ตัวช่วยสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยในการออกกำลังกายต้องยกให้กับ “นาฬิกา” ซึ่งปัจจุบันยี่ห้อ Garmin กำลังครองตลาดในด้านนี้ ด้วยเทคโนโลยีมาตรวัด และฟังก์ชันต่าง ๆ น่าสนใจ แต่ด้วยสิ่งใหม่เกิดขึ้นเสมอนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คนรักการออกกำลังกายต้องคอยอัพเดทรุ่นใหม่อยู่ตลอดเวลา คนที่กำลังสนใจนาฬิกายี่ห้อนี้ แต่ไม่รู้จะซื้อนาฬิกา Garmin รุ่นไหนดี 2021 เราจัดข้อมูลมาให้แน่น ๆ เลย
ความเป็นมาของ Garmin
Garmin ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1989 โดย Garry Burrell และ Min Kao มองการณ์ไกลเรื่องอุปกรณ์ GPS พกพากับเครื่องบิน จนปี 1998 ก็มีการผลิตอุปกรณ์สำหรับรถยนต์จนล่าสุดมีการลดขนาดตัวเครื่องจนมาอยู่ในนาฬิกาข้อมือ จุดเด่นที่ทำให้ Garmin ครองใจคนรักการออกกำลังกาย คือ การเพิ่มฟังก์ชันที่ตอบโจทย์สุขภาพแบบครบครัน ไม่ว่าจะสาย Fitness, Outdoor พร้อมดีไซน์โดนใจ น่าใช้งาน ปัจจุบันทำให้นาฬิกายี่ห้อนี้กลายเป็นคู่หูของสายออกกำลังกาย นักกีฬา จำนวนมาก ถ้าพร้อมแล้วมาอัพเดทนาฬิกาทั้ง 10 รุ่นนาฬิกา Garmin ไปพร้อม ๆ กันเลย
1. Forerunner® 945

เริ่มต้นด้วยรุ่นที่เหมาะสำหรับสายวิ่งและไตรกีฬา อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เฉพาะทางในด้านนี้เยอะมาก อาทิ เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจบริเวณข้อมือ Optical HR Censor V.3 เพิ่มความแม่นยำกว่าเดิม, GPS บอกตำแหน่ง ระยะทาง ความเร็ว จังหวะในการวิ่ง ใส่แผนที่แบบสีเพื่อความชัดเจน โดดเด่นด้วยการเปิดเพลงฟังผ่านนาฬิกาสนุกในทุกกิจกรรม
ฟีเจอร์เด่น : Optical HR Censor Version 3 วัดอัตราการเต้นของหัวใจบริเวณข้อมือแม่นยำขึ้นกว่าเดิม
ขนาดหน้าปัด : 47 มม.
แบตเตอรี่ : ใช้ได้สูงสุด 2 สัปดาห์
จอแสดงผล : Mip Transflective จอสี มองเห็นได้กลางแสงอาทิตย์
ราคา : 599.99 USD
2. Forerunner® 945 LTE

หาก เปรียบเทียบ Garmin แต่ละรุ่น รุ่นนี้ถือว่าอัปเดตกว่า Forerunner® 945 ด้วยการเชื่อมต่อ LTE แบบไม่ต้องมีมือถือ มาพร้อม LiveTrack สำหรับแชร์ตำแหน่ง เส้นทางการวิ่งเรียลไทม์กับคนอื่น แต่ที่โดดเด่นมากคือ การส่งข้อความไปยังผู้ติดต่อที่เชื่อมกันอยู่กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน พร้อมระบบ Assistance Plus แชร์ชื่อ ตำแหน่งได้ทันทีตลอด 24 ชม. รุ่นนี้จึงเน้นความปลอดภัยมากกว่าชัดเจน
ฟีเจอร์เด่น : การเชื่อมต่อ LTE อัตโนมัติและ LivevTrack เพิ่มความปลอดภัย
ขนาดหน้าปัด : 44 มม.
แบตเตอรี่ : ใช้ได้สูงสุด 2 สัปดาห์
จอแสดงผล : Mip Transflective จอสี มองเห็นได้กลางแสงอาทิตย์
ราคา : 649.99 USD
3. Forerunner® 55

Garmin รุ่นไหนดี 2021 นี่คืออีกรุ่นที่น่าสนใจ ด้วยความเป็นรุ่นน้องของ Forerunner® 45 ตัวเรือนจึงมีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับสาว ๆ และคนตัวเล็ก แต่ฟังก์ชันยังคงจัดหนักไม่เปลี่ยน โดยตัวเด่น ๆ คือ โหมดแนะนำการออกกำลังกายที่แสดงผลบนหน้าจออัตโนมัติซึ่งแสดงได้มากกว่า 1 ด้าน และโหมด Pool Swimming สำหรับคนรักกีฬาว่ายน้ำ แถมราคาไม่แรงอีกต่างหาก
ฟีเจอร์เด่น : โหมด Pool Swimming วัดค่าการออกกำลังกายระหว่างว่ายน้ำ
ขนาดหน้าปัด : 42 มม.
แบตเตอรี่ : ใช้ได้สูงสุด 2 สัปดาห์
จอแสดงผล : Mip Transflective จอสี มองเห็นได้กลางแสงอาทิตย์ พร้อมระบบ Data Fields 4 ช่องข้อมูล
ราคา : 199.99 USD
4. Fēnix® 6S – Pro Solar Edition

ต่อกันด้วยรุ่นที่มีขนาดเล็กอีกเช่นกัน จึงดูตอบโจทย์สาว ๆ อย่างมาก ด้านฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็มีความครบครันไม่แพ้ใคร โดดเด่นที่สุดคือ Auto Emergency Contact กรณีเกิดอุบัติเหตุที่จะติดต่อไปหาผู้อื่นให้รีบดำเนินการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที มาพร้อมระบบชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ใครเป็นสาผจญภัยหรือต้องทำกิจกรรมเสี่ยงบ่อยครั้ง รุ่นนี้จัดว่าตอบโจทย์ในด้านความปลอดภัยมากจริง ๆ
ฟีเจอร์เด่น : Auto Emergency Contact การติดต่อผู้อื่นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
ขนาดหน้าปัด : 42 มม.
แบตเตอรี่ : สูงสุด 34 วันเมื่อเปิด Battery Watch Saver
จอแสดงผล : Mip Transflective จอสี มองเห็นได้กลางแสงอาทิตย์
ราคา : 799.99 USD
5. Fēnix® 6 – Pro Solar Edition

เปรียบเทียบ Garmin แต่ละรุ่น ในตระกูลนี้ นี่คือรุ่นเรือธงที่ถูกพูดถึงมากสุด ด้วยวัสดุสุดแข็งแกร่งที่นำมาผลิต อาทิ คาร์บอน สเตนเลสสตีล ไทเทเนียม กับระบบชาร์จไฟผ่านแสงอาทิตย์ และการทำงานของฮาร์ดแวร์อันทรงพลัง เหมาะกับคนรักกีฬา ออกกำลังกาย และผจญภัย ฟังก์ชั่นจัดเต็มไม่มีขาด เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง
ฟีเจอร์เด่น : ฟีเจอร์เช็คสุขภาพ เช่น Sleep เช็คการนอน, Stress เช็คระดับความเครียด
ขนาดหน้าปัด : 47 มม.
แบตเตอรี่ : สูงสุด 80 วัน กรณีมีพลังงานแสงอาทิตย์ และเปิด Battery Watch Saver
จอแสดงผล : Mip Transflective จอสี มองเห็นได้กลางแสงอาทิตย์
ราคา : 799.99 USD
6. Fēnix® 6X – Pro Solar Edition

อีกรุ่นในตระกูลนี้ที่ฟังก์ชันทั่วไปแทบไม่แตกต่างกัน ทว่าจุดเด่นสำคัญคือ การดีไซน์ภายนอกที่เพิ่มความหรูหรา ทันสมัย มาพร้อมเลนส์ชาร์จพลังงานจากแสงอาทิตย์ Power Glass เมื่อบวกกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าทุกรุ่นจึงทำให้ใช้งานได้ยาวนานจากการรับพลังงานแบบเต็ม ๆ ตอบโจทย์คนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการชาร์จหรือไม่สะดวกต่อการชาร์จบ่อย
ฟีเจอร์เด่น : Power Glass บนหน้าปัดขนาดใหญ่ ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
ขนาดหน้าปัด : 51 มม.
แบตเตอรี่ : สูงสุด 120 วัน กรณีมีพลังงานแสงอาทิตย์ และเปิด Battery Watch Saver
จอแสดงผล : Mip Transflective จอสี มองเห็นได้กลางแสงอาทิตย์
ราคา : 949.99 USD
7. Venu® 2S

Garmin รุ่นไหนดี 2021 ตอบโจทย์สุขภาพต้องรุ่นนี้เลย ด้วยรูปแบบที่เน้นการออกกำลังกายจากฟีเจอร์ต่าง ๆ ครบครัน โดยเฉพาะ Health Snapshot ผู้ใช้จะบันทึกเซสชั่นได้ 2 นาที สำหรับการติดตามผลสุขภาพของตนเอง เพิ่มความแม่นยำในการดูแลร่างกายมากขึ้น ฟังก์ชัน LiveTrack โหมดออกกำลังกายกว่า 25 แบบ และอื่น ๆ อีกเพียบ
ฟีเจอร์เด่น : Health Snapshot บันทึกเซสชั่น 2 นาที ติดตามผลสุขภาพ
ขนาดหน้าปัด : 40 มม.
แบตเตอรี่ : ใช้ได้สูงสุด 11 วัน
จอแสดงผล : Mip Transflective จอสี มองเห็นได้กลางแสงอาทิตย์
ราคา : 399.99 USD
8. Venu® 2

เปรียบเทียบ Garmin แต่ละรุ่น ของตระกูลนี้ นี่คือรุ่นที่เหนือกว่าเล็กน้อยในเรื่องของขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า นอกนั้นฟังก์ชันทั่วไปก็แทบไม่มีข้อแตกต่าง ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากได้หน้าปัดเพื่อมองเห็นตัวเลขหรือค่าในการออกกำลังกายชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะผู้ชายที่สวมใส่แล้วเข้ากับข้อมืออย่างยิ่ง
ฟีเจอร์เด่น : Health Snapshot บันทึกเซสชั่น 2 นาที ติดตามผลสุขภาพ
ขนาดหน้าปัด : 45 มม.
แบตเตอรี่ : ใช้ได้สูงสุด 12 วัน
จอแสดงผล : Mip Transflective จอสี มองเห็นได้กลางแสงอาทิตย์
ราคา : 399.99 USD
9. Instinct® Solar

สำหรับสายผจญภัย Adventure ทั้งหลายต้องไม่พลาดกับรุ่นนี้เลย ด้วยจุดเด่นของระบบ Solar Charging ผ่าน เลนส์ Power Glass บุกป่าฝ่าดงแค่ไหนก็หายห่วง เพิ่มเติมกับฟังก์ชัน Power Manager เพื่อการตั้งค่าพลังงานให้เหมาะกับผู้ใช้ในช่วงเวลานั้น ๆ ส่วนโหมดพื้นฐานอื่นก็มีให้เหมือนเดิม
ฟีเจอร์เด่น : Power Manager เพื่อปรับการตั้งค่าพลังงานให้เหมาะกับผู้ใช้
ขนาดหน้าปัด : 45 มม.
แบตเตอรี่ : สูงสุด 56 วันเมื่อเปิด Battery Watch Saver กรณีมีพลังงานแสงอาทิตย์ใช้ได้ไม่จำกัด
จอแสดงผล : Mip Transflective จอขาวดำ มองเห็นได้กลางแสงอาทิตย์
ราคา : 399.99 USD
10. Forerunner® 745

ปิดท้ายด้วย Garmin รุ่นไหนดี 2021 สำหรับคอกีฬาต้องไม่พลาด เหมาะสำหรับคนที่อยากฝึกร่างกายให้แข็งแกร่งด้วยฟังก์ชันหลากหลาย เช่น Recovery Advisor ที่จะแนะนำช่วงเวลาของการพักฟื้นเมื่อฝึกซ้อมเสร็จ สร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนฟังก์ชันอื่นก็แทบไม่ต่างจากตระกูลเดียวกัน
ฟีเจอร์เด่น : Recovery Advisor แนะนำช่วงเวลาของการพักฟื้นเมื่อฝึกซ้อมเสร็จ
ขนาดหน้าปัด : 48 มม.
แบตเตอรี่ : ใช้ได้สูงสุด 7 วัน
จอแสดงผล : Mip Transflective จอสี มองเห็นได้กลางแสงอาทิตย์
ราคา : 499.99 USD
คงตอบคำถามได้เยอะทีเดียวว่า Garmin รุ่นไหนดี 2021 น่าซื้อ แต่อย่าลืมหากช้อปปิ้งออนไลน์ต่างประเทศแล้วได้ราคาถูกกว่าต้องเลือก YouTrip คือตัวเลือกอันสุดคุ้มค่า ให้เรทที่ดีกว่า ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 2.5% มีสกุลเงินกว่า 150 ประเทศ เอาไว้ใช้จ่ายช้อปปิ้งต่างประเทศดูนะ รับรองว่าประหยัด คุ้มจริงอะไรจริง สมัครฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
