เข้าหน้าร้อนอย่างเป็นทางการแล้ว อากาศร้อนระอุแบบนี้แค่เดินไปห้องน้ำเหงื่อยังออกเลย พอเหงื่อออกสิ่งที่ตามมาก็คือกลิ่นนั้นเอง โดยเฉพาะกับคุณผู้ชายที่เหงื่อมักจะออกง่ายกว่าผู้หญิงกลิ่นไม่พึงประสงค์เลยออกมาง่ายกว่า หลายคนเลยเลือกที่จะใช้น้ำหอมเพื่อเปลี่ยนให้เป็นกลิ่นหอมแทน น้ำหอมนอกจากจะกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้วยังเป็นช่วยสร้างบุคคลิกให้เราด้วย เป็นอะไรที่บงบอกความเป็นตัวเราได้ดีเลย ใช่แล้วจ้าวันนี้ YouTrip มี น้ำหอมผู้ชาย มาแนะนำกันจุก ๆ กัน 10 อันดับ ตัวไหนหอม ตัวไหนฉีดแล้วผู้หญิงเลิฟติดตามกันได้เลยนะ
How to เลือก น้ำหอมผู้ชาย 2024
เนื่องจากน้ำหอมแบรนด์ดี ๆ ที่เป็นน้ำหอมผู้ติดทนนานก็มักจะราคาสูงสักหน่อย ก่อนจะเลือกซื้อเรามาทำความเข้าใจและวิธีการเลือกน้ำหอมแบบคร่าว ๆ กันก่อนดีกว่านั่นก็คือ ‘ช่วงของกลิ่น’ และ ‘ความเข้มข้น’ ของน้ำหอมนั่นเอง มาเริ่มดูกันที่ช่วงของกลิ่น หรือ Notes กันก่อนเลย
ช่วงของน้ำหอม หรือ Notes จะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้
- Top Notes หรือ Head Notes คือกลิ่นแรกที่เราจะได้กลิ่นหลังฉีดน้ำหอม กลิ่นจะอยู่ประมาณ 15 นาทีแล้วค่อย ๆ จางลงเป็นกลิ่นใน Notes ต่อไป
- Middle Notes หรือ Heart Notes คือกลิ่นหลักของน้ำหอมจะได้กลิ่นหลังฉีดประมาณ 15-20 นาทีและติดอยู่นาน 3-6 ชั่วโมง ควรเลือกซื้อน้ำหอมช่วงเวลานี้ดีที่สุดเพราะจะได้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำหอมนั้นจริง ๆ
- Base Notes คือกลิ่นสุดท้ายของน้ำหอม ที่จริงกลิ่นนี้จะปนอยู่กับช่วง Meddle Notes ด้วยแต่กลิ่นจะออกจาง ๆ ติดทนอยู่นานถึง 24 ชั่วโมงได้เลย
ความเข้มข้นของน้ำหอม แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้
นอกจากต้องรู้เรื่องราวส่วนผสมน้ำหอมแล้ว ก่อนซื้อเรายังจะต้องรู้ชนิดของน้ำหอมด้วยนะ จะได้รู้ว่าแต่ละตัวติดทนขนาดไหน ซึ่งแต่ละตัวจะเขียนติดอยู่ที่กล่องเลย ดูกันดี ๆ จะได้ไม่พลาด
- น้ำหอม Eau Fraiche (EF) : ความเข้มข้น 1-3% เป็นระดับที่เจือจางที่สุด กลิ่นอยู่แค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ค่อยเป็นที่นิยม
- น้ำหอม Eau de Cologne (EDC) : ความเข้มข้น 2-4% เป็นระดับความหอมที่ฮิตในหมู่ผู้ชายมาก ๆ เพราะไม่ฉุดจนเกินไป ฉีดเพิ่มระหว่างวันได้ กลิ่นติดทนประมาณ 2-3 ชั่วโมง ฉีดตรง ๆ ที่ผิวได้เลย
- น้ำหอม Eau de Toilette (EDT) : ความเข้มข้น 5-15% ได้รับความนิยมเช่นกัน ราคาถูกและมีกลิ่นให้เลือกเยอะ แม้ความเข้มข้นจะไม่มากแต่ก็ยังมีความหอมอยู่ ติดทนประมาณ 3 ชั่วโมง
- Eau de Parfum (EDP) : ความเข้มข้น 15-20% ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะราคาไม่แรงมาก ติดทนได้ดี 5-8 ชั่วโมง สามารถฉีดให้เสื้อผ้าหรือผมได้
- Parfum หรือ Perfume : ความเข้มขน 15-40% ติดทนที่สุดอยู่ได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมงราคาสูงเพราะเป็นหัวน้ำหอม เน้นแตะตามจุดชีพจร เช่น ข้อมือ หลังหู เป็นต้น
เข้าใจพื้นฐานการเลือกน้ำหอมแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลเราจะต้องเลือกกลิ่นชอบ! บ่งบอกความเป็นตัวตนและสไตล์ของเรามากที่สุดล่ะจ้ะ
1. Creed – Aventus
เปิดประเดิมด้วยน้ำหอมผู้ชายติดทนในตำนาน ซึ่งแบรนด์ Creed เองก็มีประวัติที่ยาวนานมากกว่า 200 ปีแล้ว Creed Aventus เป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Citrus คือเน้นให้ความสดชื่นแก่ผู้ใช้ กลิ่นที่ชัดที่สุดในตอนเปิดคือกลิ่นสับปะรดที่ถือว่าเป็น signature เลยก็ว่าได้ ต่อจากนั้นจะมีกลิ่นออกควันๆ ไม้ๆ แทรกออกมาทำให้รู้สึกมีความธรรมชาติและเท่ห์ เป็นกลิ่นของผู้ชายโดยแท้จริง มีความหรูหราบอกรสนิยมได้เป็นอย่างดี โดยรวมแล้วก็ให้กลิ่นที่สดชื่นแบบหรูหราแหละ
ชนิดน้ำหอม : Eau De Parfum (EDP)
Top Notes : Blackcurrant, ฺBergamot, Pineapple
Middle Notes : Louisiana Birch
Bottom Notes : Moss, Vanila
ราคา : 10,900 บาท (50ml)
2. Creed – Silver Mountain Water
นอกจากจะเป็นน้ำหอมผู้ชายที่ฮอตฮิตแล้วก็ยังเป็นน้ำหอมสำหรับผู้ชายในตำนานอีกตัวสำหรับ Creed – Silver Mountain Water เป็นกลิ่นแนวแบบว่าผู้ชายสุภาพ ผู้ดีอ่อนโยน เป็นผู้นำ ดูมีคลาส กลิ่นเริ่ม
จาก Citrus แต่มีความนุ่มนวลกว่ามาก ต่อเนื่องด้วยชาเขียวและ Blackcurrant สดชื่นเรียกรอยยิ้มปิดท้ายเบสด้วย Musk และ พิมเสน สดชื่นเย็น ๆ ให้ความรู้สึกสะอาด เอาเป็นว่าใครที่กำลังจะพาสาวไปเดตหรือไปพบคนสำคัญกลิ่นนี้คือใช่เลยเสริมความเป็นผู้ดี เปล่องออร่ากระจายมากเวอร์
ชนิดน้ำหอม : Eau De Parfum (EDP)
Top Notes : Bergamot, Mandarin Orange
Middle Notes : Green Tea, Black Currant
Bottom Notes : Musk, Petitgrain, Sandalwood, Galbanum
ราคา : 10,900 บาท (50ml)
3. Chanel – Allure Homme Sport
น้ำหอมผู้ชาย ที่เผยเสน่ห์ความฉลาด อ่านไม่ผิดหรอก ให้กลิ่นแบบผู้ดีมีความรู้ ฮ่า ๆ มันผสมกับความสปอร์ตที่ให้ฟิลเท่ ๆ แต่ก็เซ็กซี่เข้าไปด้วยเลยยิ่งทำให้กลิ่นนี้พิเศษขึ้นไปอีก มีกลิ่นสะอาด ๆ จากซีดาร์เข้มข้น หอมอ่อน ๆ จากอัลมอนด์ของ Tonka Note มีไวท์ มัสก์ ที่มอบกลิ่นสัมผัสอันล้ำลึกด้วย หนุ่ม ๆ คนไหนกำลังหาน้ำหอมที่เพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองแล้วล่ะก็ต้องไม่พลาดตัวนี้
ชนิดน้ำหอม : Eau De Toilette (EDT)
Top Notes : Orange, Sea Notes, Aldehydes, Blood Mandarin
Middle Notes : Pepper, Neroli, Cedar
Bottom Notes : Tonka Bean, Vanilla, White Musk, Amber, Vetiver, Elemi resin
ราคา : 100 USD (100ml)
4. Chanel – Bleu de
น้ำหอมผู้ชายติดทนนานที่ใช้ได้ทุกโอกาสน้ำหอมที่ออกแบบมาเป็นแนว Woody Aromatic กลิ่นแบบทันสมัยแล้วก็มีความสดชื่นไปพร้อมกัน กลิ่นออก Citrus นำมาก่อน + Fresh Spicy + Balsamic + Woody + Aromatic รวมแล้วกันละมุนมากเหมือนไม้หอมแต่ไม่ฉุนจัด ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ Chanel – Bleu de สามารถใช้ได้กับทุกโอกาสเลยไม่ว่าจะเป็นเข้าออฟฟิศไปทำงาน หรือไปทำกิจกรรมข้างนอก ทานข้าว ดูหนัง ชิล ๆ ก็ใช้ได้หมดเลย ซื้อขวดนี้ก็คุ้มนะ ใช้ง่ายได้หลายโอกาส
ชนิดน้ำหอม : Eau De Parfum (EDP)
Top Notes : Grapefruit, Lemon, Mint, Pink Pepper
Middle Notes : Ginger, Nutmeg, Jasmine, Iso E Super
Bottom Notes : Incense, Vetiver, Cedar, Sandalwood, Patchouli, Labdanum, White Musk
ราคา : $59 USD (100ml)
5. Versace – Pour Homme
เรียกได้ว่า Pour Homme เป็นอีกหนึ่งตัวดังของแบรนด์ Versace เลย หนุ่ม ๆ ที่ไม่ชอบกลิ่นผลไม้หวาน ๆ มาตัวนี้เลยให้กลิ่นสดชื่นแบบคม ๆ ใน Top Notes มีเลมอน มะกรูด ดอกส้ม จากนั้นก็จะเป็นกลิ่นหลักออกโทนสมุนไพรอ่อน ๆ ติดเขียวนิดนึง แล้วก็มีความเท่จากกลิ่นไม้ ใส่ความหอมจากดอกกุหลาบบาง ๆ ปิดท้ายนิดหน่อยแต่ไม่กลบความแมนนะ ยังคงเท่แบบนุ่ม ๆ อยู่ กลิ่นไม่แรงจนเกินไปเหมาะสำหรับเป็นน้ำหอมประจำวันได้
ชนิดน้ำหอม : Eau De Toilette (EDT)
Top Notes : Lemon, Neroli, Bergamot, Rose de Mai
Middle Notes : Hyacinth, Cedar, Clary Sage, Geranium
Bottom Notes : Tonka Bean, Musk, Amber
ราคา: 37.75 USD (100ml)
6. Issey Miyake – L’eau d’Issey Pour Homme
น้ำหอมผู้ชาย ตัวนี้รวมส่วนผสมแปลก ๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาเป็นกลิ่นที่หอมได้ ให้กลิ่นสะอาดเหมือนน้ำและมีโน๊ตความหอมจากไม้ Top Notes มีเมล็ดผักชี ส้มแมนดาริน ส้มยูซุ เลมอน มะกรูด กลิ่นหลักจะมีความสไปซี่ขึ้นได้มาจากลูกจันทร์เทศ อบเชย ดอก Bourbon Geranium และดอกบัว จบด้วยกลิ่นไม้จาก ไม้จันทร์หอม ซีดาร์ และยาสูบ ใครสายสมุนไพรมาขวดได้เลยรับรองว่าจะได้ความเป็นสมุนไพรแบบเท่ คม สดชื่น ฉีดได้ทุกวันทุกวัยเลยจ้า
ชนิดน้ำหอม : Eau De Toilette (EDT)
Top Notes : Woody Aquatic, Yuzu, Bergamot, Lemon, Tarragon
Middle Notes : Nutmeg, Water Lily
Bottom Notes : Tobacco, SandalWood, Cedar, Vetiver, Musk
ราคา: 58 USD (125ml)
7. Mont Blanc – Legend
‘มองบลองต์ เลเจนด์’ ขอเขียนภาษาไทยให้เลยเพราะว่าชื่อเท่ ฮ่า ๆ น้ำหอมกลิ่นนี้อยู่ในตระกูล Fougere ซึ่งทางแบรนด์เขาก็เอามาทำให้มีความสดชื่นแบบแมน ๆ กลิ่นแรกจะให้ความสดชื่นมาก่อนเลย เป็นกลิ่นจากส้ม มะนาว มะกรูดอิตาเลี่ยน แถมมีลาเวนเดอร์ฝรั่งเศสด้วย กลิ่นกลางหลักจะให้ความหอมของดอไม้ผสมไม้หอม ผสมกันระหว่างไม้ซีดาร์ขาว กุหลาบ มะลิและโพมาโรส มีความหอมหวานแบบผลไม้และสไปซี่นิด ๆ จากสมุนไพรเครื่องเทศ นอกจากความสดชื่นแล้วก็มีความแข็งแกร่งจากไม้โอ๊คมาตบท้ายอีก ว่ากันว่าเป็นกลิ่นหอมแบบบุรุษในตำนานเลยล่ะ
ชนิดน้ำหอม : Eau De Toilette (EDT)
Top Notes : Lavender, Bergamot
Middle Notes : Sandalwood, Jasmine
Bottom Notes : Oak Moss, White Cedarwood
ราคา : 42.99 USD (100ml)
8. Dior – Sauvage Eau De Parfum
ก่อนอื่นขอชมเชยก่อนว่าขวดน้ำหอมเท่มาก เท่แพง เท่หล่อมากเวอร์ หล่ออย่างเดียวไม่พอสาว ๆ เขายังบอกอีกว่าได้กลิ่นแล้วอยากซุกเลยจ้า ซึ่งทางแบรนด์เขาก็เคลมมาจริง ๆ ว่าให้กลิ่นออกแนวผู้ชายหล่อ เท่ สุขุม กลิ่นท็อปจะออกแนวสดชื่น ๆ คลีน ๆ หน่อย พอถึงช่วงกลางกลิ่นหลักจะให้ความสดใสแบบแมน ๆ หวานนิดนึง แล้วตบท้ายด้วยความเครื่องเทศบวดหวานวนิลาเบา ๆ รวมแล้วก็คือเซ็กซี่ ลึกลับ น่าค้นหา อยากกอด บางคนก็บอกว่าให้ความรู้สึกเพลย์บอยนิด ๆ ด้วยนะ เรียกได้ว่าเป็นน้กหอมที่ชวนจั๊กจี้มากเวอร์
ชนิดน้ำหอม : Parfum
Top Notes : Bergamot
Middle Notes : Sichuan Pepper, Lavender, Star Anise, Nutmeg
Bottom Notes : Ambroxan, Vanilla
ราคา : 51 USD (100ml)
9. Tom Ford – Neroli Portofi
น้ำหอมผู้ชายติดทนนานที่ให้ความรู้สึกเบาโปร่งโล่งสบาย ตัวนี้มีกลิ่นอยู่ในตระกูล Citrus ให้ความรู้สึกสดชื่น สะอาด คลีน ๆ กึ่ง Floral จากส่วนผสมหลักของมะกรูด, ผลส้ม Mandarin, ดอกส้ม และ Neroli ส่วนผสมมีอยู่ในกี่อย่างเลยได้กลิ่นที่มันเรียบง่ายมาก ๆ มีความสดชื่นส้มแมนดารินกับมะกรูดและก็ไม่ได้กลิ่นแหลมจนเกินไป เหมาะกับหน้าร้อนมาก ๆ เพราะให้ความเย็นสบายและกลิ่นแบบสะอาด ผู้ชายกลิ่นสะอาดน่าเข้าใกล้นะจะบอกให้
ชนิดน้ำหอม : Eau De Parfum (EDP)
Top Notes : Bergamot, Mandarin Orange, Bitter Orange, Lemon, Lavender, Rosemary, Myrtle
Middle Notes : African Orange flower, Neroli, Jasmine, Pittosporum
Bottom Notes : Amber, Angelica, Ambrette (Musk Mallow)
ราคา : 89.09 USD (100ml)
10. Giorgio Amani – Mania
อยากเป็นผู้ชายเซ็กซี่ลองขวดนี้สิจ๊ะ เขาว่ากันว่า Giorgio Amani – Mania เป็นน้ำหอมผู้ชายติดทนนานที่ให้ความเย้ายวนแบบเซ็กซี่ที่ไม่เยอะเกินไป เซ็กซี่แบบกำลังงาม เปิด Top Notes ด้วยกลิ่นสะอาดก่อนเลยมีหญ้าฝรั่นที่ให้ความหวานขมนิด ๆ ช่วงกลางมีความเท่ขรึมจากไม้ซีดาร์ ความควัน ๆ จากหญ้าแฝก แล้วปิดท้ายด้วย Musk ผสมความอบอุ่นจากแอมเบอร์ รวมแล้วก็คือให้กลิ่นเซ็กซี่แบบสะอาด มีมาด แต่ก็ไม่หยิ่งจนเกินไป เหมาะกับวัยรุ่นกลาง ๆ ไปจนถึงวัยทำงาน
ชนิดน้ำหอม : Eau De Toilette (EDT)
Top Notes : Mandarin, Spices, Saffron
Middle Notes : Cedar, Vetiver
Bottom Notes : Musk, Amber
ราคา : 112.20 USD (100ml)
เป็นยังไงบ้างกับ 10 น้ำหอมผู้ชาย ใครที่มีแพลนไปเที่ยวต่างประเทศหิ้วน้ำหอมถูก ๆ กลับมา อย่าลืมใช้จ่ายผ่านบัตร YouTrip เรทดี ไม่มีธรรมเนียม 2.5%ใช้แล้วคุ้มจะติดใจ สมัครเลย! ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี