เมื่อพูดถึงสินค้าต่างประเทศที่คนไทยชื่นชอบและได้รับความนิยมเป็นลำดับต้น ๆ นั่นก็คือ สินค้าของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ด้วยคุณภาพอันน่าเชื่อถือ บวกกับสินค้าหลายชนิดที่ดีไซน์ ลวดลายต่าง ๆ สุดน่ารัก สร้างความประทับใจกันมานักต่อนัก พ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายหากได้ของดี ๆ มาต้องขายดีอย่างแน่นอน แต่สำหรับใครกำลังปรับตัวเองสู่การเป็นพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ก็ควรรู้ วิธีสั่งของจากญี่ปุ่น ให้ได้ราคาถูก คุณภาพดี เพื่อผลกำไรอันแสนยั่งยืนในอนาคต ต้องซื้อที่ไหน ยังไง ไปดูกันเลย!!!
1. รู้จักแหล่งช้อปที่ดี

ลำดับแรกของคนที่คิด สั่งของจากญี่ปุ่น มาไทย คือต้องรู้จักแหล่งที่สามารถช้อปปิ้งของดี ๆ ตามความต้องการของตนเองได้ ซึ่งในยุคนี้ยังไงก็ต้องเป็นการซื้อออนไลน์อยู่แล้ว จึงขอแนะนำเว็บยอดนิยมดังนี้
- Amazon Japan
เว็บนี้เป็นเครือข่ายของ Amazon แต่จะเน้นสำหรับคนที่ต้องการซื้อของจากญี่ปุ่นเป็นหลัก ประเภทสินค้ามีความหลากหลายมาก ตั้งแต่ของแต่งบ้าน งานศิลปะ ของสะสม แมกกาซีน อุปกรณ์ไอที และอื่น ๆ อีกสารพัด เรียกว่าอยากได้อะไรเข้ามาเลย แถมมีการคำนวณภาษีให้เสร็จและส่งถึงเมืองไทยอีกต่างหาก - Rakuten
ต่อด้วยเว็บ E-Commerce ชื่อดังที่รวบรวมสินค้ามากหน้าหลายตาให้ได้ช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น ของใช้ภายในบ้าน สินค้าไอที อุปกรณ์กีฬา อาหาร เครื่องดื่ม และอีกมากมาย มีบริการส่งมาให้ถึงเมืองไทยด้วย แต่อย่าลืมว่าราคาของยังไม่รวมค่าภาษีนะ - Yahoo Auction Japan
อีก วิธีสั่งของจากญี่ปุ่น ที่คนไทยชื่นชอบคือ การใช้วิธีประมูล ซึ่งใครอยากสนุกไปกับการสู้ตัวเลขต้องเว็บนี้เลย มีสินค้าเยอะมากอารมณ์คล้าย ๆ ebay โดยเฉพาะกลุ่มสินค้ามือสอง สินค้าแรร์ไอเทม ลิมิเต็ม อิดิชั่นต่าง ๆ แต่! ความยุ่งยากเล็กน้อยคือ เว็บนี้จะซื้อ-ขายกันแค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่มีการส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ จึงต้องใช้เทคนิคกันหน่อย - Trefac Fashion
อีกเว็บที่น่าสนใจ เป็นแนวสินค้ามือสองกลุ่มสินค้าแฟชั่นทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ของแบรนด์เนมต่าง ๆ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้มีบริการส่งมาถึงเมืองไทย จึงต้องอาศัยเทคนิคที่จะช่วยให้ได้ของตามต้องการ
2. เข้าใจเรื่องการจัดส่ง
เมื่อรู้แล้วว่า สั่งของจากญี่ปุ่น ผ่านเว็บไซต์ไหนได้บ้าง คราวนี้ก็พูดถึงเรื่องการจัดส่งกันบ้าง โดยจะขอแยกเว็บสั่งของออนไลน์ออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ที่ได้พูดถึงไป ดังนี้

- กลุ่มเว็บที่จัดส่งถึงประเทศไทย
ปกติถ้าหากเป็นเว็บซื้อ-ขายสากล เช่น Amazon Japan, Rakuten จะมีบริการจัดส่งประเทศไทยให้อยู่แล้ว แต่ข้อควรระวังสำหรับคนที่ช้อปราคารวมค่าส่งเกิน 1,500 บาท ระวังจะภาษีนะ ถ้าต้องการทางเลือกเพิ่มขึ้นอย่างการส่งชิปปิ้งเพื่อให้ชิปปิ้งเคลียร์ภาษีให้เราก็ทำได้เช่นกัน - กลุ่มเว็บที่จัดส่งประเทศไทย
สำหรับกรณีที่เว็บไหนไม่จัดส่งภายนอกประเทศ แนะนำว่าให้ติดต่อกับชิปปิ้งที่ให้บริการส่งสินค้า จากนั้นให้ใช้ที่อยู่โกดังชิปปิ้งในประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้ทำการส่งสินค้าไปยังสถานที่ดังกล่าว แล้วชิปปิ้งจะดำเนินการส่งมาให้ถึงมือผู้ซื้อในเมืองไทยอีกต่อ ซึ่งข้อดีของการจัดส่งผ่านชิปปิ้งคือ บางผู้ให้บริการจะคิดราคาค่าขนส่งจะรวมภาษีนำเข้าเอาไว้หมดแล้ว ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพื่อลดต้นทุนเรื่องภาษีนำเข้าเช่นกัน
3. เข้าใจวิธีสั่งซื้อสินค้าญี่ปุ่น
เพื่อให้การสั่งซื้อง่ายขึ้น เมื่อรู้ถึงช่องทางการสั่งซื้อและวิธีจัดส่งแล้ว คราวนี้จะขอแนะนำ วิธีสั่งของจากญี่ปุ่น ผ่านเว็บที่แนะนำมาว่าขั้นตอนคร่าว ๆ ทำอย่างไรบ้าง
- Amazon Japan
เว็บนี้มีภาษาอังกฤษให้เลือกจึงเข้าใจได้ง่าย ทำการสมัครสมาชิกให้เรียบร้อย เลือกสินค้าที่ต้องการใส่ตะกร้า เมื่อได้สินค้าครบตามต้องการให้เลือก Shipping & Payment ใส่ข้อมูลปลายทางที่ต้องการจัดส่งให้เรียบร้อย ชำระเงิน เท่านี้ก็รอรับสินค้าได้เลย - Rakuten
คล้ายกับเว็บแรกเลย คือมีภาษาอังกฤษให้ใช้งาน แต่สินค้าน้อย เราแนะนำให้ใช้เว็บเป็นภาษาญี่ปุ่นโดยใช้ Google chorme และใช้ Google Translate แปลเว็บไซต์จะดีกว่า จากนั้นสมัครสมาชิก เลือกสินค้าที่ต้องการซื้อ ใส่ข้อมูลที่อยู่การจัดส่งปลายทาง ชำระเงินเรียบร้อยก็รอรับสินค้าได้เลย - Yahoo Auction Japan
เว็บประมูลมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เนื่องจากเว็บเป็นภาษาญี่ปุ่นเพิ่มความง่ายโดยใช้ Google chorme และใช้ Google Translate แปลเว็บไซต์เช่นกัน จากนั้นให้เข้าไปหน้าเว็บลงทะเบียนเพื่อเติมเงินเข้าระบบ ประมูลสินค้าที่ต้องการ เมื่อชนะการประมูล ติดต่อกับทางชิปปิ้งที่มีบริการจัดส่งสินค้าจากญี่ปุ่นมาไทยให้เรียบร้อย ซึ่งแต่ละเจ้าก็จะมีวิธีให้บริการต่างกัน เช่น ก็อปปี้ลิงค์สินค้าที่ต้องการประมูลชนะให้กับเจ้าหน้าที่ ระบุที่อยู่เมืองไทย ก็จะคิดราคาค่าใช้จ่ายมาให้ หรือบางเจ้าให้นำเอาที่อยู่โกดังในญี่ปุ่นไปกรอกกับทางเว็บโดยตรง เป็นต้น (แนะนำว่าควรติดต่อล่วงหน้ากับชิปปิ้งก่อนเริ่มต้นประมูล เพื่อรู้ขั้นตอนอย่างถูกต้องของผู้ให้บริการนั้น ๆ) - Trefac Fashion
เหมือนเดิมเนื่องจากเป็นเว็บภาษาญี่ปุ่น ให้ใช้ Google chorme และใช้ Google Translate จะช่วยให้สั่งซื้อได้ง่ายขึ้น และเพื่อความสะดวกให้ทำการสั่งซื้อผ่านชิปปิ้งในเมืองไทยไปเลยเนื่องจากทางเว็บยังไม่ได้ให้บริการภาษาต่างประเทศ เลือกสินค้าที่ต้องการ ติดต่อแจ้งรายละเอียดไปยังชิปปิ้ง แล้วจะให้บริการต่อ สะดวกสบาย ไม่ยุ่งยาก
4. ซื้อสินค้าอย่างไรให้ได้ราคาถูก

เมื่อเข้าใจทุก ๆ ขั้นตอนของ วิธีสั่งของจากญี่ปุ่น แล้ว คราวนี้ก็มีเทคนิคดี ๆ ในการซื้อสินค้าให้ได้ราคาถูกกว่า นั่นคือการเลือกซื้อแล้วชำระเงินด้วย YouTrip ตัวอย่างเช่น ซื้อ A Bathing Ape GIANT ABC CAMO FULL ZIP HOODIE ราคา 32,780 JPY หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะคิดเป็นเงินไทยที่ 9,533 บาท แต่เมื่อซื้อผ่าน YouTrip เหลือเพียง 9,290.40 บาท เท่านั้น ประหยัดได้ถึง 242.60 บาท เลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้คือ วิธีสั่งของจากญี่ปุ่น สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ จะเห็นเลยว่าการ สั่งของจากญี่ปุ่น มาไทย ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด แถมยังมีเทคนิคดี ๆ ในการซื้อให้ถูกลงใช้จ่ายผ่านบัตร YouTrip ก็ประหยัดไม่แพ้กัน นั่นเพราะได้เรทดีกว่าบัตรเครดิตทั่วไป ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 2.5% และที่สำคัญยังมีสกุลเงินจากทั่วโลกซึ่งสามารถใช้งานได้มากกว่า 150 สกุลเงิน สะดวกและคุ้มค่าแบบนี้เพียงแค่สมัครเป็นเจ้าของบัตรก็ใช้งานได้เลย สมัครวันนี้! ฟรี! ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
