ฮอกไกโดเป็นเกาะที่อยู่ทางเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น หลายคนคงเคยได้ยินและคุ้นหูชื่อเมืองฮอกไกโดอยู่แล้วนะเนอะ ทั้งชื่ออาหารชื่อขนมเอยก็มีการนำชื่อเมืองฮอกไกโดใส่เข้าไปด้วยและเป็นเมืองที่ใคร ๆ ก็อยากไปเที่ยวเพราะธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อาจจะคิดว่าต้องไปเที่ยวหน้าหนาวเท่านั้นถึงจะฟินใช่ไหม แต่บอกเลยว่าฮอกไกโดไม่ได้มีดีแค่ฤดูหนาว สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยจ้า จะมีที่ไหนน่าเที่ยวและ ฮอกไกโด มีอะไรบ้างตาม YouTrip มาเลย
ไปเที่ยวฮอกไกโดฤดูไหนได้บ้าง?
ฮอกไกโดสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่จะแบ่งออกป็น 4 ฤดูท่องเที่ยวเพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ นะ

ฤดูใบไม้ผลิ มีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิประมาณ 4-15 องศา ในฤดูนี้จะเต็มไปด้วยดอกไม้ที่ผลิบานออกดอกกันอย่างสวยงามอย่างดอกซากุระที่ฮอกไกโดก็เป็นไฮไลต์เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีผลไม้ประจำฤดูกาลอย่างสตรอว์เบอร์รีด้วย และกิจกรรมประจำฤดูอย่างตกปลา ล่องแก่ง ปีนเขา
ฤดูร้อน มิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิประมาณ 16-22 องศา ไม่ร้อนจัด ออกแนวแห้งแต่เย็นสบายอยู่ เป็นฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันเพราะดอกไม้หลากสีจะเริ่มบานอวดดอกกันในฤดูนี้ นอกจากนี้ยังมีผลไม้อย่างเชอร์รี่ที่ออกผลด้วย ราคาตามฟาร์มเชอร์รี่จะราคาไม่สูงมาสามารถไปเลือกเก็บกันได้เองเลย
ฤดูใบไม้ร่วง กันยายน – พฤศจิกายน อุณหภูมิประมาณ 5-20 องศา เป็นช่วงที่ฮอกไกโดจะสวยสุด ๆ เลย ต้นไม้จะเปลี่ยนสีผลัดใบเป็นสีส้ม เหลือง น้ำตาล ทำให้ทั้งเกาะมีสีสันขึ้นมา อากาศเย็นสบายเดินเล่นได้ชิว ๆ ทั้งวันไม่ร้อนแน่นอน ผลไม้ฤดูกาลคือแแอปเปิล นอกจากออกผลเยอะแล้วยังถ่ายรูปสวยอีกด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งฤดูไฮไลต์ของฮอกไกโดด้วย
ฤดูหนาว ธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิประมาณ -4 องศา เป็นฤดูไฮไลต์ของฮอกไกโดเลยก็ว่าได้ อากาศหนาวเย็นมาก ทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยหิมะปกคลุมยอดเขา บ้านเรือนกลายเป็นสีขาว ในฤดูนี้ก็จะนิยมเล่นสกีกัน
ที่เที่ยวฮอกไกโด 2023 ที่เที่ยวลับ ๆ ใหม่ ๆ
1. Cape Kamui

ที่นี่คือแหลมคามูอิ เป็นเนินเขาแหลมหินยื่นออกไปในทะเล เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมาก แต่เนื่องจากการเดินทางไม่ได้สะดวกมากเท่าไหร่ทำให้นักท่องเที่ยวมากันน้อยแต่เมื่อมาถึงแล้วบอกเลยความสวยงามคือคุ้มค่าการเดินทางมาก ๆ กิจกรรมที่นี่ก็คือสามารถเดินตามเส้นทางธรรมชาติชมวิว ชมธรรมชาติสีเขียวและทะเลสีฟ้าได้ตามสันเขา ระยะทางประมาณ 700 เมตร ทางเดินสบาย สองข้างทางมีดอกไม้สวยงามด้วยนะ เป็นที่เที่ยวฮอกไกโด 2023 แนวธรรมชาติที่สวยงามมาก
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 18.00 น.
การเดินทาง : ไม่มีรถไฟผ่านสามารถเดินทางจากเมืองโอตารุโดยนั่งรถบัสสาย Hokkaido Chuo Bus จากป้าย Otarueki-mae Bus Termial มาลงที่ป้าย Kamui Misaki ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
2. Hill of the Buddha

เนินพระพุทธเจ้ามีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูปมีความสูงมากถึง 13.5 เมตรและมีน้ำหนัก 1500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะมีค่อย ๆ ลาดลง และความพิเศษคือทางลาดนั้นเต็มไปด้วยทุ่งลาเวนเดอร์ที่ปกคลุมจนเห็นแค่เพียงเศียรพระพุทธรูปให้มองเห็นจากภายนอกเท่านั้น เป็นผลงานการออกแบบสถาปนิกสไตล์มินิมอลของทาดาโอะ อันโดะ ที่ชื่อเสียงระดับโลก ที่นี่เป็นที่เที่ยวเพิ่งเปิดได้ 2-3 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมี Water Garden เป็นกำแพงปูนเปลือยเดินตามทางเดินเพื่อเข้าสู่อุโมงค์ยาว ที่ปลายอุโมงค์จะเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์ใหญ่สามารถกราบไหว้ขอพรได้
ค่าเข้า : 300 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟมาโคะมานาอิ (Makomanai Station) สาย Nanboku Line ต่อด้วยขึ้นรถบัส Sapporo Chuo Bus 102
3. Furarito Alley

ที่เที่ยวฮอกไกโด 2023 กับตรอกฟูราริโต้ แหล่งรวมของกินท้องถิ่นทั้งของความของหวานท้องถิ่นของฮอกไกโด ใครอยากเห็นว่าอาหารท้องถิ่นฮอกไกโด มีอะไรบ้าง ต้องแวะมาเลยนะ ราคาถูกด้วย แถมในตรอกนี้ยังมีผับบาร์สไตล์ญี่ปุ่น ร้านปาจิงโกะอะไรทำนองนี้ก็มีใครสายปาร์ตี้ก็มาได้ แต่ที่ฮิตในตรอกนี้ก็คือยากิโทริ เนื้อไก่เสียบไม้ย่างสไตล์ญี่ปุ่นนั่นเอง
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าเริ่มเปิด 17.00 จนถึงประมาณ 01.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงที่สถานี Asahikawa Station จากนั้นต่อรถบัสหมายเลข 81 ลงที่ 5-jō-dōri แล้วเดินต่อประมาณ 200 เมตร
ที่เที่ยวฮอกไกโด 2023 ยอดฮิต มาทั้งทีห้ามพลาด
4. Otaru canal

ฮอกไกโด มีอะไรบ้างบอกเลยว่าธรรมชาติของจังหวัดฮอกไกโดเป็นของขึ้นชื่อ แนะนำที่เที่ยวสุดฮิตที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองนี้ด้วยนั้นก็คือริมคลองโอตารุ ในสมัยก่อนตรงนี้เป็นท่าเรือที่คึกคักมาการขนสินค้ามีทั้งเรือเล็กใหญ่มากมาย เวลาต่อมาถูกบูรณะให้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย มีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านอาหาร ช่วงกลางคืนเป็นไฮไลต์ของริมคลองโอตารุเลยล่ะเพราะจะมีการเปิดโคมไฟก๊าซโบราณ สว่างไปทั้งริมคลองเลย ช่วงสุดสัปดาห์จะมีศิลปินมาโชว์ผลงานริมทางด้วย เป็นที่เล่นที่น่าไปมากเลยทีเดียว
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานี Otaru Station เดินต่อไปประมาณ 10 นาที
5. Goryokaku Fort

ป้อมโงเรียวกาคุ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ป้อมดาว 5 แฉก เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างดีเพราะจุดชมซากุระที่สวยอันดับต้น ๆ ของฮอกไกโด และที่ชื่อว่าป้อมดาว 5 แฉก ก็เป็นเพราะว่าบริเวณนั้นเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่รูปดาวเนื่องจากในสมัยก่อนต้องการพื้นที่วางปืนใหญ่นั่นเอง สามารถมองเห็นได้จากมุมสูงนะ ป้อมสร้างตามสไตล์ตะวันตกและสร้างขึ้นในปีสุดท้ายของสมัยเอโดะ ที่นี่มีต้นซากุระกว่า 100 ร้อยต้นตามแนวคูน้ำ นอกจากนี้ยังมีจุดแวะอื่น ๆ น่าสนใจ เช่น พื้นที่รูปดาว และหอคอยโงเรียวกาคุซึ่งเป็นจุดชมวิว
ค่าเข้า : ในส่วนของสวนเข้าชมฟรี / หอคอยโงเรียวกาคุ ผู้ใหญ่ 840 JPY, เด็ก 420 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 9.00-18.00 น.
การเดินทาง : จาก Hakodate Station โดยสารรถรางสาย 2 หรือ 5 ไปลงที่ Goryokaku Koen Mae แล้วเดินต่อไปทางทิศเหนือ 750 เมตรประมาณ 10 นาที
6. Blue Pond (Aoi-ike)

ที่เที่ยวฮอกไกโด 2023 ใครวางแผนมาเที่ยวฤดูร้อนห้ามพลาดที่นี่ ที่นี่คือบ่อน้ำสีฟ้าแห่งเมืองบิเอะซึ่งจะสวยงามไม่แพ้หน้าหนาวเลย บ่อน้ำนี้เป็นบ่อน้ำที่ถูกกักไว้จากการสร้างเขื่อนบริเวณภูเขาไฟ การที่น้ำในบ่อมีสีฟ้าสดกว่าบ่อน้ำทั่วไปๆ ก็เป็นเพราะอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์จากการปะทุของภูเขาไฟที่อยู่ในน้ำได้สะท้อนกับแสงแดดที่ส่องลงมานั่นเอง
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Biei โดยสารรถบัสสาย Biei-Shirogane Onsen ไปลงที่ Shirogane Aoiike Iriguchi บัสออกวันละ 5 เที่ยว
7. Jigokudani Noboribetsu

ใครเป็นสายเดินป่าปีนเขาถึงเวลาของพวกเธอแล้วจ้า ที่นี่คือหุบเขานรกจิโงคุดานิ ได้ฉายาว่าเป็น Hell Valley ของฮอกไกโด เป็นหุบเขาที่ความงดงามที่ธรรมชาติสมบูรณ์ มีน้ำร้อนธรรมชาติที่มีแร่ธาตุกำมะถัน มีเส้นทางตามหุบเขาที่สามารถเดินไต่ขึ้นไปเบา ๆ ได้ประมาณ 30 นาที มีบ่อน้ำร้อนบ่อโอยุนุมะ อุณหภูมิ 50 องศา ถ้าใครอยากจุ่มเท้าแช่น้ำร้อนต้องไปลำธาร โอยุนุมะกา ซึ่งไหลผ่านป่านเป็นแม่น้ำหลายร้อยเมตรสามารถนั่งเพลินพร้อมแช่เท้าท่ามกลางทัศนียภาพกันงดงามได้ ช่วงพีคคือใบไม้เปลี่ยนสีนะเราจะได้เห็นต้นไม้แข่งกันผลัดใบเป็นสีส้มเหลือง เป็นที่เที่ยวฮอกไกโด 2023 ที่สวยมากเลยทีเดียว
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : จากหน้าสถานี Noboribetsu ขึ้น Donan Bus สาย NA / ND ลงที่ป้ายหมายเลข N13 Daiichi Takimotokan หรือ N11 Noboribetsu Bus Center แล้วเดินต่อไปตามป้ายบอกทางได้เลย
8. Toya lake

ฮอกไกโด มีอะไรบ้าง? บอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงามในฮอกไกโดที่ไม่ควรพลาด ทะเลสาบโทยะเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลมเส้นรอบวงประมาณ 40 กิโลเมตรซึ่งเกิดจากปล่องภูเขาไฟ ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว แถมในหน้าร้อนอากาศก็เย็นสบายด้วยเหมาะกับการเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือกินลมชมวิวสุด ๆ กลางทะเลสาบมีเกาะเล็ก ๆ อยู่ตรงกลาง คือ เกาะนากาจิมะ สามารถลงไปเดินเล่นได้เช่นกัน ในช่วงไฮซีซั่น ประมาณเดือนเมษายน-ปลายเดือนตุลาคม จะมีการจุดพลุในเวลา 20:45 น. ของทุกคืนด้วยนะ
ค่าเข้า : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มี
การเดินทาง : จาก JR Toya Station โดยสารรถบัสไปยังทายาโกะออนเซ็น(Toyako Onsen) ใช้เวลา 15 นาที
9. Shikisai-No-Oka

ที่เที่ยวฮอกไกโด 2023 สวนดอกไม้ชิกิไซโนะโอกะ ที่นี่ถูกยกให้เป็นสวนสวรรค์ของคนรักดอกไม้เลยนะ เพราะว่ามีดอกไม้หลากสายพันธุ์รวมอยู่ในทีเดียวแบบจุก ๆ เยอะมากกว่าขนาดว่ามาฤดูไหนก็มีดอกไม้ผลิบานให้ชมแน่นอน โดยจะมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์หมุนเวียนพากันมาอวดโฉมมากกว่า 30 ชนิด เช่น ทั้งดอกทิวลิป ลาเวนเดอร์ ดอกทานตะวัน ใครเดินดูดอกไม้ไม่ไหวก็มีบริการรถพาชมทั่วบริเวณให้นักท่องเที่ยวด้วย นอกจากนี้ภายในยังมีร้านอาหารท้องถิ่นอย่างไอศครีมนมฮอกไกโดให้ได้เลือกแวะลองชิมด้วย
ค่าเข้า : 200 JPY / คน
เวลาเปิด-ปิด : 8.30 – 18.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Furano Line ลงที่สถานี Bibaushi แล้วสามารถนั่งแท็กซี่จากหน้าสถานีใช้เวลาประมาณ 10 นาที
10. Sapporo TV Tower

ที่นี่เป็นหอคอยสูง 147.2 เมตร สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร มีชั้นสังเกตการณ์ซึ่งเป็นจุดชมวิวด้วยความสูง 90 เมตร ทำให้เราสามารถเห็นรอบเมืองซัปโปโรได้แบบ 360 องศาเลยละ แถมในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสดี ๆ สามารถมองได้ไกลถึงทะเลญี่ปุ่นเลยทีเดียว นอกจากในตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟหลากสีทำให้คอหอยมีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วย หรือบางเทศกาลอย่างช่วงวันวาเลนไทน์ก็จะมีการเปลี่ยนสีหอคอยให้เป็นสีชมพูกระชากใจคนโสดไปเลยด้วยนะ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1,000 JPY / เด็ก 500 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : ลงรถไฟที่ Odori Station (Subway Namboku Line, Subway Tozai Line) ใช้ทางออกที่ 27 และเดินประมาณ 5 นาที
11. Usuzan Mountain

ไปเที่ยวภูเขาไฟกัน ที่ฮอกไกโดมีภูเขาไฟอยู่หลายที่เหมือนกันแต่ที่ภูเขาไฟอุสุซังนอกจากได้ชมความสวยงามของธรรมชาติภูเขาไฟแล้วกิจกรรมสุดฮิตที่พลาดไม่ได้เลยคือการนั่งกระเช้าขึ้นไปบนจุดสูง เป็นทางเชื่อมต่อไปยังบริเวณใกล้กับยอดภูเขาไฟเลยนะ ที่ปากปล่องจะมองเห็นมีควันอยู่ตลอดเวลา และจากจุดข้างบนเราสามารถมองเห็นทะเลสาบโทยะและภูเขาโชวะชินซันได้เลยด้วย บอกเลยว่าวิวบนกระเช้าคือสุด ๆ ในฤดูหนาวข้างล่างจะเต็มไปด้วยหิมะที่ขาวปกคลุมทั่วภูเขาเลย
ค่าเข้า : ค่ากระเช้าแบบไปกลับ ผู้ใหญ่ 1,500 JPY , เด็ก 750 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 9.00-16.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Toyako ให้ขึ้นรถบัสโดนันปลายทางไป Toyako Onsen ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ลงรถบัสที่ปลายทางอาคารผู้โดยสาร Toyako Onsen จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสโดนันปลายทางที่ Showa Shinzan นั่งรถประมาณ 15 นาที ลงรถที่ป้ายสุดท้าย
12. Mount Moiwa

ปิดจบที่เที่ยวฮอกไกโด 2023 สุดฮิตด้วยภูเขาโมอิวะ ภูเขาเล็ก ๆ ในป่าในกลางซัปโปโร ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตอันดับต้น ๆ ของเมือง ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นจุดชมวิวและสามารถเดินขึ้นไปยอดเขาได้แบบสบาย ๆ เนื่องจากเป็นภูเขาลูกเล็ก ๆ เท่านั้น หรือใครอยากนั่งกระเช้าเห็นภาพวิวภูเขามุมสูงก็มีเหมือนกัน โดยกระเช้าจะขึ้นไปที่ระดับความสูง 3 ใน 4 ของภูเขาจากนั้นเปลี่ยนมานั่งมินิเคเบิ้ลคาร์ เพื่อขึ้นไปยังสถานีด้านบนยอดเขาต่อจ้า ด้านบนมีดาดฟ้าชมวิว มีร้านอาหารและโรงละครด้วย ไฮไลต์อยู่ที่เวลาหลังพระอาทิตย์ตกเราจะได้เห็นวิวเมืองฮอกไกโดยามค่ำคืนที่สวยงามสุด ๆ ไปเลย
ค่าเข้า : ค่ากระเช้าไปกลับ 1,700 JPY / คน
เวลาเปิด-ปิด : 10:30-22:00 น.
การเดินทาง : จาก Susukino โดยสาร Sapporo’s only streetcar line ลงที่ Ropeway Iriguchi Station จากนั้นนั่งรถบัสรับส่งฟรีไปยังสถานีกระเช้าด้านล่าง
เที่ยวญี่ปุ่นด้วย YouTrip ประหยัดกว่า

บอกต่อวิธีเที่ยวญี่ปุ่นให้ประหยัดคุ้มกว่าเดิมด้วย YouTrip ประหยัดกว่ายังไงจะอธิบายให้ฟัง สมมุติว่าตั้งงบเที่ยวญี่ปุ่น ไว้ที่ 120,000 JPY ไปที่ร้านแลกเงินจะได้เป็นเงินที่ 32,520 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตทั่วไปต้องจ่ายในราคา 33,350 บาท แต่หากใช้จ่ายผ่าน YouTrip จะได้จ่ายในราคาเพียง 32,418 บาท ประหยัดมากขึ้นถึง 932 บาทแหนะ ได้เรทดีกว่า ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5%

เท่านั้นยังไม่พอ! เมื่อมีแพลนเดินทางอย่าลืมจองที่พักล่วงหน้าเตรียมไว้ด้วยละ นอกจาก YouTrip จะให้คุณแลกเงินได้เรทที่ดีกว่าเที่ยวถูกกว่าใครแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ใหม่ “YouTrip Perks” จองที่พัก Agoda หรือซื้อตั๋วค่าเข้าที่เที่ยวผ่าน Klook ได้เงินคืนแบบคุ้ม ๆ กันไปเลย
ฮอกไกโดไม่ได้มีดีแค่หน้าหนาวสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ใครอยากเจอหิมะก็ไปช่วงหน้าหนาวส่วนใครอยากไปแล้วได้เดินเที่ยวเยอะ ๆ แนะนำฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้เปลี่ยนสีเลย ฮอกไกโดจะสวยและมีสีสันสุด ๆ ใครอยากรู้ว่าฮอกไกโด มีอะไรบ้าง เที่ยวที่ไหนดีก็เข้ามาเก็บข้อมูลไปเที่ยวตามได้เลย และอย่าลืมให้ YouTrip เป็นตัวช่วยความประหยัดในทริปญี่ปุ่นครั้งนี้ด้วยนะ ได้เรทดีกว่า ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% คุ้มค่า ใช้สะดวก รับรองประหยัดขึ้นเยอะ
