รู้แล้วว่าการลงทุนทำให้เราได้เงินเพิ่มโดยที่ไม่ต้องทำงานหนัก และหากอยากใช้เงินหาเงิน เงินต่อทุนให้ชีวิตเราไปถึงฝั่งฝันอิสรภาพทางการเงินสักที สำหรับมือใหม่ที่เริ่มอยากจะซื้อหุ้น ลงทุนหุ้น แต่เริ่มต้นไม่ถูกมาดู วิธีซื้อหุ้น วิธีขายหุ้น แบบง่าย ๆ ได้เลย

หุ้นคืออะไร ?

หุ้นคือตราสารที่ออกโดยบริษัทต่าง ๆ ระดมทุนไปใช้ในกิจการเพื่อลงทุนหมุนเวียน โดยหุ้นที่เสนอขายให้คนทั่วไป เมื่อซื้อเสร็จแล้วผู้ถือหุ้นจะมีฐานะกลายเป็นเจ้าของ สามารถทำกำไรจากราคาหุ้นเติบโต หรือจะเลือกทำกำไรจากส่วนต่างราคาก็ย่อมได้ ซึ่งจะต้องซื้อหุ้นผ่านโบรกเกอร์ นะ

ต้องรู้อะไร ? ก่อนเปิดพอร์ตซื้อ-ขายหุ้น

เพื่อไม่ให้โปะ! งงงวยตอนซื้อหุ้น ก่อนจะลงทุนหุ้นเราต้องรู้ก่อนว่าแต่ละศัพท์คืออะไร มารู้จักคำศัพท์ต้องรู้เกี่ยวกับหุ้น เพื่อเลือกสายการลงทุนเหมาะกับเราที่สู๊ดดดไงล่ะ

• นักลงทุนสาย VI (Value Investment) เป็นนักลงทุนเน้นคุณค่าของหุ้นเป็นหลัก ประเมินมูลค่าหุ้น เน้นวิเคราะห์การเติบโตของกำไร และพิจารณาจากการแข่งขันของอุตสาหกรรม รวมทั้งลงทุนยาว ถือนาน ไม่เน้นกำไรส่วนต่างในช่วงเวลาสั้น ๆ 
  
• นักลงทุนสาย Technical หรือนักลงทุนสาย Trader เป็นนักลงทุนให้ความสำคัญกับมูลค่าการซื้อ-ขาย (Volume) กลุ่มเก่งกราฟ เข้าซื้อขายในรอบสั้น ไม่สนการเติบโตใด ๆ สนใจแต่กำไรในระยะสั้น

หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าเราจะเดินสายเส้นทางไหนแบบคร่าว ๆ คำศัพท์ที่ YouTrip อยากจะแถมให้ทำความเข้าใจเพิ่ม

• การเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น จะเรียกว่า เปิดพอร์ต 
• บริษัทหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์ คือ บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจการเป็นนายหน้า ปัจจุบันมีประมาณ 39 บริษัทให้เลือกตามความสะดวก
• คอมมิชชั่น (Commission) หรือค่าธรรมเนียมเรียกเก็บ การซื้อขายทุกครั้งจะมีค่าคอมมิชชั่นเสมอ ประมาณ 0.15% (หรือต่ำกว่า) 
• แคปปิตอลเกน (Capital Gain) คือ กำไรส่วนต่างของราคาในการซื้อขายหลักทรัพย์

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงคำศัพท์คร่าว ๆ แนะนำก่อนเข้าเรื่องการเปิดบัญชีหุ้นสำหรับมือใหม่นะจ้ะ

สำหรับว่าที่เศรษฐีมือใหม่นอกจากจะต้องมีเงินลงทุนอย่างน้อย 500 บาทก็ซื้อได้ละ ใครอยากลงทุนหุ้นจะต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ โดยเราสามารถเตรียมเอกสารง่าย ๆ เอกสาร 3 อย่าง

เปิดบัญชีหุ้นต้องมีคุณสมบัติยังไง?

สำหรับว่าที่เศรษฐีมือใหม่นอกจากจะต้องมีเงินลงทุนอย่างน้อย 500 บาทก็ซื้อได้ละ ใครอยากลงทุนหุ้นจะต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ โดยเราสามารถเตรียมเอกสารง่าย ๆ เอกสาร 3 อย่าง

• บัตรประจำตัวประชาชน
• สำเนาทะเบียนบ้าน
• เอกสารทางการเงิน เช่น เอกสารแสดงรายได้, สำเนารายงานการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ฯลฯ
• หรือเอกสารอื่น ๆ ตามที่โบรกเกอร์ร้องขอ

พร้อมแล้วไปดูกันต่อเลยว่าจะเริ่มซื้อหุ้นต้องทำยังไงถึงจะเป๊ะปังไม่เสียเวลา

วิธีซื้อหุ้น – ขายหุ้น

เริ่มต้น วิธีซื้อหุ้น เราจะต้องมองหาโบรกเกอร์ที่ใช่และโดนใจเราที่สุดนะ ตอนนี้มีให้เลือกกว่า 39 แห่งเลยแหละ ดังนั้นต้องพิจารณาให้ดี โดยเฉพาะรายละเอียด Commission ค่านายหน้า ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ค่า VAT เพราะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมขั้นต่ำทั้งตอนซื้อและตอนขายแหละ รวมทั้งบริการเสริมด้วยจ้า เช่น รายงานสรุปผลวิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้น จะเลือกเปิดพอร์ตที่ไหนก็เอาให้คุ้มไว้ก่อน

1. เปิดบัญชีที่ไหน

เลือกโบรกเกอร์ที่ชอบ และติดต่อเปิดบัญชีซื้อขาย โบรกเกอร์บางแห่งเปิดออนไลน์ได้เลยไม่ต้องไปสาขาก็มี จะบอกว่าบัญชีหุ้นก็เหมือนบัญชีเงินฝากธนาคาร ต่างตรงที่บัญชีหุ้นมีหลายรูปแบบ เช่น

• บัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance) หรือแบบบัญชีเงินฝาก ไม่ยุ่งยาก บัญชีนี้เหมาะเจาะกับมือใหม่ นำเงินเข้าไปฝากในพอร์ตแล้วซื้อหุ้น ซื้อเท่าไหร่ก็ฝากเท่านั้น ง่าย ๆ ไม่มีอะไรวุ่นวายใจ
• บัญชีเงินสด (Cash Account) ลงทุนก่อนจ่ายทีหลัง นักลงทุนจะต้องวางเงินตามที่โบรกเกอร์กำหนด เช่น วางหลักประกัน 15% ของวงเงินดังกล่าวไว้กับโบรกเกอร์ หากได้เงินอนุมัติ 100,000 บาท ก็ต้องวางหลักประกัน 15,000 บาทอ่ะแหละ
• บัญชีเครดิตบาลานซ์ (Credit Balance) หรือบัญชีมาร์จิ้น (Margin Account) เหมือนการกู้โบรกเกอร์มาซื้อหุ้น เช่น เราวางเงิน 100,000 บาท โบรกเกอร์ให้กู้อีก 100,000 บาท แต่เพราะเป็นเงินกู้ก็จะมีดอกเบี้ยตามมา เหมาะกับเซียนมีประสบการณ์ลงทุนหุ้นอยู่แล้ว

เดี๋ยวนี้จะเลือกเปิดพอร์ตหุ้นแบบออนไลน์ หรือจะเดินทางไปที่สาขาก็ได้ตามสะดวก ส่วนใหญ่จะใช้เวลาไม่กี่วันก็สามารถเปิดพอร์ตหุ้นพร้อมลงทุนได้แล้ว เช่น สมัครเปิดพอร์ตหุ้นแบบ Cash Balance ผ่านธนาคารกสิกรไทยด้วยบริการ K-Cyber สมัครไม่ยากเฉพาะผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย เพียงกรอกข้อมูลบนระบบ แนบเอกสารสำเนาบัตรประชาชนพร้อมทั้งเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องจะแนบเป็นไฟล์ภาพหรือไฟล์ pdf ก็ได้ แล้วรอการยืนยันเปิดบัญชีผ่านอีเมลภายในวันและพร้อมเทรดได้ทันที

2. เริ่มต้นหาหุ้นตัวแรก

จะซื้อหุ้นก็ต้องรู้ว่าชื่อหุ้นอะไรถึงจะเหมาะกับเรา เช่น หุ้นที่ใกล้ตัวเรา หุ้นที่เราใช้ชีวิตด้วยเยอะสุด หรือหุ้นที่มีแววเติบโตระยะยาว และมีความมั่นคงเหมาะจะลงทุน เลือกหุ้นที่ใช่ได้ด้วยตัวคุณเองเลย สามารถศึกษาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ก็ได้ หรือจะแอปพลิเคชันดังที่วิเคราะห์หุ้นก็มีเยอะแยะ หรือจะลองอ่านเสริมไอเดียที่บทความ คนรุ่นใหม่ ลงทุนอะไรดี 2021 ชี้เป้าการลงทุน ผลกำไรสูง ก็ได้นะ แล้วอย่าลืมศึกษาชื่อหุ้นอยากซื้อก่อนล่ะจะได้ไม่สับสนนะจ้ะ

 

3. ลงมือซื้อหุ้นจริงจัง

เปิดพอร์ตเสร็จ รู้แล้วว่าจะซื้อหุ้นอะไร ซื้อหุ้นที่ไหน ซื้อขายอย่างไร ขอแบ่ง วิธีซื้อหุ้น ตามประเภทบัญชีให้เข้าใจง่าย ๆ ตามนี้สำหรับมือใหม่ หรือมีเงินไม่เยอะ ต้องซื้อหุ้นผ่านบัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance) อยากซื้อเท่าไหร่ก็เติมเงินเข้าบัญชีฝากโบรกเกอร์ไปก่อน จะซื้อขายได้ก็ต่อเมื่อมีเงิน ไม่ต้องกลัวว่าจะลงทุนเกินตัวแน่นอน 

ส่วนนักลงทุนแบบบัญชีหลักทรัพย์ประเภทเงินสด (Cash Account) เลือกทำการซื้อหุ้นแบบ T+2 Settlement หาผลตอบแทนแบบไวขึ้น ปรับรอบระยะเวลาให้ไวขึ้นจากเดิมที่ต้องใช้เวลาซื้อหุ้น 3 วันทำการ เป็น 2 วันทำการ ซื้อหุ้นวันจันทร์เงินจะถูกตัดบัญชีในวันพฤหัสบดี ทำให้นักลงทุนทั้งหลายนำเงินมาหมุนเวียนได้เร็วขึ้นอีกหน่อย

ถ้าซื้อแบบบัญชีเครดิตบาลานซ์ (Credit Balance) ก่อนลงทุนหุ้นเราต้องนำเงินสดหรือหลักทรัพย์มาวางเป็นหลักประกัน และค่อยกู้เพิ่มกับโบรกเกอร์เพื่อซื้อหุ้น แต่จะทำได้เฉพาะหุ้นที่โบรกเกอร์กำหนดให้ซื้อขายเท่านั้นนะ เพราะวันดีคืนดีหากราคาหุ้นที่วางไว้เป็นหลักประกันลดลงมาก ๆ ก็อาจจะถูกบังคับขาย (Forced Sell) ก็ได้

หรือจะซื้อผ่านแอปก็ง่ายเด้อ เดี๋ยวนี้..จะซื้อผ่านแอปพลิเคชัน Streming ก็ได้เหมือนกัน ซึ่งเราจะได้รับ Username และ Password จากโบรกเกอร์มาให้เข้าระบบออนไลน์ซื้อขายหุ้น สบายมากจะบอกให้ จะซื้อขายที่ไหนก็ได้เพียงเรามีแอปซึ่งจะได้รับ Username และ Password จากบล. ที่เราเปิดบัญชีซื้อหุ้นในเมนู BUY/SELL พิมพ์ชื่อหุ้นที่เราต้องการซื้อใส่จำนวนและราคาที่ต้องการ และถ้ามีคนยินดีขายหุ้นก็จะเข้ามาอยู่ในพอร์ตของเร

4. จัดพอร์ตหุ้นให้เหมาะกับเราเอง

นอกจากมองหาจังหวะการลงทุน และการเข้าซื้อแล้ว ก็อย่าลืม!! จัดพอร์ตให้เหมาะเพื่อกระจายความเสี่ยงด้วย โดยการจัดกลุ่มของนักลงทุนแต่ละคนไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและมุมมองอนาคตที่มีต่อหุ้นตัวนั้น ๆ เป็นหลักนะจ้ะ 

เพิ่มความเข้าใจ เราแบ่งกลุ่มนักลงทุน 2 สไตล์ ดังนี้

• นักลงทุนเชิงรับ เป็นการลงทุนไม่ชอบเสี่ยง อยากได้ผลตอบแทนระยะยาวเป็นหลัก 
• นักลงทุนเชิงรุก เน้นสร้างผลกำไรสูง เป็นนักลงทุนที่กล้าได้กล้าเสีย ยอมรับการขาดทุนได้ และเชื่อว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้น 

สำหรับมือใหม่แนะนำว่า เริ่มลงทุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่เรารู้จักก่อน เข้าใจรายละเอียดบริษัทที่เราจะลงทุน ควรมีหุ้นในพอร์ตไว้ประมาณ 4-10 ตัว เลือกเดินทางสายกลาง ไม่ควรลงทุนกระจุกหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียว ควรกระจายการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมลดความเสี่ยง เช่นลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมธนาคารและซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานไปด้วย  และต้องประเมินหุ้นให้เป็นดูงบการเงิน ผลประกอบการย้อนหลัง ราว ๆ 5 ปี ดูว่าผลกำไรดีหรือเปล่า เราสามารถดูข้อมูลบนเว็บไซต์ www.set.or.th

5. ขายหุ้นในเวลาที่เหมาะสม

อย่างที่รู้ว่าข้อดีของการลงทุนหุ้นคือซื้อขายง่าย ซื้อหุ้นให้เป็นและต้องขายหุ้นให้เป็น มาเรียนรู้วิธีขายหุ้นแบบเบื้องต้น

• ขายกับโบรกเกอร์ที่ซื้อมา
• ขายให้กับคนรู้จัก
• ขายในแอปพลิเคชั่น

แล้วจะขายเมื่อไหร่ดี ? นี่เป็นคำถามยอดฮิตของการเล่นหุ้นเลยแหละ และแน่นอนว่าไม่มีสูตรตายตัวหรอกว่า เราจะขายหุ้นตอนไหนถึงจะดีที่สุด เอาเป็นว่าอยากให้นักลงทุนมือใหม่ถามกับตัวเองว่า เราซื้อหุ้นในราคาต่ำที่สุด แล้วขายในราคาสูงที่สุดหรือไม่ และเราใช้อารมณ์ในการขายหุ้นหรือเปล่า อย่าปล่อยให้ความโลภมาครอบงำ เช่นว่า ราคาหุ้นทำกำไร 10-15% แล้ว แต่ขอถือต่อเพราะเชื่อว่าราคาจะขึ้นแน่นอน หากฝันล่มหุ้นร่วงหนักกว่าตอนที่เราซื้อ อันนี้ก็ตัวใครตัวมันนะจ้ะ และทุกครั้งที่ขายหุ้นก็ต้องคำนึงถึงค่าธรรมเนียมด้วยนะจ้ะ

อยากเซียนเรื่องซื้อ-ขายหุ้น ควรดูที่ไหน

ก่อนจบบทความ วิธีซื้อหุ้น และวิธีขายหุ้น เพื่อเสริมความรู้พื้นฐานเรื่องหุ้นให้โปรขึ้น แวะไปเติมพลังการเทรดได้ที่ 3 เว็บไซต์ชั้นเซียน ดังนี้

• SET (www.set.or.th) เป็นเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีทั้งหลักสูตรเพิ่มความรู้ให้นักลงทุนมือใหม่ และยังมีข้อมูลอัปเดทข่าวคราวเกี่ยวกับหุ้นอีกเพียบ ถ้าไม่อยากเปิดเว็บจะโหลดแอปพลิเคชันก็ได้เหมือนกัน
• FINNOMENA (ฟินโนมีนา) เว็บไซต์แพลตฟอร์มการลงทุนซื้อขายกองทุนรวม ปรับพอร์ตได้ และยังมีข้อมูลบทวิเคราะห์ พอร์ดแคสต์ (Podcast) จากกูรูขั้นเซียนให้อ่านอีกเพียบ เปิดอ่านได้ทั้งบนเว็บไซต์ www.finnomena.com และแอปพลิเคชั่นเช่นกัน 
• Mao Investor (เม่าอินเวสเตอร์) ช่องทางอัปเดทข่าวสารหุ้นแบบเฮฮาเข้าใจง่าย มาพร้อมกับสโลแกน “ติดดอยไม่มีเหงามีเม่าเป็นเพื่อน” เป็นอีกช่องทางอ่านง่ายนำทีมเล่าโดยเม่าที่ฝันอยากเป็นนางพญาปลวก เหมาะกับคนชอบภาพการ์ตูนแนวขายขำ มีข้อมูลให้ทั้งนักลงทุนหน้าใหม่ ข้อมูลหุ้น กองทุนรวม ประกัน อสังหาอีกเพียบ 

เมื่อรู้ วิธีซื้อหุ้น วิธีขายหุ้น ครบจบแล้ว ถ้าอยากช้อปแบบคุ้มประหยัดเงิน หรือใช้เงินแบบคุ้มค่าต้องบัตร YouTrip เท่านั้น รูด แตะ จ่าย ช็อปออนไลน์ทั่วโลกได้ ด้วยเรทที่ดีกว่า 150+ สกุลเงิน สมัครกันอ่ะยัง ถ้ายังต้องสมัครแล้วนะ สมัครฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีด้วยนะ