบรถไฟเที่ยวแรก 07.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ลงสถานี Odawara แล้วเปลี่ยนไปสาย Hakonetozan ลงสถานี Hakone Yumoto แล้วเปลี่ยนสายอีกครั้งเป็นสาย Hakone Tozan Railways

25. ชายหาดเอโนะชิมะ ( Enoshima Island ) – คานางาวะ

japan-summer



หน้าร้อนก็ต้องไปทะเล พาไปเที่ยวทะเลญี่ปุ่นกันบ้างที่ชายหาดเอโนะชิมะ ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ที่เป็นจุดหมายที่คนโตเกียวนิยมมาเล่นน้ำกันมาก ๆ เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวนั่นเอง ช่วงหน้าร้อนและวันหยุดคนจะค่อนข้างหนาแน่นเลยทีเดียวนอกจากกิจกรรมทางทะเลอย่างว่ายน้ำ พายเรือ กระดานโต้คลื่นแล้วที่นี่ยังมีสถานที่อื่น ๆ ให้เดินเที่ยวเล่นได้อีก เช่น ศาลเจ้าเอโนชิมะ, ถนนเบ็นไซเท็นนากามิเซะโดริ รวมร้านอาหารอร่อย ๆ , Enoshima Aquarium สัมผัสสัตว์โลกใต้ทะเล ฯลฯ

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Odakyu Line ไปลงที่ Sagami-Ono Station จากนั้นเปลี่ยนสายรถไฟไปขึ้นสาย Enoshima Line ลงที่ Fujisawa Station แล้วต่อรถบัส F3 ลงที่ไป Enoshima Bus Stop ได้เลย

26. อุโมงค์คาเมวะ ( Kameiwa Cave ) – ชิบะ

japan-natural



โลเคชั่นสุดท้ายสำหรับพิกัด ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน มาชมแสงรูปหัวใจที่อุโมงค์คาเมวะกันเถอะ ที่นี่อยู่ในสวนชิมิสุ จังหวัดชิบะ เป็นแรร์ไอเทมหน่อยนะเนื่องจากเวลาที่สวยที่สุดมีเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้นคือเดือนมีนาคมและกันยายน เวลาประมาณ 6-8 โมงเช้า โดยแสงรูปหัวใจที่ว่านี่เกิดจากแสงอาทิตย์ในยามเช้าที่ลอดผ่านอุโมงค์และสะท้อนเข้ากับผืนน้ำ กลายเป็นแสงรูปหัวใจ แต่บอกก่อนว่าอุโมงค์คาเมวะไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาตินะแต่เป็นการขุดเจาะอุโมงค์แห่งนี้ขึ้นเพื่อเปิดทางให้น้ำจากแม่น้ำสายหลักที่ไหลมายังน้ำตกโนมิโสะไหลออกสู่พื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อใช้ในการเกษตร นอกจากแสงรูปหัวใจแล้วยังมีไฮไลต์ทางธรรมชาติอื่น ๆ อีกเช่น ชมหิ่งห้อยในช่วงฤดูร้อน หรือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งด้วย

ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟโตเกียวให้ลงที่สถานี Yaesu จากนั้นนั่งรถบัส Express Bus Akushi-Go ต่อเพื่อลงที่ป้าย Kimitsu Furusato Bussankan และเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที

เที่ยวญี่ปุ่นด้วย YouTrip ประหยัดกว่า

japan-attractions



แนะนำวิธีเที่ยวญี่ปุ่นให้ประหยัดว่าด้วย YouTrip ยกตัวอย่างตั้งงบเที่ยวญี่ปุ่นไว้ที่ 134,948 JPY ที่ร้านแลกเงินจะเป็นไทยทั้งสิ้น 30,364 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะต้องจ่าย 31,127 บาท แต่หากเปลี่ยนมากจ่ายด้วย YouTrip จะเหลือเพียง 30,000 บาท ประหยัดเพิ่มถึง 1,127 บาท ไปเลย เพราะ YouTrip ให้เรทที่ดีแถมไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5%

YouTrip Perks 2.0



เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยล่ะ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้มๆ กันไปเลย

บอกแล้วว่าญี่ปุ่นหน้าร้อนก็มีดีไม่แพ้ฤดูอื่นเลย จะเห็นได้ว่าที่เที่ยวในญี่ปุ่นแต่ละเมืองก็มีงานเทศกาลที่จัดเฉพาะหน้าร้อนเท่านั้นหรือดอกไม้สวย ๆ ที่มาพร้อมกับท้องฟ้าแจ่มใสช่วงหน้าร้อนอีกด้วย ที่สำคัญถูกกว่าฤดูท่องเที่ยวปกติเกือบครึ่งราคาแหน่ะ ว่าแล้วอย่ารอช้า รีบจองตั๋วโล้ดดด และอย่าลืมตัวช่วยที่ทำให้ทริปนี้แจ่มขึ้นไปอีกด้วย YouTrip เพราะ เรทดี มั่นใจ ใช้ง่ายทั่วโลก คุ้มขนาดนี้รออะไรอยู่อีก สมัครเลย!

japan-summer
บทความล่าสุด
related articles
YouTrip_TWD

YouTrip แลกเงินไต้หวันยังไง คู่มือใช้จ่าย TWD แบบละเอียดสำหรับนักเดินทาง

สงสัยว่า YouTrip แลกเงินไต้หวันยังไง? มาหาคำตอบครบที่นี่! อธิบายวิธีใช้ SmartExchange™ แลกเงิน TWD พร้อมเทคนิคใช้งานจริงให้คุ้มค่า สุดประหยัด
japan-new-attractions

35 ที่เที่ยวญี่ปุ่นเปิดใหม่ 2025 ยอดฮิต อินเทรนด์ก่อนใคร

ญี่ปุ่นก็แค่ปากซอย มาอัพเดทที่เที่ยวญี่ปุ่นใหม่ ๆ ไว้รอก่อนเลย ปลายปีนี้จะได้ไปเช็คอินก่อนใคร
youtrip-won

YouTrip แลกเงินวอนยังไง ใช้ที่เกาหลีอย่างไร ?

ตอบคำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อต้องเดินทางไปเกาหลีแล้วอย่างได้เรทแลกเปลี่ยนดี ๆ YouTrip แลกเงินวอนยังไง? พร้อมแนะนำวิธีใช้ YouTrip เกาหลี ให้คุ้ม
diggin’ our content? 
Subscribe to our free newsletter and we’ll deliver the freshest news, announcements and articles to your inbox once a week. Strictly no spam, pinky promise!
ต้องการความช่วยเหลือ?

ติดต่อศูนย์บริการลูกค้า YouTrip Contact Center ตลอด 24 ชม. ได้ที่ support.th@you.co