หากพูดถึง “หูฟังเกมมิ่ง” ในช่วงหลัง ๆ มักเน้นเทคโนโลยีทางด้านการตัดเสียงรบกวน และเรื่องเกี่ยวกับเสียงเป็นหลัก แต่ละแบรนด์พยายามงัดเอานวัตกรรมสุดเจ๋งของตัวเองมาฟาดฟันกันจนผู้ใช้เลือกไม่ถูกเลยทีเดียว ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อ หูฟังเกมมิ่ง 2022 รุ่นไหนดี เราได้คัดรุ่นเด็ด ๆ ให้แล้ว!!!
เทรนด์การเลือกซื้อหูฟังสำหรับเล่นเกม 2022
สำหรับใครที่กำลังมองหา หูฟังเล่นเกม ให้กับตนเองในปี 2022 แนะนำต้องเลือกให้เหมาะกับตนเองที่สุด เน้นมีฟังก์ชันที่ชอบจริง ๆ เพราะทุกวันนี้แต่ละรุ่นที่ออกมาราคาไม่ใช่ถูก ๆ เน้นเรื่องดีไซน์ เทคโนโลยีเสียง ระบบการตัดเสียงรบกวน และน้ำหนักเมื่อใช้งานจริง จะช่วยให้ได้ของที่มีคุณภาพแน่นอน ซึ่งรุ่นที่คัดมาเน้น ๆ มีดังนี้
1. Razer Kraken V3 Pro
เริ่มต้นด้วยหูฟังสำหรับการเล่นเกมแบบไร้สายเพื่อให้สะดวกในการใช้งาน สัมผัสทุกอรรถรสในการเล่นเกม โดดเด่นด้วยระบบ Stereo Haptics การไหลเวียนของเสียงระหว่างหูซ้าย-ขวาเป็นไปตามลักษณะของตัวเกม หรือจะใช้ฟังเพลง ดูหนังก็ตอบโจทย์ ระบบ Surround 7.1 ขั้นสูงปรับการส่งเสียงให้สมจริงยิ่งกว่าเคย ที่ครอบหูผลิตจากเมมโมรี่โฟม นุ่ม ไม่อึดอัด ใช้งานยาวนานสูงสุด 44 ชม. กันเลยทีเดียว
ราคา : 199.99 USD
2. Steelseries ARCTIS 7P+ WIRELESS
ต่อกันที่หูฟังสำหรับคอเกมมิ่งที่ออกแบบมาเพื่อ PS5 เป็นหลัก แต่ก็ยังใช้งานได้ดีกับเครื่องเกมชนิดอื่น สายชาร์จ USB Type C ระบบไร้สาย 2.4 GHz ความหน่วงต่ำ ออกแบบมาสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ มีระบบชาร์จเร็วเพียง 15 นาที ใช้งานได้ 3 ชม. อายุแบตเตอรี่สูงสุด 30 ชม. ระบบ Discord-certified ClearCast ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนแบบสองทิศทาง ช่วยให้การฟังของคุณชัดเจนกว่าเดิม
ราคา : 199.99 USD
3. Logitech G435 Lightspeed Wireless Gaming Headset
หูฟังเล่นเกม ยี่ห้อดังที่คนไทยคุ้นเคย น้ำหนักเบามากเพียง 165 กรัม เชื่อมต่อผ่านระบบไร้สายแบบ Lightspeed ที่อยู่ไกล 10 ม. ก็ไม่มีปัญหา ใช้งานยาวนานสุด 18 ชม. ไมโครโฟนคู่ภายในจึงไม่ต้องกังวลแขนไมโครโฟนให้รำคาญ มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนเพื่อการเล่นแบบไม่มีสะดุด สายชาร์จ USB Type C จะเล่นเกม ฟังเพลง ก็หมดห่วง
ราคา : 79.99 USD
4. Creative SXFI AIR GAMER
คอเกมมิ่งไม่ควรพลาดอีกเช่นเคยกับรุ่นนี้ที่มีจุดเด่นด้วยฟังก์ชัน NanoBoom Microphone เสียงคมชัดทุกการพูดคุย มาพร้อมคุณภาพเสียงระดับ Super X-Fi Headphone Holography audio ชัดเจนแบบไม่มีพลาด รองรับระบบเสียง 7.1 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไหนก็สนุกแบบจัดเต็ม มีช่องใส่การ์ดและเครื่องเล่นเพลงในตัว ใช้งานได้ยาวนาน 10 ชม. จะเกมไหนก็เร้าใจไร้ขีดจำกัด
ราคา : 139.99 USD
5. Razer Barracuda X
หูฟังเกมมิ่ง 2022 แบบไร้สายที่จะเปิดประสบการณ์ให้คุณได้สนุกไปกับการเล่นเกมด้วยน้ำหนักเบาเพียง 250 กรัม เชื่อมต่อด้วย USB Type C แต่มีช่องสำหรับใช้งานกับ USB รุ่นเก่าได้ไม่ต้องห่วง หรือใครกังวลเรื่องเสียงดีเลย์จะเสียบกับอุปกรณ์ก็ไม่มีปัญหาด้วยช่องเสียบหูฟัง AUX 3.5 มม. ไมโครโฟน 1 ตัว สำหรับพูดคุย ไม่ทำให้คุณเกะกะ สนุกได้ยิ่งกว่าเคย
ราคา : 99.99 USD
6. Steelseries ARCTIS PRIME
อีกรุ่นของหูฟังสำหรับเล่นเกมคุณภาพสูงที่ไม่ควรพลาด มีสายเชื่อมต่อ AUX 3.5 มม. หมดกังวลการดีเลย์ของเสียง พร้อมสายสัญญาณคู่เพื่อแยกการเชื่อมต่อระหว่างหูฟังกับไมโครโฟนไม่ให้เกิดการแย่งสัญญาณให้วุ่นวาย Drivers 40 มม. เสียงนุ่มลึกบาดใจ คมชัดทุกการฟัง วัสดุที่ใช้เป็นการผสานระหว่างอะลูมิเนียมกับโลหะ การันตีเรื่องความคงทน แข็งแรง หัวร้อนแค่ไหนไม่ต้องห่วง ใครเป็นสายเกมนักบู๊ห้ามพลาด
ราคา : 99.99 USD
7. Sennheiser Game One
ต่อกันกับหูฟังที่จะเปิดโลกแห่งการเล่นเกมให้สนุกกว่าเคยด้วยการออกแบบ Open Air จึงให้ Sound Stage กว้างกว่าเคย ช่วยแยกทิศของเสียง แยกระยะใกล้-ไกล ช่วยให้การเล่นเกมมีเทคนิคที่ดียิ่งขึ้น ไมโครโฟนแบบ Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้แบบหมดจด วัสดุผลิตจากพลาสติกอย่างดี ฟองน้ำบริเวณครอบหูช่วยระบายความร้อน น้ำหนัก 300 กรัม ใช้งานเพลิน
ราคา : 121 USD
8. Astro A50
หูฟังเล่นเกม แบบไร้สายที่ดีไซน์ได้อย่างลงตัวด้วยแกนปรับขนาดสุดแปลกตา เพิ่มอิสระในการสวมใส่ ไม่อึดอัด จุดรองศีรษะบุด้วยฟองน้ำช่วยระบายความร้อน ปรับระบบ Equalizer ได้ 3 ระดับ โหมดดูหนัง โหมดเล่นคนเดียว และเล่นเกมหลายคน ใช้งานได้นาน 6 ชม. ต่อเนื่องเมื่อชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ระบบเสียง Dolby Digital 7.1 ให้คุณเพลินได้อย่างที่ใจต้องการ
ราคา : 145 USD
9. HyperX Cloud Stinger
มากันที่หูฟังดีไซน์สวยน้ำหนักเพียง 275 กรัม ที่ครอบหูหมุนได้ 90 องศา ไดร์เวอร์กำหนดทิศทาง 50 มม. ช่วยในการจับสัญญาณเสียงแม่นยำ วัสดุทำจากเมมโมรี่โฟมลิขสิทธิ์เฉพาะของ HyperX ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน แถบเลื่อนทำจากเหล็ก แข็งแรง ปรับได้ง่าย จะใช้งานกับอุปกรณ์เล่นเกมรุ่นไหนก็ตามสะดวก ช่วยเพิ่มอรรถรสแห่งความบันเทิงให้คุณยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ราคา : 69 USD
10. Audeze Penrose X
ปิดท้ายกันด้วย หูฟังเกมมิ่ง 2022 ชนิดไร้สาย ที่ครอบหูขนาดกำลังดี ฟังเสียงชัด มีระบบตัดเสียงภายนอก ฟองน้ำเมมโมรี่โฟมนุ่มสบาย ไม่อึดอัด มีเทคโนโลยี Fluxor™ กำลังแม่เหล็กแข็งแรง ใช้งานทนทาน ไม่ทำให้เสียงภายนอกเข้ามารบกวน ฟังก์ชัน Voice Coil ลดปัญหาการดีเลย์ และอื่น ๆ อีกเพียบ ใช้งานได้ยาวนาน 15 ชม. จัดเต็มคุณภาพเสียงให้คุณสวมใส่แล้วได้ความมันยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ราคา : 299 USD
วิธีซื้อหูฟังเล่นเกมให้ได้ราคาถูกที่สุด
มีเทคนิคดี ๆ ในการซื้อหูฟังสำหรับเล่นเกมให้ได้ราคาถูกกว่าเคย สมมุติซื้อ Razer Kraken V3 Pro จากเว็บออนไลน์ต่างประเทศราคา 199.99 USD หากซื้อในไทยราคาอยู่ที่ 7,790 บาท ซื้อด้วยบัตรเครดิต ราคา 6,941 บาท แต่ถ้าใช้ YouTrip จะจ่ายค่าหูฟังเล่นเกมในราคา 6,726 บาท ทำให้ประหยัดเงินได้มากกว่าซื้อในไทยและบัตรเครดิตเยอะเลย เพราะได้เรทดีกว่าไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% เก็บส่วนต่างไว้ใช้บริการชิปปิ้งดีกว่า
ซื้อหูฟังเล่นเกมอย่างไร ไม่ให้โดนภาษี
อีกวิธีที่อยากแนะนำหากคุณซื้อหูฟังเล่นเกมที่มีมูลค่ารวมเกิน 1,500 บาท ให้ส่งผ่านบริการชิปปิ้งแต่ละประเทศ ซึ่งบริการชิปปิ้งมีหลายแห่งราคาขนส่งจะรวมกับการเคลียร์ค่าภาษีนำเข้าให้หมดแล้ว จึงไม่ต้องกังวลใจว่าจะเสียเงินหลายต่อ รอของส่งถึงหน้าบ้านแล้วใช้งานกันเลย
ทั้งหมดนี้คือสุดยอด 10 หูฟังเกมมิ่ง 2022 ที่หยิบมาแนะนำกัน และอย่าลืมใครที่นิยมช้อปปิ้งออนไลน์จากบรรดาเว็บต่างประเทศ หรือเติมเกม ซื้อแพ็คเกจต่าง ๆ อย่าลืมจ่ายด้วย YouTrip เพราะคุณจะได้เรทที่ดีกว่า ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% แถมมีแคมเปญคืนเงินปัง ๆ ตลอดทุกเดือน ช่วยประหยัดกว่าเยอะเลย สมัครวันนี้ ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี